ตอนที่แล้วบทที่ 464 ไข่มังกรอุดมไปด้วยโปรตีน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 466 รางวัลภารกิจ ค่ายกลการดับสูญต้าเหยียน!

(ฟรี) บทที่ 465 ข้าจะให้เจ้าขี่มันด้วย


ภายใต้การจ้องมองของทั้งสอง ไข่มังกรเริ่มสั่นเล็กน้อย

“มันขยับได้ด้วย!” เซินฉินปิดปากอุทาน

ประตูและหน้าต่างในห้องปิดแน่น ไม่มีแผ่นดินไหวหรือลมแรง แต่ไข่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง

ฉากนี้ค่อนข้างแปลกอย่างสุดจะพรรณนา

หลี่หรานยิ้ม “มันไม่เพียงขยับได้ แต่ยังเปล่งแสงได้ด้วย”

“เปล่งแสง?”

เซินฉินพูดด้วยความประหลาดใจว่า “อย่างที่คาดไว้จากไข่มังกร มันแข็งแกร่งกว่าไข่อื่นๆ”

หลี่หราน: “……”

เขาเห็นว่าไข่มังกรสั่นเล็กน้อยในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานการสั่นสะเทือนก็ค่อยๆรุนแรงขึ้น

ภายใต้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดมันก็ล้มจากสภาพตั้งตรงและกลิ้งไปที่ขอบโต๊ะ

ขณะที่กำลังจะตกลงบนพื้น หลี่หรานก็ยื่นมือออกไปจับไว้

แต่มันไม่ยอมแพ้และยังคงดิ้นรนอย่างหนัก

เมื่อเห็นฉากนี้เซินฉินรู้สึกสับสนเล็กน้อย “มันกำลังทำอะไรหรือเจ้าคะ?”

หลี่หรานมองไปที่ไข่มังกรและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าข้าเดาไม่ผิด มันคงต้องการหนี”

ตั้งแต่หนีจากเหลิงอู่เหยียน ไข่มังกรยังคงนิ่งและไม่มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก

ในตอนแรกหลี่หรานคิดว่าเป็นเพราะความโกลาหลก่อนหน้านี้ทำให้มันได้รับบาดเจ็บ

แม้ว่าจะเป็นไข่มังกร แต่มันก็ยังไม่ฟักออกมา ดังนั้นมันควรจะค่อนข้างบอบบาง

แต่ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เสียงคำรามของมังกรสองสามครั้งเมื่อวานนี้เต็มไปด้วยพลังอย่างเห็นได้ชัด ทำไมพวกมันถึงเหี่ยวเฉาหลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วยาม?

นั่นคือเหตุผลที่เขาพูดคำเหล่านั้นโดยตั้งใจเพื่อกระตุ้นมัน

กลายเป็นว่าเจ้าเด็กนี่แกล้งตาย!

“เจ้านี่ไม่ซื่อสัตย์จริงๆ” หลี่หรานส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม

โฮก!

เสียงคำรามอู้อี้ดังมาจากเปลือกไข่ และไข่มังกรก็สั่นอย่างแรง

ราวกับจะแสดงความไม่พอใจ

แม้มันจะไม่รู้ว่า “โปรตีน” หมายถึงอะไร แต่ก็ยังเข้าใจความหมายของ “ไข่มังกรต้ม”

ผู้ชายคนนี้ต้องการตุ๋นมันเหมือนสตรีนางนั้น!

หลี่หรานพูดอย่างขบขันว่า “ข้าแค่ล้อเล่น ถ้าข้าอยากจะตุ๋นเจ้าข้าคงทำไปนานแล้ว ทำไมต้องรอถึงตอนนี้?”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมาไข่มังกรก็ค่อยๆสงบลง

หลี่หรานกดมือขวาลงบนไข่แล้วใช้นิ้วชี้เคาะที่เปลือก “เมื่อไหร่เจ้าจะฟักออกมา? อย่าทำให้มันเป็นแปดหรือสิบปี ข้าไม่มีความอดทนขนาดนั้น”

ไข่มังกร: “โฮกก!”

“เจ้าเองก็ไม่รู้?”

หลี่หรานขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราจะเร่งความเร็วในการฟักได้อย่างไร? ข้าคงไม่ต้องนั่งทับเจ้าเหมือนแม่ไก่ใช่ไหม?”

ไข่มังกร: “โฮก โฮกกกก!”

น้ำเสียงของมันเต็มไปด้วยความโกรธ

มันดูอับอายที่ถูกเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อย

“เช่นนั้นเจ้าก็ให้คำตอบข้าสิ”

หลี่หรานทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

แม้ว่าเขาอยากจะเป็นอัศวินมังกรจริงๆ แต่เขาก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นเกมเลี้ยงสัตว์ใดๆ!

ไม่ต้องพูดถึงการฟักไข่...

เซินฉินจ้องมองด้วยความงุนงง

“นายท่าน… สามารถคุยกับไข่มังกรได้จริงๆ?!”

เมื่อเห็นหนึ่งคนหนึ่งไข่ที่สื่อสารกันโดยไม่มีข้อจำกัด นางก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ฉากนี้ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างมาก

หลี่หรานลูบคางและจมอยู่ในห้วงความคิด

เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะตราประทับที่มือขวาหรือเปล่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้เรียนภาษามังกรแต่เขาก็สามารถสื่อสารและรับรู้ถึงอารมณ์ของมันได้

แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะฟักมันได้อย่างไร

ไข่มังกรเองก็ไม่ทราบ

ในฐานะที่ยังไม่โตเต็มไว มันย่อมไม่รู้ว่าจะแตกออกจากเปลือกได้อย่างไร

“เช่นนั้นถ้าข้าทำลายเปลือกล่ะ?” หลี่หรานพึมพำกับตัวเอง

ไข่มังกรสั่นสะท้าน จากนั้นกลิ้งไปด้านอื่นอย่างเงียบๆพร้อมที่จะเริ่มวิ่งอีกครั้ง

มันรู้สึกว่าไม่ช้าก็เร็วมันจะต้องตกตายด้วยน้ำมือของมนุษย์คนนี้...

โชคดีที่ในที่สุดหลี่หรานก็ล้มเลิกความคิดนี้

แม้เขาจะอยากได้มังกร แต่เขาก็ไม่ต้องการมังกรแคระ

“ช่างเถอะ ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ”

หลี่หรานวางค่ายกล และกรงที่ทอด้วยแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นจากอากาศเบาบาง ห่อหุ้มไข่มังกรไว้ด้านในทันที

ตอนนี้ไม่ว่ามันจะคิดอย่างไรมันก็ไม่สามารถหนีได้แล้ว

‘เจ้าเด็กนี่ไม่ซื่อสัตย์เอามากๆและไอคิวก็ไม่ได้ต่ำ ข้าคงต้องควบคุมมันสักหน่อย’

เซินฉินสังเกตไข่มังกรอย่างระมัดระวังอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปมองหลี่หราน “นายท่านได้ไข่ใบนี้มาจากไหนหรือ?”

“ท่านอาจารย์มอบให้ข้า”

“ผู้นำนิกายเหลิง?” เซินฉินพยักหน้า

แน่นอนว่าสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้สามารถครอบครองได้โดยผู้นำนิกายเหลิงเท่านั้น

นางอดไม่ได้ที่จะถามต่อว่า “ถ้าอย่างนั้น... เจ้าสิ่งนี้คือมังกรจริงๆหรือเจ้าคะ?”

แม้ว่านางจะไม่เคยสงสัยในคำพูดของหลี่หราน แต่มังกรนั้นเป็นเพียงจินตนาการสำหรับนาง การปรากฏต่อหน้านางมันดูเกินจริงเกินไป...

ก่อนที่หลี่หรานจะพูด ไข่มังกรก็เคลื่อนไหวก่อน

โฮกกก!

มันส่งเสียงคำรามอย่างไม่พอใจ ตัวไข่สั่นเล็กน้อย จากนั้นแสงสีทองก็สว่างขึ้น

ภายใต้การจ้องมองอย่างตกตะลึงของเซินฉิน เงาที่ชัดเจนปรากฏขึ้นบนเปลือกไข่

มันดูเหมือนงู แต่แรงกดดันนั้นทำให้หัวใจของใครคนหนึ่งหนาวสั่นและอดไม่ได้ที่จะเคารพบูชามัน!

ร่างกายของเซินฉินสั่นเล็กน้อยและดวงตาที่บอบบางของนางก็เบิกกว้าง

แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวนี้แสดงให้เห็นถึงตัวตนของไข่ใบนี้อย่างเต็มที่

มันคือมังกรจริงๆ!

“เอาล่ะๆ” หลี่หรานวางมือบนไหล่ของนาง และกระแสน้ำอุ่นได้พัดพาความหนาวเย็นในร่างกายของนางออกไป

เซินฉินผ่อนคลายลง แต่แผ่นหลังของนางกลับเปียกโชกด้วยเหงื่อเย็น

หลี่หรานมองไปที่ไข่และพูดอย่างโกรธๆว่า “หยุดเสียงดังได้แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าเป็นมังกรแล้วมันยังไง? ถ้าเจ้ากล้าทำให้นางกลัวอีกข้าจะตุ๋นเจ้าจริงๆ!”

ไข่มังกร: “โฮก...!”

ไม่มีเสียงคำรามอันทรงพลังในครั้งนี้ มันเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและคับข้องใจมากกว่า

ออร่ามังกรที่น่ากลัวก็ค่อยๆสลายไป

ห้องกลับคืนสู่ความสงบ

เซินฉินแลบลิ้นน้อยๆของนางออกมา “เป็นมังกรจริงๆด้วยเจ้าค่ะ มันน่ากลัวมาก”

“มันไม่มีอะไรน่ากลัว”

หลี่หรานลูบหัวของนางและปลอบโยน “เมื่อมันฟักออกมา ข้าจะให้เจ้าขี่มันด้วย”

ไข่มังกร: “……”

เซินฉินเพลิดเพลินกับสัมผัสของเขาและหรี่ตาลง นางส่ายหัวและพูดว่า “ข้ามิกล้า นายท่านเป็นคนเดียวที่สมควรขี่มันเจ้าค่ะ”

ไข่มังกรสั่นอย่างช่วยไม่ได้

ในสายตาของสองคนนี้มันคงไม่ต่างอะไรจากม้าตัวหนึ่ง…

“ใช่แล้ว” เซินฉินนึกถึงบางอย่างและถามว่า “นายท่าน ท่านได้เจอหนิงเอ๋อร์ตอนไปยอดเขาปีศาจเมื่อคืนนี้หรือเปล่าเจ้าคะ?”

หลี่หรานพยักหน้า “ใช่ เจ้าไม่ต้องกังวล ท่านอาจารย์ใจดีกับนางมากและใช้พลังวิญญาณเปิดตันเถียนของนางทั้งคืน”

“ดีแล้วเจ้าค่ะ” เซินฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก

หลังจากไม่ได้เจอเซินหนิงเป็นเวลานานนางย่อมกังวลเล็กน้อย แต่หลังจากได้ยินสิ่งนี้ในที่สุดนางก็รู้สึกโล่งใจ

หลังจากที่เซินฉินออกไป หลี่หรานก็ยืดเส้นยืดสาย

ก่อนหน้านี้เขาใช้พลังไปกับการเทศนาและความพยายามในการหลบหนีออกมามาก

“ยังไงก็ตาม ข้ายังไม่เห็นรางวัลของภารกิจเลย” หลี่หรานพึมพำขณะนั่งบนเก้าอี้

/////