บทที่ 409-410
บทที่ 409
น้ำหวานแสนอร่อยของซือซือ
ฮ่าๆๆ ฉันนี่ทำอะไรก็อร่อยไปหมดเลย
รสชาติดี กลิ่นหอมหวาน ละมุนละไม ใครจะทนไหว!
ถังซือซือรู้สึกพอใจน้ำหวานของตัวเองมาก เธอรีบพูดในทันทีว่า “ป้อนอีกสิ”
เซียวเฉินเยวียนตักน้ำหวานป้อนเธออีกครั้ง
กู่ชวน “...”
เฟยอวี่ “...”
แจกอาหารสุนัขกันเฉยเลย พวกเรายังยืนอยู่นะ...
ถึงอย่างนั้นกู่ชวนก็รู้สึกเคยชินขึ้นมาก เขาปลอบตัวเองในใจทุกครั้ง ถือว่าโชคดีที่เขาแต่งงานแล้ว ภายหลังเวลาถูกป้อนอาหารสุนัข ก็ไม่มีผลกระทบกับเขามากนักยกเว้นกับเฟยอวี่
เวลานี้เฟยอวี่เป็นคนที่น่าสงสารมากที่สุด เพราะเขาทำงานให้เซียวเฉินเยวียนมากว่ายี่สิบปีและไม่มีแฟนเลย เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกอึดอัดเมื่อถูกป้อนอาหารสุนัข
โอไม่นะ คุณผู้ชายไม่เกรงใจฉันเลย! ฉันขอลางาน ให้ตายเถอะ!
ผ่านไปไม่นาน จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเซียวเฉินเยวียนก็ดังขึ้น ปรากฏว่าหลินอี้ปินส่งข้อความเข้ามาใน ‘กลุ่มเป้าหมายเล็ก ๆ’ ว่า
“ช่วงนี้ทุกคนทำอะไรกันอยู่เหรอ?”
เซียวเฉินเยวียนที่มักตอบช้าสุดในกลุ่ม แต่คราวนี้กลับตอบมาเป็นคนแรก ขณะที่อีกมือถือช้อนและตักน้ำหวานในแก้วให้ถังซือซือ อีกมือหนึ่งก็พิมพ์ข้อความอย่างสบายใจ ก่อนกดส่งไปว่า
“ฉันกำลังกินน้ำหวานที่ซือซือเคี่ยวให้”
ภายในกลุ่มเงียบไปสิบวินาที ก่อนมีข้อความดังขึ้นมาอีกครั้ง
หลินอี้ปิน “หวานกันจนถึงมืดค่ำ ยังกล้ามาอวดอีก! เห็นใจกันบ้าง!”
เขารู้สึกเจ็บใจเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบความรักของตัวเอง ที่ตอนนี้ทำได้เพียงนอนกอดผ้าพันคอที่สวี่จิ้งชูทำให้...
เล่ยเจ๋อเหยียน “นายเป็นใคร? มาขโมยโทรศัพท์พี่ใหญ่แสนเย็นชาของเราได้ยังไง?”
เจียงเชิ้งหนาน “เดี๋ยวนี้พี่ใหญ่ชักใจร้ายมากขึ้นนะ... อย่างน้อยก็เห็นใจกันหน่อย นี่ตอนกลางคืนนะ พี่ใหญ่รู้ไหมว่าฉันว่างเปล่า เหงาเดียวดาย และหนาวเหน็บแค่ไหน? อย่าได้มาอวดแฟนกันตอนนี้เลย”
เซียวเฉินเยวียนนิ่งเงียบไม่ตอบกลับ ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดกล้อง ตามมาด้วยเสียง “แช้ะ” หลังจากถ่ายรูปตัวเองกำลังป้อนน้ำหวานให้แฟนสาว แล้วส่งรูปลงใน ‘กลุ่มเป้าหมายเล็ก ๆ’
เมื่อคุณผู้ชายทั้งสามในกลุ่มได้เห็นภาพนี้ ก็เกิดกระแสตอบรับอย่างดุเดือดในทันที
หลินอี้ปิน “ฉันหิวมากเลย! อยากกินบ้างจัง! ดูน่าอร่อยสุด ๆ ไปเลย!”
เล่ยเจ๋อเหยียน “อี้ปิน กินอาหารหมาไปขนาดนั้น ยังหิวอยู่เหรอ? ดูท่านายคงกินอาหารจนเพี้ยนแล้วล่ะ แต่จะว่าไป... น้ำหวานนั่นดูน่าอร่อยจริง ๆ นะพี่สะใภ้ทำยังไง? เพราะฉันไม่เคยเห็นน้ำหวานแบบนั้นมาก่อน”
เจียงเชิ้งหนาน “ตอนนี้ฉันไม่เพียงแต่ว่างเปล่า เหงาเดียวดาย... และหนาวเหน็บนะ ตอนนี้ก็หิวมากเลยด้วย...”
หลินอี้ปินพิมพ์ติดตลกขึ้นมา “งั้นไปชงน้ำอุ่นผสมกับอาหารหมาดูสิ!”
เล่ยเจ๋อเหยียนสวนกลับไปว่า “ก็เหมือนกับนายที่ยังนอนร้องไห้แหกปากนั่นล่ะ ป่านนี้อาหารหมาลอยเข้าไปอยู่ในปากจนล้นแล้วมั้ง...”
เจียงเชิ้งหนาน “คิดจริง ๆ นะ... ถ้าฉันเตะพี่ใหญ่ออกจากกลุ่ม... ฉันคงต้องรู้สึกผิดมากแน่ ๆ...”
เซียวเฉินเยวียนยังคงนิ่งสงบเหมือนไม่รับรู้อะไร ก่อนพิมพ์ “บลาๆๆ” แล้วพิมพ์เสริมอีกว่า
“ไปนอนก่อนนะ”
หลินอี้ปินอุทาน “เชื่อเขาเลย” ขึ้นมา ก่อนตอบกลับในทันที “พี่ใหญ่ไม่ต้องบอกเราก็ได้! ฮึ่ม!”
เล่ยเจ๋อเหยียน “พี่ใหญ่ ฉันสงสัยจริง ๆ นะ ถ้าไม่ได้ส่งรูปและเยาะเย้ยกันเนี่ย ถ้าไม่ทำให้เราสองสามคนอกแตกตาย? คงนอนไม่หลับใช่ไหม”
ก่อนหน้านี้ เซียวเฉินเยวียนเป็นโสดมาถึงยี่สิบปี และไม่เคยสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนเลย แต่เมื่อมีแฟนสาว เขาก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยนิ่งเงียบก็หาเวลาไปเจอแฟนสาวเกือบทุกวัน จึงเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับพวกเขาไม่น้อย
เจียงเชิ้งหนาน “พี่ใหญ่ใจร้ายไม่เปลี่ยนจริง ๆ... ขนาดมีแฟนยังทำตัวใจดำเหมือนเดิม...”
ถังซือซือยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อกลั้นหัวเราะ หลังจากดูการสนทนาระหว่างเซียวเฉินเยวียนและเพื่อน ๆ
หืม กลายเป็นว่าไม่ใช่ฉันคนเดียวที่คิดว่าคุณชายปีศาจใจดำแฮะ...
บทที่ 410
ร่วมทางจนตายจาก
กลางดึก
หลังจากกู่ชวนและเฟยอวี่บอกลาและจากไป ถังซือซือก็ลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมกลับห้องนอน ขณะที่กำลังก้าวไปข้างหน้า เซียวเฉินเยวียนรีบคว้ามือเธอเอาไว้
“คืนนี้อยู่กับผมนะ”
เสียงของเขาทำให้เธอกระสับกระส่ายไปทั้งตัว อะไรนะ? หมายความว่ายังไง?
หรือว่าความกระหายของคุณชายปีศาจระเบิดออกแล้ว แปลว่าคืนนี้เขาจะปฏิบัติต่อฉันในฐานะคนรักกันเหมือนคู่อื่น ๆ สินะ!
พระเจ้าช่วย! โลกต้องแตกแน่ ๆ! มือไม้สั่นไปหมด! ไม่ทันเตรียมใจไว้เลย!
ความรู้สึกนี้... น่าตื่นเต้นกว่าตอนแสดงหนังอีก!
ถังซือซือเริ่มรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมา ก่อนเอื้อมมือลงไปบีบต้นขาอย่างเงียบ ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ให้เย็นลง แล้วแสร้งทำสีหน้าเรียบเฉย และตอบกลับว่า
“โอเค งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”
พูดจบ เธอก็รีบเดินออกจากห้องอย่างร้อนรน แต่ไม่ว่าจะพยายามเดินให้ปกติแค่ไหน ต้นขาของเธอก็ไม่มีท่าทีจะหยุดสั่นเลย...
ไม่นาน ถังซือซือเดินกลับมาที่ห้องของเซียวเฉินเยวียน พร้อมสวมชุดกระต่ายสีขาวน่ารัก
“ที่รักคะ ฉันมาแล้ว”
ก่อนเปิดประตูเธอพยายามระงับความตื่นเต้นในใจ เมื่อเปิดเข้ามา เธอแปลกใจเล็กน้อยที่เซียวเฉินเยวียนยังคงนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน เหมือนกำลังจัดการเอกสารอะไรบางอย่างอยู่
เขากำลังทำอะไรน่ะ?
“ที่รักคะ คุณทำอะไรอยู่เหรอ?” ถังซือซือถามด้วยความสงสัย ก่อนเดินตรงเข้ามาแล้วนั่งลงข้าง ๆ เขา
แน่นอนว่าถังซือซือไม่ไปยุ่งวุ่นวายกิจการของ เซียวเฉินเยวียนอยู่แล้ว แต่ไม่แปลกที่คนรักกันจะถามไถ่ถึงงานที่อีกฝ่ายทำอยู่
เมื่อนึกถึงคำขอของเซียวเฉินเยวียน ถังซือซือก็พอเดาได้ว่าอาจไม่เกี่ยวกับเรื่องแบบนั้น จึงถามอย่างตรงไปตรงมา
หลังจากนี้ เธอจะเป็นส่วนหนึ่งและคนสำคัญของตระกูลเซียว ซึ่งในฐานะภรรยาเธอมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องต่าง ๆ ของ เซียวเฉินเยวียน แน่นอนว่าเมื่อรู้ทุกอย่างแล้ว เธอก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและปกปิดข้อมูลเพื่อไม่ให้คนภายนอกรู้
ต่อมาเซียวเฉินเยวียนดันกองเอกสารหนา ๆ กองใหญ่บนโต๊ะมาให้ถังซือซือดู ก่อนเอื้อมมือไปกุมมือของเธอไว้แล้วพูดว่า
“ซือซือ ทั้งหมดนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของผม หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นล้านหยวน (170,000,000,000)”
ถังซือซือแสดงสีหน้างงงวย เพราะไม่รู้ว่าทำไม เซียวเฉินเยวียนถึงพูดเรื่องนี้
ทันใดนั้น ไม่รอช้า เซียวเฉินเยวียนลุกขึ้นยืน ก่อนนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว แล้วส่งสายตาอ่อนโยนอันอบอุ่น เมื่อถังซือซือสบสายตากับเขาก็รู้ได้ทันทีว่าครั้งนี้เขาดูจริงจังมากกว่าปกติ
“ทรัพย์สินของผมมีไม่มากนัก แต่ผมหวังว่าคุณจะรับมันเอาไว้ ทีนี้คุณยินดียอมรับผมได้แล้วหรือยัง?”
นี่คือ...
นี่คือค่าสินสอดแต่งงาน! ค่าสินสอด! คุณชายปีศาจกำลังพูดถึงค่าสินสอดที่เขาจะให้ฉัน!
พระเจ้าช่วย!
หัวใจของถังซือซือเต้นแรงอีกครั้ง ร่างกายเริ่มกระสับกระส่าย แก้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพู
ริมฝีปากสั่นจนพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ดวงตาของเธอจ้องไปที่เซียวเฉินเยวียนไม่ไปไหน ความรู้สึกหลายอย่างถาโถมเข้ามาจนอธิบายอะไรไม่ถูก
เซียวเฉินเยวียนหรี่ตาลง ก่อนหยิบกล่องใส่เครื่องประดับกำมะหยี่สีแดงออกมา แล้วเปิดออกอย่างช้า ๆ ปรากฏว่าข้างในเป็นแหวนสีเงินประดับด้วยไข่มุกสีขาวนวลละเอียดอ่อนและสง่างามระยิบระยับ
เขาค่อย ๆ หยิบแหวนวงนี้ขึ้นมาอย่างอ่อนโยน ก่อนเอื้อมมือไปจับมือซ้ายของถังซือซืออย่างทะนุถนอม แล้วสวมแหวนไข่มุกลงบนนิ้วนางของเธอ
แหวนไข่มุกวงนี้ดูไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ราวกับถูกออกแบบมาให้เหมาะกับเธอโดยเฉพาะ
หลังจากนั้น เมื่อเงยหน้าขึ้นไปสบสายตาของถังซือซือ เขาก็พูดเบา ๆ อีกครั้งว่า
“ทรัพย์สินทั้งหมดที่ผมบอกไปคือของคุณทั้งหมด และเป็นส่วนหนึ่งของความรักที่ผมมีให้คุณ ถึงมันอาจจะดูน้อยนิด แต่ต่อไปนี้ผมจะทำงานให้หนักขึ้น ตลอดชีวิตที่เหลือนี้ผมมีแค่คุณ ร่วมทางไปด้วยกันนะ”
แม้ก่อนหน้านี้ถังซือซือรู้ว่าเขาจะขอแต่งงาน แต่เมื่อ เซียวเฉินเยวียนขอต่อหน้า เธอก็ยังรู้สึกประทับใจ