ตอนที่แล้วตอนที่ 56 : พรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเพชร–สุขสงบ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 58 : การแลกเปลี่ยนอุปกรณ์สวมใส่! ความคาดหมายของโจวโจว!

ตอนที่ 57 : ทหาร 2,290 คน! เข้าสู่โบราณสถานกาลเวลาอีกครั้ง!


ตอนที่ 57 : ทหาร 2,290 คน! เข้าสู่โบราณสถานกาลเวลาอีกครั้ง!

ดวงตาของโจวโจวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

พูดโดยทั่วไปแล้ว ความภักดีของลูกน้องคือสิ่งที่จะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เท่านั้นถ้าลอร์ดสามารถจัดการดินแดนของตัวเองได้ดี

เมื่อความภักดีของลูกน้องสูง ดินแดนก็จะสงบสุข และอัตราการก่ออาชญากรรมของลูกน้องก็จะลดลงอย่างมากด้วย นอกจากนี้ลูกน้องที่เชื่อฟังคำสั่งของลอร์ดยังมีบทบาทในการช่วยพัฒนาดินแดนได้อีกด้วย

มันยังช่วยเพิ่มโอกาสทำให้เกิดภารกิจหรือภารกิจลับได้เป็นอย่างมากด้วย!

เมื่อความภักดีของลูกน้องต่ำ มันก็อาจจะมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นได้

การไม่เชื่อฟังของลูกน้องเพียงอย่างเดียวก็อาจทำให้หลายอุตสาหกรรมในดินแดนหยุดชะงักไปได้

ทหารจะไม่ฟังคำสั่งของลอร์ดและไม่โจมตีมอนสเตอร์รอบๆ ดินแดน มันเป็นปัญหาใหญ่จริงๆ

ลูกน้องอาจจะก่อกบฏและเลือกที่จะโค่นล้มหรือฆ่าลอร์ดเลยก็ได้

โจวโจวเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนในขณะที่อ่านกระดานสนทนา

ลอร์ดบางคนเกิดตัณหาต่อผู้หญิงในดินแดนของตนและบีบบังคับฝืนใจพวกเธอ

ในท้ายที่สุด เมื่อเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ความภักดีของลูกน้องที่ได้ยินเรื่องนี้ก็ลดลงเป็นอย่างมาก ในวันต่อมา รายชื่อเพื่อนของลอร์ดคนนี้ก็ได้ดับแสงไปแล้ว

เมื่อไม่เกิดวิกฤติอาหาร โดยทั่วไปแล้วลอร์ดจะไม่ตายด้วยการป้องกันของบาเรียลอร์ดมือใหม่

ถ้าพวกเขาตาย มันก็น่าจะเป็นเพราะความเป็นไปได้เดียวก็คือลอร์ดผู้นั้นถูกสังหารโดยลูกน้องในดินแดน

นี่คือผลลัพธ์ของความภักดีที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์แห่งลอร์ดสุขสงบอันนี้ก็สามารถเพิ่มความภักดีของลูกน้องได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้มันยังเพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 90!

ความภักดี 90 ถือว่าสูงมากแล้ว

ความภักดีระดับนี้แทบจะเทียบได้กับระดับภักดีจนตายเลย

ลูกน้องที่มีความภักดีอยู่ในระดับนั้นคงจะไม่มีทางทรยศลอร์ดเว้นเสียแต่ว่าเขาจะไปเจอกับเรื่องไม่ธรรมดาอะไร

เมื่อเทียบกันแล้ว โอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์เข้ามาอยู่ในดินแดนของเขานั้นก็ดูน่าสนใจน้อยลงไปเลย

อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็พิจารณาเรื่องนี้

“ฉันมีลูกน้องเกือบ 2,000 คนอยู่ในดินแดนแล้ว และส่วนใหญ่ก็มีความภักดีอยู่ระหว่าง 70-80 นั่นหมายความว่าฉันน่าจะสามารถทำให้ดินแดนของฉันเป็นดินแดนที่น่าอยู่ได้ในสายตาของคนภายนอกได้ในเวลาไม่เกิน 40 วัน” โจวโจวคิด

มันถือว่าเป็นเวลาเดือนกว่าๆ ซึ่งก็ไม่นานหรือไม่เร็วจนเกินไป

เขาไม่ได้รีบและก็สามารถรอได้

หลังจากนั้นโจวโจวก็ยืนขึ้นและเตรียมที่จะไปอัญเชิญนักธนูพลังธาตุและนักธนูพลังธาตุเอลฟ์ 13 คน

ในเวลาเดียวกัน ทหารและลูกน้องในเมืองตะวันสาดแสงก็รู้สึกขึ้นมาในทันใดว่าเมืองตะวันสาดแสงมีอนาคตที่สดใสขึ้นมาในทันทีที่โจวโจวได้รับพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเพชร

แม้ว่าเมืองตะวันสาดแสงจะเป็นเมืองที่สร้างใหม่และดูค่อนข้างธรรมดา แต่ในสายตาของพวกเขามันก็เต็มไปด้วยความเป็นไปได้แห่งอนาคต

“เมืองตะวันสาดแสงของพวกเรามีทหารตั้งมากมาย และจำนวนทหารก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกๆ วัน ข้ารู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่กับทหารเหล่านี้จริงๆ”

“ท่านลอร์ดดีต่อพวกเรามาก ท่านแจกจ่ายวัตถุดิบระดับสูงอย่างเนื้อมอนสเตอร์ให้พวกเราฟรีๆ ทุกวัน ข้าไม่เคยฟุ่มเฟือยแบบนี้มาก่อนเลยในอาณาจักรออโรร่า”

“แน่นอนสิ! ท่านลอร์ดคือลอร์ดที่ดีที่สุดในทวีปจื้อเกาแล้ว!”

“แม้ว่าที่นี่จะธรรมดามากและเป็นดินแดนทะเลทราย แต่มันจะต้องเป็นดินแดนที่ร่ำรวยที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในทวีปจื้อเกาในภายภาคหน้าแน่นอน!”

“แม้แต่มังกรยังยินดีที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงของท่านลอร์ดเลย มันจะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก?”

“วันนี้ข้ายังเห็นเอลฟ์ไม้ด้วย พวกเธอคือลูกน้องของจักรวรรดิเอลฟ์ แต่แม้กระทั่งพวกเธอยังแสดงความเคารพต่อท่านลอร์ด”

“เอลฟ์ไม้งดงามมาก ในอนาคตข้าจะต้องแต่งงานกับเอลฟ์ไม้ให้ได้เลย!”

เหล่าลูกน้องสนทนากันอย่างออกรสออกชาติ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

โจวโจวเดินออกมาจากลานของลอร์ดและเห็นภาพฉากนี้ในทันที

เขาอึ้งไปเล็กน้อย

นี่คือเอฟเฟกต์ของสุขสงบ

โจวโจวมองไปที่รอยยิ้มของพวกเขาและเขาก็ยิ้มออกมา

บางทีเอฟเฟกต์ของพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเพชรอันนี้อาจจะไม่ได้เห็นผลในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในระยะยาวมันย่อมให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้อย่างแน่นอน

เขาหยุดคิดถึงมัน

โจวโจวไปที่ประตูอัญเชิญและโยนหนังสือรับสมัครนักธนูพลังธาตุ 394 เล่มเข้าไป

ในไม่ช้า นักธนูพลังธาตุคนแรกก็เดินออกมา

เขาสวมชุดเกราะสีแดงเพลิง ถือคันธนูสีแดงเพลิงและมีลูกศรพาดไว้บนแผ่นหลัง นอกจากนี้ยังมีมีดสั้นสีแดงเพลิงห้อยไว้ที่เอวด้วย

พลังงานธาตุไฟที่มองไม่เห็นหมุนวนและรวมตัวกันรอบตัวเขา

คนทั่วไปคงจะรู้สึกได้ถึงความร้อนจางๆ และพลังที่อธิบายไม่ได้เพียงแค่เข้าใกล้เขา

โจวโจวเปิดหน้าต่างข้อมูลส่วนตัวของเขาขึ้นมาดู

[ลูกน้อง: จ้าวหลาน]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[อาชีพ: นักธนูพลังธาตุ (ธาตุไฟ)]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับเหล็กดำขั้นต้น]

[ความสามารถโดยรวม: เขาได้รับใบเปลี่ยนคลาสนักธนูพลังธาตุโดยบังเอิญเมื่อเขาออกไปล่าสัตว์กับผู้อาวุโสของเขาเมื่อเขายังเด็ก เขาจึงเปลี่ยนอาชีพเป็นนักธนูพลังธาตุ เมื่อเขาโตขึ้น เขาได้เข้ารับการฝึกทหารเฉพาะทางที่มีคุณภาพ นอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์การต่อสู้ขนาดเล็ก 23 ครั้งและมีประสบการณ์มากมายในฐานะนักธนูพลังธาตุ]

[ทักษะ: เทคนิคกสิณไฟระดับทองคำเหลืองขั้นสูง, การควบคุมธาตุไฟระดับเหล็กดำขั้นต้น, การยิงธนูระดับเหล็กดำขั้นต้น (ธาตุไฟ), การยิงไกลระดับเหล็กดำขั้นต้น, การยิงสามดอกระดับเหล็กดำขั้นต้น, ลูกศรเพลิงระดับเหล็กดำขั้นต้น, ลูกศรเพลิงสองเท่าระดับเหล็กดำขั้นกลาง (ยังไม่เชี่ยวชาญ)]

[ความภักดี: 71]

[ศักยภาพ: ระดับเงินขาวขั้นสูง]

โจวโจวเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ

เขาจำได้ว่าเมื่อไป่อี้เลื่อนระดับขึ้นเป็นทหารหน้าไม้พิษระดับเหล็กดำขั้นสูง เธอยังมีทักษะแค่ 5 อันเท่านั้น

ในเวลาเดียวกัน โจวโจวก็ประหลาดใจมาก

จ้าวหลาน นักธนูพลังธาตุระดับสูงผู้นี้มีทักษะถึง 7 อันแล้วแม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับเหล็กดำขั้นต้นเท่านั้น

เขาจะต้องเชี่ยวชาญทักษะมากขึ้นแน่นอนเมื่อเขาเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับเหล็กดำขั้นสูง

“นี่คือประสิทธิภาพของทหารระดับสูงงั้นสินะ” โจวโจวถอนหายใจ

เวลาค่อยๆ ผ่านไปเรื่อยๆ ในขณะที่นักธนูพลังธาตุเดินออกมาจากประตูอัญเชิญทีละคน

15 นาทีต่อมา นักธนูพลังธาตุ 394 คนก็เดินออกมาจนครบและมายืนอยู่ตรงหน้าของโจวโจว

โจวโจวมองไปยังชุดเกราะเพลิงของพวกเขาและอดคิดออกมาไม่ได้

ทำไมนักธนูพลังธาตุทั้งหมดที่เขาอัญเชิญออกมาถึงเป็นธาตุไฟ? หรือมันเป็นเพราะหนังสือรับสมัครนักธนูพลังธาตุที่เขาได้รับมานั้นมาจากหมาป่าหมอกปีศาจเพลิง? เขาคิด

ดูเหมือนนี่จะเป็นเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้นโจวโจวก็ไม่ได้ผิดหวัง

นักธนูพลังธาตุไฟไม่ได้แย่เลย ถึงยังไงพวกเขาก็มีการโจมตีที่รุนแรง

หลังจากนั้นโจวโจวจึงอัญเชิญนักธนูพลังธาตุเอลฟ์ทั้ง 13 คนออกมา

“คาราวะท่านลอร์ด!” นักธนูพลังธาตุเอลฟ์ทั้ง 13 คนกล่าวด้วยความเคารพ

โจวโจวพยักหน้าและมองดูพวกเธอ

เขาตระหนักได้ในทันทีว่านักธนูพลังธาตุทั้ง 13 คนนี้แต่งกายเหมือนกันกับเอลฟ์ไม้ที่เขาพบในโบราณสถานกาลเวลา

พวกเธอทุกคนสวมชุดสีเขียวมรกต มีคันธนูหรือดาบสั้นอยู่ที่เอว ซึ่งล้วนเป็นสีเขียวมรกตทั้งหมด

เครื่องแต่งกายดูมีชีวิตชีวามาก

ลูกน้องและทหารที่อยู่รอบๆ อุทานออกมาทันทีเมื่อพวกเธอปรากฏตัว

โจวโจวไม่สนใจพวกเขา

กลับกัน เขาเริ่มตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของพวกเธอ

ในไม่ช้า โจวโจวก็รู้ว่าพวกเธอประกอบไปด้วยนักธนูพลังธาตุระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง 1 คน และนักธนูพลังธาตุระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น 12 คน!

พวกเธอต่างก็มีระดับความแข็งแกร่งเท่ากับนาเดียและคนอื่นๆ

นอกจากนี้ ศักยภาพของพวกเธอยังเริ่มต้นที่ระดับทองคำเหลืองขั้นต้น และคนที่มีศักยภาพสูงสุดก็อยู่ในระดับเพชรขั้นกลางซึ่งก็คือเอลฟ์ระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลางคนนี้นั่นเอง

โจวโจวเปิดข้อมูลส่วนตัวของเอลฟ์ที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมา

[ลูกน้อง: โมนิก้า]

[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]

[อาชีพ: นักธนูพลังธาตุ (ธาตุไม้)]

[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง]

[ความสามารถโดยรวม: นายร้อยแห่งกองทัพพลังธาตุที่สิบสองแห่งจักรวรรดิเอลฟ์ เธอมีประสบการณ์การต่อสู้ห้าปีและเชี่ยวชาญทักษะการต่อสู้ของนักธนูพลังธาตุมากมาย เธอสามารถเพิ่มความได้เปรียบในสนามรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ]

[สายเลือด: สายเลือดเอลฟ์ไม้]

[ทักษะ: เทคนิคการเพ่งจิตต้นไม้แห่งชีวิตระดับเหนือสามัญขั้นกลาง, การควบคุมธาตุไม้ระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, การยิงธนูพลังธาตุระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง (ธาตุไม้), การยิงไกลระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, การยิงต่อเนื่องห้านัดระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, ลูกศรโลหิตพิษระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, ลูกศรไร้เสียงระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, ลูกศรเถาวัลย์บีบรัดระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, เทคนิคความคล่องตัวระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, เทคนิคการล่องหนระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง]

[ความภักดี: 72]

[ศักยภาพ: ระดับเพชรขั้นกลาง]

โจวโจวเงียบไป

เหล่าเอลฟ์มีศักยภาพสูงกว่ามนุษย์จริงๆ

อย่างไรก็ตาม โจวก็ไม่หมดกำลังใจ

เขามีอัตราการดรอป 100%

โจวโจวมั่นใจว่าเขาสามารถสร้างกองทัพมนุษย์ที่เหนือกว่าทุกเผ่าพันธุ์ได้

“ฉันมีทหาร 2,290 คนแล้ว!”

โจวโจวตระหนักได้ในทันใดว่ากองทัพของเขาพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นแล้ว

หลังจากนั้นโจวโจวก็แจกจ่ายเซ็ตหมาป่าหมอกปีศาจเพลิง 200 เช็ตที่เขาเพิ่งได้รับมาจากโบราณสถานกาลเวลาให้กับทหาร 97 คนที่ตามเขาเข้าไปในโบราณสถานกาลเวลา

ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้มอบเป็นรางวัลให้กับทหารในอนาคต

หนึ่งชั่วโมงต่อมา โจวโจวก็พาเนซาริโอ้และทหารของเขาเข้าไปยังโบราณสถานกาลเวลาอีกครั้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด