ตอนที่ 139: ลูกบอลทองคำ
ตอนที่ 139: ลูกบอลทองคำ
วัตถุสีทองขนาดเล็กหล่นลงไปบนพื้นเบา ๆ ก่อนที่มันจะกลิ้งไปที่มุมกำแพง
เซี่ยเฟยหยิบลูกบอลสีทองนี้ขึ้นมาพิจารณาอย่างระมัดระวังและเขาก็ได้พบว่ามันเป็นลูกบอลขนาดเล็กที่มีขนาดพอ ๆ กันกับลูกปืนในล้อจักรยาน แต่เมื่อพิจารณาจากพื้นผิวของมันแล้วมันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่าลูกบอลนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะ
“มีลูกบอลซ่อนอยู่ในฟันปลอม?” อันธอุทานด้วยความประหลาดใจ
เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่ชายหนุ่มได้ค้นพบ เพราะปกติฟันปลอมจะทำขึ้นมาจากเซรามิกทั้งสิ้นและการซ่อนลูกบอลนี้เอาไว้ในฟันปลอมก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในวิธีการซ่อนของที่มีไอเดียที่ดี
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้เงยหน้าขึ้นไปมองรอบ ๆ ห้อง เขาก็ต้องถอนหายใจออกมาเบา ๆ
จู่ ๆ ระบบรักษาความปลอดภัยก็ถูกเปิดใช้งานขึ้นมาอย่างกะทันหันจนทำให้เขาถูกคุมขังเอาไว้ในห้องที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเลเซอร์สีฟ้าอ่อน
เซี่ยเฟยเก็บลูกบอลสีทองที่ถูกซ่อนเอาไว้ในฟันปลอมลงในแหวนมิติ เพราะในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพยายามออกไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้เสียก่อน
แสงเลเซอร์ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่ลำแสงเส้นบาง ๆ ที่อ่อนแอ แต่จริง ๆ แล้วพวกมันได้ซ่อนพลังอำนาจในการทำลายที่รุนแรง ที่แม้แต่ผู้มีพลังระดับอีเทอนิตี้ก็ยังไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านกำแพงเลเซอร์นี้ไปได้
ชายหนุ่มเรียกใบดาบของเชสซิ่งไลท์ออกมาและเมื่อเขาใช้ใบดาบลูบไปตามกำแพง มันก็มีเสียงแสบแก้วหูดังขึ้นมาพร้อมกับคมดาบของเชสซิ่งไลท์ที่เริ่มถูกทำลายจนมีควันสีขาวโพยพุ่งออกมา
เซี่ยเฟยรีบดึงเชสซิ่งไลท์ออกและได้พบว่าคมดาบเริ่มมีรอยแตกขนาดเล็ก โชคดีที่เขาดึงมันออกมาทันไม่อย่างนั้นใบดาบอาจจะโดนทำลายโดยสมบูรณ์
เชสซิ่งไลท์ถือได้ว่าเป็นอาวุธระดับลีเจนด์แล้วมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงหากจะบอกว่าอาวุธชิ้นนี้เป็นหนึ่งในอาวุธระดับสูงของจักรวาล แต่กำแพงเลเซอร์บาง ๆ กลับสามารถทำลายอาวุธระดับลีเจนด์ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากผนังเลเซอร์โดยรอบแล้วพื้นกับเพดานของห้องขังยังทำขึ้นมาจากโลหะผสมทั้งแผ่น ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามใช้เชสซิ่งไลท์ฟันเข้าใส่พื้น แต่มันก็ทิ้งรอยตื้น ๆ ไว้เพียงเท่านั้น
คุกแห่งนี้สามารถที่จะคุมขังแม้กระทั่งนักโทษระดับอีเทอนิตี้ได้ ด้วยเหตุนี้พลังป้องกันของมันจึงอยู่ห่างไกลเกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว นอกจากนี้คุกที่เขาติดอยู่ยังเป็นคุกจากอารยธรรมโบราณที่มีระดับเทคโนโลยีสูงกว่าในปัจจุบันนี้ไปอย่างคาดไม่ถึง
“ดูท่าต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นจริง ๆ แล้ว” เซี่ยเฟยพึมพำกับตัวเอง
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็นำเครื่องสื่อสารออกมาจากมิติพร้อมกับเตรียมแจ้งข่าวเรื่องที่เขาติดอยู่ในคุกไปที่โบซิงวา
ถึงแม้ว่าความผิดพลาดของเขาจะทำให้เยว่เกอหัวเราะเยาะ แต่ถ้าหากเขาไม่ขอความช่วยเหลือเขาก็จะต้องติดอยู่ในคุกนี้ไปตลอดชีวิต
แต่ทว่าเครื่องสื่อสารกลับไม่สามารถรับส่งสัญญาณได้เลยแม้แต่นิดเดียวราวกับว่าในห้องขังนี้ได้ติดตั้งระบบป้องกันการสื่อสารเอาไว้
“ชิบหายแล้ว!” เซี่ยเฟยอุทาน
ถ้าเขาไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้แบบนี้ มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องติดอยู่ในนี้ไปตลอดอย่างนั้นหรอ?
สถานการณ์ในปัจจุบันไม่เพียงแต่เขาจะไม่สามารถหาวิธีขนส่งอุปกรณ์ด้านนอกได้เท่านั้น แต่เขายังไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้อีกด้วย
เซี่ยเฟยนั่งเซ็ง ๆ อยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะหยิบลูกบอลทองคำที่ถูกซ่อนเอาไว้ในฟันปลอมออกมาจากแหวนมิติ
สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้คือการรอคอยความช่วยเหลืออย่างสงบ
ท้ายที่สุดทางค่ายฝึกไม่มีทางอยู่เฉยหากมีนักเรียนหายตัวไป ดังนั้นในอีก 11 วันหากพวกเขาได้พบว่าเซี่ยเฟยได้หายตัวไป พวกเขาย่อมกระจายกำลังกันออกค้นหาตัวชายหนุ่มอย่างแน่นอน และด้วยความแข็งแกร่งของสมาพันธ์จัสทิสมันก็ยังพอมีความเป็นไปได้ที่ทางสมาพันธ์จะค้นหาสถานที่แห่งนี้เจอ
เซี่ยเฟยได้จ้องมองลูกบอลทองคำอย่างพิจารณา ในเมื่อนักสู้ระดับสูงเลือกที่จะซ่อนสิ่งนี้เอาไว้ในฟันปลอม มันก็หมายความว่าของสิ่งนี้ย่อมไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มเลือกใช้ระบบซูมของไมโครคอมพิวเตอร์ในระหว่างการสังเกตทำให้ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ส่งกล้องรูเข็มออกไปทำการสำรวจ และฉายภาพความละเอียดสูงขึ้นมาบนหน้าจอ
ฟันปลอมที่ถูกบีบจนแตกดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เมื่อเขาได้ทำการซูมเข้าไปดูด้านในเขาก็ได้พบว่าด้านในของฟันปลอมเป็นโพรงที่ถูกเคลือบเอาไว้ด้วยโลหะที่แม้แต่ไมโครคอมพิวเตอร์ก็ไม่รู้จัก
หลังจากทำการคิดวิเคราะห์ง่าย ๆ เซี่ยเฟยก็ได้ข้อสรุปว่าชั้นโลหะเคลือบฟันปลอมนี้ควรจะเป็นสารป้องกันเครื่องตรวจจับ เขาจึงสามารถเอาฟันปลอมเข้ามาภายในห้องขังแห่งนี้ได้
หากลูกบอลสีทองเป็นเพียงแค่ลูกบอลธรรมดามันก็ไม่จำเป็นที่เจ้าของฟันปลอมจะต้องซ่อนมันเอาไว้ด้วยวิธีการที่ซับซ้อนแบบนี้ เซี่ยเฟยจึงสามารถยืนยันการคาดเดาของเขาได้ว่าลูกบอลสีทองจะต้องเป็นอะไรบางอย่างที่มีความพิเศษมากแน่ ๆ
หลังจากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มสังเกตโครงสร้างของลูกบอล โดยเพิ่มกำลังขยายของกล้องเป็น 100 เท่าเพื่อสังเกตทุกรายละเอียดไม่ให้พลาดอะไรไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเซี่ยเฟยก็ทำการปิดหน้าจอของไมโครคอมพิวเตอร์ เพราะถึงแม้เขาจะทำการตรวจดูพื้นผิวด้านนอกอย่างระมัดระวังแล้วแต่เขาก็ไม่ได้พบกับอะไรที่ดูพิเศษเลย
หากมันจะมีความลับอะไรบางอย่าง ความลับนั้นคงจะต้องถูกซ่อนไว้ด้านใน
เซี่ยเฟยถือลูกบอลสีทองไว้บนฝ่ามือพร้อมกับจุดบุหรี่นั่งเอนกายด้วยท่าสบาย ๆ แล้วพยายามคิดว่าลูกบอลลูกนี้สามารถเอาไปทำอะไรได้
“นายคิดว่ามันเป็นอะไร?” เซี่ยเฟยถามอันธ
“ถ้านายถามฉันเรื่องเกี่ยวกับพันธมิตรมนุษย์ในยุคปัจจุบันฉันก็อาจจะช่วยหาคำตอบได้ แต่ถ้าหากว่ามันเป็นความรู้เกี่ยวกับอารยธรรมโบราณนายจะต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง เพราะฉันก็ไม่ได้รู้เรื่องของอารยธรรมโบราณดีไปกว่านาย” อันธตอบพร้อมกับส่ายหัว จากนั้นเขาก็กล่าวต่อว่า
“ถ้าหากว่าแม้แต่นักสู้ระดับสูงยังเลือกเก็บของสิ่งนี้เอาไว้ในฟันปลอมอย่างลับ ๆ มันก็แสดงว่าเขารักของสิ่งนี้มากและมันจะต้องเป็นของที่มีค่ามากพอสมควร”
เซี่ยเฟยทำหน้ามุ่ย เพราะคำตอบของอันธไม่ต่างจากการที่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย
ทุกคนน่าจะสันนิษฐานได้อยู่แล้วว่าลูกบอลลูกนี้จะต้องมีค่าในตัวเอง แต่คำถามคือมูลค่าของมันซ่อนอยู่ตรงไหนแล้วเขาจะเปิดใช้งานมันได้ยังไง
“ลองดูแล้วกัน ดีกว่านั่งคิดอยู่เฉย ๆ” เซี่ยเฟยให้กำลังใจตัวเองก่อนที่จะเริ่มสัมผัสลูกบอลด้วยวิธีการต่าง ๆ
ความพยายามแรกเซี่ยเฟยพยายามส่งกระแสจิตเข้าไปด้านในลูกบอลนี้ แต่เปลือกด้านนอกของลูกบอลคล้ายกับจะมีสารที่ช่วยปิดกั้นกระแสจิตของเขาได้ ดังนั้นวิธีการแรกจึงล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
เวลาต่อมาเซี่ยเฟยก็ทดลองใช้วิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะนำลูกบอลไปแช่ไว้ในน้ำ, เอาลูกบอลไปเผาด้วยไฟแช็ค และตราบใดก็ตามที่เขาคิดวิธีการอะไรขึ้นมาได้เขาจะลองวิธีที่เขาคิดทุกวิธี
เมื่อได้เห็นเซี่ยเฟยหยิบกล่องนมออกมาเทราดลูกบอลสีทองอันธก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เขาจึงถอนหายใจออกมาด้วยความสิ้นหวังก่อนจะมุดกลับเข้าไปในสร้อยหินมัวร์
เซี่ยเฟยไม่ได้ให้ความสนใจอันธเลย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือการพยายามค้นหาความลับของลูกบอลสีทอง
ใครจะไปรู้ว่าลูกบอลสีทองลูกนี้อาจจะซ่อนกลไกลอะไรบางอย่างง่าย ๆ เอาไว้ก็ได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่คิดจะทิ้งโอกาสแม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ดูเรียบง่ายแค่ไหนก็ตาม
บนพื้นคุกเริ่มมีก้นบุหรี่ถูกทิ้งลงมามากขึ้นเรื่อย ๆ และดวงตาของเซี่ยเฟยก็เริ่มมีเส้นเลือดสีแดงปรากฏขึ้นเล็กน้อย
เวลาได้ล่วงเลยมากว่า 4 วันแล้วนับตั้งแต่ที่เซี่ยเฟยได้มาถึงดาวเคราะห์ดวงนี้ แต่เขาก็ยังไม่ได้ทำการพักผ่อนเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ชายหนุ่มเอนตัวนอนลงบนเตียงอย่างช้า ๆ พร้อมกับหลับตาเพื่อพักผ่อนชั่วขณะ
พลังใจของนักรบเป็นสิ่งที่เหนือกว่าคนทั่วไปมาก และถ้าหากว่าเขาได้พักผ่อนเพียงชั่วครู่มันก็จะทำให้เขากลับมามีพลังอีกครั้ง
ทันทีที่เปลือกตาของชายหนุ่มปิดลงเขาก็เริ่มหลับสนิทในทันที
การนอนหลับเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่นักสู้จำเป็นจะต้องเรียนรู้เอาไว้ เพราะนักสู้ที่เก่งกาจไม่เพียงแต่จะต้องเรียนรู้วิธีการต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังจะต้องเรียนรู้วิธีการพักผ่อนอีกด้วย
นักสู้ที่แท้จริงสามารถจะนอนหลับได้ในทันทีแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในสนามรบ และผู้ที่ฝึกฝนการพักผ่อนมาเป็นอย่างดีจะสามารถนอนหลับพักผ่อนได้โดยไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อม
ในขณะที่เซี่ยเฟยเข้าสู่ห้วงนิทรามันก็มีสิ่งแปลกประหลาดได้เกิดขึ้น
ลูกบอลสีทองในมือของเขาค่อย ๆ ปล่อยพลังจิตออกมาจาง ๆ ก่อนที่พลังนี้จะไหลตรงไปยังสมองของชายหนุ่ม
ถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะหลับแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสูญเสียการป้องกัน เพราะถึงแม้ว่าสมองของเขาจะกำลังพักผ่อนแต่ประสาทสัมผัสทั้งหมดยังคงกระจายอยู่รอบ ๆ ตัวอย่างระมัดระวัง
ถ้าหากว่ามันมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นแม้แต่เพียงเล็กน้อย ประสาทสัมผัสของชายหนุ่มจะส่งคำเตือนไปยังสมองของเขาในทันทีเพื่อปลุกเซี่ยเฟยขึ้นจากการหลับใหล
แต่คลื่นพลังจิตที่ถูกปล่อยออกมาจากลูกบอลสีทองกลับเป็นเหมือนกับหัวขโมยที่แอบย่องเข้าไปในบ้านของคนอื่น ดังนั้นมันจึงทำการหลบเลี่ยงการป้องกันต่าง ๆ ที่เซี่ยเฟยได้ปล่อยออกมาในระหว่างที่เขาหลับ
คลื่นพลังงานอ่อนแอที่ปล่อยออกมาจากลูกบอลสีทองนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมันสามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของเซี่ยเฟยได้อย่างชาญฉลาดและถึงแม้ว่ามันจะเคลื่อนที่ได้อย่างเชื่องช้า แต่มันก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในที่สุดคลื่นพลังจิตที่เป็นเหมือนกับเส้นด้ายนี้ก็เคลื่อนที่ไปจนถึงสมองของเซี่ยเฟย โดยที่ชายหนุ่มยังไม่ได้ตระหนักถึงคลื่นพลังอันแปลกประหลาดที่บุกรุกเข้ามาในสมองของเขาเลย เขาจึงยังคงนอนหลับสนิทเหมือนกับเด็กทารก
คลื่นพลังจิตจากลูกบอลสีทองเคลื่อนไหวในสมองของเซี่ยเฟยอย่างระมัดระวัง แต่สิ่งที่น่าแปลกคือจุดหมายของมันกลับเป็นพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของชายหนุ่ม!!
พื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของมนุษย์มีขนาดเพียงแค่ปลายเข็มเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นมันก็ได้มอบพลังจนทำให้มนุษย์มีพลังพิเศษที่ซับซ้อน
คลื่นพลังจิตจากลูกบอลทองคำทำการซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ ขณะมองหาพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเซี่ยเฟย
หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่ 2-3 นาทีคลื่นพลังจิตนี้ก็ได้เผยให้เห็นด้านที่ดุร้ายและมันก็พุ่งเข้าหาพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง
ต๋อม!
การเคลื่อนไหวครั้งนี้คล้ายกับการขว้างก้อนหินลงไปในแม่น้ำ ซึ่งมันสามารถไหลซึมเข้าไปในพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเซี่ยเฟยได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ทำการผูกมัดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 เอาไว้อย่างแน่นหนา
จู่ ๆ มันก็มีความรู้สึกไม่สบายใจเกิดขึ้นอย่างรุนแรง เซี่ยเฟยจึงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างฉับพลัน
***************
อย่าบอกนะว่าพี่เฟยถูกควบคุม?