บทที่ 108: ลูกถูกรังแก
เมื่อหูเจียวเจียวกลับถึงบ้าน เธอก็พบว่าเด็กน้อยทั้ง 5 กลับมาแล้ว
ตอนนี้ท่อนฟืนทั้งหมดถูกกองไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย นี่คือน้ำพักน้ำแรงของเด็กตระกูลหลง 5 คนในวันนี้
เมื่อเจ้าตัวเล็กทั้งหลายเห็นผู้เป็นแม่ พวกเขาก็เขย่งเท้าเข้าไปในบ้าน ปัจจุบันกลางลานบ้านมีอ่างหินขนาดเท่ากับอ่างล้างหน้าวางอยู่ ซึ่งมีน้ำถูกเติมไว้จนเต็มและมีปลาตัวเล็ก ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือ 3 ตัวแหวกว่ายไปมาอยู่ในนั้น
“เด็ก ๆ กลับมาแล้วหรือ วันนี้พวกเจ้าจับปลามาได้ด้วย เก่งมาก!”
พอแม่จิ้งจอกรู้ว่าลูกน้อยกลับมาแล้วจึงปรับอารมณ์ของตัวเอง เธอเก็บความโศกเศร้าทั้งหมดไว้ในใจ และพยายามแสดงด้านที่ดีที่สุดให้ลูกเห็น
เธอไม่ต้องการให้อารมณ์ด้านลบของตัวเองส่งผลกระทบต่อพวกเขา
เมื่อก่อนสมัยที่หญิงสาวอาศัยอยู่กับครอบครัว พ่อแม่ของเธอทะเลาะกันบ่อยครั้ง พวกเขาไม่สนใจเธอเลย และมักจะทะเลาะกันต่อหน้าเธออยู่เสมอ นอกจากการโต้เถียงเสียงดังแล้ว ยังมีการขว้างปาสิ่งของอีก นั่นทำให้เด็กคนหนึ่งจำฝังใจ พอโตขึ้นเธอจึงมีอาการหวาดกลัวคนที่ส่งเสียงดัง
ในตอนที่หูเจียวเจียวทะลุมิติมาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก คนที่เธอเจอคนแรกก็คือหู่จิง ด้วยเหตุนี้เธอจึงตกใจหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก
ทางด้านของเด็กตระกูลหลงทั้ง 5 ทันทีที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ พวกเขาก็ยืนตัวแข็งทื่อ
ดูจากท่าทางของเด็กพวกนี้ หูเจียวเจียวรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ทำไมวันนี้เจ้ามังกรตัวเล็กกับหลงหลิงเอ๋อถึงเงียบมาก?
ทุกทีเสี่ยวเหยามักจะพุ่งเข้ามาหาเธอก่อนเสมอ
ถัดมา หญิงสาวเดินเข้าไปหาเหล่าเด็กน้อยอย่างสงสัย ก่อนจะเห็นเด็กคนอื่นยกเว้นหลงเซียวซ่อนตัวอยู่หลังประตูโดยที่ตัวของทุกคนเปียก มีน้ำหยดลงมาจากผมและลำตัว ทำให้มีคราบน้ำหยดอยู่ที่พื้น
เธอตกใจจึงรีบวิ่งเข้าไปหาเด็ก ๆ
“เกิดอะไรขึ้น? สภาพของพวกเจ้ากลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”
หูเจียวเจียวรู้สึกกังวลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบหยิบผ้าขนหนูออกมายื่นให้กับเด็กน้อยแต่ละคน แล้วไปช่วยเช็ดผมเช็ดใบหน้าของหลงหลิงเอ๋อ
เด็กสาวตัวเล็กคนนี้ร่างกายอ่อนแอ ประกอบกับตอนนี้อากาศเริ่มเย็นลง ดังนั้นเธอจึงไม่อยากให้นางเป็นหวัด
ส่วนหลงอวี้กับหลงจงหยิบผ้าขนหนูมาแล้วก้มหน้าลงไม่พูดอะไรเลย ซึ่งการที่ 2 คนนี้นิ่งเงียบเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก
ในขณะที่ร่างของหลงเหยาถูกปกคลุมไปด้วยโคลนสีเหลืองซึ่งดูเหมือนปลาไหลทอง มีเพียงลูกตากลมสีแดง 2 ดวงเท่านั้นที่โผล่ออกมา
ตามปกติแล้วมังกรน้อยตัวนี้เป็นคนที่ซุกซนมากมาตลอด แต่ตอนนี้เขากลับหดหัวเหมือนลูกสุนัขที่ทำผิดอะไรบางอย่างไว้ พร้อมกับคอยสังเกตใบหน้าของผู้เป็นแม่อย่างระมัดระวัง
อีกทั้งเขามีท่าทีเตรียมพร้อมที่จะวิ่งหนีทันทีหากแม่โกรธ
“ท่านแม่ เรารู้ว่าเราผิด เราจะไม่ไปจับปลาที่แม่น้ำอีกแล้ว และเราจะไม่ทำให้เสื้อผ้าเปียก ท่านอย่าโกรธเราเลยนะ...” หลงหลิงเอ๋อประสานมือเข้าด้วยกันแน่น เสียงของนางเว้าวอนจนคนฟังใจอ่อนยวบ
นี่เป็นชุดที่แม่ของนางทำเอง นางต้องโกรธมากแน่ ๆ ที่พวกตนทำสกปรกแบบนี้
ทันทีที่เด็กสาวเปิดปาก หลงจงก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า
“มันเป็นความผิดของข้า ข้าทำเสื้อผ้าเปียกด้วย ถ้าท่านโกรธก็ตีข้าคนเดียว อย่าโทษหลิงเอ๋อกับน้องห้า!”
จังหวะนั้น หลงอวี้ที่ยืนนิ่งเงียบมาตลอดก้าวออกมาพร้อมกับยื่นฝ่ามือสีดำสกปรกของเขาไปตรงหน้าแม่จิ้งจอก “ท่านตีข้าเถอะ อย่าตีพวกเขา”
มันเป็นความผิดของพวกเขาที่ทำชุดสกปรก ดังนั้นในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ เขาจะแบกรับความผิดทั้งหมดนี้เอง
หูเจียวเจียวชำเลืองมองเด็กน้อยทั้งหลายก่อนจะยกมือขึ้น
หลงอวี้ที่เห็นเช่นนั้นหลับตาแน่น แต่ความเจ็บปวดที่ตนจินตนาการไว้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่คิด เมื่อเขาลืมตาขึ้นมอง เขาก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังเช็ดมือของเขาอยู่ และการเคลื่อนไหวของนางก็เป็นไปอย่างอ่อนโยน
เด็กหนุ่มเฝ้าดูแม่จิ้งจอกเช็ดมือตนให้สะอาด แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของคนเป็นแม่ไม่ได้แสดงถึงความโกรธ มันกลับเต็มไปด้วยความกังวล “เด็กโง่ ก็แค่เสื้อผ้าเปียกเองไม่ใช่หรือ?”
“แค่แม่เอามันไปซักแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้พวกเจ้าก็เสร็จแล้ว ไม่เห็นมีอะไรต้องโกรธเลย ทำไมพวกเจ้าถึงทำท่าทางแบบนั้นกัน มีใครมารังแกพวกเจ้าหรือเปล่า?”
ท่าทางหวาดกลัวของเด็ก ๆ ทำให้จิ้งจอกสาวรู้สึกเป็นทุกข์
สิ่งที่เธอกังวลที่สุดคือลูกจะถูกคนอื่นรังแก
“ไม่ ไม่มีใครรังแกเรา เราแค่บังเอิญตกลงไปในแม่น้ำ” หลงหลิงเอ๋อส่ายหัวรัว ๆ แต่ดวงตาของนางกลับหลุกหลิกไม่เป็นธรรมชาติ
เด็ก ๆ มักคิดว่าเวลาโกหกจะปกปิดได้ดี แต่จริง ๆ แล้วมันเต็มไปด้วยช่องโหว่ในสายตาผู้ใหญ่
หูเจียวเจียวสามารถบอกได้ว่าหลงหลิงเอ๋อทำตัวผิดปกติจึงยกมือหยิกแก้มนุ่มของนางเบา ๆ เมื่อเทียบกับร่างกายผอมแห้งแคระแกนเหมือนเด็กขาดสารอาหารก่อนหน้านี้ สาวน้อยเริ่มมีเนื้อหนังเพิ่มขึ้นมาแล้ว
ต่อมา แม่จิ้งจอกย่อตัวลงพูดกับลูกสาวอย่างจริงจัง
“หลิงเอ๋อ แม่ไม่โกรธถ้าเสื้อผ้าของเจ้าสกปรก แต่ถ้าเจ้าโกหก แม่จะโกรธ”
“ข้า...” หลงหลิงเอ๋อรู้สึกละอายจนต้องก้มหน้างุด
จากนั้นหูเจียวเจียวมองเด็กคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้าง “พวกเจ้าก็เหมือนกัน ในสายตาของแม่ พวกเจ้าสำคัญกว่าเสื้อผ้ามาก แม่จะไม่ทุบตีพวกเจ้าเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ แต่...”
“ถ้าพวกเจ้าออกไปข้างนอกแล้วได้รับบาดเจ็บหรือถูกรังแกกลับมา แม่จะต้องเป็นห่วงมาก ดังนั้นบอกความจริงกับแม่มาว่ามีคนรังแกพวกเจ้าหรือเปล่า?”
เมื่อหลงหลิงเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางก็เงยหน้าขึ้นส่งสายตาถามพวกพี่ชาย
หลงอวี้กับหลงจงต่างก็หันหน้าหนี พวกเขาไม่ได้คิดที่จะบอกความจริงกับแม่จิ้งจอก
หูเจียวเจียวเห็นว่าลูกดื้อแค่ไหนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับเด็กพวกนี้อย่างไรดี
“การโกหกเป็นเรื่องที่ไม่ดี พวกเจ้าเข้าใจที่แม่พูดหรือไม่?” เธอลดเสียงลงพลางมองดูเด็กทั้ง 5 คนด้วยสีหน้าที่จริงจัง
ใบหน้าเล็ก ๆ ของหลงหลิงเอ๋อดูลำบากใจเหมือนขนมปังก้อนเล็ก ๆ ที่ถูกบีบ
“ท่านแม่ หลิงเอ๋อรู้ว่าตัวเองผิด และหลิงเอ๋อจะไม่โกหกอีกแล้ว” หลังจากที่เด็กสาวคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็เหมือนกับลูกน้องที่ยืนอยู่ต่อหน้าเจ้านายในขณะที่นางยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง
แล้วรอยยิ้มที่พึงพอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหูเจียวเจียว
นี่แหละคือลูกที่ดี!
เธอสามารถยอมรับคำโกหกสีขาวที่ไม่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของลูกทุกคนโดยที่ไม่ทำให้พวกเขารู้สึกผิด และเธอยังยอมให้อีกฝ่ายมีความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเอง
แต่เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกรังแกอีก…เรื่องนี้เธอปล่อยผ่านไปไม่ได้!
“หลิงเอ๋อเป็นเด็กดี ถ้าเจ้ารู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง เจ้าก็สามารถแก้ไขได้ บอกแม่มาว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น?” หูเจียวเจียวลูบหัวสาวน้อยเบา ๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“เอ่อ...” หลงหลิงเอ๋ออ้ำอึ้งลังเลอยู่นาน แต่ไม่ได้บอกว่าทำไม
“เป็นลู่หลี ตอนที่เราจับปลาในแม่น้ำ เขาพาเด็กมาด้วยกลุ่มหนึ่งแล้วผลักเราตกลงไปในแม่น้ำ” ในตอนนั้นเอง เสียงที่ชัดเจนของหลงเซียวโพล่งออกมา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงไปที่แม่น้ำและเฝ้าอยู่บนฝั่งตลอดเวลา แต่เขาก็ได้ยินอย่างชัดเจนว่าในวันนี้เกิดอะไรขึ้น
เด็กหนุ่มเกลียดตัวเองที่ตาบอด ในตอนที่พี่น้องของตนถูกรังแก เขาทำได้เพียงยืนเฉย ๆ ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย
โชคดีที่น้ำในแม่น้ำไม่ลึก และเด็กคนอื่นต่างก็ว่ายน้ำเก่ง ดังนั้นจึงไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้น มิฉะนั้นเขาจะต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิต
“ข้าขอโทษ ข้าปกป้องพวกเขาได้ไม่ดี และเป็นข้าเองที่โกหกท่าน” หลงอวี้ก้มหน้ายอมรับผิด
หลงจงกัดฟันพร้อมกำหมัดแน่น ใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นกำลังขุ่นเคือง “ให้ตายเถอะ เจ้าลู่หลีนั่น เป็นเพราะว่าพวกมันมีคนมากกว่าแค่นั้นแหละ รอข้าโตขึ้นก่อนเถอะ ข้าจะอัดหน้าพวกมันให้ฟันร่วงเลย คอยดู!”
หูเจียวเจียวมองท่าทางที่ไม่เป็นมิตรของลูกชายคนที่ 3 และรู้สึกว่าเมื่อเขาโตขึ้น มันอาจจะไม่จบอยู่ที่แค่การทะเลาะวิวาทแบบเด็ก ๆ
หลังจากที่หญิงสาวนิ่งคิดไปสักพัก เธอก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมาในหัว จากนั้นเธอก็หันไปถามเด็กทุกคนด้วยรอยยิ้ม
“พวกเจ้าอยากจะแก้แค้นหรือไม่? แม่จะมอบของดี ๆ ให้พวกเจ้า!”