บทที่ 479-480
บทที่ 479
เห็นเรื่องแบบนี้มาเยอะ
เมื่อถังจิ้งชือได้ยินแบบนั้น เธอรู้สึกว่าถังซือซือกำลังหาข้ออ้างเพิ่ม เพราะจากที่เธอรู้ในอดีต สองแม่ลูกที่ทำอาหารรสชาติห่วย ๆ และไม่เหมือนกันสักครั้งจะทำบะหมี่แบบนี้ได้ยังไง?
ถึงทำได้ก็ต้องทำตามสูตรของ ‘ร้านบะหมี่ถัง’ ของเธอ แน่นอนว่าข้อกล่าวหาขโมยสูตรอาหาร ไม่มีทางเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น
ดูเหมือนว่าเธอจะมั่นอกมั่นใจเรื่องรสชาติมากเลยนะ
ไม่สิ ยัยถังซือซืออาจไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เลยจำเป็นต้องใช้วิธีเสี่ยงตายแบบนี้
ถ้าอย่างนั้นฉันก็แค่รอให้หล่อนตกหลุมพรางของตัวเอง
ดูซิ ว่ายัยถังซือซือจะหลอกตัวเองได้อีกสักกี่น้ำ?
หลังจากนั้นถังจิ้งชือแสร้งทำเป็นประหลาดใจ แล้วพูดว่า
“ฉันรู้จักคุณมานานนะ แต่ไม่ยักรู้ว่าคุณอวดเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร ช่างเถอะ ยังไงฉันก็ชนะอยู่ดี เพราะพวกเรารู้ว่าคุณและแม่ของคุณทำอาหารได้ห่วยมาก คนอย่างคุณเนี่ยนะจะทำบะหมี่ได้?
ตั้งแต่พวกเรารู้ข่าวว่าคุณเปิดร้านบะหมี่ เราก็ไม่เชื่อแล้ว แถมยังมารู้ทีหลังอีกว่าคุณทำบะหมี่โดยใช้สูตรของ ‘ร้านบะหมี่ถัง’ ของเรา ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะกล้าขโมยสูตรของเราไปหากินง่าย ๆ แบบนี้
เอาเข้าจริงฉันก็ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่หรอกนะ แต่วันนี้ฉันจำเป็นต้องมาจริง ๆ เพราะคุณไม่มาชี้แจง หรือขอโทษอะไรพวกเราเลย“
ถังจิ้งชือพูดจบ เธอก็กวาดตามองกลุ่มคนในชุดสีขาวที่อยู่ข้างหลัง แล้วพูดต่อว่า
“วันนี้ฉันเชิญผู้เชี่ยวชาญมาด้วย เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยเปรียบเทียบและแยกแยะ ว่าบะหมี่ที่คุณทำ ใช้สูตรต่างจาก ‘ร้านบะหมี่ถัง’ ของเราจริง ๆ แต่หลังจากนั้น
ถ้าบะหมี่ของคุณใช้สูตรเดียวกับบะหมี่ของเรา รวมถึงวิธีการทำและรสชาติด้วย คุณจะต้องรับผลที่ตามมา ซึ่งคุณน่าจะรู้ดีว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไรบ้าง“
เมื่อถังจิ้งชือพูดจบ เธอก็หันไปมองถังซือซือด้วยแววตาที่มั่นใจ
เธอคิดว่าถังซือซือจะต้องสั่นเทาด้วยความกลัวเมื่อเธอพูดอย่างนั้น แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ หลังจากที่อีกฝ่ายได้ฟัง ถังซือซือก็พยักหน้าอย่างเฉยเมยเท่านั้น
“ที่คุณพูดก็มีเหตุผลนะ”
หืม?
นี่หล่อนไม่รู้ตัวรึไงว่ากำลังเสียเปรียบ?
ฉันไม่เข้าใจความคิดของเธอจริง ๆ...
ก็แล้วแต่เธอแล้วกัน อีกไม่นานแฟนคลับของเธอจะได้เห็นธาตุแท้ที่ปิดบังมานาน...
ในบรรดา ‘กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ’ ศาสตราจารย์หลี่พูดขึ้นว่า
“คุณถังซือซือครับ ทางเราหวังว่าคุณคงเข้าใจว่าสูตรอาหารเฉพาะตัวของแต่ละร้านมีความสำคัญในการทำธุรกิจในแวดวงนี้มาก ๆ ทางเราจึงมาที่นี่เพื่อให้ความถูกต้องแก่ผู้บริโภคและผู้ทำธุรกิจร้านอาหารที่เดือดร้อน
หากคุณมีสูตรของตัวเองจริง ๆ และต่างจากสูตรของ 'ร้านบะหมี่ถัง' ทางเรารับประกันว่าปัญหานี้จะจบลงอย่างยุติธรรมและไม่มีใครเสียหาย
แต่ถ้าหากร้านของคุณใช้สูตรเดียวกัน ทางเราคงต้องตัดสินว่าคุณขโมยสูตรจาก 'ร้านบะหมี่ถัง' เพื่อหารายได้โดยไม่ชอบธรรม แล้วทางเราจะต้องดำเนินคดีกับคุณตามกฎหมาย คุณคงเข้าใจใช่ไหมครับ?“
หลังจากศาสตราจารย์หลี่พูดจบ เขาก็ดันแว่นตาบนดั้งจมูกขึ้น
ความจริงแล้วพวกเขาทั้งหมดได้รับเงินใต้โต๊ะจากถังจิ้งชือไปไม่น้อย แน่นอนว่าพวกเขาอยู่ฝั่งเดียวกับหล่อน ไม่ว่าถังซือซือจะแก้ตัวอย่างไร พวกเขาก็จะหาทางเปลี่ยนจากขาวเป็นดำให้จงได้ พูดง่าย ๆ ว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ถังจิ้งชือวางไว้หมดแล้ว
ถังซือซือพยักหน้าอย่างใจเย็น
“งั้นบอกรายละเอียดมาว่าต้องทำยังไงบ้าง ฉันจะได้เตรียมตัวค่ะ”
พนักงานที่อยู่ข้างหลังถังซือซือได้ยิน พวกเขาก็รู้สึกร้อนรน
“ไม่มีทาง คุณซือซือ คุณเชื่อพวกเขาจริง ๆ เหรอครับ? พวกเขาต้องการหลักฐานอะไรกัน ไม่ใช่ว่าแอบอ้างขอหลักฐานเพื่อเป็นพิธี แล้วมาบอกว่าเราผิดแน่ ๆ”
“ใช่แล้วค่ะคุณซือซือ พวกเขาอาจมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้เราก็ได้? พอเห็นว่าธุรกิจของเราไปได้ดีกว่าธุรกิจของตัวเอง เลยคิดหาวิธีขัดขาเรา ฉันน่ะเห็นเรื่องแบบนี้มาเยอะแล้วค่ะ!”
บทที่ 480
ความจริงที่ซ่อนอยู่
ขอร้องล่ะหัวหน้า อย่าไปรับข้อตกลงไร้เหตุผลของพวกเขาเลย ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นแผนการให้ธุรกิจเราล้มละลายก็ได้? หัวหน้าจะไม่ปฏิเสธจริง ๆ เหรอ?
ขณะเดียวกัน ระหว่างที่พนักงานพยายามห้ามปราม ถังซือซือก็ยกมือขึ้นเป็นเชิงสั่งให้พวกเขาหยุดแล้วพูดว่า
“สิ่งที่พวกเขาพูดสมเหตุสมผลจริง ๆ เมื่อเราอยู่ในแวดวงธุรกิจนี้ เราก็ต้องมีความโปร่งใส”
พนักงานต่างหยุดพูดและแสดงสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย ก่อนมองไปที่ถังจิ้งชือและพวกพ้องของเธอด้วยความโกรธ
ลึก ๆ ในใจถังจิ้งชือมีความสุขมาก เธอนึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลงง่าย ๆ ทั้งยังไม่ปฏิเสธเงื่อนไขของเธออีก เท่านี้อีกฝ่ายก็ตกหลุมพรางของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ดูเหมือนว่าวันนี้ ฉันได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องเสียเหงื่อเลยแฮะ
เธอมองไปที่พนักงานที่อยู่ข้างหลังถังซือซือด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม ก่อนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถังซือซือก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า
“ถ้าอย่างนั้น ฉันมีเงื่อนไขสองข้อก่อนเริ่มตรวจสอบ”
เมื่อเห็นถังซือซือพูดแบบนี้ ศาสตราจารย์หลี่ก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะเขาคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้วครึ่งหนึ่ง จึงรู้สึกโล่งใจขึ้นบ้าง ก่อนพยักหน้าให้ถังซือซือแล้วพูดว่า
“เชิญบอกเงื่อนไขของคุณมาได้เลยครับ”
ถังซือซือยืดอกแล้วพูดว่า
“ข้อแรก คุณบอกว่าคุณเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ งั้นฉันขอดูหลักฐานได้ไหม?”
อะไรนะ?
นี่เธอกำลังสงสัยตัวตนของพวกเราเหรอ?
ศาสตราจารย์หลี่และกลุ่มของเขาต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ ก่อนแสดงสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
อยากรู้จริง ๆ ว่า IQ ของผู้หญิงคนนี้ต่ำเกินไป หรือ IQ ของเธอไม่ดีกันแน่?
ถ้ากล่าวหาว่าตัวตนของพวกเราไว้ใจไม่ได้ เดี๋ยวพวกเราจะตัดสินให้ร้านของเธอเจ๊งในวันนี้แหละ!
เมื่อถังจิ้งชือได้ยิน เธอก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ยัยโง่ ยัยหน้าด้าน หาข้ออ้างอีกแล้ว ยอมง่าย ๆ ไม่เป็นรึไง ยังไงหล่อนก็แพ้ฉันอยู่ดี รีบพ่ายแพ้ไปซะ ฉันจะได้มีความสุขสักที
ถังซือซือสังเกตสีหน้าท่าทางของ ‘กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ’ ที่ผิดปกติไปจากตอนแรก จึงถามพวกเขาว่า
“คำถามของฉันฟังดูไม่เข้าใจตรงไหนเหรอคะ? ในเมื่อคุณมาที่นี่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ฉันก็จำเป็นต้องรู้ด้วยเหมือนกันว่าคุณมีใบรับรองด้านอาชีพนี้จริง ๆ”
ในที่สุดศาสตราจารย์หลี่ก็ไม่อาจขัดขืนอีกต่อไป หยิบใบรับรองของตัวเองออกมาแล้วขว้างไปบนโต๊ะด้วยความไม่สบอารมณ์
“ดูให้ชัด ๆ เลย! นี่คือใบรับรองผู้เชี่ยวชาญของผม!”
ถังซือซือก้าวไปข้างหน้า แล้วหยิบใบรับรองผู้เชี่ยวชาญขึ้นมาดู แล้วอ่านอย่างระมัดระวัง ขณะที่ศาสตราจารย์หลี่เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น เธอก็พูดว่า
“เป็นผู้เชี่ยวชาญจริง งั้นก็โอเคค่ะ”
ศาสตราจารย์หลี่ตอบกลับ “ทีนี้เราเริ่มตรวจสอบได้แล้วใช่ไหม?”
ถังซือซือรีบตอบ “เดี๋ยวก่อน ผู้เชี่ยวชาญมากันตั้งหลายคน ฉันยังไม่เห็นใบรับรองของพวกเขาเลย”
อะไรเนี่ย? ยังไม่จบอีกเหรอ?
หน้าด้านจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้!
ผู้เชี่ยวชาญบางคนต่างรู้สึกหงุดหงิดทันที แต่เมื่อศาสตราจารย์หลี่ขยิบตาให้พวกเขา พวกเขาก็ระงับความโกรธไว้ในใจ ก่อนหยิบใบรับรองออกมาแล้วยื่นให้ถังซือซือตรวจสอบอย่างละเอียด
หลังจากนั้นถังซือซือก็ก้าวไปข้างหน้า เพื่อดูใบรับรองของพวกเขาทีละคน อย่างกับครูตรวจการบ้าน
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเกิดความสงสัยเล็กน้อย
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงอยากตรวจสอบตัวตนของพวกเราล่ะ?
ถึงขนาดนี้แล้วยังดื้อดึงอยู่อีก!
ถึงยังไงหลังจากนี้ร้านของเธอก็มีอันล่มจมอยู่แล้ว!
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนครุ่นคิด
แต่ด้วยการกระทำของถังซือซือ ทำให้หลายคนรอบข้างต่างคิดว่าเธอกำลังพยายามเบี่ยงเบนความผิด แล้วใช้วิธีนี้เพื่อถ่วงเวลา
“พอเถอะ... ทำผิดขนาดนี้ไม่เห็นต้องหาเรื่องถ่วงเวลาเลย... แค่ยอมรับผิดจะไปยากอะไร?”
“เห็นแบบนี้ก็รู้แล้วว่าทำไปทำไม... อืม ฉันรู้สึกผิดหวังกับเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ เลย”
“สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่ใช่เทพธิดาอย่างที่ทุกคนอวดอ้างใน Weibo ความจริงแล้วเธอเป็นคนขี้โกงและไม่มีคุณธรรม”
“อาจไม่ใช่แค่บะหมี่ก็ได้ที่ถูกขโมยสูตรไป เผลอ ๆ สูตรของขนมปังก็ถูกขโมยมาด้วยแน่ ๆ”
…