ตอนที่ 117: ฆ่าครึ่งหนึ่ง
ตอนที่ 117: ฆ่าครึ่งหนึ่ง
เซี่ยเฟยได้ใช้วิชาพลางจิตพร้อมกับติดตามทีมด้านหน้าไปอย่างเงียบ ๆ
สองฝั่งข้างถนนเต็มไปด้วยอาคารและท่อแปลก ๆ มากมาย ชายหนุ่มจึงอาศัยอาคารเหล่านี้เป็นที่กำบังขณะติดตามกลุ่มทหารด้านหน้าไปอย่างรวดเร็ว
พื้นที่ภายในฐานของกลุ่มโจรสลัดนกฮูกมีขนาดค่อนข้างใหญ่ นอกจากนี้มันยังมีลูกน้องของสการ์คอยโจมตีขัดขวางอยู่ตลอดเวลา มันจึงทำให้ทหารแนวหน้าไม่สามารถรุกคืบไปได้อย่างรวดเร็ว
นับตั้งแต่ที่พวกเขาลงมาจากยานกาลเวลาก็ได้ผ่านพ้นมากกว่า 10 นาทีแล้ว แต่ทหารแนวหน้าเพิ่งก้าวเท้าขึ้นไปยังชั้นที่ 3 ของฐานทัพ และคาดว่าพวกเขาคงจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าจะเดินทางไปจนถึงศูนย์บัญชาการที่อยู่ชั้นบนสุด
มันเคยมีคำกล่าวในตำราพิชัยสงครามว่า แรกเริ่มกองทหารจะมีขวัญกำลังใจอย่างแรงกล้า แต่เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าขวัญกำลังใจของพวกเขาก็จะค่อย ๆ ลดลง
แม้ว่ากองกำลังพันธมิตรจะเริ่มจู่โจมอย่างดุเดือด แต่ถ้าหากพวกเขาต้องใช้เวลาในการเดินทางอีกนานนับชั่วโมงมันก็จะทำให้กำลังใจของพวกเขาลดลงกว่าตอนนี้
ตลอดทางพวกทหารได้ปล้นชิงสินทรัพย์ไว้อย่างมากมาย บางคนถึงกับทิ้งอาวุธภายในมือเพื่อที่จะขนสินทรัพย์กลับไปมากกว่าเดิม
การกระทำของพวกเขาเป็นเรื่องที่โง่เขลาอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะจนถึงตอนนี้พวกเขาได้พบกับสมาชิกกลุ่มโจรสลัดนกฮูกเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น และถ้าหากพวกเขาต้องปะทะโดยไม่มีอาวุธอยู่ในมือ มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดเลยว่าทหารพวกนี้จะกลายเป็นตัวไร้ประโยชน์มากแค่ไหน
นอกจากนี้การแบกสัมภาระในระหว่างการเดินทางเป็นจำนวนมากยังจะทำให้พละกำลังของพวกทหารค่อย ๆ หมดลง และถ้าหากพวกทหารยังคงละโมบโลภมากต่อไป พวกเขาก็คงจะหมดแรงก่อนที่จะเดินทางไปถึงศูนย์บัญชาการ
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีสิ่งที่น่าสงสัย เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหาร, เครื่องดื่มหรือเครื่องมืออันล้ำค่าต่างก็สามารถหาพบได้ข้างถนนโดยทั่วไป ทั้ง ๆ ที่ของพวกนี้สมควรจะถูกเก็บเอาไว้อย่างมิดชิด และอาคารบางแห่งยังเปิดโล่งราวกับกำลังเชิญชวนให้พวกทหารบุกเข้าไปปล้น
เซี่ยเฟยกำลังขมวดคิ้วโดยไม่สนใจการกระทำโง่ ๆ ของทหารพวกนั้น เพราะสิ่งที่เขากำลังกังวลคือมันมีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้การกระทำพวกนี้กันแน่ และเขาก็กำลังพยายามคิดหาวิธีสังหารหนิงไป่เฉินเพื่อแย่งชิงหัวใจจักรวาลสีม่วงมาไว้ในครอบครองด้วย
หลังจากใช้เวลาคิดอยู่นานเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจที่จะไปยังศูนย์บัญชาการของพวกกลุ่มโจรสลัดนกฮูกเสียก่อนเพื่อดูว่าเหตุการณ์นี้มันได้ซุกซ่อนอะไรเอาไว้อยู่กันแน่ และศูนย์บัญชาการบนชั้น 16 ย่อมเป็นสถานที่ที่น่าสงสัยมากที่สุด
ชายหนุ่มควบคุมลมหายใจกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมอย่างชำนาญและเขาก็เดินไปตามช่องว่างระหว่างอาคารข้างถนนอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากสิ่งกีดขวางเป็นอาคารจำนวนมากเขาจึงจำเป็นที่จะต้องปีนป่ายขึ้นลงเป็นครั้งคราว ทำให้โดยเฉลี่ยเขาสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วประมาณ 300 เมตรต่อวินาที
แม้เซี่ยเฟยจะมองว่าการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 300 เมตรต่อวินาทีเป็นความเร็วที่ค่อนข้างช้า แต่ในสายตาของคนอื่นแล้วความเร็วของเขาก็เป็นความเร็วที่น่าอัศจรรย์
เมื่อชายหนุ่มได้อยู่ห่างจากทางเข้าชั้น 16 ในระยะไม่ถึง 1 กิโลเมตร กองกำลังหลักก็เพิ่งเดินทางเกือบจะถึงชั้นที่ 4 ของฐานทัพเท่านั้น เซี่ยเฟยจึงมีเวลามากเกินพอในการตรวจสอบพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ศูนย์บัญชาการ
เซี่ยเฟยใช้เครื่องจักรเก่า ๆ เป็นที่ซ่อนตัวพร้อมกับมองสำรวจไปยังทางเข้าบริเวณด้านหน้า
พื้นที่ชั้นบนสุดของฐานเป็นแท่นแยกขนาดใหญ่ที่มีโดมปกคลุมเอาไว้ทำให้การเข้าไปด้านในจำเป็นจะต้องผ่านประตูไปเท่านั้น
ประตูทางเข้าเป็นเหมือนกับทางเข้าโรงจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งเป็นถนนแบบเฉียงขึ้นไปข้างบน ซึ่งถ้าหากว่ามันมีการซุ่มโจมตีที่ชั้นบนคนข้างล่างก็จะไม่สามารถสังเกตเห็นสถานการณ์เหล่านี้ได้เลย
ห่างจากเซี่ยเฟยไปประมาณ 500 เมตรมีชายอีกคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ที่มุมตึก โดยชายคนนี้มีรูปร่างค่อนข้างผอมและมีส่วนสูงไม่ถึง 150 เซนติเมตร อย่างไรก็ตามเขาก็สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วมาก ซึ่งมันก็หมายความว่าเขาเป็นผู้ใช้พลังสายความเร็วที่อาจจะเป็นหน่วยสอดแนมที่ถูกส่งตัวมาจากกองกำลังอื่น
แน่นอนว่าในปัจจุบันเซี่ยเฟยได้อยู่ภายใต้วิชาพรางจิต มันจึงทำให้ตัวตนของเขากลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมและไม่ดึงดูดความสนใจของชายคนนี้เลย
“หาทางเข้าอื่นดีกว่า เส้นทางนี้มันโจ่งแจ้งมากเกินไป” เซี่ยเฟยพูดกับตัวเอง
ถัดจากผนังไปทางด้านขวามีท่อหลายท่อที่ต่อขึ้นไปยังชั้นบนสุด ไม่ว่าจะเป็นท่อสายไฟ, ท่ออากาศ, ท่อน้ำประปา ซึ่งท่อทุกชนิดถูกต่อเป็นแถวยาวเพื่อส่งไปยังพื้นที่ทุกมุมของฐานทัพ
เซี่ยเฟยเคลื่อนที่เข้าไปหาท่อเหล่านี้ก่อนที่เขาจะได้พบกับท่อโลหะสีดำขนาดใหญ่ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากพอที่เขาจะสามารถเข้าไปได้ เขาจึงใช้เชสซิ่งไลท์ตัดท่อออกเป็นทางเข้า
เชสซิ่งไลท์มีความคมราวกับแสงเลเซอร์มันจึงสามารถตัดผ่านท่อโลหะที่มีขนาดความหนามากกว่า 1.5 เซนติเมตรเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
ด้านในของท่อเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เซี่ยเฟยจึงวางแผ่นเหล็กที่ถูกตัดลงบนพื้นอย่างเบามือพร้อมกับปีนป่ายเข้าไปภายในท่อด้วยความรวดเร็ว
จากนั้นชายหนุ่มก็ทำการเปิดแสงไฟจากไมโครคอมพิวเตอร์และเนื่องมาจากแบตเตอรี่ของไมโครคอมพิวเตอร์เป็นโพลิเมอร์พลังงานสูง มันจึงทำให้ภายใต้สถานการณ์ปกติแบตเตอรี่ 1 ก้อนสามารถให้พลังงานกับไมโครคอมพิวเตอร์ได้เป็นเวลานานกว่า 1,000 ปี
แม้ว่าแสงที่ส่องออกมาจากไมโครคอมพิวเตอร์จะเป็นเพียงแค่ลำแสงเล็ก ๆ แต่มันก็มีความเข้มของแสงสว่างที่สูงมาก ชายหนุ่มจึงสามารถมองเห็นท่ามกลางความมืดได้ในระยะที่ไกลกว่า 20 เมตร
ดูเหมือนท่อนี้จะถูกทิ้งร้างมานานหลายปีมันจึงมีกลิ่นเน่าเหม็นอยู่ทุกที่ แต่โชคดีที่ออกซิเจนในท่อยังเพียงพอต่อการดำรงชีวิต เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องทนรับกลิ่นเหม็นในระหว่างเคลื่อนที่ผ่านท่อไปเท่านั้น
การเคลื่อนที่ผ่านที่แคบจำเป็นจะต้องใช้ความยืดหยุ่นของร่างกาย โดยชายหนุ่มได้ใช้ท่าทางที่คล้ายกับการว่ายน้ำท่ากบค่อย ๆ เคลื่อนที่ผ่านท่อนี้ไป และถึงแม้ว่าความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขาจะไม่ได้รวดเร็วเหมือนเคยแต่มันก็ไม่ถือว่าเป็นการเคลื่อนที่ที่เชื่องช้า
เมื่อเซี่ยเฟยได้เคลื่อนที่ไปจนถึงชั้นบนสุดของฐานทัพตรงท่อก็มีทางแยกออกไป 3 เส้นทาง ชายหนุ่มจึงใช้เชสซิ่งไลท์เปิดรูบนท่อเบา ๆ พร้อมกับใช้สายตาสอดส่องออกไปเพื่อสังเกตสถานการณ์
โชคดีที่ท่อพวกนี้ถูกสร้างเอาไว้ใกล้กับเพดานที่สูงขึ้นมาจากพื้นมากกว่า 10 เมตร เซี่ยเฟยจึงสามารถสังเกตสถานการณ์ภายนอกได้อย่างชัดเจน
ชั้นบนสุดของฐานทัพเป็นสถานที่โล่งประมาณ 4-5 สนามฟุตบอลที่มีห้องต่าง ๆ เชื่อมต่อกันเป็นวงกลมล้อมรอบทางเข้าที่อยู่ตรงกลางของลานโล่งเอาไว้ โดยเซี่ยเฟยได้สันนิษฐานว่าห้องพวกนี้น่าจะมีประตูเชื่อมไปยังห้องถัดไป
ขณะเดียวกันมันก็มีลูกน้องของสการ์ 4 คนกำลังรออยู่ที่มุมลับใกล้กับทางเข้าพร้อมกับถือปืนเลเซอร์กำลังสูงอยู่ในมือ ดังนั้นถ้าหากว่าใครขึ้นมาจากทางเข้าพวกเขาก็จะได้รับการต้อนรับจากปืนเลเซอร์อย่างอบอุ่น
เห็นได้ชัดว่าสี่คนนี้ทำหน้าที่เป็นพลซุ่มยิงที่มีประสบการณ์ที่ได้รับการฝึกมาอย่างโชกโชน โดยพวกเขาได้เข้าประจำจุดรอคอยเหยื่ออย่างอดทนและจะลงมือทันทีที่เป้าหมายได้ปรากฏตัว
อันที่จริงด้วยความเร็วของเซี่ยเฟยเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวปืนเลเซอร์พวกนี้เลย เพราะการเล็งและการเหนี่ยวไกจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาพอสมควร แน่นอนว่าช่วงเวลาเพียงแค่นั้นย่อมไม่สามารถติดตามความเร็วกว่า 800 เมตรต่อวินาทีของเซี่ยเฟยได้ แต่การเดินเข้ามาในทางเข้าก็จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเปล่า ๆ ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับการแอบเข้ามาแบบนี้
“หือ?” จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็ได้พบว่ารอบ ๆ ศูนย์บัญชาการมีรูที่ถูกปิดเอาไว้ด้วยแผ่นโลหะและถ้าหากว่ามันได้มีผู้บุกรุกเข้ามาพวกเขาก็สามารถเปิดรูและยื่นอาวุธออกไปจู่โจมได้อย่างรวดเร็ว
สถานการณ์ในปัจจุบันได้แสดงให้เห็นแล้วว่าสการ์เตรียมความพร้อมรับมือพวกกองกำลังพันธมิตรมาเป็นเวลานาน ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงจะไม่สามารถวางการป้องกันที่แน่นหนาได้ภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แบบนี้
หากกองกำลังพันธมิตรได้บุกเข้ามาภายในศูนย์บัญชาการ พวกเขาก็จะถูกซุ่มโจมตีจากพวกโจรสลัดนกฮูกที่ซ่อนตัวอยู่ในห้อง
“ดูเหมือนสถานการณ์จะน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสินะ” เซี่ยเฟยกระซิบกับตัวเอง
“มันมีอะไรน่าสนใจ?” อันธซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลถามขึ้นมาด้วยความสงสัย และเนื่องมาจากว่าเขาเป็นวิญญาณกลิ่นเหม็นในอากาศจึงไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขาเลย
“เดี๋ยวฉันค่อยเล่าให้ฟัง ตอนนี้ฉันยังต้องตรวจสอบการคาดเดาของฉันก่อน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
“ชิ! ทำเป็นมีความลับ” อันธเบะปากพูดออกมาอย่างไม่พอใจ
เซี่ยเฟยใช้เวลาพิจารณาสถานการณ์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินตามท่อที่แยกไปทางด้านขวา ซึ่งมันน่าจะนำไปยังห้องต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ลานโล่งแห่งนี้ได้โดยตรง
เซี่ยเฟยเปลี่ยนท่าทางโดยการคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับคลานเข้าไปภายในท่อ โดยการคลานแต่ละครั้งเขาจะสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ประมาณ 40 เซนติเมตร และเนื่องมาจากว่าภายในท่อไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ภายนอกได้ ชายหนุ่มจึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาการคาดเดาของตัวเองว่าในตอนนี้เขาได้เคลื่อนที่มาจนถึงตรงจุดไหนแล้ว
หลังจากที่ชายหนุ่มได้คลานไป 439 ครั้งเขาก็ใช้เชสซิ่งไลท์เปิดรูเล็ก ๆ บนท่อ ซึ่งถ้าหากว่าการคำนวณของเขาถูกต้องปัจจุบันเขาน่าจะอยู่บนห้องแรกทางด้านขวา
ภาพที่ปรากฏมันก็เป็นไปอย่างที่ชายหนุ่มได้คำนวณเอาไว้ โดยภายในห้องมีขนาดประมาณ 150 ตารางเมตรและมีแสงไฟส่องสว่างสลัว ๆ ภายในห้องมีคนอยู่ทั้งหมด 6 คนซึ่งพวกเขาก็กำลังนั่งล้อมรอบโต๊ะกลมและทำการเช็ดอาวุธภายในมือ
ภายในมือของทั้งหกคนมีปืนเลเซอร์ไรเฟิลสีดำอยู่ภายในมือ ซึ่งปืนชนิดนี้มีขนาดเล็กกว่าปืนของพลซุ่มยิง 4 คนที่รออยู่ตรงบริเวณทางเข้าเล็กน้อย และพวกเขาก็กำลังเช็คทุกชิ้นส่วนของปืนด้วยผ้าฝ้ายอย่างระมัดระวัง
นอกจากนี้บนโต๊ะยังมีเครื่องมือสื่อสารและแมกกาซีนพลังงานถูกวางอยู่หลายสิบเล่มทั้ง ๆ ที่แมกกาซีนพลังงาน 1 อันก็มากพอที่จะยิงปืนเลเซอร์ได้ต่อเนื่องนานกว่า 10 นาทีแล้ว และการใช้แมกกาซีนทั้งหมดเหล่านี้มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงกองกำลังที่มีจำนวนคนเพียงแค่ 8,000 คนเลย เพราะแม้แต่กองกำลังนับหมื่นก็ถูกทำลายลงไปได้อย่างง่ายดาย
“ดูเหมือนพวกเขาจะเตรียมพร้อมมานานแล้ว ถ้าฉันเดาไม่ผิดในห้องแต่ละห้องน่าจะมีทหารพวกนี้เตรียมซุ่มโจมตีอยู่เหมือนกัน พวกเราจะเอายังไงกันดี?” อันธกล่าวถาม
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ฆ่าพวกมันไปสักครึ่งหนึ่งสิ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบ
“ทำไมต้องครึ่งหนึ่งด้วย?” อันธถาม
“ถ้าฉันลงมือสังหารคนพวกนี้มากเกินไป มันจะทำให้กำลังของทั้งสองฝ่ายเสียสมดุลย์ ฉันอยากเห็นพวกมันทำลายซึ่งกันและกัน ซึ่งมันจะทำให้ฉันสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ง่ายที่สุด” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
***************
เจ้าแผนการจริงๆเลยพ่อคู๊ณณณณณ