ตอนที่ 638 (ตอนฟรี)
ตอนที่ 638 (ตอนฟรี)
กองกำลังกว่า 60% ของยุทธภพถูกกำจัดออกไป จะไม่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวกันได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าผู้ฝึกตนและยุทธภพจะค่อนข้างเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับนักธุรกิจผู้ร่ำรวยและมีอำนาจทางการเมือง แต่ก็พูดไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องห่างไกลสำหรับพวกเขา
เพราะหากพูดกันตามตรงแล้วเหล่าเศรษฐีและผู้มีอำนาจเหล่านี้ ก็มีความเกี่ยวข้องในบางเรื่องเช่นการว่าจ้างเหล่านักรบผู้ทรงพลังให้ทำงานบางอย่างให้กับพวกเขา
แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังมีความหวาดกลัวต่อนักรบที่ทรงพลังเหล่านั้นมาโดยตลอด
และโดยเฉพาะหลังจากที่พวกเขาได้รับรู้เกี่ยวกับกลุ่มกองกำลังต่างๆที่ถูกกำจัดออกไปกว่า 60% โดยราชามังกรและผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
พวกเขารู้ดีว่าผู้ฝึกตนนั้นมีความแข็งแกร่งและน่ากลัวมากเพียงใด แต่กลุ่มคนเหล่านั้นกลับถูกสังหารหมู่อย่างง่ายๆ โดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน
เมื่อเหล่านักธุรกิจที่ร่ำรวยและมีอำนาจในประเทศทราบข่าว พวกเขาก็เหงื่อตก และรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้าออกจากบ้านนานหลายวัน
หลังจากข่าวสารถูกแพร่กระจายออกไปตามช่องทางต่างๆ พวกเขาก็ได้รับรู้เกี่ยวกับตัวตนของราชามังกรแห่งสำนักมังกร
บรรดานักธุรกิจและผู้มีอำนาจระดับต้นๆ ของประเทศต่างก็ได้รับรูปถ่ายของราชามังกรรวมถึงคนใกล้ชิดของเขา
ถึงแม้พวกเขาไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวังน้ำวนของโลกผู้ฝึกตนมากนักก็ตาม แต่มันก็เป็นการดีที่ได้รับรู้และรับทราบข่าวสารบางอย่าง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้พวกเขาไปล่วงเกินผู้มีอำนาจที่แท้จริงในระดับนี้
การดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถยั่วยุได้อีกต่อไป นับประสาอะไรกับพวกเขา แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศก็ยังไม่มีความกล้า
แม้แต่บรรดานักการเมืองและผู้มีอำนาจในประเทศก็ยังไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับบุคคลที่มีความแข็งแกร่งในระดับนี้
บุคคลที่แข็งแกร่งและน่ากลัวเช่นนี้นั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของประเทศไปแล้ว!
ทุกคนที่ได้รับภาพจะจดจำใบหน้าของราชามังกรผู้นี้ไว้ และถ้าพวกเขาพบเจอจริงๆ พวกเขามีความคิดว่าจะต้องรีบซ่อนตัวให้ไกลที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาที่อยู่ที่นี่ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะมาพบกันที่นี่ในวันนี้!
แถมยังเจอกันในขณะที่มีกลุ่มคนตาบอดมาสร้างความขุ่นเคืองให้กับราชามังกรอีกด้วย!
มีคนขายตั๋วปลอมให้แก่ราชามังกร! มีคนกล้าวิพากษ์วิจารณ์สร้างความขุ่นเคืองใหเกับผู้หญิงของเขา!
แค่คิดถึงแรงพิโรธที่ทำให้เลือดไหลเป็นสายน้ำในครั้งก่อนที่พวกเขาได้รู้ข่าวมา มันก็ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนตัวสั่นแล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้างสงสารพ่อค้าขายตั๋วที่ตามืดบอดคนนั้น แต่มันจะเป็นการดีที่สุดที่ความโกรธของราชามังกรจะไม่ส่งผลถึงพวกเขาที่อยู่ใกล้ๆในขณะนี้
บางคนถึงกลับส่ายหัวและแอบสมเพชในความกล้าบ้าบิ่นของพ่อค้าขายตั๋วที่กล้าหลอกลวงราชามังกร!
สิ่งที่พ่อค้าคนนี้ได้ทำอยู่ไม่ใช่เป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อมหรอกหรือ!
นอกจากจะชื่นชมด้วยความสมเพชต่อพ่อค้าขายตั๋วแล้ว ทุกคนยังจ้องมองไปยังกลุ่มของชายหนุ่มหญิงสาวเหล่านั้นพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆในความโชคร้ายของพวกเขา
ใบหน้าของบุคคลที่จดจำหวังเสียนได้เปลี่ยนไปอย่างมากและหนึ่งในนั้นคือชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าอันตื่นตกใจมากที่สุด!
เขาคือประธานของบริษัทเทียนหวังมีเดีย ซึ่งได้รับฉายาว่านักปั้นมือเพชร ที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้นำกลุ่มของบริษัทสื่อที่สรรสร้างกลุ่มศิลปินที่ใหญ่ที่สุดแห่งประเทศจีน
เขามองไปที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งห้า โดยเฉพาะเด็กชายที่มีตุ้มหูและสาวสวย ดวงตาของเขามืดมนลงในทันที
'ไอ้พวกเด็กบ้า! หยุดพูดบ้าๆ ซะ แล้วรีบออกไปโดยเร็ว!' เขากัดฟันแอบสาปแช่งเด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งห้าอยู่ในใจ ตอนนี้เขารู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ
ครั้งสุดท้ายที่เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าเพื่อนของเขาคนหนึ่งที่เป็นผู้ฝึกตน ได้โทรมาบอกเขาว่าศิลปินภายใต้ร่มธงของเขาได้ยั่วยุราชามังกรแห่งสำนักมังกร!
เมื่อเขาได้รับข่าวก็ตกใจจนแทบกระโดดลงจากตึก ขณะนั้นราชามังกรก็เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของยุทธภพแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับตอนนี้ มันน่ากลัวและสิ้นหวังยิ่งกว่า
"บ้าที่สุด! ทำไมคนที่ยั่วยุราชามังกรจะต้องเป็นศิลปินจากบริษัทของฉันทุกครั้งไปด้วย!"
ตอนนี้เขาในฐานะประธานของบริษัทเทียนหวังมีเดีย รู้สึกหวาดกลัวจนแข็งขาสั่น หมดแรงแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น
เขากลัวมาก กลัวว่าราชามังกรจะโกรธแค้นและจัดการกับทุกคนที่เกี่ยวข้องเหมือนที่เคยทำกับกลุ่มคนที่เคยบุกเกาะสำนักมังกรของเขา
"ให้ตายเถอะ!" สีหน้าของประธานหวังเปลี่ยนไป เขาพยุงตัวเองค่อยๆ ลุกขึ้น และเดินไปที่ตำแหน่งของหวังเสียนด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ
"เอ่อ…มังกร! ท่านราชามังกรครับ!"
หลังจากที่รู้สึกไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของชายหนุ่มและหญิงสาวที่อยู่ข้างหลัง หวังเสียนตั้งใจจะสอนบทเรียนให้พวกเขาสักเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงที่สั่นเครือและตะกุกตะกักดังขึ้น
“หืม?” หวังเสียนขมวดคิ้วและหันไปมองชายวัยกลางคนอย่างเย็นชา
เมื่อนักแสดงชายและนักแสดงหญิงเห็นชายวัยกลางคน พวกเขาก็รู้สึกแปลกใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบยืนตัวตรงและตะโกนทักทายอย่างกระตือรือร้นในทันที "สวัสดีครับ/ค่ะ ท่านประธานหวัง!"
แต่ประธานหวังไม่ได้ให้ความสนใจชายหนุ่มและหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เขาเดินไปโค้งคำนับหวังเสียนอย่างอ่อนน้อม "สวัสดีครับท่านราชามังกร ผมเสี่ยวหวัง จากบริษัทเทียนหวังมีเดียครับ!"
ประธานหวังพูดพลางปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก "เด็กพวกนี้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ กล้าพูดคำพูดหยาบคายทำให้ท่านราชามังกรระคายหู กระผมในฐานะประธานบริษัทจะลงโทษพวกเขา และทำให้ท่านราชามังกรพอใจอย่างแน่นอน ฉะนั้นท่านราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่โปรดเมตตาอย่าเสียเวลากับผู้น้อยเหล่านี้เลยให้กับกระผมเป็นผู้จัดการเองเถอะนะครับ!"
"นี่… ท่านประธานหมายความว่ายังไงกัน?"
คำพูดของประธานหวังทำให้ดาราทั้งสองคนหันมองหน้าและถามกันเอง ด้วยความสับสนและตื่นตระหนก
พวกเขาหันไปจ้องมองใบหน้าที่แสดงความโกรธเกรี้ยวของท่านประธานหวัง และแน่ใจได้ว่าท่านประธานหวังของพวกเขานั้นไม่ได้พูดเล่น
ชายวัยกลางคนคนนี้นั้นเป็นประธานของบริษัทเทียนหวังมีเดีย ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้าน หากเปรียบเทียบกันแล้วพวกเขาเป็นเพียงแค่ศิลปินตัวเล็กๆที่อยู่ภายใต้บริษัทเท่านั้น
"ท่านราชามังกรผมมีตั๋วสามใบ แต่ผมมีธุระด่วนต้องจัดการ ฉะนั้นท่านราชามังกรโปรดเมตตาช่วยสงเคราะห์ รับตั๋วสามใบนี้เอาไว้ด้วยเถอะครับ!"
เมื่อประธานหวังเห็นว่าหวังเสียนไม่ได้พูดอะไร เขาจึงรีบส่งมอบตั๋วในมือให้อย่างนอบน้อม
"สวัสดีครับ ท่านราชามังกร!"
ในขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวดีในชุดสูทก็เดินนำกลุ่มคนที่แต่งตัวดีเข้ามาโค้งคำนับด้วยความเคารพและทักทายด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล
พวกเขาแต่ละคนถือตั๋วเอาไว้ในมือ และส่งมอบให้กับหวังเสียนอย่างนอบน้อม
"นี่คือตั๋วของพวกเรา ขอท่านราชามังกรได้โปรดเมตตานำตั๋วเหล่านี้ของพวกเราไปใช้ด้วย จะถือได้ว่าเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราเลยขอรับ!"
กลุ่มมหาเศรษฐีจำนวนมากทยอยเดินนำตั๋วสำหรับเข้าชมงานแฟชั่นโชว์มาส่งมอบให้กับหวังเสียน
พวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อราชามังกร พวกเขาไม่ได้พยายามผูกมิตรหรือพยายามทำให้พอใจ แต่พวกเขาเข้ามาโดยสัญชาตญาณที่ต้องการแสดงความเคารพต่อผู้แข็งแกร่งที่เหนือกว่า
พวกเขาไม่ได้หวังให้ราชามังกรจดจำพวกเขาได้ และไม่ได้เรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ พวกเขาแค่มีความกลัวและความเกรงขามอย่างแท้จริง!
ในเวลานี้ ชายหนุ่มและหญิงสาวทั้งห้าที่เคยมีปากเสียงกับกลุ่มของหวังเสียน ในก่อนหน้านี้ ต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ประธานบริษัทเทียนหวังมีเดียที่เป็นบริษัทสื่อที่รวบรวมศิลปินชั้นแนวหน้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน!
ประธานบริษัทตงฮวงกรุ๊ป ที่มีมูลค่าทรัพย์สินมากเกือบแสนล้าน!
บุตรชายคนโตที่เป็นทายาทของสมาคม ฟงหลิงคอนโทรลสตักซ์ชั่น ที่มีมรดกของตระกูลหลายหมื่นล้าน!
CEO ของบริษัทโมดูล รูบิคคิวส์เทคโนโลยี ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก
นี่ยังไม่นับรวมถึงบรรดาเจ้านายใหญ่และมหาเศรษฐีผู้มีอำนาจอีกหลายสิบคนที่เดินเข้ามาทำความเคารพอย่างนอบน้อมต่อชายหนุ่มและหญิงสาวทั้งหกคน
พวกเขาทุกคนต่างส่งมอบตั๋วด้วยสองมืออย่างอ่อนน้อม ราวกับคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์และภักดีต่อเจ้านาย
ในตอนนี้กลุ่มชายหนุ่มและหญิงสาวทั้งห้าคนรู้สึกหวาดกลัวกันเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมเหล่ามหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจอันดับต้นๆ ของประเทศถึงแสดงความเคารพและหวาดกลัวได้ถึงขนาดนี้?
พวกเขาตาบอดไปยั่วยุตัวตนที่เป็นเหมือนเทพเจ้าระดับไหนกันแน่?
"พวกเราต้องการตั๋ว 6 ใบก็เพียงพอแล้ว ขอบคุณพวกคุณทุกคนมากที่มีน้ำใจ!"
หวังเสียนยื่นมือออกมารับตั๋วจำนวน 6 ใบ แล้วยิ้มพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณเล็กน้อย
"อย่าพูดอย่างนั้นเลยขอรับท่านราชามังกร นับเป็นเกียรติของพวกเรามากกว่าที่ได้ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ให้กับท่านราชามังกร!"
ด้วยรอยยิ้มและคำขอบคุณของหวังเสียน ทำให้ประธานหวังและคนอื่นๆ รู้สึกมีความสุขมาก ราวกับว่าพวกเขาได้รับคำชื่นชมจากเจ้านายเหนือหัวของพวกเขา!
……………
จบบท