ตอนที่แล้วบทที่ 6 กลายเป็นนักผจญภัย (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 พบกับเฮเลน่า ปาร์คเกอร์

บทที่ 7 บุกเกท


บทที่ 7 บุกเกท

การเป็นนักผจญภัยแรงค์ A นั้นไม่ง่ายขนาดนั้น เอจิสจะต้องบ้าแน่ถ้าเธอเห็นสิ่งนี้ เธอใช้เวลาห้าปีในการเป็นนักผจญภัยแรงค์ A และอีกสองสามปีในการเป็นนักผจญภัยแรงค์ S…

คุณต้องเคลียร์เกทจำนวนมากและทำประโยชน์อื่น ๆ เช่นการให้ช่วยเหลือระหว่างเกทปรากฏ การปราบปรามอาชญากร หรือทำภารกิจอื่น ๆของกิลด์ให้สำเร็จ และสะสมชื่อเสียงจำนวนมากพอที่จะกลายเป็นนักผจญภัยแรงค์ A…

ตอนนี้ฉันสามารถเข้าเกทใดก็ได้ที่ต่ำกว่า ระดับ S และยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมายด้วย

เมื่อได้ยินเสียงของมิกะ ฉันก็หลุดออกจากภวังค์

“ขอแสดงความยินดีที่ได้เป็นนักผจญภัยแรงค์ A ที่อายุน้อยที่สุด ศิษย์ของข้า” เธอพูดพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้าของเธอ

เมื่อเห็นเธอยิ้ม ฉันรู้แล้วว่าเธอคุยส่วนตัวกับหัวหน้ากิลด์ผู้น่าสงสาร

ฉันสงสารหัวหน้ากิลด์ที่ฉันไม่รู้จักชื่อ.....ฉันคิดกับตัวเองว่า

“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณท่าน” ฉันตอบยิ้มให้เธออย่างไร้เดียงสา

*******

ไม่นานเราก็ออกจากกิลด์นักผจญภัยและไปที่รถของมิกะที่จอดอยู่ ขณะที่เราเข้าไปในรถมิกะก็พูดในสิ่งที่ต้องการบอก

“ข้ามีงานต้องทำ พรุ่งนี้ข้าจะออกจากเกาะลอยน้ำ”

ฉันแค่มองเธอด้วยตาที่เบิกกว้างและนิ่งเงียบ

ฉันไม่ได้แสดงมันออกมาทางใบหน้า แต่ฉันค่อนข้างมีความสุข ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบคฤหาสถ์ของเธอ แต่เป็นเพราะฉันกำลังวางแผนที่จะเคลียร์เกทเพื่อเพิ่มพูนทักษะความชำนาญในการใช้กระบวนท่าเหล่านี้ หากฉันได้รับบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อยในตอนที่ต่อสู้กับครูฝึก

ฉันไม่คิดว่าพรุ่งนี้จะมีสมาคมนักผจญภัยบนเกาะลอยน้ำ มิกะจะใช้พวกเขาเป็นแพะรับบาปเพื่อระบายความโกรธของเธอ

ฉันไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำเหมือนที่เกิดขึ้นในนวนิยาย

เมื่อคิดดูแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่น่าจะเป็นศิษย์ของเธอ?

ฉันคิดว่าน่าจะได้เจอเขาที่สถานศึกษา ไม่รู้ว่าเขาโชคร้าย....หรือโชคดีกันแน่?

ในขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิดอยู่กับตัวเอง มิกะก็ขัดขวางความคิดของฉันไปอีกครั้ง

“ไม่ต้องห่วงลูกศิษย์ของข้า ข้าจะทำงานให้เสร็จโดยเร็วที่สุด แล้วกลับมาหาเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าจะคิดถึงข้า และข้าก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน ไม่ต้องเสียใจไป”

“อาจารย์ของเจ้าจะนำของที่ระลึกมาฝากเจ้า”

ฉันแค่ตอบไปว่า "อืม!" และผงกศีรษะของฉัน

แต่ในใจก็คิดถึงคนใกล้ตัว ไม่ใช่สิคนที่เป็นศิษย์  ถ้าเดาถูกเธอคงได้เจอ 'ผู้ชายคนนั้น' ระหว่างการเดินทางครั้งนี้ของเธอ...,

แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะรับเขาเป็นศิษย์หรือไม่

"ข้าจะชดเชยให้เจ้าโดยการพาเจ้าไปที่เกทแรงค์ A" มิกะพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น…

ฉันไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกผิดและทำสีหน้าแบบนั้น แต่ฉันยอมรับข้อเสนอของเธอด้วยการพยักหน้า

เมื่อเห็นฉันเห็นด้วยกับเธอ เธอก็ยิ้มกว้างสดใสให้ฉัน และขับรถไปที่เกทแรงค์ Aที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ซึ่งเธอได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบจากสมาคมนักผจญภัย

สมาคมนักผจญภัยค่อนข้างแตกต่างจากกิลด์นักผจญภัย เราสามารถพบกิลด์นักผจญภัยได้หลายสาขาในทุกอาณาจักร และหัวหน้ากิลด์ของแต่ละสาขาก็ค่อนข้างมีอิทธิพลตามอำนาจ เงิน และสายสัมพันธ์ ใครๆ ก็สามารถสร้างกิลด์ของตนได้ แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากสมาคมนักผจญภัยเสียก่อน

และมีสมาคมนักผจญภัยเพียงแห่งเดียวที่ทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่

หลังจากเดินทางมาประมาณ 20 นาทีไม่นานเราก็มาถึงที่ตั้งของเกท…

'นี่จะเป็นการจู่โจมเกทครั้งแรกของฉันในโลกนี้ และฉันไม่รู้ว่ามันมีความคล้ายคลึงกับเกทจากโลกที่แล้วของฉันบ้างไหม' ฉันคิดกับตัวเอง…

************

ฉันแต่งตัวด้วยชุดพร้อมสู้ที่มิกะเตรียมไว้ให้

มันคล้ายกับชุดนักฆ่าที่เหล่านักฆ่ามักจะใส่กัน ถ้าฉันสวมหน้ากากด้วย ฉันก็คงดูเหมือนนักฆ่าเหมือนกัน

บางครั้งฉันคิดว่ามิกะแค่เติมเต็มความต้องการส่วนตัวของเธอด้วยการให้ฉันใส่ชุดอะไรก็ได้ที่เธออยากเห็นฉันใส่ "..... "

"มันเป็นชุดที่ปรับแต่งมาเพื่อไม่ให้จำกัดการเคลื่อนไหวของเจ้า และยังเสริมด้วยเวทย์มนตร์ระดับสูงอีกด้วย" มิกะพูดเพื่ออธิบายหลังจากที่ฉันมองเธออย่างสงสัย…

และฉันยังสวมดาบคาตานะสีดำที่มิกะมอบให้พร้อมฝักดาบที่ห้อยอยู่ที่เอวด้านซ้ายของฉัน

มิกะสวมชุดกิโมโนตามปกติของเธอ มันคือชุดสีดำ-ขาวที่เธอสวมเมื่อพบกันครั้งแรก โดยมีคาตานะ 2 เล่มห้อยอยู่ที่เอวซ้ายของเธอเหมือนเดิม

เมื่อเราเตรียมตัวเองให้พร้อมแล้ว เราก็เข้าไปในเกทโดยตรง มีนักผจญภัยกำลังเฝ้าประตูอยู่มากมาย แต่ไม่มีใครหยุดเรา แน่นอนพวกเขารู้ว่ามิกะ อามามิคือใคร

ทันทีที่เราเข้าเกท ทิวทัศน์ทั้งหมดและอุณหภูมิก็เปลี่ยนไป

ท่ามกลางหิมะตก เรามองเห็นเพียงป่าและป้อมปราการเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่ดูน่าขนลุกที่ปกคลุมไปด้วยหิมะซึ่งอยู่ห่างไกลจากพวกเรา และพวกเราต้องข้ามป่าเพื่อไปถึงที่นั่น…

อุณหภูมิไม่ได้มีผลกระทบกับฉันมากนัก เพราะชุดที่ปรับปรุงแล้วของฉัน และแน่นอนว่ามิกะก็ไม่ได้รับผลกระทบจากมันเช่นกัน

พวกเราตัดสินใจเดินหน้าเข้าไปในป่า…

เรามีสองทางเลือกในการเคลียร์เกท หนึ่งคือทำลายแหล่งที่มาของเกทซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าหัวใจของเกท หรือทางเลือกที่สองของเราคือฆ่าสัตว์อสูรทุกตัวที่อยู่ในเกท…

ตัวเลือกที่สองนั้นใช้ไม่ได้จริง ๆ เพราะสัตว์อสูรจะเกิดใหม่ทุกวัน ดังนั้นคุณต้องฆ่าสัตว์อสูรทุกตัวก่อนที่พวกมันจะเกิดใหม่

แต่แน่นอน เป็นไปได้ถ้าคุณเป็นมิกะ อามามิ หรือใครก็ตามที่แข็งแกร่งพอๆ กับเธอ…

ไม่นานเราก็มาถึงส่วนลึกของป่าแต่ก็ยังไม่เจอสัตว์อสูรสักตัว ซึ่งไม่ใช่สัญญาณที่ดีเพราะนั่นหมายความว่าสัตว์อสูรทั้งหมดมารวมกันอยู่ที่เดียวและต้องเตรียมการเพื่อฝ่าวงล้อมหรือวางแผนที่จะอัญเชิญสัตว์อสูรระดับสูงประเภททั่วไป และคงเป็นเรื่องยากสำหรับนักผจญภัยแรงค์ A ทั่วไปที่จะจัดการกับพวกมัน เนื่องจากสัตว์อสูรประเภททั่วไปที่อัญเชิญได้มักจะเป็นแรงค์ S และเนื่องจากพวกมันมีจำนวนมากอีกด้วย…

แต่สำหรับนักผจญภัยที่แข็งแกร่งอย่างมิกะ ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขาที่สามารถจัดการกับพวกมันทั้งหมดได้ในคราวเดียว…

ขณะที่เรากำลังเดินหน้าต่อไป ในที่สุดเราก็มาถึงสุดขอบป่า และไม่ไกลจากเรามากนัก เราเห็นป้อมปราการขนาดใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง ฉันคิดว่าสัตว์อสูรทั้งหมดมารวมตัวกันที่นั่น ป้อมปราการสามารถจุสัตว์อสูรได้ประมาณ 2-3 พันตัว…

การพังทลายของเกทจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อสัตว์อสูรเกินจำนวนสัตว์อสูรที่เกทสามารถครอบครองได้

หากคุณออกจากเกทโดยไม่เคลียร์เป็นเวลานาน จำนวนสัตว์อสูรก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและเมื่อถึงขีดจำกัดของเกท เกทก็จะพังทลายสัตว์อสูรทั้งหมดก็จะหลุดออกมาสร้างความวอดวายในโลกนี้

และฉันก็ไม่รู้ว่าพวกมันกำลังทำอะไรในป้อมปราการนั้นในตอนนี้ พวกมันกำลังทำพิธีเพื่ออัญเชิญสัตว์อสูรระดับสูงออกมา.....หรืออาจกำลังเพิ่มจำนวนประชากรโดยการผสมพันธุ์?

ฉันส่ายหัวสลัดความคิดไร้สาระออกจากสมองและเริ่มวางแผนว่าจะโจมตีป้อมปราการอย่างไร…

ฉันมองไปที่มิกะและถามความคิดเห็นของเธอ

"อาจารย์ เราจะเข้าไปในป้อมปราการได้อย่างไร" ฉันถามโดยมองไปยังป้อมปราการที่อยู่ไม่ไกลจากเรามากนัก…

มิกะเอียงศีรษะเล็กน้อยราวกับว่าเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นเหนือหัวของเธอ

“หมายความว่าไง ศิษย์ข้า คำตอบมันไม่ชัดเจนเหรอ” เธอตอบในขณะที่ทำสีหน้าเหมือนคนที่พึ่งได้ยินอะไรที่งี่เง่าอย่างมาก…

ฉันหันไปหาเธอแล้วหรี่ตาราวกับจะขอคำอธิบายจากเธอ…

"ตกลง ให้ข้าแสดงให้เจ้าดู" มิกะพูดและดึงดาบคาตานะทั้งสองของเธอออกมาถือข้างละเล่ม

เธอขยับดาบคาตานะทั้งสองของเธอไปข้างหน้าโดยเหยียดแขนให้ตรง และทำสัญลักษณ์กากบาทโดยไขว้ดาบคาตานะทั้งสองของเธอและผสามมันด้วยธาตุไฟของเธอ

ดาบคาตานะทั้งสองเล่มปรากฏเปลวเพลิงขึ้น จากนั้นเธอก็สะบัดดาบและโจมตีไปที่ป้อมปราการ…

เปลวเพลิงที่ซ้อนทับกันเป็นเครื่องหมายกากบาทและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า และในที่สุดก็โจมตีป้อมปราการจนมันพังทลายเป็นรูปกากบาท

แม้ว่าหลังจากทำลายป้อมปราการแล้ว การโจมตีก็ยังไม่หยุดและยังคงมุ่งหน้าต่อไปจนกระทั่งมันชนภูเขาขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ซึ่งอยู่ด้านหลังป้อมปราการ

การโจมตีได้ทำลายภูเขาทั้งลูก เหลือเพียงเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ เหลือเพียงเศษซากและเปลงไฟให้เห็นตลอดเส้นทางของการโจมตี…

ตลอดกระบวนการนี้ ฉันเพิ่งเห็นเปลวเพลิงที่ทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า ราวกับว่าฉันถูกมนต์สะกด ฉันไม่อาจละสายตาแม้แต่เสี้ยววินาที ไม่อยากพลาดฉากของการทำลายล้างที่เกิดจากการโจมตีนี้.. .

ไม่นานประตูทางออกก็ปรากฎขึ้นข้างหลังเรา เป็นสัญญาณว่าได้ทางออกได้เปิดออกแล้ว…

ฉันถามมิกะด้วยน้ำเสียงงุนงงด้วยสายตาที่ยังคงตกตะลึง..

“สัตว์อสูรชนิดไหนอาศัยอยู่ในเกทที่เราอยู่นี้ อาจารย์”

มิกะที่ยังคงมองดูฉากที่สวยงามซึ่งเกิดจากการโจมตีของเธอตอบในขณะที่ยังคงมองไปที่ฉากนั้น…

"ใครสนกันล่ะ"

พูดคำนั้นแล้วเธอก็หันหลังกลับและเดินออกจากประตูพร้อมกับส่งสัญญาณให้ฉันตามหลังเธอไป

ฉันมองไปทางด้านหลังของเธอขณะที่เธอกำลังเดินออกไป แล้วหันศีรษะไปทางที่ตั้งของป้อมปราการ ซึ่งตอนนี้เปลวเพลิงยังคงลุกโชนอยู่ทุกสรรพสิ่ง…

ฉันยืนอยู่ที่นั่นเพียงลำพังเฝ้าดูเปลวไฟที่ลุกท่วมอยู่สองสามนาที จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินออกจากประตูไป

'ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อสู้ อุตส่าห์เตรียมอุปกรณ์ขั้นสูงให้ตัวเองแล้วก็ตาม ฉันก็เป็นเหมือนนางแบบที่เดินมาชมฉากอลังการที่มิกะสร้างขึ้นมาอวดฉัน' ฉันคิดกับตัวเองพลางส่ายหัวเล็กน้อยขณะออกจากประตูไป...

***********

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด