บทที่155 ฟรี
“โรบิน ทำไมคนพวกนั้นถึงได้ขู่เธอล่ะ?” วีวีแอบไปกระซิบถามโรบิน
“ใช่ คนพวกนั้นปกปิดหน้าตา มองแวบแรกก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี” มิสวาเลยไทน์เองก็พยักหน้าอย่างอยากรู้เหมือนกับวีวี
“พวกเขาเป็นหน่วยข่าวกรองลับจริงเหรอ?” มากิโนะขมวดคิ้ว
“ใช่ พวกเขามีงานสำคัญต้องทำที่นี่ และ... งานนี้จำเป็นต้องใช่ฉันด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่เขามาขู่ฉันเพื่อให้ฉันไปช่วยพวกเขา” โรบินตอบทุกอย่างออกมา “พวกเขาขู่ฉันเรื่องฐานะก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลโลกต้องการตัว ถ้าหากฉันไม่เชื่อฟังคำสั่งพวกเขา พวกเขาจะ... ออกคำสั่งสังหารหรือที่เรียกว่าบัสเตอร์คอลและระดมกองเรือขนาดใหญ่เพื่อมาล้อมทำลายกลุ่มโจรสลัดของเรา”
“พวกเขาโง่เหรอ?” อาปิสที่อยู่ถัดจากโรบินไม่ไกลตะตะลึงกับความคิดของอีกฝ่าย “คำสั่งสังหารพวกนี้จะมีประโยชน์อะไร สามารถจัดการกับพี่รอนได้ไหม พวกเขาไม่สามารถจัดการกับกลุ่มของเราได้ พี่รอนสามารถเอาชนะพลเรือเอกสองคนได้ด้วยตัวคนเดียวแถมยังทำลายเรือพวกเขาไปกว่าห้าสิบลำนะ!”
โรบินได้ยินสิ่งนี้ก็ถอนหายใจ “ใช่ บัสเตอร์คอลนี้ไม่มีผลกับเรา แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะฉัน... บ้านเกิดของฉันที่โอฮาร่าก็ถูกทำลายเพราะบัสเตอร์คอลนี้เหมือนกัน แถมแม่ของฉันก็ยังตายเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้น”
“ขอโทษด้วนะโรบิน” มากิโนะขอโทษ “เราทำให้เธอนึกถึงสิ่งที่น่าเศร้า”
“ไม่เป็นไร” โรบินยิ้มฝืน ๆ ในดวงตาแฝงไปด้วยความเศร้าเสียใจ
หลังจากที่รอนเก็บข้าวของ พวกเขาก็เดินไปที่ทำการของนายกเทศมนตรีของวอเตอร์ เซเว่น
ในเวลานี้ แคลิเฟอร์ที่อยู่ในที่ทำงานของไอซ์เบิร์กก็ได้รับข้อความจากเพื่อนร่วมงานของเธอหลายคน และได้ยินว่าเพื่อนของเขาสองคนจับโรบินไม่สำเร็จ แต่รอนก็ฆ่าพวกเขาไม่ได้ เธอทำได้เพียงระบายอารมณ์โมโหด้วยการสบถเท่านั้น “บรูโน่กับไอ้คนไร้ประโยชน์เนโร นอกจากจะไม่ทำให้ดีแล้วยังทำให้เรื่องมันแย่ลงไปอีก” (เนโรเป็นเจ้าหน้าที่ซีพีไนน์ใหม่ ออกมาในตอนที่คุมตัวโรบินไปเอนิเอส ล็อบบี้ แต่ในฟิคนี้ออกมาตั้งแต่ในเมืองเลยครับ)
แคลิเฟอร์มองไปรอบห้องทำงานของไอซ์เบิร์ก ดันกรอบแว่นขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก
“แคลิเฟอร์” ทันทีที่เธอออกจากประตูมา ชายที่มีนกพิราบเกาะอยู่บนไหล่ก็เดินเข้ามาหาเธอ “เธอรู้เรื่องแล้วใช่ไหม?”
“ใช่ พวกเจ้าโง่สองคนนั้นบอกฉันแล้ว ทำไมนายไม่ทำงานเองล่ะ?” หญิงสาวขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดต่อ “ตอนนี้นิโค โรบินอยู่ใกล้ ๆรอน เราเอาตัวเธอมาไม่ได้”
“รอน!” ชายคนนั้นเงียบไป “ฉันเองก็อยากรู้ว่าหมอนั่นแข็งแกร่งแค่ไหน”
“ลุจจิ นายบ้าหรือเปล่า” แคลิเฟอร์จ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ “นายไม่รู้ถึงเรื่องของเขาเหรอ พลเรือเอกสองคนก็สู้เขาไม่ได้ นายยังต้องการสู้กับเขาอีก?”
“มันเป็นความสูญเสียของกองทัพเรือ ไม่เพียงแต่กองทัพเรือที่เสียหน้า แต่พลเรือเอกทั้งสองคนก็เสียหน้าด้วย” ร็อบ ลุจจิพูดอย่างเย็นชา “เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง ฉันมาหาเธอครั้งนี้เพราะต้องการแจ้งให้ทราบว่า เราจะลงมือกันคืนนี้ เรื่องของพลูตันจะรอช้าต่อไปอีกไม่ได้ เราซ่อนตัวกลมกลืนกับพวกเขามาห้าปีแล้ว ถึงเวลาต้องไปแล้ว”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว” แคลิเฟอร์พยักหน้า “นายจะไปหาไอซ์เบิร์กไหม?”
“ไม่ล่ะ ฉันค่อยรอเจอเข้าคืนนี้ แบบแปลนพลูตันอยู่ในมือเขาอย่างแน่นอน เมื่อฉันได้แบบแปลนนั้นมา ฉันจะฆ่าเขาอย่างแน่นอน” ลุจจิกล่าวอย่างไร้เยื่อใยใด ๆ แม้ว่าจะอยู่ที่นี่มาห้าปีก็ตาม
“เข้าใจแล้ว” แคลิเฟอร์ถามต่อ “แล้วฉันล่ะ ฉันต้องทำอะไรบ้าง?”
“เธอไปพบพวกคนอื่น ๆก่อน เจ้าพวกนั้นมันขยะจริง ๆ” ลุจจิส่ายหน้า “ไปคุยกับพวกเขาเรื่องแผนการคืนนี้”
“เข้าใจแล้ว”
“แคลิเฟอร์” ทันใดนั้นเสียงของนายกเทศมนตรีไอซ์เบิร์กก็ดังขึ้น
แคลิเฟอร์มองลุจจิแล้วพยักหน้าให้กับเขา “นายไปก่อน”
จากนั้นแคลิเฟอร์ก็มาพบไอซ์เบิร์กแล้วถามเขาว่า “เกิดอะไรขึ้นคะคุณไอซ์เบิร์ก”
“เมื่อสักครู่นี้มีคนเข้ามาบอกฉันว่ารอนมาเมืองวอเตอร์ เซเว่น เขาต้องการพบกับฉัน” ไอซ์เบิร์กพูดอย่างจริงจัง “ไปรับพวกเขา แม้ว่าชื่อเสียงของพวกเขาจะน่าตกใจ แต่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของเมืองคนหนึ่ง ฉันก็ยังไม่สามารถลดตัวลงไปรับพวกเขาเองได้”
“ทราบแล้วค่ะ” แคลิเฟอร์หัวใจเต้นรัว รอนมาพบไอซ์เบิร์กในเวลานี้ มันจะกระทบต่อแผนของพวกเธอหรือเปล่า?
“จำไว้ว่าต้องสุภาพ แม้ว่าเขาจะเป็นโจรสลัดแต่เขาก็ไม่ได้สร้างเรื่องวุ่นวายให้กับวอเตอร์ เซเว่นของเรา แถมพวกเขายังแข็งแกร่งมาก เราจะทำแบบขอไปทีไม่ได้” ไอซ์เบิร์กกำชับ
“ค่ะ”
เมื่อแคลิเฟอร์เดินออกไป เขาก็พบว่าร็อบ ลุจจิหายตัวไปแล้ว “เจ้าหมอนั่น ไปเร็วจริง ฉันต้องการบอกเขาเรื่องนี้ก่อน ได้แต่หวังว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนของเรา”
เมื่อแคลิเฟอร์มาถึงประตูทางเข้าคฤหาสน์ สิ่งแรกที่เธอเห็นคือรอนที่ถูกรุมล้อมไปด้วยสาวสวย
รอนมองไปที่แคลิเฟอร์ แน่นอนว่าเธอเป็นหญิงสาวรูปงาม
“สวัสดีค่ะ คุณรอนใช่ไหม?” แคลิเฟอร์เดินไปหาเขาแล้วพูดอย่างสุภาพให้กับทุกคน จากนั้นก็พูดกับรอนต่อ “คุณรอนคะ ฉันจะเป็นคนพาคุณขึ้นไปเองค่ะ”
“ไปกันเถอะ” รอนพยักหน้า ตอนนี้เขาไม่สามารถจ้องแคลิเฟอร์ได้นานนัก เพราะมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาต่อผู้หญิงบนเรือเสียหาย
แน่นอนว่าพอพวกนามิเห็นว่ารอนไม่ได้จ้องมองแคลิเฟอร์มากนัก พวกเธอเลยไม่ได้คิดอะไรมากและชื่นชมรอนในใจ
เมื่อเขามาถึงห้องทำงานของไอซ์เบิร์ก อีกฝ่ายก็ได้ทักทายเขาก่อน อย่างไรก็ตาม ตัวตันของรอนไม่ใช่ธรรมดา และแม้ว่าไอซ์เบิร์กจะไม่ได้ลงไปข้างล่างเพื่อรับพวกเขาก่อน แต่พอเข้ามาหลังประตูซึ่งไม่มีคนอื่น ไอซ์เบิร์กก็ไม่รังเกียจที่จะเอ่ยทักทายเป็นคนแรก
“คุณรอน ยินดีต้อนรับสู่เมืองวอเตอร์ เซเว่น” ไอซ์เบิร์กยิ้มแล้วมองไปที่รอน จากนั้นก็มองไปที่สาว ๆด้านหลังของอีกฝ่าย “ยินดีต้อนรับสาวสวยทุกคนด้วย”