บทที่ 965 (86) กลุ่มหรงเผิงเริ่มลงมือ! (ตอนฟรี)
บทที่ 965 (86) กลุ่มหรงเผิงเริ่มลงมือ!
เมื่อได้เจอจี้เส้าฮงอีกครั้ง จี้เฟิงรู้สึกว่าเขาดูสงบนิ่งขึ้น ไม่มีกลิ่นอายความอ่อนโยนที่ปลอมเปลือกเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ค่อยๆแสดงความสง่างามด้วยมาดของหัวหน้าเขตออกมาเล็กน้อย
ส่วนจี้เส้าจุนที่อยู่ข้างๆเขาก็ดูเติบโตมากขึ้น แต่ยังมีร่องรอยความเหลาะแหละอยู่ในแววตา แต่ที่มากกว่านั้นคือความกังวลบนใบหน้า
“ช่าวเหลย เสี่ยวเฟิง!”
เมื่อเห็นจี้เฟิงและจี้ช่าวเหลย จี้เส้าฮงก็เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันจี้ช่าวเหลยก็ก้าวไปข้างหน้าและอ้าแขนกอดเขา “ยินดีต้อนรับเส้าฮง! แขกคนพิเศษของเรา!”
การกอดครั้งนี้ทำให้สีหน้าของจี้เส้าฮงอ่อนลงมาก เขายิ้มและพูดว่า “เจ้าบ้านที่ดีไม่ควรแซวแขกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแบบนี้สิ!”
ชายหนุ่มทั้งสองคนหัวเราะออกมาทันที และจี้เฟิงก็เดินตามจี้ช่าวเหลยพี่รองของเขาเข้าไปกอดจี้เส้าฮงและจี้เส้าจุนตามลำดับ การกระทำอย่างเป็นธรรมชาติเหล่านี้ทำให้บรรยากาศระหว่างพี่น้องทั้งสองสายผ่อนคลายลงมาก
แต่ก็ใช่ว่าปมในใจจะสามารถแก้ได้ในทันที บางอย่างต้องใช้เวลาและใช้ใจเพื่อสร้างสายสัมพันธ์และความสมานฉันท์กันระหว่างพี่น้อง
“ไปๆ ขึ้นรถกันเถอะ ตรงนี้ไม่เหมาะที่จะพูดคุยกัน ไปหาที่นั่งพักเก็บข้าวของให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเอง
แต่คนสี่คนกับรถสองคัน การแบ่งค่อนข้างจะสร้างความอึดอัดเล็กน้อย
จี้เฟิงและจี้ช่าวเหลยมาด้วยรถคนละคันและตอนนี้ทั้งคู่ก็ต้องเป็นคนขับรถกลับ นั่นทำให้จี้เส้าฮงและจี้เส้าจุนมีปัญหาเล็กน้อยว่าพวกเขาควรจะใช้รถของใคร
เดิมทีการเลือกรถที่จะโดยสารควรเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่น่าจะเป็นปัญหาด้วยซ้ำ แต่ประเด็นสำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสี่คนไม่เหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ พวกเขายังคงมีความตะขิดตะขวงใจจากสาเหตุความขัดแย้งระหว่างสายเลือดหลักและสายเลือดรองอยู่ ดังนั้นแค่วิธีการเลือกรถโดยสารก็กลายเป็นปัญหาได้ไม่ยาก
ลองนึกดูว่าถ้าจี้เส้าฮงและจี้เส้าจุนเลือกที่จะนั่งรถของจี้ช่าวเหลยไป สิ่งนี้คงดูแปลกเล็กน้อยสำหรับจี้เฟิง แต่ถ้าพวกเขาเลือกที่จะไปกับจี้เฟิง มันจะไม่เท่ากับว่าพวกเขาจงใจเข้าหาจี้เฟิงโดยมีเจตนาแอบแฝงหรอกหรือ?
นี่เป็นเรื่องของหน้าตา และมันก็ทำให้จี้เส้าฮงและจี้เส้าจุนทำตัวไม่ถูก
ในเวลานี้ จี้เส้าจุนรู้สึกว่าเขาไม่ควรพูดอะไรโดยไม่คิด เขาจึงทำได้เพียงแค่มองไปที่จี้เส้าฮงพี่ชายของเขา
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอย่างลับๆ จากเรื่องเล็กน้อยนี้ จะเห็นได้ว่าจะต้องใช้ความพยายามอีกมากในการรวมสายหลักกับสายรองให้สมานฉันท์กันอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
เรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม!
มีตัวอย่างมากมายที่เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้เป็นต้นตอของปัญหาใหญ่หากไม่สามารถทำให้มันชัดเจนได้ตั้งแต่ต้น
“เส้าจุน นายไปกับเสี่ยวเฟิง ส่วนฉันจะไปกับช่าวเหลย พอดีมีเรื่องที่ต้องปรึกษากับช่าวเหลย...” ในที่สุดจี้เส้าฮงก็เลือกได้ เขายิ้มและพูดว่า “รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้คุณสองคนมาเป็นโชเฟอร์ชั่วคราวให้ในวันนี้”
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “เป็นเกียรติของเรามากกว่าที่ได้เป็นคนขับรถให้หัวหน้าเขตดาวรุ่งอายุน้อยเช่นนี้!”
ทั้งสี่คนหัวเราะออกมาในเวลาเดียวกัน และบรรยากาศก็ผ่อนคลายลงทันที
จี้เส้าฮงและจี้เส้าจุนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่จี้เฟิง พวกเขาพบว่าเมื่อพวกเขาได้มาพบปะพูดคุยกับจี้เฟิงจริงๆ ดูเหมือนว่าจี้เฟิงจะไม่ได้ดุร้ายอย่างที่พวกเขาคิด ตรงกันข้าม เขาเป็นคนที่พูดคุยตอบโต้ได้เฉลียวฉลาดและเก่งในการสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นอีกด้วย
หลังจากหาสรุปข้อตกลงกันได้แล้ว จี้เส้าฮงก็นั่งรถของจี้ช่าวเหลย ส่วนจี้เส้าจุนก็นั่งรถของจี้เฟิง โดยที่รถของจี้ช่าวเหลยขับนำทาง และรถทั้งสองคนก็เริ่มออกเดินทาง
ไม่นานนัก รถทั้งสองคันก็มาถึงประตูโรงแรมที่ชื่อว่า เจียนอันเกสต์เฮ้าส์
หลังจากจอดรถ จี้ช่าวเหลยก็พูดด้วยรอยยิ้ม “นี่คือเกสต์เฮ้าส์ของเจียนอันกรุ๊ป อาจจะเรียกไม่ได้ว่าดีที่สุด แต่ก็ถือว่าไม่เลว เส้าฮง เส้าจุน หากมีอะไรไม่ถูกใจโปรดอย่าถือสา!”
“ช่าวเหลย มารยาทที่สุภาพของคุณมันทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นคนนอก!” จี้เส้าฮงยิ้มอย่างขมขื่น “ถ้าคุณยังทำแบบนี้อีก เราจะหันหลังและกลับไปทันที”
“โอ๊ะ! อย่าเพิ่งๆ ใจเย็นๆก่อน”
จี้ช่าวเหลยหัวเราะ “คนนอกคนเนิกอะไรกัน พี่น้องกันทั้งนั้น! เข้าไปข้างในกันเถอะ!”
“ต้องแบบนี้สิ!” จี้เส้าฮงหัวเราะ
จี้เส้าจุนก็ยิ้มและพยักหน้าตามจี้เส้าฮง
ดูจากพฤติกรรมต่างๆของจี้เส้าฮงและจี้เส้าจุน เขาเชื่อว่าการมาที่เจียงโจวอย่างกะทันหันของทั้งสองคนนี้จะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่าง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่พยายามลดระยะห่างด้วยความกระตือรือร้นขนาดนี้ ซึ่งมันค่อนข้างผิดปกติไปมาก
รู้หรือไม่ว่าในวันที่จี้เฟิงไปบ้านของตระกูลจี้ที่หยานจิงเป็นครั้งแรก มีการเผชิญหน้ากันสั้นๆระหว่างทั้งสองคน และต่อมาก็มีการทะเลาะวิวาทกันเรื่องไวน์ พูดแขวะจิกกัดกันไปมา ฯลฯ ความสัมพันธ์เป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้างแย่
แต่ตั้งแต่งานเลี้ยงอาหารค่ำวันตรุษจีนครั้งล่าสุด จี้เส้าฮงก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป และตอนนี้เขายังมาที่เจียงโจวพร้อมกับจี้เส้าจุนอีก ถ้าบอกว่าเขาว่างมากก็เลยมาหาลูกพี่ลูกน้องเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์แก้เบื่อ เกรงว่าถ้าไม่โง่มากจนเกินไปก็ยากที่จะเชื่อแบบนั้น
เมื่อมากับจี้ช่าวเหลย บอสใหญ่ของเจียนอันกรุ๊ป เรื่องต่างๆก็ง่ายขึ้นมาก ภายใต้คำแนะนำที่กระตือรือร้นและเต็มไปด้วยความนอบน้อมของพนักงาน จี้เส้าฮงและจี้เส้าจุนก็ได้ห้องพักอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็ไปยังห้องอาบน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ใกล้กลับกับเกสต์เฮ้าส์
ที่ห้องอาบน้ำแห่งนี้มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงแถมยังมีมื้ออาหารให้ฟรีสำหรับผู้มาใช้บริการหลังจากที่แช่น้ำจนสบายตัวแล้ว
การจัดการของจี้ช่าวเหลยทำให้จี้เส้าฮงและจี้เส้าจุนค่อนข้างประทับใจ การเดินทางติดต่อกันหลายชั่วโมงทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้า และเมื่อได้ห้องพักที่แสนสบาย จากนั้นก็ได้แช่น้ำเพื่อผ่อนคลายตบท้ายด้วยอาหารมันทำให้พวกเขารู้สึกเพลิดเพลินและสบายตัวมาก
โรงอาบน้ำขนาดใหญ่แห่งนี้ไม่เพียงแต่มีอาหารไว้บริการฟรีเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจอย่างอื่นอีกเช่น โรงยิม ห้องบิลเลียด ห้องหมากรุก โต๊ะเล่นไพ่ ฯลฯ นอกจากกีฬากลางแจ้งบางชนิดที่ที่นี่ไม่มีให้บริการ อย่างอื่นๆก็ถือว่าค่อนข้างครบวงจรมาก
เดิมทีจี้ช่าวเหลยต้องการพวกทั้งสองไปหาอะไรเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน แต่จี้เส้าฮงอยากพักมากกว่า เขาจึงแนะนำให้หาสถานที่สบายๆเพื่อนั่งคุยกัน
ดังนั้นทั้งสี่คนจึงเปิดห้องส่วนตัวในโรงน้ำชาใกล้ๆเพื่อนั่งดื่มชาและพูดคุยกัน
หลายคนเข้าใจโดยธรรมชาติว่าหลังจากได้พักผ่อนจนหายเหนื่อยล้าและเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงเล็กๆแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะเข้าสู่โหมดจริงจังได้แล้ว
“ช่าวเหลย เสี่ยวเฟิง อันที่จริงที่เส้าจุนและฉันมาที่เจียงโจวในครั้งนี้ก็เพื่อขอความช่วยเหลือ...” จี้เส้าฮงพูดเป็นฝ่ายพูดก่อน และเขาก็เลือกที่จะพูดเจตนาของเขาโดยตรง และนั่นก็ทำให้จี้เฟิงและจี้ช่าวเหลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
“คุณว่าอะไรนะ.. ขอความช่วยเหลือจากเรา?” จี้ช่าวเหลยชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ถามด้วยรอยยิ้ม “เส้าฮง คุณล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?”
ขนาดจี้เฟิงที่คาดเดาไว้แล้วว่าจี้เส้าฮงอาจมีปัญหาบางอย่างก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกใจเมื่อเห็นเขาพูดขอความช่วยเหลือออกมาตรงๆเช่นนี้
จี้เฟิงไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่มองไปที่จี้เส้าฮงอย่างเงียบๆเพื่อรอคำพูดต่อไปของเขา
“เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน มันไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ในหนึ่งหรือสองประโยค...” จี้เส้าฮงพูดอย่างครุ่นคิด
จี้เฟิงยิ้มและกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ค่อยๆพูดก็ได้ วันนี้มีเวลาอีกมาก!”
จี้เส้าฮงพยักหน้าเล็กน้อย เขาถอนหายใจเบาๆและพูดว่า “อันที่จริง ฉันคงต้องเริ่มจากสถานการณ์ในฮั่วเหอ เมืองที่ฉันอาศัยอยู่ มันเป็นสถานที่ที่ยังไม่มีการพัฒนาอย่างเต็มที่ แต่มีโรงงานขนาดกลางอยู่ที่นั่น”
“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการจัดการที่ไม่ดี โรงงานแห่งนี้จึงประสบปัญหา และแทบจะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าจ้างให้แก่พนักงานได้ และพนักงานที่ได้รับความเดือดร้อนก็แจ้งเรื่องมามากมาย” จี้เส้าฮงกล่าวว่า “หลังจากที่ฉันมาถึงฮั่วเหอ โรงงานแห่งนี้ก็อยู่ในสถานการณ์ที่คับขันแล้ว มีหลายอย่างที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน แต่การเงินของทางภาครัฐไม่สามารถจ่ายให้ได้ และธนาคารก็ไม่อนุมัติเรื่องเงินกู้ให้แก่โรงงานนี้ด้วยเช่นกัน...”
“แล้วคุณทำยังไง?” จี้ช่าวเหลยถาม
“ในสถานการณ์เช่นนี้ ทางเทศมณฑล สำนักงานเมืองของเราจึงวางแผนที่จะออกไปดึงดูดการลงทุนจากทางอื่นมา บางทีเราอาจแก้ไขปัญหานี้ได้ แม้ว่าจะต้องมีคนงานจำนวนมากถูกเลิกจ้าง แต่ก็ดีกว่ายืดเยื้อไปทั้งแบบนี้!”
จี้เส้าฮงกล่าวว่า “แต่เดิมเราวางแผนกันไว้แบบนี้ และฉันก็ทำงานหนักในทิศทางนี้มาโดยตลอด แต่ตอนนี้สิ่งต่างๆก็เปลี่ยนไป จู่ๆรองเลขาธิการเจียง แห่งคณะกรรมการพรรคประจำเทศมณฑลได้มีส่วนร่วมกับบริษัทหวงกง โรงงานแห่งใหม่ที่จะมาสร้างในเมืองฮั่วเหอ..”
“บริษัทหวงกง? ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อเสียงในหนานเยว่? หนึ่งในบริษัทลูกของหรงเผิงกรุ๊ป?” จี้เฟิงขมวดคิ้วทันที
ทันทีที่จี้เส้าฮงพูดถึงบริษัทหวงกง ข้อมูลของบริษัทนี้ก็แวบเข้ามาในหัวของจี้เฟิงทันที
บริษัทหวงกงนี้เป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของหรงเผิงกรุ๊ป สินทรัพย์รวมของบริษัทนี้เป็นพันล้านหยวนและมีมูลค่าตลาดเกือบ สองหมื่นล้าน
ธุรกิจหลักของบริษัทคือการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนทีวีที่มีชื่อเสียงในหนานเยว่ มีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ภายในประเทศหลายบริษัท และแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ในประเทศหลายแห่ง
นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกับแบรนด์โทรศัพท์มือถือที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ แต่ความสัมพันธ์ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมาก แต่แค่นั้นก็ทำให้บริษัทหวงกงแห่งนี้แข็งแกร่งมากพอแล้ว
ตามข้อมูลที่จี้ช่าวเหลยให้เขามา อุตสาหกรรมหลักของหรงเผิงกรุ๊ปมีอยู่ 5 อุตสาหกรรมได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เภสัชกรรม อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลัก! นี่คือสิ่งที่ทำให้จี้เฟิงเป็นกังวล
บริษัทดังกล่าวเป็นยักษ์ใหญ่ในมณฑลอย่างแน่นอน
แล้วบริษัทระดับหวงกงมาทำอะไรในเมืองที่ยังไม่ค่อยมีความเจริญมากนักอย่างเมืองฮั่วเหอ?
ทันใดนั้นหัวใจของจี้เฟิงก็เต้นไม่เป็นจังหวะ...
ในที่สุดหรงเผิงกรุ๊ปก็เริ่มลงมือโจมตีแล้วสินะ โดยเริ่มจากเมืองที่ห่างไกลของตระกูลจี้ก่อน!
นอกจากนี้เป้าหมายหลักในครั้งนี้ของหรงเผิงกรุ๊ปคงหนีไม่พ้นจี้เส้าฮง!
“เสี่ยวเฟิง คุณรู้จักบริษัทหวงกงนี้ด้วยเหรอ?” จี้เส้าฮงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความประหลาดใจ
ในความคิดของเขา แม้ว่าบริษัทหวงกงจะมีชื่อเสียง แต่ก็เป็นเพียงผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับบริษัท ฟอกซ์คอนน์ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร บริษัทฟอกซ์คอนน์จะมีชื่อเสียงมากกว่าและเป็นที่รู้จักมากกว่า อีกทั้งบริษัทหวงกงยังเป็นบริษัทที่อยู่ทางตอนใต้ของมณฑลหนานเยว่เท่านั้น จี้เฟิงที่เป็นเพียงนักศึกษาคนหนึ่งทำไมถึงได้รู้ละเอียดขนาดนี้?
เขารู้กระทั่งว่าบริษัทหวงกงเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของหรงเผิงกรุ๊ป!
จี้เฟิงพยักหน้า “ฉันแค่เคยได้ยินมาบ้าง แต่ฉันไม่เคยรู้จักกับคนในบริษัทหวงกงเป็นการส่วนตัว”
“เส้าฮง เล่าต่อสิ อธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน เราถึงจะหาวิธีช่วยคุณได้” จี้ช่าวเหลยกล่าว
จี้เส้าฮงพยักหน้า “ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา บริษัทหวงกงเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และบริษัทขนาดกลางในฮั่วเหอก็เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เช่นเดียวกัน หากบริษัทหวงกงไปสร้างโรงงานที่นั่น มันก็เท่ากับเป็นการทำลายล้างบริษัทขนาดกลางเจ้าถิ่นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!”
....จบบทที่ 965 ~