(ฟรี) บทที่ 465 ข้าจะให้เจ้าขี่มันด้วย
ภายใต้การจ้องมองของทั้งสอง ไข่มังกรเริ่มสั่นเล็กน้อย
“มันขยับได้ด้วย!” เซินฉินปิดปากอุทาน
ประตูและหน้าต่างในห้องปิดแน่น ไม่มีแผ่นดินไหวหรือลมแรง แต่ไข่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง
ฉากนี้ค่อนข้างแปลกอย่างสุดจะพรรณนา
หลี่หรานยิ้ม “มันไม่เพียงขยับได้ แต่ยังเปล่งแสงได้ด้วย”
“เปล่งแสง?”
เซินฉินพูดด้วยความประหลาดใจว่า “อย่างที่คาดไว้จากไข่มังกร มันแข็งแกร่งกว่าไข่อื่นๆ”
หลี่หราน: “……”
เขาเห็นว่าไข่มังกรสั่นเล็กน้อยในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานการสั่นสะเทือนก็ค่อยๆรุนแรงขึ้น
ภายใต้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดมันก็ล้มจากสภาพตั้งตรงและกลิ้งไปที่ขอบโต๊ะ
ขณะที่กำลังจะตกลงบนพื้น หลี่หรานก็ยื่นมือออกไปจับไว้
แต่มันไม่ยอมแพ้และยังคงดิ้นรนอย่างหนัก
เมื่อเห็นฉากนี้เซินฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย “มันกำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ?”
หลี่หรานมองไปที่ไข่มังกรและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าข้าเดาไม่ผิด มันคงต้องการหนี”
ตั้งแต่หนีจากเหลิงอู่เหยียน ไข่มังกรยังคงนิ่งและไม่มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก
ในตอนแรกหลี่หรานคิดว่าเป็นเพราะความโกลาหลก่อนหน้านี้ทำให้มันได้รับบาดเจ็บ
แม้ว่าจะเป็นไข่มังกร แต่มันก็ยังไม่ฟักออกมา ดังนั้นมันควรจะค่อนข้างบอบบาง
แต่ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เสียงคำรามของมังกรสองสามครั้งเมื่อวานนี้เต็มไปด้วยพลังอย่างเห็นได้ชัด ทำไมพวกมันถึงเหี่ยวเฉาหลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วยาม?
นั่นคือเหตุผลที่เขาพูดคำเหล่านั้นโดยตั้งใจเพื่อกระตุ้นมัน
กลายเป็นว่าเจ้าเด็กนี่แกล้งตาย!
“เจ้านี่ไม่ซื่อสัตย์จริงๆ” หลี่หรานส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
โฮก!
เสียงคำรามอู้อี้ดังมาจากเปลือกไข่ และไข่มังกรก็สั่นอย่างแรง
ราวกับจะแสดงความไม่พอใจ
แม้มันจะไม่รู้ว่า “โปรตีน” หมายถึงอะไร แต่ก็ยังเข้าใจความหมายของ “ไข่มังกรต้ม”
ผู้ชายคนนี้ต้องการตุ๋นมันเหมือนสตรีนางนั้น!
หลี่หรานพูดอย่างขบขันว่า “ข้าแค่ล้อเล่น ถ้าข้าอยากจะตุ๋นเจ้าข้าคงทำไปนานแล้ว ทำไมต้องรอถึงตอนนี้?”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมาไข่มังกรก็ค่อยๆสงบลง
หลี่หรานกดมือขวาลงบนไข่แล้วใช้นิ้วชี้เคาะที่เปลือก “เมื่อไหร่เจ้าจะฟักออกมา? อย่าทำให้มันเป็นแปดหรือสิบปี ข้าไม่มีความอดทนขนาดนั้น”
ไข่มังกร: “โฮกก!”
“เจ้าเองก็ไม่รู้?”
หลี่หรานขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราจะเร่งความเร็วในการฟักได้อย่างไร? ข้าคงไม่ต้องนั่งทับเจ้าเหมือนแม่ไก่ใช่ไหม?”
ไข่มังกร: “โฮก โฮกกกก!”
น้ำเสียงของมันเต็มไปด้วยความโกรธ
มันดูอับอายที่ถูกเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อย
“เช่นนั้นเจ้าก็ให้คำตอบข้าสิ”
หลี่หรานทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
แม้ว่าเขาอยากจะเป็นอัศวินมังกรจริงๆ แต่เขาก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นเกมเลี้ยงสัตว์ใดๆ!
ไม่ต้องพูดถึงการฟักไข่...
เซินฉินจ้องมองด้วยความงุนงง
“นายท่าน… สามารถคุยกับไข่มังกรได้จริงๆ?!”
เมื่อเห็นหนึ่งคนหนึ่งไข่ที่สื่อสารกันโดยไม่มีข้อจำกัด นางก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ฉากนี้ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างมาก
หลี่หรานลูบคางและจมอยู่ในห้วงความคิด
เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะตราประทับที่มือขวาหรือเปล่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้เรียนภาษามังกรแต่เขาก็สามารถสื่อสารและรับรู้ถึงอารมณ์ของมันได้
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะฟักมันได้อย่างไร
ไข่มังกรเองก็ไม่ทราบ
ในฐานะที่ยังไม่โตเต็มไว มันย่อมไม่รู้ว่าจะแตกออกจากเปลือกได้อย่างไร
“เช่นนั้นถ้าข้าทำลายเปลือกล่ะ?” หลี่หรานพึมพำกับตัวเอง
ไข่มังกรสั่นสะท้าน จากนั้นกลิ้งไปด้านอื่นอย่างเงียบๆพร้อมที่จะเริ่มวิ่งอีกครั้ง
มันรู้สึกว่าไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องตกตายด้วยน้ำมือของมนุษย์คนนี้...
โชคดีที่ในที่สุดหลี่หรานก็ล้มเลิกความคิดนี้
แม้เขาจะอยากได้มังกร แต่เขาก็ไม่ต้องการมังกรแคระ
“ช่างเถอะ ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ”
หลี่หรานวางค่ายกล และกรงที่ทอด้วยแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นจากอากาศเบาบาง ห่อหุ้มไข่มังกรไว้ด้านในทันที
ตอนนี้ไม่ว่ามันจะคิดอย่างไรมันก็ไม่สามารถหนีได้แล้ว
‘เจ้าเด็กนี่ไม่ซื่อสัตย์เอามากๆและไอคิวก็ไม่ได้ต่ำ ข้าคงต้องควบคุมมันสักหน่อย’
เซินฉินสังเกตไข่มังกรอย่างระมัดระวังอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปมองหลี่หราน “นายท่านได้ไข่ใบนี้มาจากไหนหรือ?”
“ท่านอาจารย์มอบให้ข้า”
“ผู้นำนิกายเหลิง?” เซินฉินพยักหน้า
แน่นอนว่าสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้สามารถครอบครองได้โดยผู้นำนิกายเหลิงเท่านั้น
นางอดไม่ได้ที่จะถามต่อว่า “ถ้าอย่างนั้น... เจ้าสิ่งนี้คือมังกรจริงๆหรือเจ้าคะ?”
แม้ว่านางจะไม่เคยสงสัยในคำพูดของหลี่หราน แต่มังกรนั้นเป็นเพียงจินตนาการสำหรับนาง การปรากฏต่อหน้านางมันดูเกินจริงเกินไป...
ก่อนที่หลี่หรานจะพูด ไข่มังกรก็เคลื่อนไหวก่อน
โฮกกก!
มันส่งเสียงคำรามอย่างไม่พอใจ ตัวไข่สั่นเล็กน้อย จากนั้นแสงสีทองก็สว่างขึ้น
ภายใต้การจ้องมองอย่างตกตะลึงของเซินฉิน เงาที่ชัดเจนปรากฏขึ้นบนเปลือกไข่
มันดูเหมือนงู แต่แรงกดดันนั้นทำให้หัวใจของใครคนหนึ่งหนาวสั่นและอดไม่ได้ที่จะเคารพบูชามัน!
ร่างกายของเซินฉินสั่นเล็กน้อยและดวงตาที่บอบบางของนางก็เบิกกว้าง
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนี้แสดงให้เห็นถึงตัวตนของไข่ใบนี้อย่างเต็มที่
มันคือมังกรจริงๆ!
“เอาล่ะๆ” หลี่หรานวางมือบนไหล่ของนาง และกระแสน้ำอุ่นได้พัดพาความหนาวเย็นในร่างกายของนางออกไป
เซินฉินผ่อนคลายลง แต่แผ่นหลังของนางกลับเปียกโชกด้วยเหงื่อเย็น
หลี่หรานมองไปที่ไข่และพูดอย่างโกรธๆว่า “หยุดเสียงดังได้แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าเป็นมังกรแล้วมันยังไง? ถ้าเจ้ากล้าทำให้นางกลัวอีกข้าจะตุ๋นเจ้าจริงๆ!”
ไข่มังกร: “โฮก...!”
ไม่มีเสียงคำรามอันทรงพลังในครั้งนี้ มันเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและคับข้องใจมากกว่า
ออร่ามังกรที่น่ากลัวก็ค่อยๆสลายไป
ห้องกลับคืนสู่ความสงบ
เซินฉินแลบลิ้นน้อยๆของนางออกมา “เป็นมังกรจริงๆด้วยเจ้าค่ะ มันน่ากลัวมาก”
“มันไม่มีอะไรน่ากลัว”
หลี่หรานลูบหัวของนางและปลอบโยน “เมื่อมันฟักออกมา ข้าจะให้เจ้าขี่มันด้วย”
ไข่มังกร: “……”
เซินฉินเพลิดเพลินกับสัมผัสของเขาและหรี่ตาลง นางส่ายหัวและพูดว่า “ข้ามิกล้า นายท่านเป็นคนเดียวที่สมควรขี่มันเจ้าค่ะ”
ไข่มังกรสั่นอย่างช่วยไม่ได้
ในสายตาของสองคนนี้มันคงไม่ต่างอะไรจากม้าตัวหนึ่ง…
“ใช่แล้ว” เซินฉินนึกถึงบางอย่างและถามว่า “นายท่าน ท่านได้เจอหนิงเอ๋อร์ตอนไปยอดเขาปีศาจเมื่อคืนนี้หรือเปล่าเจ้าคะ?”
หลี่หรานพยักหน้า “ใช่ เจ้าไม่ต้องกังวล ท่านอาจารย์ใจดีกับนางมากและใช้พลังวิญญาณเปิดตันเถียนของนางทั้งคืน”
“ดีแล้วเจ้าค่ะ” เซินฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลังจากไม่ได้เจอเซินหนิงเป็นเวลานานนางย่อมกังวลเล็กน้อย แต่หลังจากได้ยินสิ่งนี้ในที่สุดนางก็รู้สึกโล่งใจ
—
หลังจากที่เซินฉินออกไป หลี่หรานก็ยืดเส้นยืดสาย
ก่อนหน้านี้เขาใช้พลังไปกับการเทศนาและความพยายามในการหลบหนีออกมามาก
“ยังไงก็ตาม ข้ายังไม่เห็นรางวัลของภารกิจเลย” หลี่หรานพึมพำขณะนั่งบนเก้าอี้
/////