ตอนที่แล้วตอนที่ 79 : หยูเล่อเหยา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 81 : ออกเดต

ตอนที่ 80 : ที่ทำงานใหม่ของจางฉินเยว่


"เอาล่ะ ตอนนี้ก็ถือว่าทุกคนได้รู้จักกันแล้ว เราจะเริ่มรับชุดที่ใช้ในการฝึกทหารในวันพรุ่งนี้ ซึ่งการฝึกทหารจะเริ่มขึ้นในวันมะรืน และการประชุมชั้นเรียนของเราในวันนี้เราจะทำการเลือกหัวหน้าชั้นกัน นักศึกษาที่ต้องการเป็นหัวหน้าชั้นเรียนสามารถลงสมัครได้ แต่ผู้ที่ได้รับเลือกจะได้ตำแหน่งหัวหน้าชั้นแค่ชั่วคราวก่อน ดังนั้นทุกคนยังไม่จำเป็นต้องจริงจังมาก" เจียงเล่ยก้าวขึ้นไปบนโพเดียมอีกครั้งและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้น เหล่านักศึกษาที่มีความคิดนี้อยู่ในใจก็มาที่เวทียกสูงและเริ่มหาเสียง

การเป็นหัวหน้าชั้นเรียนในตอนที่อยู่มหาลัย ไม่เพียงแต่เป็นการฝึกฝนตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อหน่วยกิตในอนาคต การเข้าพรรค และอื่นๆอีกด้วย

"สวัสดีทุกคน ฉันก็จะลงสมัครเป็นหัวหน้าชั้นเรียน..."

สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ หยูเล่อเหยาซึ่งมีคะแนนเป็นอันดับ 1 และหน้าตาสวยงามก็ไปที่บนเวทีด้วยเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าเธอก็จะลงสมัครรับตำแหน่งหัวหน้าชั้นเรียนด้วย

"พี่จ้าว แย่แล้ว หยูเล่อเหยาก็ลงสมัครด้วย นายแทบไม่มีหวังที่จะได้เป็นหัวหน้าชั้นเลยนะ" เฉิงต้าสงที่นั่งถัดจากจ้าวคังฮ่าวอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา

การมีหน้าตาดีและได้คะแนนเป็นอันดับที่หนึ่ง ถือเป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่มาก

นอกจากนี้ จางเสี่ยวเยว่และคนอื่นๆก็ยังกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้หยูเล่อเหยาก็มาบอกเราว่าเธอต้องการทำหน้าที่หัวหน้าชั้นเรียน เธออยากให้เราสนับสนุนเธอ"

เห็นได้ชัดว่าพวกเธอน่าจะต้องลงคะแนนให้หยูเล่อเหยาแน่นอน เพราะพวกเธอตกลงกับหยูเล่อเหยาไปแล้ว

สิ่งนี้ยิ่งทำให้โอกาสชนะของจ้าวคังฮ่าวน้อยลงไปอีก

เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเธอกล่าว จ้าวคังฮ่าวก็โบกมือและกล่าวว่า "ไม่เป็นไร ตอนอยู่มอปลายฉันเคยเป็นหัวหน้าห้องมาก่อน ฉันยังมีข้อได้เปรียบอยู่ อีกอย่างตอนนี้ตำแหน่งนี้ก็เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น ในอนาคตฉันยังมีโอกาสแสดงความสามารถของฉันให้ทุกคนได้เห็น"

หลังจากที่หยูเล่อเหยาขึ้นเวทีเพื่อกล่าวคำปราศรัยจบแล้ว จ้าวคังฮ่าวก็ขึ้นเวทีต่อจากเธออย่างรวดเร็ว

จากนั้นทุกคนก็เริ่มลงคะแนนให้กับผู้สมัครแต่ละคน มีนักศึกษาทั้งหมด 4 คนที่ลงสมัครรับตำแหน่งหัวหน้าชั้นเรียน และในที่สุดการลงคะแนนก็ออกมา ซึ่งหยูเล่อเหยาได้คะแนนโหวตมากที่สุด ตามมาด้วยจ้าวคังฮ่าว

หลังจากนั้นที่ปรึกษาเจียงเล่ยก็ได้ประกาศว่าทั้งหยูเล่อเหยาและจ้าวคังฮ่าว จะได้เป็นหัวหน้าชั้นเรียนโดยรับผิดชอบฝ่ายผู้หญิงและผู้ชายตามลำดับ และหลังจากการฝึกทหารสิ้นสุดลงพวกเขาจะเริ่มการเลือกหัวหน้าชั้นกันใหม่อีกครั้ง

ตอนนี้ทุกคนยังไม่คุ้นเคยกัน แต่เมื่อการฝึกทหารที่กินเวลานานถึงสองสัปดาห์จบลง ถึงตอนนั้นทุกคนก็จะได้รู้ความสามารถของแต่ละคนกันแล้ว และการเลือกหัวหน้าชั้นหลังจากนั้นก็จะได้คนที่คู่ควรกับตำแหน่งจริงๆ

หลังจากคัดเลือกคณะกรรมการในชั้นเรียนเรียบร้อยแล้ว การประชุมชั้นเรียนครั้งแรกก็สิ้นสุดลง

...

ในพริบตาฉินหยุนก็อยู่ที่มหาลัยเป็นเวลาสองวันแล้ว

เซียวหลานพักอยู่ข้างนอกในช่วง 2 วันที่ผ่านมา และในตอนนี้พ่อกับแม่ของเธอก็ยังไม่ได้กลับไป ซึ่งพวกเขาวางแผนไว้ว่าจะกลับไปในวันที่ 3

ในเวลานี้เซียวหลานกำลังอยู่กับพ่อแม่ของเธอ รวมทั้งเซียวเฉียนเฉียนและคนอื่นๆด้วย

"พี่เฉียนเฉียน พี่สุดยอดเกินไปแล้ว ตอนนี้พี่ถึงกับทำธุรกิจขนาดใหญ่แบบนี้ได้เลย" เซียวหลานถอนหายใจ

ตอนนี้พวกเธอกำลังอยู่ในบริษัทขนาดใหญ่

นี่คืออาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ถึง 500 ตารางเมตร ซึ่งมีพนักงานเข้าออกเป็นจำนวนมาก

เมื่อเดินเข้าไปในบริษัท พนักงานทุกคนต่างก็เรียกเซียวเฉียนเฉียนว่า ‘ผู้อำนวยการเซียว’

เซียวเฉียนเฉียนยิ้มและเอ่ยว่า "ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพี่เขยของเธอสร้างขึ้นต่างหาก"

เธอมองไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเฝิงเทียนจวินกำลังพูดคุยกับคนหลายคน ราวกับว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องสำคัญบางอย่าง

เมื่อเห็นเฝิงเทียนจวินที่อยู่ในชุดสูทราวกับนักธุรกิจชั้นนำ พนักงานในบริษัทก็มองเขาด้วยสายตาชื่นชม

ถัดจากเซียวหลาน เซียวผิงจุนก็มองไปรอบๆและเอ่ยถามเซียวเฉียนเฉียนว่า "เฉียนเฉียน ธุรกิจของเทียนจวินเกี่ยวข้องกับสองอุตสาหกรรมใช่ไหม?"

"ใช่ค่ะคุณลุง"

เซียวเฉียนเฉียนพยักหน้าพลางกล่าว "ทั้งการออกแบบตกแต่งภายใน และอุตสาหกรรมการจัดเลี้ยง ขณะนี้มีบริษัทรับตกแต่งภายในขนาดใหญ่สามแห่งและร้านอาหารห้าแห่งภายใต้ชื่อของเทียนจวิน"

"สุดยอดไปเลย" เซียวผิงจุนพยักหน้าและเอ่ยคำชมเชยที่หาได้ยากออกมา

กว่าจะมาถึงระดับนี้ได้กลับใช้เวลาเพียงแค่สามปีเท่านั้น หายากนักที่จะมีคนหนุ่มที่โดดเด่นเช่นนี้ปรากฏตัวออกมาให้เห็นบ่อยๆ

"ไม่ใช่แค่เทียนจวินเท่านั้น แต่เฉียนเฉียนเองก็น่าทึ่งด้วยเช่นกัน" เหวินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม "เพราะเฉียนเฉียนกับเทียนจวินช่วยกัน จึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้"

เธอมองไปที่ลูกสาวของเธอแล้วกล่าวว่า "หลานหลาน ดูสิว่าเฉียนเฉียนพี่สาวของลูกมีความสามารถขนาดไหน ลูกต้องตั้งใจเรียนจะได้เป็นแบบพี่เขา"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวหลานก็กลอกตาและกล่าวว่า "หนูเข้าใจแล้ว แม่พูดประโยคนี้ไปหลายรอบแล้วนะ"

"เด็กคนนี้นี่" เหวินหยุนมองเซียวเฉียนเฉียนอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเธอก็กล่าวว่า "เฉียนเฉียน เป็นเพราะหลานหลานถูกพวกเราตามใจจนนิสัยเสีย เธอค่อนข้างไร้เดียงสา ตอนอยู่ในมหาลัยหนูก็ช่วยดูแลน้องหน่อยนะลูก"

เซียวเฉียนเฉียนยิ้มและพยักหน้า ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เฝิงเทียนจวิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลก็เดินเข้ามา

"เสร็จแล้วเหรอ?"

เมื่อมองไปที่เฝิงเทียนจวิน เซียวเฉียนเฉียนก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม สายตาของเธอหันไปหาผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆเขา

ในเวลานี้ เหวินหยุนก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยเช่นกัน "เทียนจวิน นี่คือใครงั้นเหรอ?"

เฝิงเทียนยวินพยักหน้าให้เซียวเฉียนเฉียน จากนั้นผายมือไปที่ผู้หญิงข้างๆเขาจากนั้นก็กล่าวว่า "คุณลุง คุณป้าครับ นี่คือคุณจางฉินเยว่ ซึ่งเธอเคยเป็นผู้จัดการของ Anta สาขาซูโจวมาก่อน ตอนนี้ผมกำลังจะเข้าไปมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและคุณจางฉินเยว่จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของเรา"

"รองผู้จัดการ Anta สาขาซูโจว?" เมื่อมองไปที่ผู้หญิงวัยสามสิบที่อยู่ด้านหน้า ทั้งเซียวผิงจุนและเหวินหยุน ทั้งคู่ต่างก็ประหลาดใจ

นี่คือผู้นำระดับสูงที่แท้จริงของบริษัทขนาดใหญ่ ผลกำไรต่อปีของบริษัท Anta อยู่ที่ระดับพันล้านหยวน ยอดขายรวมมากถึงหลายหมื่นล้าน และพวกเขายังเปิดสาขาในต่างประเทศอีกมากมายด้วย

ในการเปรียบเทียบกันแล้ว โรงงานเครื่องจักรเหิงจุนนั้นเทียบกับ Anta ไม่ได้เลยสักนิด

ถึงแม้ว่าโรงงานเครื่องจักรเหิงจุนจะมีขนาดใหญ่มาก แต่โดยพื้นฐานแล้วอิทธิพลของโรงงานจำกัดอยู่แค่บริเวณโดยรอบของเขตชิงอู๋ เมืองอู๋ซื่อเท่านั้น

"เทียนจวิน เธอจะก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเสื้อผ้างั้นเหรอ?" เซียวผิงจุนเอ่ยถาม

"ครับคุณลุง"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฝิงเทียนจวินก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า "ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน อาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย และการขนส่ง ก็เป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับทุกคนอยู่เสมอ ตราบใดที่เราทำได้ดี ตลาดก็จะมีที่สำหรับเราแน่นอน "

เฝิงเทียนจวินกล่าวด้วยสีหน้าที่มั่นใจ

บริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในและร้านอาหารที่เขาเปิด เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและอาหาร มันคือสิ่งที่จำเป็นต่อพื้นฐานของการดำรงชีวิต ซึ่งเขาก็ทำได้ดีใน 2 ด้านนี้ และตอนนี้เขากำลังเริ่มที่จะก้าวไปสู่ด้านเสื้อผ้าแล้ว

เขาได้เซ็นสัญญากับจางฉินเยว่เรียบร้อยแล้ว และร้านเสื้อผ้าในเครือของบริษัทที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ของเขา จะจัดสรรหุ้น 10% ให้กับจางฉินเยว่

เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาไม่ลังเลเลยสักนิด ตราบใดที่จางฉินเยว่สามารถสร้างผลกำไรให้เขาได้มากพอ การที่เขาแบ่งหุ้นออกไปถือว่าคุ้มค่าโดยสิ้นเชิง

แน่นอน เขายังตั้งเงื่อนไขไว้ว่าถ้าจางฉินเยว่สร้างผลกำไรได้ไม่เพียงพอตามที่ตกลงกัน ข้อตกลงในการแบ่งปันหุ้นจะถือว่าเป็นโมฆะโดยทันที

"อุตสาหกรรมเสื้อผ้า?" เมื่อได้ยินบทสนทนาระหว่างเซียวผิงจุนและเฝิงเทียนจวิน เซียวหลานก็นึกถึงฉินหยุนขึ้นมาทันที

ตอนนี้ฉินหยุนไม่เพียงแต่เปิดร้านขายเสื้อผ้าแค่ในเขตชิงอู๋เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในเมืองจินหลิงอีกด้วย

ระหว่างการสนทนาทางวีแชตเมื่อสองวันก่อน เธอยังขอให้ฉินหยุนพาเธอไปที่ร้านของเขาอยู่เลย แต่ในสองวันนี้เธอกลับไม่มีเวลาว่างเลย

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเฝิงเทียนจวิน เซียวผิงจุนก็ยิ้มและกล่าวว่า "ใช่แล้ว ถึงยังไงอุตสาหกรรมเสื้อผ้าก็อยู่ยงคงกระพัน"

เขากล่าวชมอีกสองสามคำ

หลังจากเยี่ยมชมบริษัทกันเสร็จแล้ว เซียวผิงจุนก็มองไปที่เซียวเฉียนเฉียน จากนั้นก็กล่าวว่า "เฉียนเฉียน ป้าสะใภ้กับลุงอยู่ที่นี่มาสองสามวันแล้ว ตอนนี้ได้เวลาที่พวกเราต้องกลับกันแล้ว"

"ลุงรองกับป้าสะใภ้รองเพิ่งมาที่จินหลิงได้ไม่กี่วันเอง ทำไมไม่อยู่ต่ออีกสักสองสามวันล่ะคะ?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเฉียนเฉียนก็กล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว

"คงไม่ล่ะ"

เซียวผิงจุนส่ายหัวและกล่าวว่า "ยังมีสิ่งต่างๆในโรงงานที่ต้องจัดการอีกมาก แถมหลานหลานก็ต้องหัดเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวบ้าง พวกเราไม่สามารถอยู่กับเธอได้ตลอดเวลาหรอก เมื่อเราไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ลุงรองหวังว่าหนูจะช่วยดูแลเธอด้วยนะ"

เซียวเฉียนเฉียนพยักหน้าและกล่าวว่า "หลานหลานก็เป็นน้องสาวของหนู หนูจะดูแลเธออย่างดีแน่นอน"

ข้างๆเธอ เซียวหลานรู้สึกทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อย แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

"หลานหลาน ลูกต้องตั้งใจเรียนให้ดี ถ้ามีเวลาว่างลูกก็มาหาพี่เฉียนเฉียนให้มากหน่อยนะ" เหวินหยุนยังคงเอ่ยเตือนเธอ

"ค่ะแม่ หนูเข้าใจแล้ว" เซียวหลานรู้สึกทนไม่ได้กับการจู้จี้ของเหวินหยุนเล็กน้อย เธอจึงพยักหน้าและรีบตอบกลับ

"เอาล่ะๆ หลานหลานรู้ดีว่าต้องทำยังไง" ถัดจากเธอ เซียวผิงจุนก็กล่าวขึ้น

เขามองไปที่ลูกสาวของเขา จากนั้นก็กล่าวว่า "หลานหลาน พ่อจะโทรมาหาอย่างช้าที่สุดสองวัน หลังจากที่ลูกกลับมหาลัยแล้วนะ"

"เข้าใจแล้วค่ะพ่อ" เซียวหลานพยักหน้า

ในที่สุดเซียวหลานก็ไล่เหวินหยุนออกไปจากจินหลิงได้สักที

แม้ว่าเธอจะเกลียดการจู้จี้จุกจิกของแม่เมื่อตอนที่อยู่ด้วยกัน แต่เซียวหลานก็ยังลังเลเล็กน้อยเมื่อต้องส่งเหวินหยุนกลับไปจริงๆ

ข้างๆเธอ เซียวเฉียนเฉียนก็กำลังมองดูรถขับออกไป หลังจากที่รถหายไปจากสายตา เธอก็หันไปมองเซียวหลานแล้วเอ่ยถาม "หลานหลาน ตอนนี้เธอจะไปไหนต่อ? จะกลับบ้าน หรือจะรออยู่ในบริษัทสักพักดี?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้เซียวหลานก็โบกมือปฏิเสธ จากนั้นจึงกล่าวว่า "ไม่ค่ะพี่เฉียนเฉียน หนูยังมีบางอย่างที่ต้องทำที่มหาลัย"

เธอกับเซียวเฉียนเฉียนอายุห่างกันสามปี และตอนเด็กๆพวกเธอก็เติบโตมาด้วยกัน อันที่จริงเซียวหลานชื่นชมเซียวเฉียนเฉียนลูกพี่ลูกน้องของเธอมาก แถมตอนเด็กๆเธอยังชอบเล่นกับเซียวเฉียนเฉียนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเธอโตขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

ความรู้สึกของเซียวหลานตอนนี้ เธอไม่ต้องการอยู่กับเซียวเฉียนเฉียน

เพราะตั้งแต่ตอนมอปลาย ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ซึ่งแก่กว่าเธอเพียงสามปีและดีกว่าเธอแทบทุกด้าน เมื่อตอนที่อยู่กับเธอก็เริ่มทำตัวเหมือนกับคนที่อยู่สูงกว่า และปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นคนที่ต่ำกว่า ซึ่งเธอไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย

(จบตอน)

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด