ตอนที่ 57 : ทหาร 2,290 คน! เข้าสู่โบราณสถานกาลเวลาอีกครั้ง!
ตอนที่ 57 : ทหาร 2,290 คน! เข้าสู่โบราณสถานกาลเวลาอีกครั้ง!
ดวงตาของโจวโจวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
พูดโดยทั่วไปแล้ว ความภักดีของลูกน้องคือสิ่งที่จะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เท่านั้นถ้าลอร์ดสามารถจัดการดินแดนของตัวเองได้ดี
เมื่อความภักดีของลูกน้องสูง ดินแดนก็จะสงบสุข และอัตราการก่ออาชญากรรมของลูกน้องก็จะลดลงอย่างมากด้วย นอกจากนี้ลูกน้องที่เชื่อฟังคำสั่งของลอร์ดยังมีบทบาทในการช่วยพัฒนาดินแดนได้อีกด้วย
มันยังช่วยเพิ่มโอกาสทำให้เกิดภารกิจหรือภารกิจลับได้เป็นอย่างมากด้วย!
เมื่อความภักดีของลูกน้องต่ำ มันก็อาจจะมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นได้
การไม่เชื่อฟังของลูกน้องเพียงอย่างเดียวก็อาจทำให้หลายอุตสาหกรรมในดินแดนหยุดชะงักไปได้
ทหารจะไม่ฟังคำสั่งของลอร์ดและไม่โจมตีมอนสเตอร์รอบๆ ดินแดน มันเป็นปัญหาใหญ่จริงๆ
ลูกน้องอาจจะก่อกบฏและเลือกที่จะโค่นล้มหรือฆ่าลอร์ดเลยก็ได้
โจวโจวเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนในขณะที่อ่านกระดานสนทนา
ลอร์ดบางคนเกิดตัณหาต่อผู้หญิงในดินแดนของตนและบีบบังคับฝืนใจพวกเธอ
ในท้ายที่สุด เมื่อเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ความภักดีของลูกน้องที่ได้ยินเรื่องนี้ก็ลดลงเป็นอย่างมาก ในวันต่อมา รายชื่อเพื่อนของลอร์ดคนนี้ก็ได้ดับแสงไปแล้ว
เมื่อไม่เกิดวิกฤติอาหาร โดยทั่วไปแล้วลอร์ดจะไม่ตายด้วยการป้องกันของบาเรียลอร์ดมือใหม่
ถ้าพวกเขาตาย มันก็น่าจะเป็นเพราะความเป็นไปได้เดียวก็คือลอร์ดผู้นั้นถูกสังหารโดยลูกน้องในดินแดน
นี่คือผลลัพธ์ของความภักดีที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์แห่งลอร์ดสุขสงบอันนี้ก็สามารถเพิ่มความภักดีของลูกน้องได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้มันยังเพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 90!
ความภักดี 90 ถือว่าสูงมากแล้ว
ความภักดีระดับนี้แทบจะเทียบได้กับระดับภักดีจนตายเลย
ลูกน้องที่มีความภักดีอยู่ในระดับนั้นคงจะไม่มีทางทรยศลอร์ดเว้นเสียแต่ว่าเขาจะไปเจอกับเรื่องไม่ธรรมดาอะไร
เมื่อเทียบกันแล้ว โอกาสที่จะมีสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์เข้ามาอยู่ในดินแดนของเขานั้นก็ดูน่าสนใจน้อยลงไปเลย
อย่างไรก็ตาม โจวโจวก็พิจารณาเรื่องนี้
“ฉันมีลูกน้องเกือบ 2,000 คนอยู่ในดินแดนแล้ว และส่วนใหญ่ก็มีความภักดีอยู่ระหว่าง 70-80 นั่นหมายความว่าฉันน่าจะสามารถทำให้ดินแดนของฉันเป็นดินแดนที่น่าอยู่ได้ในสายตาของคนภายนอกได้ในเวลาไม่เกิน 40 วัน” โจวโจวคิด
มันถือว่าเป็นเวลาเดือนกว่าๆ ซึ่งก็ไม่นานหรือไม่เร็วจนเกินไป
เขาไม่ได้รีบและก็สามารถรอได้
หลังจากนั้นโจวโจวก็ยืนขึ้นและเตรียมที่จะไปอัญเชิญนักธนูพลังธาตุและนักธนูพลังธาตุเอลฟ์ 13 คน
ในเวลาเดียวกัน ทหารและลูกน้องในเมืองตะวันสาดแสงก็รู้สึกขึ้นมาในทันใดว่าเมืองตะวันสาดแสงมีอนาคตที่สดใสขึ้นมาในทันทีที่โจวโจวได้รับพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเพชร
แม้ว่าเมืองตะวันสาดแสงจะเป็นเมืองที่สร้างใหม่และดูค่อนข้างธรรมดา แต่ในสายตาของพวกเขามันก็เต็มไปด้วยความเป็นไปได้แห่งอนาคต
“เมืองตะวันสาดแสงของพวกเรามีทหารตั้งมากมาย และจำนวนทหารก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกๆ วัน ข้ารู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่กับทหารเหล่านี้จริงๆ”
“ท่านลอร์ดดีต่อพวกเรามาก ท่านแจกจ่ายวัตถุดิบระดับสูงอย่างเนื้อมอนสเตอร์ให้พวกเราฟรีๆ ทุกวัน ข้าไม่เคยฟุ่มเฟือยแบบนี้มาก่อนเลยในอาณาจักรออโรร่า”
“แน่นอนสิ! ท่านลอร์ดคือลอร์ดที่ดีที่สุดในทวีปจื้อเกาแล้ว!”
“แม้ว่าที่นี่จะธรรมดามากและเป็นดินแดนทะเลทราย แต่มันจะต้องเป็นดินแดนที่ร่ำรวยที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในทวีปจื้อเกาในภายภาคหน้าแน่นอน!”
“แม้แต่มังกรยังยินดีที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงของท่านลอร์ดเลย มันจะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก?”
“วันนี้ข้ายังเห็นเอลฟ์ไม้ด้วย พวกเธอคือลูกน้องของจักรวรรดิเอลฟ์ แต่แม้กระทั่งพวกเธอยังแสดงความเคารพต่อท่านลอร์ด”
“เอลฟ์ไม้งดงามมาก ในอนาคตข้าจะต้องแต่งงานกับเอลฟ์ไม้ให้ได้เลย!”
…
เหล่าลูกน้องสนทนากันอย่างออกรสออกชาติ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
โจวโจวเดินออกมาจากลานของลอร์ดและเห็นภาพฉากนี้ในทันที
เขาอึ้งไปเล็กน้อย
นี่คือเอฟเฟกต์ของสุขสงบ
โจวโจวมองไปที่รอยยิ้มของพวกเขาและเขาก็ยิ้มออกมา
บางทีเอฟเฟกต์ของพรสวรรค์แห่งลอร์ดระดับเพชรอันนี้อาจจะไม่ได้เห็นผลในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในระยะยาวมันย่อมให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งได้อย่างแน่นอน
เขาหยุดคิดถึงมัน
โจวโจวไปที่ประตูอัญเชิญและโยนหนังสือรับสมัครนักธนูพลังธาตุ 394 เล่มเข้าไป
ในไม่ช้า นักธนูพลังธาตุคนแรกก็เดินออกมา
เขาสวมชุดเกราะสีแดงเพลิง ถือคันธนูสีแดงเพลิงและมีลูกศรพาดไว้บนแผ่นหลัง นอกจากนี้ยังมีมีดสั้นสีแดงเพลิงห้อยไว้ที่เอวด้วย
พลังงานธาตุไฟที่มองไม่เห็นหมุนวนและรวมตัวกันรอบตัวเขา
คนทั่วไปคงจะรู้สึกได้ถึงความร้อนจางๆ และพลังที่อธิบายไม่ได้เพียงแค่เข้าใกล้เขา
โจวโจวเปิดหน้าต่างข้อมูลส่วนตัวของเขาขึ้นมาดู
[ลูกน้อง: จ้าวหลาน]
[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]
[อาชีพ: นักธนูพลังธาตุ (ธาตุไฟ)]
[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับเหล็กดำขั้นต้น]
[ความสามารถโดยรวม: เขาได้รับใบเปลี่ยนคลาสนักธนูพลังธาตุโดยบังเอิญเมื่อเขาออกไปล่าสัตว์กับผู้อาวุโสของเขาเมื่อเขายังเด็ก เขาจึงเปลี่ยนอาชีพเป็นนักธนูพลังธาตุ เมื่อเขาโตขึ้น เขาได้เข้ารับการฝึกทหารเฉพาะทางที่มีคุณภาพ นอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์การต่อสู้ขนาดเล็ก 23 ครั้งและมีประสบการณ์มากมายในฐานะนักธนูพลังธาตุ]
[ทักษะ: เทคนิคกสิณไฟระดับทองคำเหลืองขั้นสูง, การควบคุมธาตุไฟระดับเหล็กดำขั้นต้น, การยิงธนูระดับเหล็กดำขั้นต้น (ธาตุไฟ), การยิงไกลระดับเหล็กดำขั้นต้น, การยิงสามดอกระดับเหล็กดำขั้นต้น, ลูกศรเพลิงระดับเหล็กดำขั้นต้น, ลูกศรเพลิงสองเท่าระดับเหล็กดำขั้นกลาง (ยังไม่เชี่ยวชาญ)]
[ความภักดี: 71]
[ศักยภาพ: ระดับเงินขาวขั้นสูง]
โจวโจวเดาะลิ้นด้วยความประหลาดใจ
เขาจำได้ว่าเมื่อไป่อี้เลื่อนระดับขึ้นเป็นทหารหน้าไม้พิษระดับเหล็กดำขั้นสูง เธอยังมีทักษะแค่ 5 อันเท่านั้น
ในเวลาเดียวกัน โจวโจวก็ประหลาดใจมาก
จ้าวหลาน นักธนูพลังธาตุระดับสูงผู้นี้มีทักษะถึง 7 อันแล้วแม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับเหล็กดำขั้นต้นเท่านั้น
เขาจะต้องเชี่ยวชาญทักษะมากขึ้นแน่นอนเมื่อเขาเลื่อนระดับขึ้นเป็นระดับเหล็กดำขั้นสูง
“นี่คือประสิทธิภาพของทหารระดับสูงงั้นสินะ” โจวโจวถอนหายใจ
เวลาค่อยๆ ผ่านไปเรื่อยๆ ในขณะที่นักธนูพลังธาตุเดินออกมาจากประตูอัญเชิญทีละคน
15 นาทีต่อมา นักธนูพลังธาตุ 394 คนก็เดินออกมาจนครบและมายืนอยู่ตรงหน้าของโจวโจว
โจวโจวมองไปยังชุดเกราะเพลิงของพวกเขาและอดคิดออกมาไม่ได้
ทำไมนักธนูพลังธาตุทั้งหมดที่เขาอัญเชิญออกมาถึงเป็นธาตุไฟ? หรือมันเป็นเพราะหนังสือรับสมัครนักธนูพลังธาตุที่เขาได้รับมานั้นมาจากหมาป่าหมอกปีศาจเพลิง? เขาคิด
ดูเหมือนนี่จะเป็นเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นโจวโจวก็ไม่ได้ผิดหวัง
นักธนูพลังธาตุไฟไม่ได้แย่เลย ถึงยังไงพวกเขาก็มีการโจมตีที่รุนแรง
หลังจากนั้นโจวโจวจึงอัญเชิญนักธนูพลังธาตุเอลฟ์ทั้ง 13 คนออกมา
“คาราวะท่านลอร์ด!” นักธนูพลังธาตุเอลฟ์ทั้ง 13 คนกล่าวด้วยความเคารพ
โจวโจวพยักหน้าและมองดูพวกเธอ
เขาตระหนักได้ในทันทีว่านักธนูพลังธาตุทั้ง 13 คนนี้แต่งกายเหมือนกันกับเอลฟ์ไม้ที่เขาพบในโบราณสถานกาลเวลา
พวกเธอทุกคนสวมชุดสีเขียวมรกต มีคันธนูหรือดาบสั้นอยู่ที่เอว ซึ่งล้วนเป็นสีเขียวมรกตทั้งหมด
เครื่องแต่งกายดูมีชีวิตชีวามาก
ลูกน้องและทหารที่อยู่รอบๆ อุทานออกมาทันทีเมื่อพวกเธอปรากฏตัว
โจวโจวไม่สนใจพวกเขา
กลับกัน เขาเริ่มตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของพวกเธอ
ในไม่ช้า โจวโจวก็รู้ว่าพวกเธอประกอบไปด้วยนักธนูพลังธาตุระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง 1 คน และนักธนูพลังธาตุระดับบรอนซ์เขียวขั้นต้น 12 คน!
พวกเธอต่างก็มีระดับความแข็งแกร่งเท่ากับนาเดียและคนอื่นๆ
นอกจากนี้ ศักยภาพของพวกเธอยังเริ่มต้นที่ระดับทองคำเหลืองขั้นต้น และคนที่มีศักยภาพสูงสุดก็อยู่ในระดับเพชรขั้นกลางซึ่งก็คือเอลฟ์ระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลางคนนี้นั่นเอง
โจวโจวเปิดข้อมูลส่วนตัวของเอลฟ์ที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมา
[ลูกน้อง: โมนิก้า]
[ดินแดน: เมืองตะวันสาดแสง]
[อาชีพ: นักธนูพลังธาตุ (ธาตุไม้)]
[ระดับความแข็งแกร่ง: ระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง]
[ความสามารถโดยรวม: นายร้อยแห่งกองทัพพลังธาตุที่สิบสองแห่งจักรวรรดิเอลฟ์ เธอมีประสบการณ์การต่อสู้ห้าปีและเชี่ยวชาญทักษะการต่อสู้ของนักธนูพลังธาตุมากมาย เธอสามารถเพิ่มความได้เปรียบในสนามรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ]
[สายเลือด: สายเลือดเอลฟ์ไม้]
[ทักษะ: เทคนิคการเพ่งจิตต้นไม้แห่งชีวิตระดับเหนือสามัญขั้นกลาง, การควบคุมธาตุไม้ระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, การยิงธนูพลังธาตุระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง (ธาตุไม้), การยิงไกลระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, การยิงต่อเนื่องห้านัดระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, ลูกศรโลหิตพิษระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, ลูกศรไร้เสียงระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, ลูกศรเถาวัลย์บีบรัดระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, เทคนิคความคล่องตัวระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง, เทคนิคการล่องหนระดับบรอนซ์เขียวขั้นกลาง]
[ความภักดี: 72]
[ศักยภาพ: ระดับเพชรขั้นกลาง]
โจวโจวเงียบไป
เหล่าเอลฟ์มีศักยภาพสูงกว่ามนุษย์จริงๆ
อย่างไรก็ตาม โจวก็ไม่หมดกำลังใจ
เขามีอัตราการดรอป 100%
โจวโจวมั่นใจว่าเขาสามารถสร้างกองทัพมนุษย์ที่เหนือกว่าทุกเผ่าพันธุ์ได้
“ฉันมีทหาร 2,290 คนแล้ว!”
โจวโจวตระหนักได้ในทันใดว่ากองทัพของเขาพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
หลังจากนั้นโจวโจวก็แจกจ่ายเซ็ตหมาป่าหมอกปีศาจเพลิง 200 เช็ตที่เขาเพิ่งได้รับมาจากโบราณสถานกาลเวลาให้กับทหาร 97 คนที่ตามเขาเข้าไปในโบราณสถานกาลเวลา
ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้มอบเป็นรางวัลให้กับทหารในอนาคต
หนึ่งชั่วโมงต่อมา โจวโจวก็พาเนซาริโอ้และทหารของเขาเข้าไปยังโบราณสถานกาลเวลาอีกครั้ง