บทที่ 117: หลงโม่ฟาดหวงเยว่ลงแม่น้ำ
เนื่องจากดินบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเปียก หูเจียวเจียวที่กำลังแบกถังหินที่มีปลาอยู่ข้างในจู่ ๆ ก็ถูกหวงเยว่ดึงถังไปแบบนั้น เธอจึงเสียการทรงตัวจนลื่นล้ม ก่อนที่เธอจะคว้าอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างตัวทันที
ในเวลานี้แขนที่เรียวยาวอยู่ใกล้มือจิ้งจอกสาวที่สุด เธอเลยคว้ามันไว้โดยสัญชาตญาณ และกำลังจะใช้แรงทั้งหมดพยุงตัวไว้ แต่อีกฝ่ายก็ล้มลงต่อหน้าเธออยู่ดี
“!?”
เอ๊ะ? ฉันเป็นคนดึงนาง แต่ทำไมนางถึงล้มลงก่อน?
“ว้าย!”
หวงเยว่ร้องอุทาน โชคดีที่นางยังอยู่ห่างจากชายฝั่ง 2 ก้าว นางจึงล้มลงที่ริมฝั่งแม่น้ำก่อน
เสียงนั้นทำให้ชาวบ้านหันกลับมามอง
หูเจียวเจียวรีบปล่อยมือของอีกฝ่ายทันที รูม่านตาของเธอหดลงเล็กน้อย ถ้าทุกคนเห็นภาพนี้ คงไม่ใช่ว่าพวกเขาคิดว่าเธอโหดเหี้ยมจนอยากจะผลักหวงเยว่ลงไปในแม่น้ำใช่ไหม?
นี่คือธาตุแท้ของดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์หรือ? ละครฉากนี้ถูกจัดขึ้นมาได้อย่างไร?
ขณะที่ฟันเฟืองในหัวของหูเจียวเจียวกำลังหมุนอย่างรวดเร็ว เธอกำลังคิดว่าจะพลิกสถานการณ์อย่างไร เธอควรจะปล่อยให้นางทำในสิ่งที่ต้องการ หรือหันไปถีบนางลงแม่น้ำดี? ไหน ๆ เธอก็ถูกจัดฉากให้ทุกคนเข้าใจผิดไปแล้ว!
ทันใดนั้นเงาดำขนาดใหญ่ก็พาดผ่านร่างของทั้งคู่แล้วบดบังสายตาของชาวบ้านทั้งหมด
ทางด้านหลงโม่ที่บินมาจากระยะไกลเห็นหวงเยว่เคลื่อนไปทางจิ้งจอกสาว แล้วแสงมืดมนก็ส่องประกายผ่านม่านตาสัตว์สีทอง
ก่อนที่หูเจียวเจียวจะทันได้ตอบสนอง หางของมังกรก็ตวัดแรงขึ้น โดยที่เขาอยู่ห่างจากแม่น้ำไม่เกิน 100 เมตร จังหวะนั้นเอง หวงเยว่ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลถูกหางมังกรฟาดลงไปในแม่น้ำอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
ทีนี้เป็นคราวของหวงเยว่ที่ต้องตกตะลึง!
“กรี๊ดดดด! ช่วยด้วย!” หงส์สาวกลัวน้ำมากที่สุด และเมื่อนางตกลงไปในน้ำ นางก็ตื่นตระหนกตะเกียกตะกายไปมาในน้ำเหมือนไก่ฟ้าที่กำลังจมน้ำ
ทว่ามังกรหนุ่มไม่แม้แต่จะหันไปมองนาง ยามนี้เขามองไปที่จิ้งจอกสาวด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เขามองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนจึงลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“หลงโม่ ทำไมเจ้าถึง...” หูเจียวเจียวจ้องมองมังกรดำผู้ทรงพลังด้วยความตกใจ
นี่เขามาถึงก็ฟาดหวงเยว่ลงไปในแม่น้ำเลยเนี่ยนะ?
จริง ๆ แล้ว...เขาทำได้ดีมาก!
ก่อนที่หญิงสาวจะพูดจบ หลงโม่ก็ใช้หางม้วนตัวเธอขึ้น จากนั้นก็วางถังหินที่มีปลาอยู่ข้างในไว้บนหลัง เสร็จแล้วเขาก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ
จิ้งจอกสาวตกใจจึงรีบกอดร่างของมังกรไว้แน่น และยื่นมือข้างหนึ่งไปถือถังหินเพื่อป้องกันไม่ให้มันตก
สิ่งที่เธอไม่คาดคิดคือมังกรดำบินได้นิ่มนวลอย่างน่าประหลาดใจ ยกเว้นลมหวีดหวิวที่พัดผ่านหูของเธอ ร่างของมังกรตัวใหญ่ไม่สั่นสะเทือนเลย นอกจากนี้เธอไม่จำเป็นต้องกังวลว่าตัวเองจะตกเลยสักนิด
หูเจียวเจียวยังจำได้ชัดเจนว่าครั้งล่าสุดที่เธอขี่ภูตนกไปที่รังของภูตเร่ร่อน เธอถูกลมตีหน้าจนแทบจะถลอก ทั้ง ๆ ที่ทั้ง 2 เป็นภูตที่บินได้ทั้งคู่ แต่ความแตกต่างทางด้านประสบการณ์มันต่างชั้นกันมากจริง ๆ!
แต่ทำไมหลงโม่ถึงมาที่นี่กะทันหัน?
หญิงสาวมีคำถามมากมายอยู่ในหัว แต่เธอก็ถูกทิวทัศน์อันน่าทึ่งด้านล่างดึงดูดความสนใจไปเสียก่อนที่จะได้คำตอบ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้นั่งบนหลังมังกร และเธอก็รู้ว่าภูตมังกรบินได้สูงกว่าภูตนกมาก
ตอนนี้ภาพเผ่าด้านล่างของเธอเล็กลงเรื่อย ๆ ซึ่งมันเล็กจนบ้านในเผ่าดูเหมือนมดและทั้งเผ่ามีขนาดไม่เกินฝ่ามือของหูเจียวเจียว
ด้านนอกเผ่ามีเทือกเขาเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา ภูเขาที่เรียงตัวกันสวยงามและแม่น้ำธรรมชาติมาบรรจบกันเป็นม้วนภาพขนาดใหญ่ที่เคยเห็นในละคร แต่ความสวยงามนั้นกลับแฝงไปด้วยอันตรายที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวโดยไม่ได้ตั้งใจ
นี่คือโลกของภูต...
ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่คำอธิบายห้วน ๆ ที่มีคนพรรณาถึงหรือภาพยนตร์แฟนตาซี แต่เป็นโลกแห่งความจริง!
“ช่างงดงามเหลือเกิน...”
หัวใจของหูเจียวเจียวเต้นแรง เธอขยับตัวนั่งบนหลังมังกรให้สบาย ริมฝีปากสีชมพูสวยแย้มออกเล็กน้อย พลางส่งเสียงอุทานตลอดทาง
บัดนี้ทั้งคู่บินออกนอกเผ่าอยู่พักหนึ่ง โดยทำเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวก่อนจะกลับมายังเผ่าอีกครั้ง
มังกรดำลงสู่พื้นที่เปิดโล่งในเผ่า ตามด้วยหางที่ยื่นไปขดรอบตัวหญิงสาวร่างเล็ก การเคลื่อนไหวของเขาดูระมัดระวัง แล้วสุดท้ายเขาก็พาอีกฝ่ายมาส่งถึงพื้นอย่างนิ่มนวล
หูเจียวเจียวดึงสติตัวเองออกจากทิวทัศน์ที่สวยงามเมื่อครู่หลังจากที่เท้าของเธอแตะพื้น
เมื่อจิ้งจอกสาวมองไปที่มังกรดำยักษ์ตรงหน้าอีกครั้ง เธอก็ตกใจและกลับสู่ความเป็นจริง
ทำไมจู่ ๆ หลงโม่มาหาเธอแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย?
เขาไม่กลับบ้านทั้งคืนเพราะเขาไม่ชอบเสื้อผ้าที่เธอทำไม่ใช่หรือ… หรือว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ชายหนุ่มเข้าสู่ด้านมืดเร็วขึ้น และตอนนี้เธอถูกอีกฝ่ายพาขึ้นไปบนท้องฟ้า เพราะเขาต้องการ...
โยนเธอให้ตกลงมาตาย!
พอหูเจียวเจียวนึกถึงความเด็ดเดี่ยวที่เขาฟาดหวงเยว่ตกลงไปในแม่น้ำ หัวใจของเธอก็กระตุกวูบ เมื่อกี้เธอยังอยู่ในอารมณ์ที่จะชื่นชมทิวทัศน์อันแสนสวยงามโดยที่เธอไม่ได้คำนึงถึงว่ามันอาจจะเป็นหนทางแห่งความตายในรูปแบบอื่น
ในขณะเดียวกัน หลงโม่เพ่งพินิจหญิงสาวตรงหน้าอย่างระมัดระวัง
เขากำลังสงสัยว่านางอารมณ์ดีขึ้นหรือยัง? นางยังโกรธเขาอยู่ไหม? ในอดีต ทุกครั้งที่ชายหนุ่มอารมณ์ไม่ดี เขาจะรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้บินไปบนท้องฟ้า
พอมังกรหนุ่มเห็นว่าจิ้งจอกสาวดูไม่มีความสุข หัวใจของเขาก็จมดิ่งลง แน่นอนว่าการง้อผู้หญิงไม่ใช่เรื่องง่าย
ทางด้านหูเจียวเจียวรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจพลางต้องการคิดหาวิธีแก้ไขวิกฤตนี้ให้ได้ เพื่อที่เจ้าจอมวายร้ายจะได้เปลี่ยนใจไม่โยนเธอลงมาจากฟ้า
ทันใดนั้น มังกรดำที่อยู่ตรงหน้าก็กลายเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง
ก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ เขาก็เอื้อมมือมาคว้าถังหินจากมือเธอไป
หญิงสาวตกตะลึงกับการกระทำของอีกฝ่าย เหตุใดผู้ชายคนนี้ถึงขโมยปลาของเธอไปล่ะ?
เธอเม้มริมฝีปากด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่กล้าถามเขาออกไปตรง ๆ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเก็บความสงสัยไว้ในใจ
ช่างเถอะ ๆ ถ้าเขาพอใจจะทำอะไรก็ปล่อยเขาไป
ขณะนี้หลงโม่เดินกลับบ้านพร้อมกับถังหินโดยไม่พูดอะไรสักคำ และหูเจียวเจียวก็ทำได้เพียงเดินตามหลังเขาไปเงียบ ๆ เพราะถึงอย่างไรเธอก็จะกลับบ้านอยู่แล้ว
แต่...
เวลานั้นหญิงสาวเลื่อนสายตามองลงไปที่ฝีเท้าของอีกฝ่าย เจ้าจอมวายร้ายเป็นตะคริวที่ขาหรือเปล่า?
วันนี้เขาเดินช้ากว่าเต่าเสียอีก!
...
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่หลงโม่พาตัวหูเจียวเจียวไปแล้ว หวงเยว่ก็ยังคงกระเสือกกระสนดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำเพื่อขอความช่วยเหลือ
พอร่างของมังกรดำตัวเขื่องเข้ามาบดบังสายตาของคนอื่น ชาวบ้านจึงไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลังจากที่ภูตมังกรบินออกไป พวกเขาก็เห็นว่าหงส์สาวตกลงไปในน้ำ ทันใดนั้นภูตคนหนึ่งก็กระโดดลงไปช่วยนาง
ถัดมา ผู้ชายในเผ่าก็วิ่งกรูกระโดดลงไปในน้ำทีละคน ซึ่งภาพที่ปรากฏต่อสายตาของทุกคนนั้นเหมือนกับกบกำลังดำน้ำ
ในวินาทีถัดมา ชายคนแรกก็พุ่งหัวทิ่มลงไปในแม่น้ำและนอนคว่ำหน้าตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น
บ้าเอ๊ย!
ทำไมแม่น้ำสายนี้ถึงตื้นขนาดนี้!
บัดนี้ภูตชายที่อยากจะไปช่วยสาวงามกินโคลนเข้าไปเต็มปาก หลังจากที่ยืนขึ้น เขาก็เห็นว่าแม่น้ำสูงไม่ถึงน่องของเขาด้วยซ้ำ ต่อมา เขามองไปทางหวงเยว่ซึ่งกำลังอยู่ในอาการตื่นตระหนกและหวาดกลัวพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือเหมือนคนกำลังจะจมน้ำตาย
จากนั้นเขาจึงเค้นเสียงลอดไรฟันพูดกับหญิงสาวว่า
“แม่นาง น้ำที่นี่ไม่ลึก ทำไมเจ้าไม่ลองลุกยืนดูล่ะ?”
หวงเยว่ตัวแข็งเป็นรูปปั้นเพราะตกใจ แล้วก็ตระหนักได้ว่าตั้งแต่เมื่อกี้นี้นางนอนอยู่ตลอดเวลา น้ำจึงสูงท่วมหัวตน แต่พอนางลองยืนดูจริง ๆ แล้ว น้ำในสายธารแห่งนี้ไม่ลึกอย่างที่คิดเลย
ถ้าหญิงสาวไม่มัวแต่ตีโพยตีพายอยู่ตลอด นางคงรู้ตัวไปตั้งนานแล้ว
ครู่ต่อมา หงส์สาวยืนขึ้นด้วยสีหน้าลำบากใจ ขณะนี้ใบหน้าของนางซีดและหูเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่นางจะก้มหัวลงอธิบายว่า
“เอ่อ ข้าขอโทษ ข้าเป็นภูตนก ทำให้สัญชาตญาณของข้ากลัวน้ำมาก เป็นเพราะข้ารู้สึกกลัวมากเกินไปเลยไม่รู้ว่าน้ำที่นี่ตื้นมาก...”
พอชายคนนั้นได้เห็นท่าทางของหญิงสาวผู้อ่อนแอ เขาก็รู้สึกสงสารที่ทั้งตัวนางเปียกปอนตั้งแต่หัวจรดเท้า ดังนั้นเขาจึงไม่ถือโทษโกรธอีกฝ่ายและรีบโบกมือเปื้อนโคลนตอบ
“ไม่เป็นไร ๆ แม่นางขึ้นฝั่งเร็วเข้าเถอะ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะป่วยเพราะไอเย็น”
ถัดมา ชายหนุ่มคนซื่อรีบเช็ดโคลนที่มือออกแล้วรีบเดินไปช่วยพยุงหงส์สาว
“ขอบคุณ...”
ในที่สุดหวงเยว่ก็ขึ้นฝั่งสำเร็จ เมื่อคิดถึงเรื่องตลกที่ตัวเองทำไปเมื่อกี้ นางก็รู้สึกอับอาย
“แม่นางกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดเถอะ” ภูตหนุ่มเกาหัวพลางเอ่ยแนะนำ
“เรายังต้องไปที่ถ้ำเพื่อไปขนเกลือกลับมาในเผ่า ระวังเจ้าจะถูกหัวหน้าเผ่าทำโทษที่ทำให้ล่าช้าล่ะ” ภูตที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกอิจฉาที่ชายคนนี้ได้พูดคุยใกล้ชิดกับผู้หญิง เขาจึงพูดกระตุ้นชายหนุ่มเสียงดัง
เมื่อหวงเยว่ได้ยินเช่นนี้ ดวงตาที่ไร้เดียงสาของนางก็ฉายแสงมืดมน และทันใดนั้นนางก็คว้าแขนภูตชายที่กำลังจะจากไปเอาไว้