ตอนที่แล้วตอนที่ 17
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19

ตอนที่ 18


“นายน่ะ…รู้ไหมว่าที่ทำอยู่มันอันตรายแค่ไหน?”

โคลเตอร์ถามรูนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย

สมาธิของรูนนั้นเพ่งไปที่โอเกอร์เท่านั้น

“เฮ่อ…ไอ้เด็กน่าหงุดหงิดนี่”

โคลเตอร์ถามอาจารย์ไฮเดลที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“แล้วเราจะทำยังไงกันล่ะ? เราแค่ต้องนั่งรอดูเขางั้นเหรอ?”

อาจารย์ไฮเดลนั้นพร้อมที่จะร่ายเวทย์ม่านพลังชั้นสูงใส่รูนและเข้าไปช่วยอยู่แล้ว แต่ดวงตาของเขากำลังจับตามองสถานการณ์ด้วยความเย็นชาและคำนวนทุกอย่างอยู่

มันเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อใจและศรัทธาในตัวเด็กคนนั้น

โคลเตอร์หรี่ตาและหันไปมองรูน

“นายน่ะ…เป็นใครกันแน่?”

รูนส่ายหัวกลับเงียบ ๆ เมื่อโคลเตอร์ถาม

“ก็แค่นักเรียนที่อยากได้คะแนนสอบดี ๆ คนหนึ่ง”

ผมไม่รู้ว่าผมไปเอาความกล้ามาจากไหนต่อหน้าโอเกอร์ที่ใหญ่กว่าผมเกินห้าเท่า จนทำให้ผมกล้าวิ่งและแกว่งหมัดใส่มันได้อย่างบ้าคลั่งแบบนี้

แน่นอนว่าผมกังวลตั้งแต่ต้น

ถึงกับกลัวอยู่นิด ๆ

แต่มีอยู่สองเหตุผลที่มันต้องเปลี่ยนอารมณ์เหล่านั้นให้กลายเป็น ‘ความกล้าบ้า ๆ’

อย่างแรกคือความสามารถที่ผมมี

เพื่อนของโอเกอร์

ฉายานี้จะลดโอกาสที่ ‘โอเกอร์’ จะมุ่งร้ายต่อผม

ฉายานี้จะทำให้ผมสื่อสารกับ ‘โอเกอร์’ ได้

มันคือฉายาที่ผมได้มาจากโอเกอร์บรรพกาลคิงแกรมเมื่อไม่กี่วันก่อน

ความสามารถที่ทำให้ผมสื่อสารกับโอเกอร์ได้

หมายความที่ผมเข้าใจจาก ‘โฮกกกกกกก!’ ที่โอเกอร์ตะโกนนั้นหมายความว่า

‘เจ้านั่น มันกำลังกลัว’

คนปกติไม่เข้าใจภาษาโอเกอร์อยู่แล้ว และคงเห็นเพียงความดุร้ายของมัน แต่ไม่ใช่กับผม

เจ้านั่นเริ่มกังวลจากการที่จู่ ๆ ผมก็วิ่งเข้าใส่มัน

และได้เห็นภาพของคนมากมายที่มองดูมันพร้อมกับจอมเวทย์และอัศวินที่รายล้อมพื้นที่ มันเริ่มที่จะกลัวอย่างมาก

ต่อมาคือเหตุผลที่สอง

จู่ ๆ ภารกิจก็ได้โผล่ขึ้นมา

ภารกิจเร่งด่วนได้มาถึง

ถึงเวลาต่อสู้

เวลาแห่งการเตะต่อยอากาศได้จบลงแล้ว ศัตรูที่เลี่ยงไม่ได้ได้ปรากฏตัว ตอนนี้เป็นเวลาต่อสู้ วิ่งไปจัดการมันให้ได้ก่อนใคร

เป้าหมาย : โจมตีศัตรูเป็นคนแรก 0/1

เป้าหมาย 2 : เป็นผู้ชนะศัตรู 0/1

*รางวัล : strength +30

*รางวัล 2 : สกิล : ดวงตาผู้เล่น

ภารกิจที่ให้ strength 30 เทียบเท่ากับการทำภารกิจทำซ้ำได้ 3 วัน

ใครจะไม่สนใจข้อเสนอนี้กันเล่า?

นี่คือเหตุผลที่ผมกล้าวิ่งเข้าใส่โอเกอร์

และเพราะเรื่องนั้น

โฮกกกกกกกก!

โอเกอร์โกรธเสียยิ่งกว่าโกรธ

แต่ว่า ผม…

“เข้ามาเลย”

ผมยิ้มยั่วกับโอเกอร์ตาแดงก่ำที่อยากจะฉีกผมเป็นชิ้น ๆ

ใช่แล้ว

ตอนนี้ ที่ผมต้องทำก็แค่ชนะ

[เจ้ามนุษย์! ตายซะ!]

มันดูเหมือนเสียงคำรามของมอนสเตอร์กับคนอื่น แต่สำหรับผม คำพูดและความตั้งใจของมันนั้นชัดเจน

โอเกอร์เทออร่าอันบ้าคลั่งใส่ผม

หลังจากยืดคอและตั้งท่าพร้อมแล้ว มันเดินไม่กี่ก้าวและกระโดดมาที่ด้านหน้าผมในทันที

เร็ว

เร็วพอที่จะตั้งคำถามว่าร่างกายใหญ่ขนาดนั้นเร่งความเร็วขนาดนี้ได้ยังไง

[หัวแก! จะขยี้มัน!]

แน่นอนว่าผมไม่คิดจะให้มันสมหวัง

ฟึ่บ…

หมัดโอเกอร์พลาดหัวของผมไปแค่เส้นผม

“ว้าว! เห็นนั่นไหม?”

“เขาหลบได้ยังไงน่ะ?”

เสียงอุทานดังมาจากมุมลานสอบ

เมื่อรู้สึกถึงอันตราย อาจารย์ไฮเดลก็ร่ายบาเรียใส่ผม

แต่อาจารย์ ผมไม่ได้โดนอะไรซักหน่อย

“เจ้าโง่! ดูข้างหน้า!”

“หืม?”

ผมรีบตั้สติจากเสียงตะโกนของหัวหน้าอัศวินโคลเตอร์ พิรันเต้

ในตอนที่ผมวอกแวก เจ้าโอเกอร์วิ่งเข้าใส่ผมอีกครั้ง

“โอ๊ะ”

ผมรีบใช้สกิลและรีบออกจากระยะโจมตีของโอเกอร์อย่างรวดเร็ว

และจากนั้น

“เฮ่อ…ไปกันเลย”

หลังจากบิดตัวเหมือนกับธนู ผมก็วิ่งไปข้างหน้าในเสี้ยววินาที

ความเคลื่อนไหวของผมเร็วขึ้นเกิน 200% จากความเร็วปกติด้วยผลของสกิล

กาเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเร็วเกินไปที่ผมจะรับไหว

‘พละกำลังจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหว’

มันคือผลสองสกิลติดตัว ‘จอมเวทย์คลั่ง’

จากนั้นผมก็กำหมัดแน่น

การไม่สนใจ ‘กฎแห่งสาม’ รวบรวม เสริมพลัง ขึ้นรูป ความเร็วในการร่ายเวทย์ของผมไม่เป็นสองรองใคร และหลังจากสร้างทรงกลมสองครั้งในพริบตา ผมก็ปล่อยหมัดใส่ท้องของโอเกอร์ตรง ๆ

ตู้ม! ตู้ม!

คว๊ากกกก!

สะเก็ดไฟกระเด็นทุกครั้งที่หมัดกระแทก และโอเกอร์ก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวด้วยความเจ็บปวด

แต่มันยังไม่ใช่ท่าสุดท้าย

“ให้ตายเถอะ หนังเจ้านี่มันหนาจริง ๆ…”

การโจมตีนั้นโดนอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ผิวของโอเกอร์นั้นแข็งเหมือนกับหิน

เอาเถอะ ผมไม่คิดว่าจะชนะมันในทีเดียวอยู่แล้ว

‘ฟันทีละนิดก็โค่นไม้ใหญ่ได้’

ผมตั้งใจจะโจมตีมันจนกว่ามันจะล้ม

[มนุษษษษย์! ตาย!]

มันตามืดบอดจากความโกรธแค้น โอเกอร์วิ่งใส่ผมราวกับจะโยนตัวใส่

และแทนที่ผมจะหลบ ผมใช้พลังทั้งหมดที่มีพุ่งเข้าใส่โอเกอร์ตรง ๆ

ตู้ม!

พลังสู้กับพลัง

การต่อสู้ระหว่างพลังของมนุษย์และโอเกอร์เกิดขึ้น และลานสอบก็กลายเป็นความวุ่นวายกับการต่อสู้ประหลาดนี้

“บ้าไปแล้ว…”

“นะ…นี่ชั้นดูอะไรอยู่เนี่ย?”

ถ้ามีใครสักคนที่โดนดันไปข้างหลัง มันจะไม่ได้จบแค่กระดูกหักไม่กี่ชิ้นแน่

แต่คนที่ทำลายสมดุลการปะทะของพลังนั้นคือผม

‘หรือว่ามันยังมากเกินไป…?’

ต่อให้ผมจะรักษาระดับพลังต่อโอเกอร์ได้ แต่การสยบมันโดยใช้พลังอย่างเดียวก็ยังมาเกินไปในตอนนี้อยู่ดี

นี่จึงเป็นเหตุผลให้ผมรีบพลิกตัวออกจากเส้นทาง

และเมื่อพลังที่หยุดมันหายไป โอเกอร์ก็พุ่งไปข้างหลังและจนกับต้นไม้

โครม!

แน่นอนว่าสิ่งที่หักคือต้นไม้

[ไอ้หนูโสโครก!]

เมื่อเรียกสติจากการสะบัดหัวอย่างแรงและทุบอกแล้ว โอเกอร์ก็ปล่อยออร่าป่าเถื่อนออกมาและวิ่งใส่ผมขณะที่แกว่งกำปั้น

ฟึ่บ! ฟึ่บ!

กำปั้นอันป่าเถื่อนนั้นรุนแรงพอที่จะทำให้การถากเล็กน้อยขยี้กระดูกของผม แต่โชคดีที่หมัดนั้นไม่โดน

มันอยู่ในระดับที่ผมหลบได้ขณะที่การเคลื่อนไหวถูกสนับสนุนอยู่ และ

ปั้ง!

หมัดซัดใส่ท้องของโอเกอร์อีกครั้ง ผมเตะขาของมันเมื่อมันเสียการทรงตัว

กร๊อบ!

[อ๊าก!]

เมื่อโดนโจมตีเหนือต้นขาที่ผิวบางกว่า โอเกอร์ก็เสียสมดุลและล้มลงไปข้างหลัง

มันกำลังงุนงงเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่โค่นลง

ผมกระโดดไปบนตัวโอเกอร์ที่ล้มและแบมือสองข้าง

เพลิงนรกสีชาดเริ่มเบ่งบานจากระหว่างฝ่ามือของผม

“เอาล่ะ จบมันได้แล้ว”

สกิล

สกิลยืมพลังจากโอเกอร์และเพิ่ม strength ของผมเป็นเวลา 30 วินาที

พรึ่บ!

หมัดของผมลุกไปด้วยแสงสีแดง

พลังที่ไม่ขาดสายไหลเข้าสู่ร่างกายของผม และพลังมหาศาลนั้นก็ร่ำร้องที่จะถูกปล่อยออกไป

บางทีโอเกอร์อาจจะรู้สึกคุ้นเคยกับ ‘พลัง’ ที่ไหลท่วมหมัดของผม

โอเกอร์พึมพำ

[เจ้าเป็นมนุษย์จริงเรอะ?]

พละกำลังที่เทียบได้กับโอเกอร์

และกลิ่นอายที่คุ้นเคยอย่างเข้าใจผิดไม่ได้จากสกิล

ผมก้มลงมองโอเกอร์ที่ขมวดคิ้ว ผมยิ้มอย่างน่าขยะแขยง

“แกคงไม่ได้ต้องการคำตอบใช่ไหม?”

[...นี่แก เข้าใจที่พูดด้วยเรอะ?]

“แกก็เข้าใจที่ชั้นพูดใช่ไหม?”

มนุษย์กับโอเกอร์

ทั้งสองกำลังพูดกันด้วยต่างภาษษ แต่ทั้งสองก็เข้าใจกันและกันได้

โอเกอร์สับสนเกินกว่าจะเชื่อได้ มันทำได้แค่กระพริบตากับเรื่องประหลาด

และนี่คือท่าสุดท้าย

“ระเบิดเผามานา”

นี่คือเวทย์ที่รุนแรงที่สุดที่ผมร่ายได้ และมันยังเป็นเวทย์ที่ทำให้ผมได้ 100 คะแนนจากโอเกอร์บรรพกาลคิงแกรมเมื่อไม่กี่วันก่อนด้วย

ผลจากความโกรธของโอเกอร์ถูกเพิ่มเข้าไป

เวทย์เปลี่ยนเป็นสภาวะบ้าคลั่ง

‘กุญแจ’ ดอกเล็กปรากฏในฝ่ามือและผมก็พลิกมันก่อนจะแทงมันไปที่คางของโอเกอร์ด้วยหมัด

ตะ…ตะ…ตู้มมมมมมมม!

คางของโอเกอร์ที่แข็งราวกับหิน ละลายและขาดหายไปในทันทีที่หมัดสัมผัส

มันคือพลังที่รุนแรงมากจนแม้แต่ตัวผมเองก็ตกใจ

ตะ..ตะ..ตู้มมม!

ที่ความร้อนสูงจากไฟและแรงระเบิดจากกำปั้น กรามของโอเกอร์ได้ระเหิดหายไป โอเกอร์ที่โดนเผานั้นหมดสติ มันทำไม่ได้แม้แต่กรีดร้อง

ซ่าาาา…

กลิ่นเหม็นจากเนื้อโอเกอร์ไหม้กระจายไปทั่วลานสอบพร้อมกับควันดำ

ลานสอบในตอนนี้เงียบราวกับป่าช้า

“มัน…จบแล้วเหรอ?”

คนที่ทำลายความเงียบก็คือหัวหน้าอัศวินที่มองดูการต่อสู้ของผมจากระยะใกล้ที่สุด

โคลเตอร์ พิรันเต้

“นี่นาย…”

เขาเดินมาหาผมด้วยท่าทางพูดไม่ออก

“...นายเป็นใครกันแน่?”

“ก็แค่…”

“แหงสิ ก็แค่นักเรียนที่อยากได้คะแนนดีคนหนึ่ง ถ้างั้นชั้นจะถามอีกรอบ นักเรียนที่อยากได้คะแนนดีนี่ชื่ออะไรนะ?”

“รูน อาเดล”

“รูน อาเดล เอ๋?”

ผมไหล่สั่น

ดูเหมือนว่าผมจะใช้ร่างกายมากเกินไปเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ต่อสู้ของจริง

ผมนวดไหล่ที่แข็งขณะที่หัวหน้าอัศวินโคลเตอร์ พิรันเต้เอาแต่ถามคำถามราวกับจะก้าวข้ามความสงสัย

“ไม่รู้จักตระกูลอาเดลเลย…หรือว่าตระกูลของนายมีปรมาจารย์ดาบ? หรืออัครจอมเวทย์”

“เราไม่มีเลย”

“ชั้นเป็นมือใหม่ถ้าเป็นเรื่องเวทมนตร์ ตัวชั้นก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เห็นเวทมนตร์แบบนั้น พลังมหาศาลนั้นเองก็คนละเรื่องกับ…”

“ผมต้องตอบไหม?”

“หืม? ถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องตอบหรอก แต่ขอถามเป็นคำถามสุดท้าย การเคลื่อนไหวแบบนั้น ไปเรียนมาจากใครงั้นเหรอ?”

“ไม่นะครับ”

“เรียนรู้เองเหรอ?”

“ครับ”

โคลเตอร์เกาคางและหัวเราะกับคำตอบของผม

“ถ้าอย่างนั้น…”

ใบหน้าเขาราวกับกำลังวางแผนเจ้าเล่ห์

ผมลดสายตาจากโคลเตอร์และมองไปที่อาจารย์ไฮเดล

อาจารย์ไฮเดลทำหน้าตกใจอย่างมาก แม้จะแค่ครู่เดียว

สีหน้าของเขาพูดว่า

‘เขาชนะจริง ๆ’

แต่สีหน้านั้นก็จางหายไปอย่างรวดเร็วและเขาก็เดินมาหาผมด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“ชั้นคิดว่ามันจะเป็นศัตรูที่ยากสำหรับนาย แต่นายไม่แม้แต่ให้โอกาสได้ช่วยเหลือเลย”

“นายเกินกว่าความคาดหวังเสมอ รูน”

“จะบอกว่า…”

“ใช่แล้ว นายผ่าน”

ผ่าน

“...แบบนั้นก็ดีเลย”

รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนใบหน้า

“โว้ววววววววววววววว!”

เสียงตะโกนโห่ร้องดังไปทั่วสถานที่สอบ มันดังพอจะพัดทุกอย่างจนปลิวไป

พร้อมกันนั้นหน้าต่างสถานะกึ่งโปร่งใสก็ปรากฏที่หน้าผม

ภารกิจเร่งด่วนสำเร็จแล้ว

โปรดรับรางวัล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด