บทที่ 459-460
บทที่ 459
ยังไม่เคยเห็นชัด ๆ เลย
“จะบอกให้ ฉันได้ยินคนภายในเล่ามาว่า ซ่งเนี่ยนหยานถูกทายาทลำดับสองของตระกูลเศรษฐีทิ้งไป เลยทำให้เธอไม่สบอารมณ์ แล้วก็มาพาลใส่คู่รักบนริมถนน”
“ไร้สาระชะมัด ความจริงมีมากกว่านั้น ซ่งเนี่ยนหยานนอกใจคนเก่าต่างหาก เธอถึงได้ขึ้นชื่อว่าเหยียบเรือสองแคม พอแฟนเก่ารู้ความจริง เลยเลิกรากันไป แต่พอถูกแฟนใหม่ทิ้ง เธอก็หันกลับไปขอคืนดีแฟนเก่าให้กลับมาคบกัน ปรากฏว่าแฟนเก่าของเธอมีแฟนใหม่ไปแล้ว ซ่งเนี่ยนหยานจึงไปตะโกนด่าแบบนั้นไง”
“ฉันคิดว่าสิ่งที่คอมเมนต์ล่าสุดบอกดูสมเหตุสมผลมากเลยนะ เดี๋ยวก่อน แล้วไม่มีเรื่องอื่นนอกเหนือจากนี้เลยเหรอ?”
“ไม่ได้มีแค่เรื่องเหยียบเรือสองแคมอยู่แล้ว เรื่องอื่นก็อย่างเช่น ซ่งเนี่ยนหยานชอบรังแกดาราหน้าใหม่ในกองถ่ายอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผู้กำกับสั่ง NG* และให้ดาราหน้าใหม่แสดง N* ตั้งหลายรอบ...”
*NG= No Good เป็นศัพท์ที่ผู้กำกับใช้ในกองถ่ายเมื่อมีการแสดงที่ไม่เป็นไปตามต้องการหรือนักแสดงเล่นแย่เกินไป
*N = New เป็นการที่ผู้กำกับสั่งให้เริ่มถ่ายฉากใดฉากหนึ่งซ้ำจนกว่าจะดีตามที่กำหนดไว้
...
ริมฝีปากของซ่งเนี่ยนหยานสั่น ค่อย ๆ เลื่อนอ่านข้อความต่อไป แล้วอ่านเนื้อหาของพาดหัวยอดนิยมอีกสองรายการ ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็มืดลง
คำตำหนิจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเด้งขึ้นมาไม่หยุด ความคิดเห็นด้านล่างเต็มไปด้วยการประจาน เพราะคิดว่าเธอหลอกลวงแฟนคลับและชาวเน็ต ที่เธอแสดงพฤติกรรมไม่ตรงกับภาพลักษณ์ที่เธอแสดงต่อหน้าสาธารณชนเหมือนก่อนหน้านี้
“มีเรื่องถึงสามกระทง! นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเด็ก ๆ เลย!”
“พระเจ้า! แฟนคลับของเธอส่วนใหญ่เป็นสาววัยรุ่นไม่ใช่เหรอ? สร้างเรื่องอื้อฉาวตั้งสามเรื่อง วัยรุ่นพวกนั้นจะได้เรียนรู้อะไรจากเธอ? นอกใจ? เหยียบเรือสองแคม? หยาบคาย? เลวร้ายที่สุด”
“ศิลปินเด็กสมัยนี้เขามีทักษะการแสดงหรือเปล่า ถ้าทำผลงานไม่ได้ก็สร้างปัญหาสารพัด สร้างกระแสทุกวัน ยังไม่พอ ต้องสร้างภาพลักษณ์ให้ถูกใจเพื่อตบตาผู้ชม นั่นมันใช่เหรอ”
เวลานี้ บริษัทค่ายหนังที่รับซ่งเนี่ยนหยานไว้กำลังโกรธจัดกับเรื่องวุ่นวายนี้ ทั้งยังไม่มีวี่แววจะจัดการได้ง่าย ๆ ด้วย
บริษัทที่จ้างเธอลงโฆษณาหลายรายต่างเรียกร้องยุติสัญญากับซ่งเนี่ยนหยานเป็นว่าเล่น ส่วนผู้ที่เพิ่งทำสัญญากับเธอก็ขอให้เธอจ่ายค่าชดเชยเนื่องจากกระทำการผิดสัญญา
หลังจากพิจารณาแล้วว่าซ่งเนี่ยนหยานอยู่ในวงการมาหลายปี แต่ความนิยมของเธอไม่สูงนัก แล้วตอนนี้ชื่อเสียงยังมาพังลงอีก บริษัทค่ายหนังจึงต้องยกเลิกสัญญานักแสดงของเธอ
สิ่งที่ซ่งเนี่ยนหยานเผชิญอยู่ตอนนี้ คือพายุหิมะหนาวเหน็บที่ถาโถมเข้ามาโดยไม่รู้เลยว่าจะจบลงเมื่อไร
ส่วนคู่รักและแฟนใหม่นั้น ไม่มีข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต หรือมีข้อมูลเปิดเผยตัวตนต่อที่สาธารณะเลย
ซ่งเนี่ยนหยานรู้ดีว่าเพราะหลินอี้ปินและเฉินซานมีเงินมากมาย ไม่แปลกที่ไม่มีปาปารัสซี่คนไหนกล้าเปิดเผยชื่อของพวกเขา
ตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า ‘ตายทั้งเป็น’ อย่างถ่องแท้
น่าเสียดาย ที่ไม่มียารักษาความเจ็บปวดนี้บนโลก
ซ่งเนี่ยนหยานทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ นั่งจมดิ่งราวกับคนไร้วิญญาณ
คฤหาสน์ซินหยวน
ในตอนเช้า ขณะที่เซียวเฉินเยวียนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นล่าง กำลังอธิบายข้อมูลบางอย่างให้กู่ชวนฟัง จู่ ๆ ก็มีเสียงแผ่วเบาดังมาจากห้องนอนชั้นบน
“สามี...”
กู่ชวนนั่งอ้ำอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหันกลับมาฟังต่อ เขาก็เห็นเจ้านายของตัวเองยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนในทันที
กู่ชวน “...”
เฟยอวี่ “...”
แม่บ้านซ่งที่กำลังยกน้ำชามา “...”
แต่ แม่บ้านซ่งบอกกับพวกเขาว่าเธอก็เริ่มชินขึ้นมาบ้างแล้ว
ชั้นบน ถังซือซือนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ในท่าที่สบายที่สุด ในขณะที่ยังหลับตาอยู่และพึมพำบางอย่าง
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคย เธอก็ลืมตาขึ้นทันที ก่อนเห็นคุณชายปีศาจที่แต่งตัวอย่างหล่อเหลายืนอยู่ตรงหน้า กำลังมองมาที่เธออย่างจริงจัง
“ตื่นแล้วเหรอ?”
ถังซือซือกะพริบตา ยื่นมือออกไปแล้วพูดว่า
“กอดกัน”
เซียวเฉินเยวียนยิ้มเล็กยิ้มน้อย ก่อนเอนตัวไปกอดภรรยาสุดที่รัก
ถังซือซือนั่งตรงขอบเตียง เฝ้าดูเขาเดินไปที่ห้องเสื้อผ้าเพื่อเอาเสื้อผ้ามาให้เธอ
“คุณอยากใส่ชุดนี้ไหม?” เซียวเฉินเยวียนหยิบชุดสีขาวเรียบเนียนออกมาแล้วถามเธอ
ถังซือซือมองแล้วส่ายหน้า
“แล้วถ้าเป็นชุดนี้ล่ะ?” เซียวเฉินเยวียนหยิบชุดอื่นออกมา แต่ถังซือซือยังคงส่ายหน้า
หลังจากเลือกอยู่นาน ในที่สุดเซียวเฉินเยวียนก็เลือกชุดที่ถังซือซือชอบ ก่อนนำมาให้เธอสวม
“คุณ... คุณหันหลังไปก่อน”
ถังซือซือขอให้เซียวเฉินเยวียนหันหลังกลับ แต่เขาปฏิเสธ
“ยังไม่เคยเห็นร่างกายทั้งหมดของคุณชัด ๆ เลย” เซียวเฉินเยวียนพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย เมื่อเห็นว่าถังซือซือหน้าแดงไปถึงต้นคอ เขาก็รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
บทที่ 460
พวกเราแก่ตัวไปมาก
“สามี ทำไมช่วงนี้ตื่นมาถึงได้รู้สึกปวดหลังทุกทีเลย? ไม่ใช่แค่ปวดหลังนะ แขนก็เจ็บ ขาก็เจ็บ...”
ถังซือซือขมวดคิ้ว ก่อนชี้นิ้วไปที่เอว แขน และขาของตัวเองด้วยสีหน้ากังวล เพื่อให้เขาเห็นว่าเธออาจไม่สบาย
เซียวเฉินเยวียน “...”
ปัญหาแบบนี้ ฉันควรจะตอบเธอยังไงดี...
“คุณต้องการให้หมอซูมาดูอาการให้ไหม?”
ถังซือซือครุ่นคิด ร้านกำลังจะเปิดตัว ฉันคงไม่มีทางเป็นอะไรง่าย ๆ หรอก
เซียวเฉินเยวียน “...”
ขณะเดียวกันเขายังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหานี้อย่างจริงจัง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังคิดไม่ตก ถังซือซือรู้สึกขำขันเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ฮิฮิ” แล้วพูดว่า
“อันที่จริงฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ฉันแข็งแรงจะตาย”
“ภรรยา...”
เซียวเฉินเยวียนพูด
ถังซือซือนั่งตัวตรงทันทีและตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด
เดี๋ยวๆๆ เขาเรียกฉันว่า “ภรรยา” ด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกแบบนั้น... ฟังแล้วสะท้านไปทั้งตัวจริง ๆ
เซียวเฉินเยวียนนิ่งไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า
“นั่นเป็นเรื่องปกติ เป็นธรรมดาที่ช่วงนี้เราสนิทสนมกันมากไปหน่อย”
อะไรนะ?
หมายความว่ายังไง?
ถังซือซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็รู้สึกตัว ก่อนที่ใบหน้าจะเปลี่ยนเป็นแดงก่ำในทันที
ฮือๆๆ! ฉันไม่ควรถามแบบนั้นออกไปเลย!
ช่างน่าอับอายจริง ๆ...
เซียวเฉินเยวียนมองไปที่เธอ ซึ่งกำลังก้มหน้าเหมือนอับอายอะไรบางอย่าง แล้วโน้มตัวเข้าไปจูบเธอ...
ชั้นล่าง
กู่ชวนยังคงรอเจ้านายเดินลงบันไดมาอย่างจริงจัง แต่ผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ไม่เห็นเขาเดินลงมาเลย
อืม... ฉันควรทำใจให้ชินสินะ คงต้องรอต่อไป
กู่ชวนหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบอย่างใจเย็น ก่อนอ่านรายงานทางการเงินอย่างจริงจัง
เมือง M โรงเรียนมัธยมไหลซือ
มู่ซูเสียนและคณะครูโรงเรียนมัธยมฉิวจือมาที่ห้องประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อรอการประชุม
เธอเปิดสมุดบันทึก เพื่อเตรียมจดบันทึกข้อมูลทุกอย่าง
ครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมไหลซือเป็นชายวัยกลางคนอัธยาศัยดี กำลังแนะนำสถานที่ภายในโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษ
ประตูห้องประชุมเปิดออก ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเดินตรงเข้ามา
ครูใหญ่ของโรงเรียนมัธยมไหลซือรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเห็นชายคนนี้เข้ามา ก่อนรีบแนะนำเขาต่อหน้าทุกคน ด้วยสีหน้าภูมิใจ
“ผมขอแนะนำให้รู้จักครับ นี่คือผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมไหลซือของเรา ครูคังเจียน่า...”
มู่ซูเสียนตกใจทันทีเมื่อได้ยินชื่อนี้ ก่อนรีบเงยหน้าขึ้น
สายตาที่ยังคงคุ้นเคยในความทรงจำของเธอแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมาหลายปี มู่ซูเสียนตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก
“ครูคังเจียน่าจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในเมือง H และต่อมาได้อุทิศตนเพื่อการศึกษา ก่อนลงทุนลงแรงช่วยบริหารการสอนในโรงเรียนมัธยมไหลซือของเรา... อาจกล่าวได้ว่าไหลซือจะมาถึงจุดนี้ไม่ได้ หากไม่มีครูคังเจียน่า...”
สายตาทั้งสี่สบกัน คำพูดของคนอื่นในเวลานี้กลายเป็นเสียงที่เบาหวิวไปตามลม
เป็นเขาจริง ๆ ด้วย...
มู่ซูเสียนไม่เคยคิดมาก่อนว่าที่เมือง M ซึ่งดูกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต กลับมีขนาดเล็กมาก
แทบจะไม่มีโอกาสเลยด้วยซ้ำ ที่ได้เจอคนคนนี้ที่ไม่ได้เจอกันถึงยี่สิบเอ็ดปี
ใช่แล้ว ยี่สิบเอ็ดปี พวกเราแก่ตัวไปมาก
มู่ซูเสียนมองเขาไม่กะพริบตาเลย เขาเปลี่ยนไปมากเหมือนกันจากเมื่อก่อน ถึงจะผ่านมาหลายปีแล้ว และเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้า แต่ใบหน้าของเขายังคงหล่อเหลา บวกกับรูปร่างที่สูงใหญ่สง่างาม
จากคำเล่าของครูใหญ่ ในเมือง M แห่งนี้เขาประสบความสำเร็จในอาชีพนี้มาก ๆ
ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีตามที่คุณฝันเลยไม่ใช่รึไง?
ถึงอย่างนั้นพวกเราไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันอีกแล้ว
มู่ซูเสียนครุ่นคิด ก่อนมองเขาด้วยความภูมิใจและปลื้มปริ่ม แล้วปรบมือให้กับความสำเร็จของเขา
คังเจียน่ามองมาที่เธอ ความคิดนับพันแวบเข้ามาในหัวของเขา แต่ก็พยายามสงบอารมณ์ไว้ แล้วนั่งลงข้าง ๆ เพื่อฟังบรรยายของครูใหญ่
ท้ายที่สุดแล้ว ยังคงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขาเหมือนในตอนนั้น
ยี่สิบเอ็ดปี...
มือของมู่ซูเสียนที่ถือปากกาสั่นเล็กน้อย
นี่ฉันกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย?
ฉันควรจะลืมมันไปได้แล้ว แต่พอเห็นเขา ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อก่อนกลับเหมือนว่าไม่เคยจางหายไปเลย