ตอนที่ 825 : สำหรับเจียงเฉินเขานั้นสำคัญขนาดไหน?
ตอนที่ 825 : สำหรับเจียงเฉินเขานั้นสำคัญขนาดไหน?
อธิการบดีหวังไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าทุกอย่างจะราบรื่นขนาดนี้!
เดิมทีเมื่ออีกฝ่ายส่งหลิวซูหยุนมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าเขาเป็นถึงคนที่จบปริญญาเอกของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนดวงตาของอธิการบดีหวังก็มืดมนไปแล้ว!
เขารู้สึกว่าครั้งนี้ เจียงเฉินจะไม่สามารถจัดการกับมันได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
แต่เขากลับไม่เคยคิดเลยว่า!
เจียงเฉิน ที่ซ้ำชั้นมา 7 ปีจะสามารถต่อสู้กลับได้?
การแลกเปลี่ยนทางวิชาการกับเจียงเฉินที่เป็นขยะในมหาลัยกลับได้รับรางวัลชนะเลิศ?
ใบหน้าของหลิวซูเหรินมืดมน
แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่ฉลาดมากนักแต่หลิวซูหยุนน้องชายของเขานั้นชัดเจนมากว่าความสามารถทางวิชาการและความสำเร็จของเขานั้นเป็นของจริง
นี่คือคนบ้าที่หมกมุ่นอยู่กับวิทยาศาสตร์และไม่สนใจสิ่งอื่น!
ถ้าหลิวซูหยุนยอมจำนนต่อเจียงเฉินแบบนี้แล้วคนอื่นๆในสถาบันก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงเฉินอีกต่อไป
"ก็ได้ โอเค~~"
หลิวซูเหรินรู้สึกท้อแท้ "ลืมมันไปเถอะ เรายอมรับความพ่ายแพ้ นายชนะการแลกเปลี่ยนทางวิชาการครั้งนี้ เราไม่เก่งเท่ามหาวิทยาลัยหมินเซิงของนายในสาขาวิชาฟิสิกส์!"
ว้าว~~
อาจารย์ของมหาวิทยาลัยหมินเซิงต่างก็ตกตะลึง
การให้เกียรติ!
สิ่งนี้คือสิ่งที่มหาวิทยาลัยหมินเซิงขาดมากที่สุด!
คณะฟิสิกส์ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนสามารถก้มหัวและยอมรับความพ่ายแพ้และพูดอย่างจริงใจว่าพวกเขาไม่ดีเท่ามหาวิทยาลัยหมินเซิง?
ตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัย มันไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ยอดเยี่ยมเท่านี้มาก่อน!
เจียงเฉินยอดเยี่ยมมาก!
พวกเขาพุ่งเข้าหาเจียงเฉิน ตั้งใจจะโยนเจียงเฉินขึ้นไปบนฟ้า~~
แต่ใครจะไปรู้~"
จู่ๆเจียงเฉินก็มองไปที่อธิการบดีหวังและพูดอย่างเฉยเมย "ผมนำชัยชนะมาให้มหาลัยแล้ว คุณก็ต้องรักษาสัญญาและอนุญาตให้ผมอยู่ในมหาลัยและเรียนซ้ำชั้นต่อไปได้! และยังต้องให้ผมเปิดร้านค้าเล็กๆด้วย!"
พรูด~~
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้มลงกับพื้น!
อธิการบดีหวังตกตะลึง
อาจารย์มหาวิทยาลัยหมินเซิง: (╯‵ ′)╯︵┻┻!
หลิวซูเหรินและผู้คนจากสถาบัน "..."
นี่~~
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินคำขอนี้!
เขาบ้าไปแล้ว!
นำชัยชนะทางวิชาการสูงสุดกลับมาให้มหาลัยแต่ผลลัพธ์คือ~~
การต้องการปล่อยให้เขาซั้นต่อไป?
เปิดร้านค้าเล็กๆในหอพัก?
ความทะเยอทะยานนี้ไม่ต่ำเกินไปหน่อยหรอ?
ว่ากันว่าผู้ที่มีส่วนร่วมในการวิจัยเทคโนโลยีเชิงวิชาการส่วนใหญ่แล้วจะมีบุคลิกที่แปลกประหลาด แต่เจียงเฉินคนนี้แปลกเกินไปหน่อยไหม?
ไม่อยากโดดเด่น?
การโด่งดังไปทั่วโลก มันไม่หอมหวานงั้นหรอ?
การได้รับรางวัลโนเบลไม่ดีหรอ?
เห็นได้ชัดว่านายมีความสามารถทางวิชาการและเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม ทำไมนายถึงต้องการเปิดร้านค้าเล็กๆในหอพักเท่านั้น?
แต่การตกตะลึงของอธิการบดี อาจารย์และผู้นำทางวิชาการเหล่านี้ยังไม่หมด
เจียงเฉินดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้และเขาก็พูดอย่างเคร่งขรึม "ยังไงก็ตาม คุณสัญญากับผมแล้วว่าจะให้ผมเปิดห้องเรียนสอนกวดวิชาของมหาลัยฟรีและอนุญาตให้ผมจัดชั้นเรียนซ่อมเสริม! โดยไม่มีค่าเช่าห้องเรียน! แล้วคุณยังต้องคืนเงินค่าเช่า 50,000 หยวนให้ผม”
โถ่~~
ทุกคนล้มลง~~
ลู่หลิงซีไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
นายเก่งมาก นายสามารถพูดถึงกลศาสตร์ควอนตัมได้ว่าจนคนจากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนต้องคุกเข่าให้นายแต่ว่านายกลับ~~
แค่ต้องการสอนกวดวิชางั้นหรอ เพื่อหาเงิน?
เงิน เงิน เงินเท่านั้นที่สำคัญกับนายขนาดนั้นเลยเหรอ?
อธิการบดีและอาจารย์ สำหรับพวกเขาเกียรติยศและสถานะทางวิชาการสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดและแน่นอนว่ามันต้องสำคัญกว่าเงิน
แต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า เจียงเฉินผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการผู้ยิ่งใหญ่จะสนใจแต่เงินเท่านั้น!
อธิการบดีหวังเช็ดเหงื่อเย็นๆแล้วพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าว "โอเค โอเค ไม่มีปัญหา! ทุกอย่างไม่มีปัญหา! นายสามารถเปิดร้านค้าเล็กๆในหอพักหลังจากปิดไฟเพื่อขายขนมได้แล้วก็นายสามารถเปิดห้องเรียนทั้งหมดในมหาลัยได้ถ้าห้องนั้นไม่มีการใช้ในการเรียนการสอนอยู่ นายจะใช้พวกมันเมื่อไหร่ก็ได้!”
จากนั้นเจียงเฉินก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "ก็นับว่าคุ้มค่าอยู่!"
จู่ๆหลิวซูเหรินก็มีความคิดที่กล้าหาญ
เขาเดินไปจับมือของเจียงเฉินอย่างกระตือรือร้น "ฮ่าฮ่า เจียงเฉินคุณเก่งด้านวิชาการมาก ทำไมคุณต้องย่อตัวลงไปนั่ง ในมหาวิทยาลัยระดับสามอย่างมหาวิทยาลัยหมินเซิงด้วย? คณะฟิสิกส์ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนของเราดีกว่าไหม ผมจะให้เงินเดือนคุณปีละ 1 ล้าน! บวกกับทุนวิจัยทางวิทยาศาสตร์อีก 10 ล้าน! คุณสามารถเปิดชั้นเรียนซ่อมเสริมอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ! ผมไม่สน! ตราบเท่าที่คุณ ช่วยสถาบันของเราทุกปีและเขียนเอกสารงานวิจัย 5 ชั้นไม่สิ 3 ชิ้นก็เพียงพอแล้ว เป็นยังไงบ้างล่ะ ละทิ้งความมืดและหันเข้าหาแสงสว่างแล้วเข้าร่วมกับเราดีกว่าไหม”
หลิวซูหยุนที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าอย่างแรงและพูดว่า "ใช่ ใช่ ใช่ อาจารย์เจียง ทำไมคุณไม่มาที่คณะฟิสิกส์ของเราล่ะ คุณเป็นเทพแห่งวิชาการที่ทรงพลังและคุณก็เก่งกว่าใครในโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์อันดับต้นๆที่มหาวิทยาลัยหมินเซิงของเรามีพรสวรรค์ทุกคน ผมจะพาพวกเขามาเรียนกวดวิชากับคุณเอง!”
อธิการบดีวังตกตะลึง
ลู่หลิงซีตกตะลึง~~
ฉันเคยเห็นคนไร้ยางอาย แต่ฉันไม่เคยเห็นคนหน้าด้านแบบนี้มาก่อน!
อธิการบดีหวังตอบสนองทันทีและพูดด้วยความโกรธ "หลิวซูเหริน! ทำไมนายถึงไร้ยางอายแบบนี้? นายแพ้ฉันไม่พอ แต่นายยังกลับไม่ยอมก้มหัว แต่ยังคิดจะมาแย่งเจียงเฉินไปจากมหาวิทยาลัยหมินเซิงของฉันอีกอย่างงั้นหรอ?! นักศึกษาที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีตลอด 7 ปี! เขาเป็นดาวแห่งวันพรุ่งนี้ของเรา! แต่นายกลับกล้าที่จะปล้นคนอย่างเปิดเผยอย่างนี้งั้นหรอ?!”
อธิการบดีหวังคนนี้ก็ไร้ยางอายไม่แพ้กัน เห็นได้ชัดว่าเจียงเฉินถูกมหาวิทยาลัยหมินเซิงกักขังไว้เป็นเวลา 7 ปี แต่แล้วเขากลับบอกว่าเจียงเฉินเป็นผู้ที่พวกเขาพยายามปลูกฝังอย่างหนักเป็นเวลา 7 ปีในมหาวิทยาลัยหมินเซิง
ลู่หลิงซีตัวสั่น!
ตามที่คาดไว้ สมแล้วที่เขาเป็นอธิการบดีไร้ยางอายเหมือนกันจริงๆ
ก่อนหน้านี้ เขายังพูดอย่างชัดเจนอยู่เลยว่าจะขอให้กัวหมิงต้าหาทางเกลี้ยกล่อมเจียงเฉินให้ลาออกไป ไม่ให้เขาอยู่ในมหาวิทยาลัยอีกเพื่อทำให้มหาวิทยาลัยอับอาย
หลิวซูเหรินพูดออกมา "หวังหมิงจูอย่าเอาหน้าหนาๆของนายมาโกหกทุกคนสิ! 7 ปีของการปลูกฝังคืออะไร? ก่อนหน้านี้ตอนที่นายแนะนำเขานายก็ไม่ได้พูดถึงมันเลยไม่ใช่หรอ? เจียงเฉินคนนี้คือ คนที่ซ้ำชั้นในมหาวิทยาลัยหมินเซิงของนายเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน! คนที่ยอดเยี่ยมแบบนี้จะเป็นขยะอยู่แบบนี้ได้ยังไง! เห็นได้ชัดว่ามหาลัยของนายไม่ต้องการให้เขาออกไป! นายคิดจะขัดขวางการเติบโตของเขาหรือยังไง?! คิดจะขัดความความก้าวหน้าของประเทศอย่างนั้นหรอ?!”
อธิการบดีหวัง (ชื่อเต็ม หวังหมิงจู) รู้สึกสับสนทันที~~
จะทำยังไงดี?
บรรยากาศที่น่าอายแพร่กระจายไปทั่วในอากาศ~~
ลำไส้ของหวังหมิงจูเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความเสียใจ!
ให้ตายเถอะ!
ถ้าฉันรู้ ฉันคงไม่พูดว่าเจียงเฉินเป็นนักศึกษาซ้ำชั้น!
กลศาสตร์ควอนตัมยังเก่งกว่ายอดฝีมือจากคณะฟิสิกส์ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน!
พรสวรรค์นี้หากได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีและยังถูกทำให้ซ้ำชั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเวลา 7 ปี แน่นอนว่า~~
ไม่ว่าใครก็ต้องไม่พอใจ!
ในเวลานี้เอง อธิการบดีหวังอยากจะดึงอดีตอาจารย์ที่ปรึกษาของเจียงเฉินออกมาและเฆี่ยนศพของเขาเป็นร้อยร้อยครั้ง!
แต่ตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะบ่นอะไรแล้ว
อธิการบดีหวังสมควรที่จะถูกยกย่องว่ามีใบหน้าหนาราวกับกำแพงเมืองก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและตบหน้า ฮ่าฮ่า "นายรู้อะไรไหม มหาลัยของเรารู้มานานแล้วว่าความสามารถทางวิชาการของเจียงเฉินนั้นดีขนาดไหนและเพื่อที่จะรักษาเขาไว้ เราก็เลยจงใจ ให้เขาสอบตกทุกครั้ง ไม่อย่างนั้น คนที่ยอดเยี่ยมแบบนี้จะติวคณิตศาสตร์ขั้นสูงและฟิสิกส์จนสามารถดึงดูดผู้คนนับล้านให้มาฟังการบรรยายทางออนไลน์ของเขาได้ยังไง คนแบบเขาเนี่ยนะจะสอบไม่ผ่านมาตลอด 7 ปี? ใครจะเชื่อ ฮ่าๆๆ~~ ฉันจงใจกดคะแนนของเขาเองแหละ!"
ด้วยสีหน้าเศร้าใจ เขาตบไหล่ของ เจียงเฉินอย่างจริงจัง "เจียงเฉินฉันขอโทษ มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด แต่เพื่อที่จะรักษาคนที่มีความสามารถที่โดดเด่นระดับโลกอย่างนายไว้ ฉันจึงต้องใช้กลอุบายนี้ จงใจให้นายสอบตกตลอด 7 ปีที่ผ่านมาทำให้นายจบล่าช้าไป แต่! จากนี้ไป นายจะได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหมินเซิงของฉัน ฉันจะให้ปริญญาตรีกับนาย! อ่า ไม่สิมันต้องเป็นระดับบัณฑิตศึกษา! ไม่ ไม่ ฉันคิดว่า เอาล่ะ ฉันจะให้ปริญญาดุษฎีบัณฑิต(ปริญญาเอก)กับนายและจ้างคุนายมาเป็นอาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ของมหาลัยฉัน ไม่ ไม่ ไม่ ต้องเป็นหัวหน้าภาควิชาฟิสิกส์ เป็นรองอธิการบดี เป็นยังไงบ้าง นายพอใจไหม ถ้าไม่ ฉันยังให้นายได้มากกว่านี้!"
อาจารย์ของมหาวิทยาลัยหมินเซิงในปัจจุบันตกตะลึง!
เพื่อรักษาคนมีพรสวรรค์อย่างเจียงเฉินอธิการบดีหวังถึงกับยอมทำทุกอย่างในครั้งเดียว!
นักศึกษาเก่าที่ซ้ำชั้นมา 7 ปี จู่ๆจะก็กลายเป็นคนที่จบปริญญาตรี ปริญญาเอกแล้วกลายมาเป็นอาจารย์ คณะบดี รองอธิการบดี?
ความเร็วติดจรวดขนาดนี้คืออะไร? อธิการบดี คุณละอายใจบ้างไหม?
ลู่หลิงซีที่อยู่ข้างๆ ปากเล็กๆของเธออ้ากว้างด้วยความตกใจ
ความเร็วในการเลื่อนระดับของ เจียงเฉินนั้นน่าตกใจมากแม้แต่เธอก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน!
หลิวซูเหรินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตกตะลึง~~
ครั้งนี้ หวังหมิงจูกำลังรีบและใช้ไพ่ทั้งหมดของเขาในครั้งเดียว?
อธิการบดีหวังก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน
หลิวซูเหรินให้เงินเดือนหนึ่งล้านต่อปีกับเจียงเฉินแถมยังให้ทุนวิจัยสิบล้านในครั้งเดียวและให้เจียงเฉินมีอิสระได้เต็มที่ ตราบเท่าที่เขาสามารถเขียนวิจัยให้พวกเขาได้ 3 งานต่อปี ด้วยการปฏิบัติอย่างใจดีนี้ อธิการบดีหวังกลัวมากว่าเจียงเฉินจะถูกล่อลวง ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งออกมา
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่มหาวิทยาลัยหมินเซิงไม่สามารถเชิดหน้าขึ้นได้และในที่สุดเจียงเฉินก็โผล่ออกมาดังนั้นแล้วเขาจะยอมปล่อยเจียงเฉินไปง่ายๆได้ยังไงกัน?
หลิวซูเหรินพูดด้วยความโกรธ "หวังหมิงจู! นายไร้ยางอายจริงๆ! เจียงเฉินเป็นนักศึกษาปริญญาตรีที่ยังไม่สำเร็จการศึกษาแต่มหาวิทยาลัยหมินเซิงจะมอบใบปริญญาเอกให้เขา? นายจะหน้าด้านเกินไปแล้ว!"
หวังหมิงจูส่ายหัวและพูดด้วยความเย้ยหยันว่า "เจียงเฉินเรียนที่มหาลัยของเรามา 7 ปีแล้ว! ด้วยสติปัญญาของเขา เขาช่างน่าทึ่ง ด้วยความสามารถนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะได้รับใบปริญญาดุษฎีบัณฑิต! เจียงเฉิน ฉันจะออกใบรับรองปริญญาเอกและใบรับรองการศึกษาให้นายทันทีเมื่อฉันกลับไป ฮึ่ม!"
หลิวซูเหรินตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า "นายคิดว่ามันจะจบแค่นี้เหรอ ฮึ่ม! เจียงเฉินมาที่สถาบันของฉันสิ! ฉันจะให้เงินเดือนนายปีละ 3 ล้าน! ทุนวิจัยอีก 22 ล้าน นายสามารถควบคุมมันได้ตามใจชอบเลย!"
อาจารย์หลายคนอ้าปากค้าง~~
ให้ตายเถอะ
น้ำตาซึม!
พวกเรายังไม่ได้อะไรที่ดีแบบนี้เลย!
เจียงเฉินยังเรียนไม่จบ แต่เขากลับได้เงินเดือนมากกว่าเราถึง 5 เท่า!
หวังหมิงจูพูดด้วยความโกรธ "สารเลว นายคิดจะปล้นคนไปจากฉันจริงๆเหรอ"
หลิวซูเหรินเยาะเย้ย "เจียงเฉินคนนี้เป็นนักศึกษาที่ต้องทนทุกข์อยู่ในมหาลัยของนาย! ฉันไม่ยอมให้ของดีๆต้องมาอยู่ในที่แบบนี้หรอก! เจียงเฉินฉันจะให้เงินเดือนนายปีละ 5 ล้าน! มาอยู่และสอนในมหาวิทยาลัยของฉันดีกว่า!"
หวังหมิงจูโกรธ
หลิวซูเหรินตะโกน "10 ล้าน! ฉันจะให้ 10 ล้านต่อปี!"
“บ้าเอ๊ย! ฉันจะให้ 15 ล้าน!”
“เงินเดือนปีละ 20 ล้าน!”
อธิการบดีทั้งสองต่อสู้เหมือนไก่ชน โดยมีปลายนิ้วชี้ไปที่เจียงเฉิน
ลู๋หลิงซี "...."
กัวหมิงต้า "...."
อาจารย์กลุ่มหนึ่ง: หน้ามึนไปหมด!
สำหรับเจียงเฉินเขานั้นสำคัญขนาดไหน?