บทที่ 119 ปะทะอัศวินขนนก (อ่านฟรี)
บทที่ 119 ปะทะอัศวินขนนก
ห้องบัลลังก์เป็นบริเวณที่เข้าถึงยากที่สุดในโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ มันใหญ่มาก โคมไฟระย้าทำด้วยทองคำห้อยลงมาจากเพดาน รูปภาพของโครนัสเทพเจ้าแห่งกาลเวลาถูกวาดลงบนภาพราวกับจะสื่อถึงบางสิ่งที่ "อัศจรรย์"
พรมสีแดงที่ปูจากทางเข้าไปยังบันไดที่นำไปสู่บัลลังก์
มันทำจากผ้าแข็งสีเข้มบางชนิดและเป็นสิ่งประดับตกแต่งเพียงชิ้นเดียวในสถานที่แห่งนี้ที่ไม่ได้ทำด้วยทองคำ
รอบๆ มีการ์กอยล์สองตัวยืนอยู่คนล่ะด้าน
และ... อัศวินที่แต่งตัวโอ่อ่านั่งอยู่บนนั้น มีหมวกคลุมหน้า มีขนนกสีแดงยื่นออกมาจากหมวก ดาบของเขาถูกแทงเข้าที่จุดหนึ่งบนพื้นซึ่งห่างจากเขาเพียงสามก้าว
เมื่อเด็กหนุ่มสามคนปรากฏตัวขึ้นในห้องบัลลังก์นี้ และชายคนนั้นลืมตาขึ้นจ้องมองไปที่พวกเขาทันที
รอยตรวจสอบเขา
『ติ้ง! คุณล้มเหลวในการตรวจสอบเขา ไม่สามารถใช้ทักษะการตรวจสอบข้อมูลกับเขาได้ เพราะเขาได้รับการปกป้องจากไอเทมรูนที่ลบล้างผลกระทบดังกล่าว』
อาวุธของพวกเขาถูกชักออกมา และนั่นทำให้เลือดของอัศวินขนนกแดงเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น
"พวกเขาต้องการท้าทายเรา!จัดการพวกเขาส่ะ!" อัศวินไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาอธิบายว่าทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นั่นและสั่งให้คนรับใช้โจมตีพวกเขาทันที
แม้ว่าพวกมันจะทำมาจากหิน แต่พวกมันก็มีจิตวิญญาณและจิตสำนึกและภักดีต่อเจ้านายของพวกมันอย่างสุดซึ้ง
"หวือ!"
การ์กอยล์ทางด้านซ้ายบินออกไปทางเดไลลาห์ด้วยความเร็วของลูกธนู
"บึ้ม"
เธอกระโดดถอยหลังในขณะที่กำปั้นของเขากระแทกลงบนจุดที่เธอเพิ่งจากไป แรงกระแทกทำให้เกิดรอยแตกร้าวของพื้นหินใต้กำปั้นของเขา และจากตรงนั้นรอยแตกที่เหมือนใยแมงมุมก็แผ่ขยายออกไปจนถึงเท้าของเดไลลาห์
เห็นอย่างนั้นเธอก็กลืนน้ำลายอย่างประหม่า “ถ้านั่นโดนข้า ข้าคงแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนแก้ว ข้าจะปล่อยให้หมัดนั้นสัมผัสข้าไม่ได้แน่ กระดูกข้าคงแตกแน่ๆถ้าโดนมัน และ… การรักษากระดูกที่หักมีค่าใช้จ่ายมากกว่าผิวหนัง 100 เท่า”
การ์กอยล์อีกตัวกระโดดลงมาจากแท่นยกสูงเพื่อร่อนลงสู่พื้น จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาจูเลียนที่ดูเหมือนอายุ 14 ปีอย่างรวดเร็ว
จูเลียนหยิบม้วนยันต์เวทย์ออกมาและชี้ไปที่สัตว์ประหลาด “อย่าเข้ามาใกล้ข้านะ ไม่งั้นตาย!”
คำเตือนของเขาจะเข้าหูพวกมันหรือไม่?
แน่นอนว่า ไม่
"ก๊า!" แถมเหมือนมันจะทำให้การ์กอยล์โกรธจนพุ่งเข้าใส่เขาทันทีด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามในขณะที่มันกำลังเชื่อมช่องว่างระหว่างพวกเขา จูเลียนก็เปิดใช้งานยันต์เวทย์ของเขาทันที ทำให้ลูกศรหลายสิบลูกปรากฏขึ้นในอากาศและโจมตีสัตว์ประหลาด ซึ่งคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งอย่างมากจนไม่หลบมันแม้สักลูกเดียว แต่มันกลับกลายเป็นอ่อนแอมากเสียจนกระเด็นออกไปหลายสิบเมตรโดยลูกธนูอาบยาพิษเหล่านั้น
มันชนเข้ากับกำแพงฝั่งตรงข้ามอย่างจัง
จูเลียนหัวเราะเยาะ "ข้าเตือนเจ้าแล้ว!"
แต่เสียงหัวเราะของเขาดูเหมือนจะไปทำให้มันโกรธ
มันกลับยืนขึ้นและกางปีกออก และบินไปหาจูเลียนอีกครั้งด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ เพียงเพื่อที่จะบดขยี้เขาให้สิ้นซากด้วยการโจมตีเดียว
ในขณะเดียวกัน รอยก็ตกตะลึงกับการจ้องมองของอัศวินขนนกสีแดง
『ติ้ง! คุณอยู่ภายใต้ดีบัฟที่ทำให้เคลื่อนที่ไม่ได้ มันจะหายไปในห้าวินาที』
เพราะเขาถูกตึงไว้อยู่กับที เขาจึงไม่สามารถช่วยเหลือสหายของเขาต่อสู้กับการ์กอยล์ได้
ภาพสะท้อนในดวงตาที่เบิกกว้างของเขาคือฉากที่อัศวินขนนกสีแดงดึงดาบขึ้นมาจากพื้น เหมือนกับว่าอาเธอร์ได้รับเอ็กซ์คาลิเบอร์เป็นครั้งแรก
จากนั้นเขาก็ลงบันไดมายืนอยู่บนพื้นระดับเดียวกับรอย
จากนั้นเขาก้มลงต่ำและพุ่งเข้าหารอยราวกับนักวิ่งลมกรด
『ดีบัฟของคุณหมดเวลาแล้ว』
ช่วงเวลาที่อัศวินขนนกแดงมาถึงเขาก็เป็นช่วงเวลาที่เขาสามารถเคลื่อนไหวได้เช่นกัน
หลังจากกลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้ สิ่งแรกที่เขาทำคือแกว่งดาบของเขาเพื่อสกัดกั้นการจู่โจมที่เข้ามา
"แกร้ง!"
การโจมตีของอัศวินขนนกสีแดงถูกปัดป้อง แต่มันก็ทำให้รอยต้องไถลถอยหลังไปเจ็ดก้าว
'เขาแข็งแกร่งกว่าข้า' เมื่อรู้สึกถึงมือที่สั่นเทาของเขาที่ง้ามมือมีเลือดไหลซึมออกมา รอยได้แต่คิดว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนที่ตัวเองสามารถเอาชนะได้ในการดวลเดียวกับเขา
"การรั้งตัวข้าไว้เป็นทางเลือกที่เลวร้ายที่สุด ข้าแนะนำให้เจ้าออกไปให้ไกลที่สุด ไม่อย่างนั้น... หัวเจ้าจะแตะพื้นก่อนที่เจ้าจะรู้ตัวซ่ะอีก"
ทันทีที่คำขู่เหล่านี้ออกจากปากของอัศวินขนนกสีแดง เพลงที่สามของนินัมก็ดังก้องไปทั่วห้องบัลลังก์
นัยน์ตาของอัศวินหรี่ลงจนมีขนาดเท่าเข็ม เมื่อเขาตระหนักได้ในทันทีว่า - รอยคือคนที่เขาตามหา!
"หวือ!"
ส่วนรังสีดาบสีดำที่ราวกับจะกลืนกินพุ่งออกมาจากดาบของรอย และบินปากผ่านอากาศจู่โจมมาที่เขา
[การป้องกันแห่งผู้พิทักษ์!]
ดาบของอัศวินขนนกแดงปล่อยรังสีที่มองไม่เห็น ซึ่งเฉือนรังสีดาบสีดำของท่วงทำนองแห่งนินัมออกเป็นสามส่วน
ทันใดนั้นเพลงก็หยุดลงทันที
มันอยู่ในลักษณะที่อนาถที่สุด
ความหวังของรอยพังทลายลง เมื่อแม้แต่กระบวนท่าไม้ตายของเขาก็ยังถูกอัศวินสวมเกราะบดขยี้อย่างไม่ตั้งใจด้วยซ้ำ
'ข้ายังมีไพ่ตายใบสุดท้ายเหลืออยู่'
แต่... ตอนนี้เขายังสามารถต่อสู้ได้อยู่
“ถ้าเจ้าทำได้แค่นี้ ข้าคงผิดหวังอย่างมาก”
อัศวินมองลงมาที่รอยด้วยสายตาเหยียดหยาม
เงาของหมวกเหล็กของเขาทาบทับพวกรอย ทำให้พวกเขาดูมืดมนและดูเล็กกระจ้อยลงไปเลย
ดูเหมือนว่า…เขาจะทำตามที่เขาพูดจริงๆ!
"งั้นลองดูนี้หน่อยเป็นไง" หลังจากพูดจบ รอยก็เปิดใช้งานฟังก์ชั่นที่สองของมือปีศาจ คลื่นของมานาพุ่งออกมาจากมัน หมุนเป็นเกลียวเหนือฝ่ามือขวาของรอย แล้วค่อยๆ ควบแน่นเป็นรูปลูกบอลสีฟ้าขนาดเท่าลูกแตงโม ในเวลาเดียวกันรอยก็พูดขึ้นว่า "นี่เป็นท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของข้าเอาไปกินซ่ะ!"
เขายิงพวกมันไปที่อัศวินทันที
รอยเคยเห็นหลายครั้งว่าถุงมือหัตถ์ปีศาจสร้างระเบิดมานาได้อย่างไร และเนื่องจากเขามีความสามารถในการควบคุมมานาราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะของเขา เขาจึงสามารถเลียนแบบมันได้ราวกับก็อบปี้และสร้างระเบิดมานาได้ด้วยตัวเอง
"ชู่ว!" ลูกบอลสีน้ำเงินสองลูกลอยไปกลางอากาศในขณะที่หมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็วนั้น และเห็นอัศวินยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับกำลังวางแผนจะประจันหน้ากับพวกมันโดยไม่หลบหนีแม้แต่น้อย!