ตอนที่ 150 ล้อเล่นกับจิตวิญญาณพฤกษาตัวน้อย
ตอนที่ 150 ล้อเล่นกับจิตวิญญาณพฤกษาตัวน้อย
"เอาละ ไปกันเถอะ"
ด้วยเสียงตะโกนที่ดังสนั่นเหล่า และกลุ่มราชันก็ออกเดินทาง
มันเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมากกว่า 1000 คน มากกว่าครึ่งเป็นราชันจากหลายอาณาจักร รวมกลุ่มๆ 2 3 คน
ดูเหมือนพวกเขาจะคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ดีอยู่แล้ว
มีเพียงราชันหน้าใหม่เพียงไม่กี่คน รวมทั้งหลิน ยู ที่มองไปยังรอบๆ ด้วยความไม่สบายใจ เพราะกลัวว่าจู่ๆ ศัตรูจะโผล่มาด้านข้าง
ที่ด้านหน้าของกองกำลัง
นอกจากผู้บัญชากรที่รับผิดชอบในการเป็นผู้นำแล้วนั้น ยังมีชายหนุ่มรูปงามขี่สัตว์ร้ายสายฟ้า มันมีสายฟ้าอยู่รอบตัว
เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนั้นอยู่เพียงแค่ระดับ 6 เท่านั้น แต่ผู้บัญชาการให้ความเคารพต่อเขาอย่างมากราวกับเขานั้นอยู่ตำแหน่งที่ต่ำกว่า
ตัวตนของชายหนุ่มคนนั้นต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
"คนๆนั้น ทำไมผู้บัญชาการเคารพเขาขนาดนั้นกัน"
ในตอนนั้นเอง ราชันที่อยู่ข้างๆ ก็ตอบหลิน ยู ถึงความสงสัยในใจเขา
"น้องชาย นายเพิ่งมาถึงที่นี้งั้นเหรอ ถึงได้ไม่รู้จัก ฉิน ลี่ ด้วยซ้ำ องค์ชาย 3 แห่งอาณาจักรโถงสวรรค์"
"นั้นคือบุตรชายของกัษตริย์เทียนฉง เขาไม่ใช่ราชันธรรมดาที่พวกเราจะไปเทียบได้"
"ว่ากันว่านอกจากนำกองกำลังกวาดล้างมอนสเตอร์โกลาหลในครั้งนี้แล้ว ผู้บัชญาการยังมีภารกิจปกป้ององค์ชาย 3 อีกด้วย"
"บัดซบ! มีองครักษ์เป็นราชันระดับ 8? นี้มันไม่เกินไปหน่อยงั้นเหรอ"
"จะทำอะไรได้ละ ใครให้พ่อของเขาเป็นกษัตริย์กันละ? ไม่ต้องพูดถึงระดับ 8 ต่อให้เป็นระดับ 10 ก็มีหลายคนที่อยุ่ภายใต้กษัตริย์เทียนฉง"
"แต่ข้านั้นได้ยินมาว่าองค์ชายสามไม่ได้รับสืบทอดเผ่าเทวดามาจากจักรพรรดิ ทำให้ไม่เป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิ จึงถูกส่งมาที่นี้!"
"ชู่! เงียบ นายอยากตายงั้นเหรอ?"
เหล่าราชันต่างเงียบเหมือนกระต่ายที่ตื่นกลัว เพราะกลัวว่าเหล่าองครักษ์ด้านหน้าจะได้ยินบทสนทนาของพวกเขา
เมื่อเห็นแบบนี้ หลิน ยู ที่อยู่ด้านข้างก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิดทันที
หมายความว่าเมื่อราชัน 2 คนมีอะไรกันพวกเขาก็จะสามารถกำเนิดลูกออกมาเป็นราชันได้ อีกทั้งมันยังจะสู่มสืบทอดเผ่าทหารจากพ่อหรือแม่ หรืออาจจะกลายพันธุ์เป็นเผ่าอื่นก็ได้
จากนั้นพวกเขาจะเริ่มบ่มเพาะจิตวิญญาณตั้งแต่วัยเยาว์
จนกว่าวิญญาณของพวกเขาจะโตเต็มที่ เขาจะตื่นขึ้นในดินแดนและค่อยๆเพิ่มระดับเหมือนราชันทั่วไป
แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนด้วยระดับการบ่มเพาะของจิตวิญญาณ ทำให้อายุที่พวกเขาจะตื่นก้ต่างกัน
บางคนตื่นขึ้นมาตอนอายุ 20 บางคนตื่นขึ้นมาตอนอายุ 17 หรือ 18
หลิน ยู ยังได้ยินมาอีกว่าเมื่อโลกล่มสลาย เหล่าเด็กและคนชราที่ความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณไม่ถึงเกณฑ์จะถูกส่งไปยังที่อื่น
ส่วนที่นั้นจะเป็นแบบไหนนั้นไม่อาจทราบได้
บางที่เมื่อความแข็งแกร่งของเขาไปถึงระดับหนึ่ง ตอนนั้นเขาอาจจะสามารถรับรู้ความลับที่อยู่เบื้องหลังโลกใบนี้ได้อย่างแท้จริง
"ทุกคนจงฟัง เตรียมตัวออกจากเมือง"
ในขณะนั้นมี เสียงตะโกนดังออกจากผู้บัญชาการดังมาจากด้านหน้า ขัดจังหวะความคิดเขาอีกครั้ง
เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นว่ากองกำลังกำลังเดินผ่านประตูออกจากเมืองที่ห้อมล้อมด้วยกำแพงเวทย์อย่างช้าๆ ออกไปด้านนอกเมือง
เหล่าราชันที่อยู่รอบๆ เริ่มไปประจำแหน่งของตนเอง
ผ่านไปซักพักดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างทันที
กองกำลังประเภทต่างๆค่อยๆทยอยปรากฏขึ้น ขยายออกมาเป็นหลายทัพ
หลังจากนั้นในทันที เสียงเตือนก็ดังขึ้นในหัวของ หลิน ยู
[โปรดทราบในขณะนี้ ท่านกำลังออกจากเมืองหลัง จะสูญเสียการป้องกันจากกฏของเมือง]
มันกลายเป็นว่าเขากำลังออกจากพื้นที่ปลอดภัย
หลิน ยู นั้นรู้อยู่แล้ว เขาเชื่อมต่อกับดินแดนของเขาทันทีผ่านการเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณ จากนั้นก็มีแสงสว่างวาบ หลิง ซี ตัวเล็กปรากฏขึ้นข้างๆเขา มันบินไปมาในอากาศ
สุดท้ายแล้ว ตอนนี้พวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกันแถมยังมีผู้บัญชาการระดับ 8 เป็นผู้นำ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเรียกทหารออกมาทั้งหมด
หลัง ซิ เพียงตัวเดียวก็เพียงแล้วในการรับมือกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับราชันคนอื่นๆ
โดยทั่วไปแล้วพวกเขา จะเรียกทหารที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาออกมาและติดตามไปไปรอบๆ
"พี่ช่าย ดูเหมือนทหารของท่านจะเป็นเผ่าพฤกษาใช่ไหม จิตวิญญาณพฤกษาเก่งกาจในด้านการรักษาไม่เก่งในการต่อสู้ใช่ไหม?"
ในตอนนั้นเอง ราชันระดับ 6 ที่อยู่ข้างๆ ก็สังเกตเห็นหลิง ซีที่บินอยู่ข้างหลิน ยู อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
หลิน ยู หันศรีษะของเขามองไปยังกริฟฟินระดับ 7 2 ตัวที่อยู่ข้างๆชายคนนั้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ใช่แล้ว ทหารของฉันเธอโจมตีได้เล็กน้อย ดังนั้นมันอาจจะพอช่วยได้"
"จริงหรือ?" ชายคนนั้นถามออกมาอย่างสงสัย
ทหารอย่างจิตวิญญาณพฤกษานี้ไม่ใช่ทหารที่แปลกอะไร ราชันหลายคนเคยเห็นมาก่อนรู้ว่าเธอความสามารถรักษาของเธอนั้นยอดเยี่ยม
แต่เมื่อพูดถึงความสามารถในการต่อสู้แล้ว
จิตวิญญาณพฤกษานั้นมีขนาดเล็กมากแถมมีสกิลโจมตีเดียวที่สามารถใช้ได้คืออัญเชิญปิศาจต้นไม้
แต้ไม่ว่าปิศาจต้นไม้จะทรงพลังมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถเอาชนะทหารระดับ 7 ที่แข็งแกร่งได้
ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะสงสัย
เหล่าราชันคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังเมื่อพวกเขาเห็นหลิง ซี พวกเขาก็เย้ยหยันออกมา เมื่อเทียบกับทหารของหลิน ยู พวกเขาก็รู้สึกว่าเหนือกว่าทันที
หลิน ยู เมินคนเหล่านี้ทันทีเขาสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบต่อไป
หลังจากออกมาจากเมืองหลัก พวกเขาก็ได้มาถึงสนามรบที่ไม่มีที่สิ้นสุด ที่ขยายออกมานอกเมืองสุดลูกหูลูกตา ไม่รู้ว่ามันจะขยายออกไปอีกไกลเท่าไร
บนท้องฟ้าสีเทา มีสายลมสีเทาพัดผ่าน ดวงอาทิตย์ 2 ดวงลอยอยู่บนท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ส่องแสงออกมาเป็นครั้งคราว ทำให้เหล่าผู้คนเริ่มหายใจไม่ออก
โดยไม่แน่ใจ เขาได้กลิ่นเลือดลอยมาจางๆในอากาศ เช่นเดียวกับกลิ่นดินปืน
แม้แต่พื้นที่โดยรอบก็ยังมีกระดูกคนตายอยู่ทั่วไปหมด
มีทั้งของมอนสเตอร์และมนุษย์
ที่นี้คือสนามรบแนวหน้า
สนามรบที่ทวีปดึกดำบรรพ์และโลกหยวนซาปะทะกัน
หลังจากกองกำลังออกจากเมืองหลังมาด้านนอก ในที่สุดผู้บัญชาการที่ด้านหน้าก็ยกดาบใหญ่ของเขาขึ้น
"เดินหน้าเต็มกำลัง"
ในชั่วพริบตา กองกำลังค่อยๆเร่งความเร็วของพวกเขาเข้าไปยังส่วนลึกของสนามรบ
เหล่าราชันในกองกำลังก็เชื่อมต่อกับดินแดนทำการเรียกทหารเคลื่อนที่ไวเพื่อตามในทันกองกำลัง
บ้างก็ขี่งู บ้างก็ขี่หมู บ้างก็ขึ้นไปอยู่บนไซครอป บ้างก็เป็นมนุษย์หิน
เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ทหารแปลกๆจากทุกเผ่า เหล่าสัตว์ขี่ของเหล่าราชัน ต่างพากันตะโกนก้องในสนามรบ แสดงความแข็งแกร่งของพวกมันออกมา ทุกคนต่างก็ต้องการเอาชนะราชันคนอื่นๆ
ราชันที่มีกริฟฟินระดับ 7 ที่อยู่ข้างๆเห็น หลิน ยู ยังยืนอยู่ตรงนั้น ก็คิดว่าเขาคงไม่มีทหารที่สามรถใช้เป็นยานพาหนะได้ ถ้าตะโกนถามเขาทันที "พี่ชาย ถ้าพี่ไม่ว่าอะไร อยากไปกับกริฟฟินของฉันไหม"
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นราชันที่มีจิตใจอบอุ่น
หลิน ยู ถอนสายตาออกและยิ้มให้กับเขา "ไม่เป็นไร ฉันจะไปพร้อมกับทหารของฉัน"
"งั้นเหรอ งั้นพี่ชายดูแลตัวเองด้วย แนวหน้าของสนามรบอยู่หางจากที่นี้ออกไปหลายร้อยกิโลเมตร ฉันไปก่อนนะ"
หลังจากพูดจบ ราชันสัตว์ร้ายก็ขึ้นไปที่กริฟฟินของเขาบินขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว ความเร็วของมันเร็วกว่า กองกำลังภาคพื้นดินระดับ 7 อยู่ 2 3 ส่วน
ใบหน้าของเขาค่อยๆแสดงความภาคภูมิใจออกมา เขาก้มศรีษะมองไปยังพื้นที่ด้านล่างมีกองกำลังข้างใหญ่กำลังวิ่งอยู่ด้านล่าง
"กร๊าซซซซ"
ในตอนนั้นเอง ก้มีเสียงคำรามของมังกรดังขึ้นมาด้านหลังของเขา
เสียงร้องแหลมสูงดังสนั่นออกมามันทำให้เขาตกใจเกือบตกจากหลังของกริฟฟอน
ราชันที่เพิ่งวิ่งออกมาพร้อมกับกองกำลังของพวกเขาก็ตกใจเช่นกัน พวกเขาหันกลับมาทีละคน
จากนั้นพวกเขาก็เห็น หลิน ยู ที่ยืนอยู่ที่เดิม มีมังกรพืชขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของเขา
ด้วยแรงกะพือปีกของมัน มันพา หลิน ยู ขึ้นไปบนท้องฟ้า ลมกระโชกอันน่าสะพรึงกลัว พัดอากาศโดยรอบทั้งหมดบิ้วเบี้ยวไปตามๆกัน
"นั้นมัน มังกร!!"
ราชันที่อยู่ด้านล่างอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
ไม่ต้องพูดถึงราชันที่มีกริฟฟิต ดวงตาของเขานั้นเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมาจากดวงตาของเขา
ด้วยขนาดที่ใหญ่โตและพลังที่น่าสะพรึงกลัวเหนือทหารทั่วไป
จะบอกว่าเขาขี่ภูเขาบินได้?
มันไม่ใช่เรื่องตลกซักนิด!
.
.
ตอนนี้ราชันกลายพันธุ์ VIP 3 (151-200) เปิดให้เข้าแล้วนะ
ติดตามได้ผ่านทาง Facebook : ราชันกลายพันธุ์ - นิยายแปลไทย