ตอนที่แล้วตอนที่ 81 : ออกเดต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 83 : กินฟรี

ตอนที่ 82 : การเปลี่ยนแปลงของฉินเสี่ยวเทา


ในตอนที่คนในหอพักของฉินหยุนกำลังพูดคุยกัน ขณะเดียวกันคนในหอพักทางฝั่งของผู้หญิงอย่างเจียงอี ก็กำลังมองไปที่ด้านหลังของฉินหยุนเช่นกัน

"ฉินหยุนมีเพื่อนร่วมชั้นมอปลายที่สอบเข้ามหาลัยเจียงหยวนได้เหมือนกันด้วย"

"แถมเธอยังดูสวยมาก"

จ้าวชิงและคนอื่นๆกล่าวด้วยความประหลาดใจ

หลังจากกล่าวจบ พวกเธอก็มองไปที่หลินเมิ่งเมิ่งอีกครั้ง ซึ่งพวกเธอรู้ว่าหลินเมิ่งเมิ่งดูเหมือนจะสนใจฉินหยุน แต่ในแง่ของรูปลักษณ์หลินเมิ่งเมิ่งนั้นด้อยกว่าเซียวหลานอย่างเห็นได้ชัด

ในเวลานี้หลินเมิ่งเมิ่งก็กำลังจ้องมองไปที่เงาร่างที่เดินจากไปของทั้งคู่เช่นกัน หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที

ไม่น่าแปลกใจที่ฉินหยุนไม่ได้ส่งข้อความมาหาเธอ ไม่คิดว่าเขาจะมีเพื่อนร่วมชั้นมอปลายที่สวยขนาดนี้

"เมิ่งเมิ่ง ไม่ต้องเสียใจไปหรอก มหาลัยเพิ่งเริ่มเปิดเอง ยังมีผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอีกมากมาย แถมฉินหยุนเขาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก เขาแค่ดูสูงและหล่อขึ้นนิดหน่อยเอง" เมื่อเจียงอีเห็นท่าทางที่เศร้าสร้อยของหลินเมิ่งเมิ่ง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวปลอบเธอ

"พี่สาวอีอี ฉันไม่ได้เสียใจสักหน่อย"

หลินเมิ่งเมิ่งรู้สึกอายเล็กน้อยกับคำกล่าวของเจียงอี เธอจึงส่ายหัวปฏิเสธ

แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเธอเพิ่งได้พบกับฉินหยุนเพียงไม่กี่ครั้ง และก็เป็นไปไม่ได้ที่ระหว่างทั้งสองจะมีความรู้สึกลึกซึ้งใดๆเกิดขึ้น แต่เมื่อได้รู้ว่าฉินหยุนมีเพื่อนร่วมชั้นมอปลายที่สวยมาก เธอก็ยังรู้สึกผิดหวังอยู่ดี

...

"ฉินหยุน ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอนายทันทีที่ส่งข้อความไปหา" เซียวหลานเดินอยู่บนถนนพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

"ฉันไปรับชุดฝึกทหารมาพอดีน่ะ" ฉินหยุนยิ้มและกล่าวว่า "เธอเพิ่งกลับมาที่มหาลัยงั้นเหรอ"

"ใช่" เซียวหลานพยักหน้าและกล่าว "พ่อกับแม่ของฉันเพิ่งกลับไปที่เขตชิงอู๋"

เมื่อพวกเขาเดินมาถึงด้านข้างของ ถนนนอกมหาลัย ฉินหยุนก็โบกมือและรถแท็กซี่ก็ขับมาจอดด้านหน้าของพวกเขา

"ฉันจะพาเธอไปดูร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนที่ฉันเปิด"

20 นาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึงที่หมาย

หลังจากลงจากแท็กซี่ ฉินหยุนก็เห็นฉินเสี่ยวเทา ซึ่งในเวลานี้เขากำลังคุยกับจ้าวเทียนเฉียงอยู่

ฉินเสี่ยวเทาไม่ได้ทำงานอยู่ภายในร้านขายเสื้อผ้าแล้ว ฉินหยุนมอบหมายหน้าที่ให้เขาทำอยู่สองอย่างเป็นหลัก งานแรกคือการหาที่ตั้งร้านค้าแห่งใหม่ในที่ต่างๆภายในเมืองจินหลิง

ตอนนี้ในวันที่ 1 ของทุกเดือน ฉินหยุนจะได้รับค่ายกลรวบรวมโชคชาภ 3 จุด ซึ่งมีทั้งค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งและระดับที่สอง การเตรียมการทั้งหมดสำหรับการเปิดร้านสาขาใหม่จะต้องดำเนินการล่วงหน้า

ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งจะสอดคล้องกับร้านค้าขนาด 40 ตารางเมตร สำหรับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง ฉินหยุนจะใช้พื้นที่ระหว่าง 200 ตารางเมตรถึง 250 ตารางเมตร

หลังจากที่เจอทำเลที่เหมาะสมแล้ว ฉินเสี่ยวเทาก็ต้องคุยกับจ้าวเทียนเฉียงต่อ และทั้งสองคนก็จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ร่วมกัน

สำหรับอีกงาน เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการขนส่งเสื้อผ้าจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนที่เขตชิงอู๋ มายังเมืองจินหลิง

ตอนนี้ภายในร้านขายเสื้อผ้า มีเสื้อผ้าจำนวนมากที่ถูกขายออกไปในทุกๆวัน ดังนั้นเสื้อผ้าจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่เขตชิงอู๋จะต้องจัดส่งมาที่นี่ในทุกสองถึงสามวัน

ฉินเสี่ยวเทาทำสองหน้าที่นี้เป็นหลัก ส่วนจ้าวเทียนเฉียงก็รับผิดชอบหน้าที่นี้เช่นกัน แต่หน้าที่หลักของเขาคือการตรวจสอบสิ่งต่างๆ

ตอนนี้ฉินเสี่ยวเทาดูไม่ได้ดูเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว ปัจจุบันเขามีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อพูดคุยกับจ้าวเทียนเฉียง

"บอสฉิน" เมื่อเห็นฉินหยุนกำลังเดินเข้ามา ฉินเสี่ยวเทาและจ้าวเทียนเฉียงก็เดินเข้าไปทักทาย

เพราะยังอยู่ในร้าน ฉินเสี่ยวเทาจึงไม่ได้เรียกฉินหยุนเหมือนตอนปกติ

"ผู้จัดการจ้าว ในร้านเป็นยังไงบ้าง?" ฉินหยุนมองไปที่จ้าวเทียนเฉียงแล้วเอ่ยถามออกมา

"บอสฉินครับ ทุกอย่างในร้านเป็นปกติ และพนักงานที่เรารับสมัครมาใหม่ก็เริ่มทำงานกันแล้ว" เมื่อมองไปที่เซียวหลานที่อยู่ข้างๆฉินหยุน จ้าวเทียนเฉียงก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรมาก แต่กล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ในร้านให้ฉินหยุนฟังเล็กน้อย

ในเวลานี้จ้าวเทียนเฉียงรู้สึกตื่นเต้นมาก ในวันที่ 1 กันยายน พวกเขาเริ่มเปิดร้านกันตอนที่เวลา 12.00 น. และยอดขายรวมของร้านเสื้อผ้าทั้งสามสาขาก็ได้เกือบ 100,000 หยวน!

ส่วนวันที่ 2 ธุรกิจของร้านยังคงเฟื่องฟู แต่เนื่องจากไม่มีส่วนลด 10% ยอดขายโดยรวมต่อชั่วโมงจึงน้อยกว่าวันแรกเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม วันที่ 2 นั้นพวกเขาเปิดร้านกันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม

ตลอดทั้งวัน ยอดขายของร้านเสื้อผ้าสาขาถนนย่านการค้านั้นอยู่ที่ 80,000 กว่าหยวน ส่วนอีกสองร้านมียอดขายประมาณ 14,000 หยวนเท่าๆกัน

และยอดขายของทั้งสามสาขารวมกันทั้งหมดคือ 110,000 หยวน!

นี่มันคือสุดยอดปาฏิหาริย์แห่งการขายชัดๆ ยอดขายมากขนาดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยร้านเสื้อผ้าสามร้านที่มีพื้นที่รวมกันแค่ 280 ตารางเมตรเท่านั้น!

"เอาล่ะ ผู้จัดการจ้าว คุณจัดการธุระตามสบายเลย" เขาพยักหน้าและกล่าวอีกสองสามคำ จากนั้นฉินหยุนก็บอกให้จ้าวเทียนเฉียงไปจัดการงานของเขา

หลังจากที่จ้าวเทียนเฉียงเดินออกไป ฉินหยุนก็แนะนำเซียวหลานให้รู้จักฉินเสี่ยวเทา และก็กล่าวว่า "นี่คือลูกพี่ลูกน้องของฉัน ฉินเสี่ยวเทา"

"สวัสดีค่ะ" เซียวหลานยิ้ม

ฉินเสี่ยวเทาก็รีบทักทายกลับ เขามองไปที่เซียวหลาน รู้สึกเพียงแค่ว่าเซียวหลานสวยมาก ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ามองนานนัก

"พี่เสี่ยวเทา อยู่ที่นี่พี่รู้สึกเป็นไงบ้าง มีตรงไหนไม่โอเคไหม" ฉินหยุนเอ่ยถาม

"ไม่เป็นไรเสี่ยวหยุน ฉันสบายดี"

ฉินเสี่ยวเทาเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมา จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "ถึงตอนนี้จะมีเรื่องที่ยังไม่ค่อยเข้าใจมากนัก แต่ผู้จัดการจ้าวก็ค่อยๆสอนฉันอยู่"

เงินเดือนที่ฉินหยุนให้เขาเขาคือ 7,000 หยวนต่อเดือน ถึงมันจะไม่ได้มากเท่ากับของผู้จัดการร้านสาขาใหญ่ แต่มันก็สูงกว่าที่เขาเคยได้รับมาก่อนหน้านี้มาก ดังนั้นในใจของเขาจึงรู้สึกพอใจกับมันมาก

แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่เข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง แต่จ้าวเทียนเฉียงก็คอยช่วยเขาอยู่เสมอ เขาจึงรู้สิ่งต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ

เขารู้ว่านี่คือโอกาสเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ฉินหยุนมอบให้กับเขา

ในช่วงเวลาสั้นๆ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาเติบโตขึ้นมาก

หลังจากพูดคุยกับฉินเสี่ยวเทาอีกสองสามคำ ฉินหยุนก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก แต่เขาพาเซียวหลานเดินดูทั่วร้านเสื้อผ้า

ในเวลานี้ฉินเสี่ยวเทาก็ไม่ได้อยู่ในร้านแล้ว เขาขึ้นรถบัสและกำลังจะไปดูที่ตั้งร้านสาขาใหม่ที่ต่อไป

ขณะที่นั่งอยู่ในรถ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ค้นหาชื่อ และกดส่งข้อความ "เธอว่างอยู่ไหม?"

หลังจากกดส่งข้อความ ฉินเสี่ยวเทาก็รอข้อความตอบกลับ เขาตรวจสอบวีแชตเป็นครั้งคราวเพื่อดูว่ามีข้อความส่งเข้ามาหรือไม่

หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที ในที่สุดเสียงแจ้งเตือนวีแชตก็ดังขึ้น

ฉินเสี่ยวเทาเปิดแชทข้อความในวีแชตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

‘ตอนนี้ฉันทำงานอยู่’ มีเพียงไม่กี่คำในข้อความที่ส่งมา

เมื่อเห็นข้อความ สีหน้าของฉินเสี่ยวเทาก็เปลี่ยนเป็นดีใจทันที และเขาพิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

...

เมื่อเดินอยู่ในร้านพลางมองไปที่ลูกค้าที่กำลังเลือกดูเสื้อผ้าอยู่ในร้าน เซียวหลานก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า "ฉินหยุน ร้านของนายธุรกิจดีเกินไปไหมเนี่ย"

ขณะนี้ภายในร้านขายเสื้อผ้ามีลูกค้าอยู่มากกว่า 30 คน ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้เห็นฉากนี้ในร้านขายเสื้อผ้าแห่งอื่นๆ

"ฉันรู้สึกว่านายต้องได้รับการจ้องมองจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่อยู่ด้านบนแน่นอน" เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

ฉินหยุนยิ้มและไม่ได้ต่อประเด็นนี้ แต่เอ่ยถามว่า "ร้านบาร์บีคิวที่เธอเปิดที่เขตชิงอู๋เป็นไงบ้าง?"

ร้านนั้นถูกเปิดโดยเซียวหลานเอง แต่ตอนนี้เธอมาที่นี่เพื่อเรียนต่อมหาลัย

ร้านค้าทั้งหมดที่เขาเปิดในเขตชิงอู๋นั้น ถูกส่งมอบให้กับพี่สาวของเขาดูแล ส่วนเซียวหลานก็อาจจะส่งมอบให้กับครอบครัวของเธอดูแลต่อเช่นกัน

"ปิดแล้ว"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวหลานก็แสดงสีหน้าไร้หนทางพลางกล่าวว่า "ถ้าเปิดต่อไป ร้านบาร์บีคิวนั่นก็จะเสียเงินไปเปล่าๆ ดังนั้นฉันจึงปิดมันหนึ่งวันก่อนที่ฉันจะมาที่นี่"

เธอเปิดร้านด้วยความกระตือรือร้นอย่างมาก น่าเสียดายที่ต้องปิดมันหลังจากเปิดได้แค่สองเดือน ดังนั้นเธอจึงอยากรู้อยากเห็นอย่างมากว่าทำไมธุรกิจร้านเสื้อผ้าของฉินหยุนนั้นถึงร้อนแรงอยู่ตลอด

เพราะเธอเคยเปิดร้านมาก่อน เธอจึงรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะทำให้ร้านได้รับความนิยมเช่นนี้

"ปิดกิจการแล้วงั้นเหรอ?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็ผงะ แต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรมาก

หลังจากเปิดร้านมาประมาณสองเดือน คาดว่าเซียวหลานคงจะเสียเงินอย่างน้อยหลายหมื่นหยวน

แน่นอน ครอบครัวของเธอไม่ได้ขาดแคลนเงิน ดังนั้นพวกเขาอาจไม่สนใจเกี่ยวกับการขาดทุนในครั้งนี้

(จบตอน)

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด