บทที่ 105: เขาเป็นคู่ของข้า
ภาพตรงหน้าทำให้คำพูดของหูเจียวเจียวถูกกลืนลงท้องไปทันที
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะขยี้ตาแรง ๆ แล้วมองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไป
มันจะมีผู้หญิงอยู่ข้างหลังหลงโม่ได้อย่างไร!
นางเป็นสาวงามผู้บอบบางคล้ายกับหยกรูปดอกไม้ ขนาดเธอเองก็ยังรู้สึกอยากจะทะนุถนอมอีกฝ่ายไว้ในอ้อมแขนเลย
นอกจากนี้ในเผ่ามีภูตหญิงเพียง 10 กว่าคน หูเจียวเจียวอยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้วเธอก็ได้พบกับผู้หญิงทุกคน เธอจึงมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยเห็นหญิงสาวคนนี้มาก่อน นั่นหมายความว่านางจะต้องไม่ใช่ผู้หญิงในเผ่า
ในเวลาเดียวกัน อิงหยวนและภูตคนอื่น ๆ ก็เดินมาทางจิ้งจอกสาว
“อาหยวน!” จากนั้นลู่เมี่ยนเอ๋อก็กระโดดลงจากร่างแปลงของภูต และกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของอินทรีหนุ่ม
ตอนนั้นเองที่หูเจียวเจียวค้นพบว่าหัวหน้าเผ่าไม่ได้เรียกเธอมาที่นี่คนเดียวเท่านั้น แต่ยังเรียกครอบครัวรวมถึงสหายของภูตที่ออกไปทำภารกิจด้วย
“อิงหยวน เกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้ากลับมาเร็วขนาดนี้ แล้วของล่ะ เกลือทะเลอยู่ที่ไหน?” ผู้นำสูงสุดของเผ่ามัวแต่จดจ่ออยู่กับเสบียงและเกลือทะเลมากจนไม่มีเวลาสนใจเรื่องที่มีผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาในกลุ่ม
เมื่อชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง สีหน้าของเขาก็เหยเก เขาเอาแขนโอบรอบเอวภรรยาสาวพร้อมกับตอบเสียงทุ้มว่า “ท่านผู้เฒ่า ข้าขอโทษ ระหว่างทางเราเจอกับเปลวไฟสวรรค์ เราจำเป็นต้องละทิ้งเสบียงทั้งหมดเอาไว้ เราถึงจะหนีรอดมาได้”
“อะไรนะ! เปลวไฟสวรรค์? พวกเจ้าสูญเสียเสบียงไปทั้งหมดเลยหรือ!?”
อิงหยวนพยักหน้า “นอกจากนี้ ถนนทุกสายที่มุ่งไปยังชายหาดก็ถูกขวางกั้นด้วยเปลวไฟสวรรค์ เราได้ค้นหาเส้นทางบริเวณใกล้เคียงแล้ว แต่ก็ไม่มีทางไปถึงที่นั่นได้…”
ทันทีที่อินทรีหนุ่มพูดประโยคเหล่านี้ออกมา ใบหน้าของภูตทุกคนที่ร่วมเดินทางด้วยก็ก้มต่ำลง
เปลวไฟสวรรค์ปิดกั้นทางทุกทางของพวกเขาและเสบียงก็ถูกมันกลืนกินไปหมดแล้ว คนในกลุ่มไม่มีเวลาที่จะไปตามหาเสบียงกลับมา ถึงแม้ว่าพวกภูตชายจะหาเสบียงพบ แต่พวกเขาจะต้องรอกระทั่งฤดูหนาวมาถึงเพื่อให้เปลวไฟสวรรค์ปกคลุมไปด้วยหิมะจนมอดดับไปเสียก่อน พอถึงเวลานั้นทุกคนจึงจะสามารถเดินทางผ่านมันไปได้
นี่คือเหตุผลที่ผลักดันให้กลุ่มภูตที่ออกไปทำภารกิจแลกเปลี่ยนเกลือทะเลไปถึงทางตัน!
หัวหน้าเผ่าที่รับรู้เรื่องราวทั้งหมดรู้สึกวิงเวียนจนเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น
หูเจียวเจียวรีบพยุงชายสูงวัยเอาไว้ เมื่อได้ยินว่ามีเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น หัวใจของเธอก็จมดิ่งลง
“แล้วเราจะทำยังไงดี...เป็นไปได้ยังไง...” ริมฝีปากสีซีดของชายแก่ยังคงสั่นเทาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “หากไม่มีเกลือทะเล เผ่าของเราจะอยู่รอดไปจนถึงปีหน้าได้ยังไงกัน”
ทันใดนั้นเอง จิ้งจอกสาวก็เข้าใจเกี่ยวกับความฝันครั้งล่าสุด
ความจริงแล้วเรื่องที่เธอฝันถึงก่อนหน้าไม่ได้ปรากฏขึ้นมาเฉย ๆ ถึงแม้ว่าพวกหลงโม่จะเดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัยก็จริง แต่ถ้าพวกเขาไม่สามารถแลกเปลี่ยนเกลือทะเลกลับมาได้ ผู้หญิงทุกคนในเผ่าจะไม่สามารถอยู่รอดไปถึงปีหน้าได้เช่นกัน และถ้าภูตหญิงในเผ่าล้มตายกันไปหมด เผ่านี้ก็จะไร้ความหมายเพราะไม่มีคนช่วยเพิ่มประชากร
หากไม่มีเกลือทะเล เธอและภูตหญิงทุกคนที่นี่อาจจะไม่รอดไปจนถึงฤดูหนาวหน้า
ปรากฎว่าอันตรายที่เกี่ยวพันถึงชีวิตและความตายของฝันทำนายอนาคตอยู่ตรงจุดนี้นี่เอง
“ข้าขอโทษที่ปกป้องเสบียงได้ไม่ดี ข้าจะไปเก็บเสบียงเพิ่มแล้วเดินทางไปยังชายหาดคนเดียว แล้วพยายามเอาเกลือทะเลกลับมาให้ได้” อิงหยวนพูดด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดพร้อมกับกล่าวโทษตัวเอง
แม้ว่าผู้มีอำนาจสูงสุดของเผ่าจะเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้เสียสติ
“ไม่ ขอบเขตของเปลวไฟสวรรค์นั้นกว้างใหญ่ เจ้าไม่สามารถบินข้ามมันได้หรอก” หัวหน้าเผ่าส่ายหัวปฏิเสธคำขอของอีกฝ่ายอย่างจริงจัง
ถ้าอินทรีหนุ่มหมดเรี่ยวแรงแล้วจมลงไปในเปลวไฟสวรรค์ ในไม่กี่อึดใจมันก็จะแผดเผาเขาจนตายเพราะที่นั่นไม่มีที่ให้หลบซ่อนอีก
“แต่...”
อิงหยวนขมวดคิ้วตั้งท่าจะโต้แย้งขึ้นมาอีกครั้ง แต่ชายสูงวัยก็ยกมือขึ้นขัดเขาเสียก่อน
“เอาล่ะ อย่าพูดเรื่องนี้อีก ข้าปล่อยให้เจ้าออกไปเผชิญอันตรายคนเดียวไม่ได้ เอาไว้ข้าจะคิดหาวิธีจัดการกับเรื่องนี้เอง สิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือ เราจะต้องเก็บเกลือทะเลทั้งหมดไว้ให้ผู้หญิงในเผ่า” น้ำเสียงของผู้นำสูงสุดในเผ่าหนักแน่น เขาไม่เปิดโอกาสให้ใครได้พูดแย้งอีก
เมื่อคนเป็นหัวหน้าเผ่าเห็นท่าทางสลดใจของชาวบ้าน เขาก็ถอนหายใจพลางตบไหล่อิงหยวนเพื่อปลอบโยนอีกคน
“พวกเจ้าเพิ่งหนีจากเปลวไฟสวรรค์มาได้อย่างยากลำบาก อย่าได้โทษตัวเองไปเลย แม้ว่าเทพอสูรจะมาช่วย แต่เจ้าก็ทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ทุกคนกลับไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ!”
พอทุกคนเห็นว่าชายชราไม่ได้ตำหนิใครเลย พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกผิดแล้วพากันก้มหน้านิ่งเงียบ
ในเวลานี้ ผู้นำของเผ่าเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีผู้หญิงแปลกหน้ายืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขาจึงรู้สึกประหลาดใจมาก
“นี่คือใคร ทำไมนางถึงกลับมากับพวกเจ้า?”
หูเจียวเจียวเองก็มองไปที่ผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน
ทางด้านหญิงสาวแปลกหน้า เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของคนที่อยู่รอบ ๆ นางก็หดกลับไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหลงโม่ คล้ายกับคนที่หวาดกลัวอะไรบางอย่าง แล้วนางก็ยิ่งกระชับมือที่จับเสื้อผ้าของชายหนุ่มไว้แน่นขึ้น
ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้มังกรหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาขยับออกไป 2 ก้าวพลางดึงหนังสัตว์ในมือของนางออกมา
ยามนี้ใบหน้าของหญิงสาวซีดเซียว ก่อนที่นางจะเปิดปากพูดอย่างเขินอาย
“ข้าชื่อหวงเยว่ ข้าพบหลงโม่ตอนที่ข้ากำลังหลบหนีเปลวไฟสวรรค์อยู่ ก่อนหน้านี้เผ่าของข้าถูกเผ่าอื่นโจมตี ทำให้ทุกคนในเผ่าเสียชีวิตทั้งหมด มีเพียงข้าคนเดียวที่หนีรอดมาได้”
“ต้องขอบคุณหลงโม่ที่ช่วยข้าไว้ ไม่เช่นนั้นข้าคงตายอยู่ในป่าไปแล้ว คือว่า...ข้าขอเข้าร่วมเผ่าของท่านได้ไหม?”
การมีภูตหญิงมาเข้าร่วมเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเผ่า
เดิมทีเผ่าของพวกเขาเป็นเผ่าผสมที่ไม่ได้ปฏิเสธภูตจากต่างถิ่น เมื่อหัวหน้าเผ่าได้ยินเช่นนั้น ในที่สุดใบหน้าซีดเซียวของเขาก็มีสีเลือดจาง ๆ
“ได้สิ เผ่าของเรายินดีต้อนรับเจ้าเป็นอย่างยิ่ง”
นี่ถือว่าเป็นข่าวดีหลังจากที่เผ่าประสบกับเคราะห์ร้าย
แต่พอหูเจียวเจียวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเธอก็แข็งค้างแล้วมองไปที่หวงเยว่ด้วยความสงสัย
หวงเยว่?
นี่มันชื่อตัวประกอบหญิงในนิยายไม่ใช่หรือ?
ในนิยายต้นฉบับ อิงหยวนผู้เป็นพระเอกได้ช่วยชีวิตหวงเยว่เอาไว้ ดังนั้นนางจึงตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น แม้ว่าเขาจะมีคู่อยู่แล้ว แต่นางก็ยังชอบอีกฝ่ายเสมอ จากนั้นหญิงสาวก็เป็นคู่แข่งอันดับ 1 ของลู่เมี่ยนเอ๋อ
แต่ทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นว่าหลงโม่ไปช่วยนางไว้แทนล่ะ?
“ขอบคุณท่านผู้เฒ่า ภูตในเผ่าของท่านล้วนเป็นคนดี” หวงเยว่ก้มศีรษะขอบคุณด้วยสีหน้ามีความสุข
ภูตหญิงคนนี้มีร่างสูงเพรียวสมส่วน อีกทั้งใบหน้าที่ไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัยกับใครทำให้ทุกคนรู้สึกเห็นใจนางทันที
คำขอบคุณนี้ทำให้พวกภูตในเผ่ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเอาเปรียบผู้หญิง
“หวงเยว่ เจ้าคงเหนื่อยมากสินะที่ต้องวิ่งตามหลังชายฉกรรจ์พวกนี้มาตลอดทาง ข้าจะให้พวกผู้หญิงพาเจ้าไปพักผ่อนก่อน หากต้องการอะไรเพิ่มเติมเจ้าก็มาบอกข้าได้เลย” หัวหน้าเผ่าพูดอย่างใจดี
“อื้ม” หวงเยว่พยักหน้ารับ
จากนั้นชายผู้มีตำแหน่งสูงสุดก็มองไปรอบ ๆ และสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่หู่จิงซึ่งเป็นคนที่ตรงไปตรงมามากที่สุด ก่อนที่เขาจะโบกมือให้นาง
“หู่จิง เจ้าพาหวงเยว่ไปพักผ่อนและทำความคุ้นเคยกับเผ่าเราที แล้วก็ขอรบกวนให้นางอาศัยอยู่กับเจ้าเป็นการชั่วคราวก่อน”
เนื่องจากเสือสาวไม่มีคู่ครองและเป็นคนที่ร่าเริงมากคนหนึ่ง การจัดแจงให้หวงเยว่อาศัยอยู่กับนางจึงดูเหมาะสมที่สุด
“ไม่มีปัญหา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง” หู่จิงตอบอย่างเต็มใจพลางเดินออกมาจากฝูงชน
แต่ในตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าหวงเยว่จะเหลือบมองไปที่เสือสาวแว้บหนึ่ง ก่อนจะวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังของหลงโม่อีกครั้ง แล้วถามขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“ท่านผู้เฒ่า ข้า…ข้าเกรงว่า…ข้าอยากจะขอให้หลงโม่เป็นคนนำทางข้าไปเดินดูรอบ ๆ เผ่าแทนได้หรือไม่ ข้าไม่คุ้นชินกับภูตคนอื่น”
เมื่อหูเจียวเจียวได้เห็นท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาของหงส์สาว เธอก็รู้สึกโกรธอยู่ในใจ ตามเนื้อหาในนิยายเขียนเอาไว้ว่าหูชิงหยวน พี่ชายคนที่ 4 ของเจ้าของร่างเดิมตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ แต่เขาก็ถูกนางหลอกใช้จนต้องมีจุดจบที่น่าเศร้า
พอคิดจบจิ้งจอกสาวก็เดินไปยืนคั่นกลางระหว่างหลงโม่กับหวงเยว่ ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง
“ต้องขอโทษด้วย คู่ของข้าไม่ชอบคบค้าสมาคมกับผู้หญิงคนอื่น ดังนั้นเจ้าก็ควรทำใจให้คุ้นชินกับภูตในเผ่าให้ได้เสีย เพราะถึงยังไง หลงโม่ก็เป็นคู่ของข้า การที่เจ้าจะมาใช้เหตุผลบอกว่าตัวเองกลัวภูตคนอื่นในเผ่า งั้นเจ้าจะมารบกวนคู่ของข้าทำไมล่ะ?”
คำพูดของหญิงสาวทำให้ใบหน้าของหวงเยว่ ซีดลง นางกัดริมฝีปากสีซีดของตนพลางเหลือบมองไปยังชายหนุ่มที่นางหมายตาไว้อย่างเศร้าสร้อย
“ข้าขอโทษ ข้า...ข้าไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนหลงโม่ ข้าไม่รู้ว่าเขามีคู่อยู่แล้ว...”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: หวงผัวแล้วหนึ่ง