บทที่ 94: ขู่ให้จ่าฝูงหมาป่ายอมจำนน
เมื่อหลงโม่ได้ยินคำอุทานของภูตหนุ่ม เขาก็หันกลับไปมองอีกฝ่ายแล้วพบว่าชายผู้นี้มีหน้าตาคุ้นมาก
ก่อนที่เขาจะทันได้คิดว่าอีกคนเป็นใคร หูเจียวเจียวก็ตะโกนอยู่กลางอากาศว่า
“ถึงแล้ว ลุยเลย!”
สิ้นเสียงของหญิงสาว นอกจากภูตนกที่แบกเธอไว้บนหลังแล้ว ภูตนกอีก 4 ตัวก็บินโฉบลงไปบนหัวหมาป่า
ในอุ้งเท้าของภูตนกแต่ละตัวมีวัตถุสีแดงเป็นสายยาวหลายเส้น และเส้นไหมสีน้ำตาลที่ปลายมีประกายไฟลุกไหม้ซึ่งค่อย ๆ สั้นลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ชัดเจน
วินาทีที่ภูตนกกดวัตถุสีแดงลงบนหลังของหมาป่า ก็มีเสียง ‘ฉ่า’ ดังไปทั่ว พร้อมกับที่มีควันสีขาวฉุนกึกลอยขึ้น
ท่ามกลางฝูงหมาป่าทั้งหมด มีเพียงจ่าฝูงหมาป่าเท่านั้นที่มีสติปัญญา ส่วนสัตว์ตัวอื่นเป็นเพียงสัตว์ป่าธรรมดา พวกมันจึงตกใจกลัววิ่งแตกฮือเพื่อสลัดสิ่งแปลกปลอมบนตัวออกจนชนกันวุ่นวายไปหมด
แต่ไม่ว่าพวกมันจะวิ่งหนีไปไกลเท่าไหร่ สิ่งที่อยู่บนหลังของทุกตัวก็ยังเกาะแน่นซึ่งสะบัดเท่าไหร่ก็ไม่ออก
หลังจากนั้นฝูงหมาป่าที่เคยโจมตีกันเป็นระบบระเบียบก็เริ่มโกลาหล
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้จ่าฝูงโกรธมาก มันใช้ดวงตาดุดันจ้องเขม็งไปที่ผู้หญิงที่สั่งการอยู่บนอากาศ
หูเจียวเจียวเองก็ก้มลงมาประสานสายตากับตัวที่เป็นหัวหน้า ดวงตาล้ำลึกนั้นดูกระหายเลือดน่ากลัวมากเหมือนกับว่ามันอยากจะกระโจนเข้าใส่เธอแล้วฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ
แต่ทว่า…
จิ้งจอกสาวฮัมเพลงเบา ๆ พลางชูนิ้วกลางใส่หัวหน้าฝูงหมาป่าตัวนั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน
ตามธรรมชาติของหมาป่า พวกมันอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นฝูงและทำตามคำสั่งของจ่าฝูงอย่างเคร่งครัด ในความฝันเธอเห็นว่าหมาป่าเหล่านี้ทำตามคำสั่งของหมาป่าสีเทาตัวใหญ่ ทำให้พวกมันสามารถโจมตีได้อย่างมีระบบ
แล้วเธอก็ใช้จุดอ่อนที่รู้มาว่าหมาป่ากลัวไฟและเสียงดังเข้ามาเสริมในแผนการของตนเอง แต่ว่ามันก็ยังติดปัญหาตรงที่หมาป่าฝูงนี้มีจำนวนมากเกินไป ถ้าเธออยากจะขวางพวกมันไว้ เธออาจจะต้องเผาป่านี้ให้วอดถึงจะสำเร็จ แต่โชคดีที่เธอพบประทัดในมิติของตัวเอง
หญิงสาวได้นำประทัดยักษ์กว่า 30,000 ลูกมาติดกับเทปกาวที่เหนียวแน่น จากนั้นก็จัดการให้ภูตนกนำพวกมันไปติดบนตัวของหมาป่า แผนนี้จะทำให้สัตว์ร้ายทั้งหลายตกอยู่ในความโกลาหลได้อย่างน้อย 10 นาที
แล้วภาพฝูงสัตว์ที่วิ่งแตกตื่นอยู่บนพื้นดินก็ยืนยันการคาดเดาของจิ้งจอกสาวได้
ในเวลาเดียวกัน จ่าฝูงมองไปที่กองทัพหมาป่าที่ถูกทำลายลง แล้วมันก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม หากเป็นเช่นนี้ต่อไป นอกจากมันจะไม่สามารถแก้แค้นได้แล้ว ฝูงของมันยังจะถูกกลุ่มภูตที่ตนเกลียดชังสังหารด้วย
เพียงครู่เดียว มันก็ตัดสินใจถอยกลับไปอย่างช้า ๆ
อีกด้านหนึ่ง พอหญิงสาวเห็นถึงการเคลื่อนไหวของหัวหน้าฝูงหมาป่า เธอก็รีบเอามือป้องปากตะโกนบอกมังกรหนุ่มว่า
"หลงโม่! รีบจับหมาป่าตัวนั้น อย่าให้มันหนีไปได้!"
เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงของหูเจียวเจียว ดวงตาของเขาก็มืดลง แต่ร่างกายของเขาก็ขยับเหมือนกระสุนที่บรรจุอยู่ในรังเพลิงพุ่งออกไปตามล่าหมาป่าสีเทาตัวใหญ่
"บรู้วววว!"
จ่าฝูงหมาป่าตกใจร้องโหยหวนเรียกให้ลูกน้องที่อยู่รายรอบเข้ามาช่วยตน แต่ในตอนนี้กลุ่มหมาป่าตกอยู่ในความโกลาหลอยู่จึงไม่มีสัตว์ตัวไหนเชื่อฟังคำสั่งของมันอีก
ในพริบตา เงาสีดำก็พุ่งทะยานมาอยู่ต่อหน้ามัน
“เอ๋งงง!”
หางมังกรเปื้อนเลือดฟาดเข้าใส่หัวหน้าฝูงหมาป่า ทำให้มันกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร แล้วกระแทกกับต้นไม้ใหญ่จนล้มลงกับพื้น
หลงโม่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และก่อนที่มันจะลุกขึ้น เขาก็ใช้อุ้งเท้าเหยียบลงบนหัวของอีกฝ่าย
ในที่สุดจ่าฝูงหมาป่าก็ถูกจับทั้งเป็น!
บัดนี้ประกายแห่งความเป็นปรปักษ์ฉายวาบในดวงตาของมังกรหนุ่ม จังหวะที่เขากำลังจะบดขยี้หัวของศัตรูด้วยแรงทั้งหมดที่มีอยู่ จู่ ๆ เสียงของหูเจียวเจียวก็ดังมาจากเหนือหัวของเขาอีกครั้ง
“หลงโม่ อย่าฆ่ามัน!”
จิ้งจอกสาวตบหลังภูตนกและพูดกับเขาว่า
“เร็วเข้า บินต่ำลงหน่อย ปล่อยให้ข้าลงไป”
หลังจากที่ภูตคนนั้นได้รับคำสั่ง เขาก็บินโฉบลงมาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นหูเจียวเจียวก็กระโดดลงจากตัวภูตนก แล้ววิ่งไปหาหลงโม่ “อย่าฆ่ามัน มันยังมีประโยชน์อยู่”
มังกรดำตัวใหญ่หันหน้ามาจ้องมองจิ้งจอกสาว เขาพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกหนัก ๆ ราวกับจะถามว่าทำไม
หญิงสาวดูเหมือนจะเข้าใจสายตาของหลงโม่ เธอจึงรีบอธิบายว่า "พวกอิงหยวนยังต่อสู้กับพวกภูตเร่ร่อนไม่จบ เราสามารถใช้หมาป่าตัวนี้ช่วยเราพลิกสถานการณ์ได้!"
หลังจากพูดจบ เธอก็หันไปมองหัวหน้าหมาป่า
"นี่ ข้าอยากต่อรองกับเจ้า ผลประโยชน์ที่ภูตเร่ร่อนมอบให้กับเจ้าได้ พวกข้าก็มอบให้กับเจ้าได้เช่นกัน แต่เจ้าจะต้องให้หมาป่าพวกนี้จัดการกับภูตเร่ร่อนพวกนั้น โดยแลกกับการที่ข้าไม่ฆ่าเจ้าและพวกของเจ้า"
ยามนี้หมาป่าสีเทาตัวใหญ่จ้องจิ้งจอกสาวด้วยความเกลียดชังนิ่งไม่ขยับเขยื้อน
“กร๊าซซซ!!!” ทางด้านหลงโม่คำรามอย่างหมดความอดทน แล้วเตรียมจะบดขยี้ตัวที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าตน!
พอหูเจียวเจียวเห็นว่าจ่าฝูงไม่สนใจตนเลยสักนิด ทันใดนั้นเธอก็ย่อตัวลงตรงหน้ามันแล้วใช้ไม้จิ้มเขี้ยวที่แหลมคมของมัน
ในเวลาเดียวกัน เธอก็ลดเสียงพูดลงให้ได้ยินเพียงตัวเองและอีกฝ่ายเท่านั้น
“ข้ารู้ว่าเจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูด เจ้าฉลาดมากและรู้วิธีใช้ภูตเร่ร่อนเพื่อฆ่าภูตในเผ่า แต่เจ้าไม่เคยคิดเลยว่าภูตเร่ร่อนก็จะฆ่าหมาป่ากินเหมือนกัน ถ้าเราตายไป ยังไงพวกมันก็จะฆ่าพวกเจ้ากินอยู่ดี!”
“ตราบใดที่เจ้าช่วยข้าในตอนนี้ ข้าสัญญาเลยว่าจะไม่มีใครแตะต้องฝูงของเจ้าอีกในอนาคต แล้วข้าจะปล่อยให้เจ้าออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย แต่ถ้าเจ้าไม่ช่วยล่ะก็...”
เสียงของหูเจียวเจียวเงียบไปสักพัก ดวงตาเรียวยาวของเธอหรี่ลงเพราะรอยยิ้มบนใบหน้า แต่เสียงข่มขู่นั้นกลับยิ่งไร้ความปรานีมากขึ้น
“ถึงแม้ว่าเจ้าจะต้องตาย แต่ก่อนถึงเวลานั้น ข้าจะบอกให้คนของข้ากำจัดหมาป่าทั้งหมดทิ้ง และถลกเอาหนังของพวกมันออกมาทำเสื้อผ้า ไม่เพียงแค่นั้น ข้าจะไม่ให้พวกมันได้อยู่อย่างสงบสุขต่อให้เจ้าตายไปแล้วก็ตาม”
เมื่อหัวหน้าฝูงหมาป่าได้ยินคำพูดของหญิงสาว มันก็เบิกตากว้างและพยายามดิ้นรนด้วยความโมโห
"อาวู้วววว แฮ่ๆๆ!"
เสียงเห่าหอนของหมาป่าบ่งบอกถึงอารมณ์ที่สิ้นหวังในขณะนั้น
พอเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง มันก็หลับตาลงและพยักหน้าเล็กน้อย
ไม่นานเสียงหมาป่าหอนต่ำก็ดังขึ้น จากนั้นหมาป่ารอบ ๆ ก็เงียบลงและหยุดโจมตีภูตของเผ่า
การกระทำของจ่าฝูงทำให้หูเจียวเจียวเผยสีหน้าสดใสทันที
ทีแรกเธอเกือบคิดว่าตัวเองเดาผิด ความจริงแล้วมันเข้าใจภาษาภูต
"หลงโม่ มันยินดีที่จะช่วยเราจัดการกับภูตเร่ร่อน" หญิงสาวหันไปมองมังกรยักษ์ด้วยความยินดี
ชั่ววินาทีนั้น ม่านตาสีทองที่สวยงามสบเข้ากับนัยน์ตาของสุนัขจิ้งจอกสีสวยที่กำลังสุกสกาวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ดวงตาคู่สวยนั้นทำให้มังกรหนุ่มละสายตาออกไปไม่ได้อยู่ครู่หนึ่ง
"น้องเล็ก! น้องเล็ก!"
ในตอนนั้นเอง มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านหลังทั้งคู่
นั่นทำให้หลงโม่กลับมามีสติ เขาหันหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับขยับอุ้งเท้าปล่อยจ่าฝูงหมาป่าไป
ทางด้านหูเจียวเจียวผงะไปเล็กน้อย
ใครเรียกฉัน?
ทันทีที่หันกลับไป เธอก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่มือทั้ง 2 ข้างของเขาจับไหล่เธอด้วยท่าทางประหม่า
"น้องเล็ก ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่? เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า? รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงเจ้ามาก!"
เสียงของชายผู้นี้ฟังดูอบอุ่นรื่นหูมาก
จิ้งจอกสาวยืนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่านี่คือพี่ชายคนที่ 3 ของเจ้าของร่างเดิม นามว่า ‘หูชิงหลู่’ เนื่องจากพี่ชายคนที่ 3 และ 4 ของนางไม่ค่อยมีเวลาว่างเพราะพวกเขากำลังฝึกฝนอยู่ในป่า ดังนั้นตั้งแต่เธอทะลุมิติมาที่นี่ เธอจึงไม่ค่อยได้เจอพวกเขาเลย
ในหนังสือบรรยายเอาไว้ว่าพี่ชายคนที่ 3 ของหูเจียวเจียวนั้นเป็นคนที่มีเส้นเสียงดีมาก เสียงของเขามีเสน่ห์จึงทำให้คนฟังหลงใหลได้อย่างง่ายดาย พอหญิงสาวได้ยินเสียงของอีกฝ่าย เธอก็จำได้ทันทีว่าเขาคือหูชิงหลู่
“พี่สาม พี่อยู่ที่นี่ด้วยหรือ แล้วพี่ใหญ่กับท่านพ่ออยู่ไหน?”
ในขณะที่หูชิงหลู่รู้สึกกระวนกระวายใจ คนเป็นน้องสาวก็มองสำรวจเขาไปทั่วร่างเช่นกัน
การต่อสู้ในครั้งนี้เริ่มขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้ร่างกายของชายหนุ่มจึงเต็มไปด้วยเลือดซึ่งไม่มีส่วนไหนที่สะอาดเลยสักนิด
สภาพของพี่ชายทำให้หูเจียวเจียวรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอเห็นศพเปื้อนเลือดนอนเกลื่อนอยู่บนพื้น ในเมื่อพี่สามอยู่ที่นี่ งั้นแสดงว่าพี่ชายคนอื่น ๆ ก็อาจจะ...