ตอนที่ 76 : ยอดขายรายวัน 100,000 หยวน!
"บอสฉิน ผลสรุปยอดขายรายวันออกมาแล้วครับ" เมื่อกดรับสายแล้ว น้ำเสียงตื่นเต้นของจ้าวเทียนเฉียงก็ดังออกมาจากโทรศัพท์
"ได้เท่าไร?" ฉินหยุนเอ่ยถามทันที
เห็นได้ชัดว่าจ้าวเทียนเฉียงรู้สึกตื่นเต้นมาก เสียงของเขาที่ดังออกมาดูสั่นเล็กน้อย เขากล่าวว่า "ร้านขายเสื้อผ้าสาขาถนนย่านการค้าขายเสื้อผ้าได้ทั้งหมด 315 ตัว ยอดขายอยู่ที่ 70,300 หยวน ส่วนอีกสองร้าน ร้านแรกขายเสื้อผ้าได้ 57 ตัว ยอดขายอยู่ที่ 12,500 หยวน และร้านที่สองขายเสื้อผ้าได้ 60 ตัว ยอดขายอยู่ที่ 12,700 หยวน"
"เมื่อสรุปรวมกันแล้ว ทั้งสามร้านขายเสื้อผ้าได้ทั้งหมด 428 ตัว และยอดขายรวมทั้งหมดของทั้งสามร้านภายในวันนี้คือ 95,500 หยวนครับ!"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉินหยุนทันที
"เหมือนกับที่ฉันคาดไว้"
ภายใต้อิทธิพลของค่ายกลรวบรวมโชคลาภ โดยสรุปจากประสิทธิภาพของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งก่อนหน้า เขาคาดการณ์ว่ายอดขายของร้านขายเสื้อผาทั้งสามสาขาจะอยู่ที่ประมาณ 90,000 หยวน
เพียงแค่วันเดียวยอดขายก็ได้เกือบ 100,000 หยวนแล้ว! นี่มันประสิทธิภาพการขายแบบไหนกัน?
แม้ว่าจะหักทุนในการผลิตเสื้อผ้า หักค่าจ้างพนักงานและอื่นๆ กำไรสุทธิอย่างน้อยก็ได้ถึง 70,000 หยวน!
จ้าวเทียนเฉียงก็รู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน เขาไม่เคยคิดเลยว่าความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเขาเอง
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังบริหารร้านเสื้อผ้าในเครือเทียนอี้เตี๋ยอยู่ เป็นเรื่องยากมากที่ร้านค้ากว่า 20 แห่งจะมียอดขายถึงระดับนี้ได้
นอกจากนี้ วันนี้ร้านทั้งสามสาขาเพิ่งเปิดทำการหลังจากเวลา 12.00 น. อีกด้วย!
และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ร้านจะเริ่มเปิดตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 8.30 น. และปิดร้านในเวลา 22.00 น. ในตอนค่ำ!
หากผลลัพธ์เป็นเช่นวันนี้ ยอดขายของพรุ่งนี้จะเพิ่มขึ้นจนทะลุ 100,000 หยวนได้อย่างแน่นอน!
หลังจากรายงานยอดขายแล้ว จ้าวเทียนเฉียงก็กล่าวขึ้นอีกครั้ง "บอสฉินครับ ร้านของเราเป็นที่นิยมมาก หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเราคงต้องรับสมัครพนักงานเพิ่มแล้วครับ"
ตอนนี้ที่ร้านสาขาใหญ่สุดมีพนักงานทั้งหมด 24 คน ซึ่งแบ่งเป็นกะละ 12 คน ในจำนวนนี้รวมแคชเชียร์ไปด้วยอีกหนึ่งคน และยังมีวันหยุดของพนักงานอีก อันที่จริงแล้วทั้งร้านมีพนักงานขายแค่ 10 คนเท่านั้น
ถ้าเป็นร้านขายเสื้อผ้าร้านอื่นๆ นี่ถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมาก แต่สำหรับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ในพื้นที่ขนาด 200 ตารางเมตรแห่งนี้นั้น เกือบไม่พอเลยด้วยซ้ำ
ในตอนแรก จ้าวเทียนเฉียงยังคิดว่าฉินหยุนรับสมัครพนักงานมามากเกินไป แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาเปลี่ยนความคิดไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
อันที่จริงนี่ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อก่อนขนาดร้านแค่ 40 ตารางเมตร ที่มีพนักงานมากถึง 4-5 คน ยังต้อนรับลูกค้าได้ไม่ทัน เพราะงั้นไม่ต้องพูดถึงร้านค้าในปัจจุบันที่มีพื้นที่ถึง 200 ตารางเมตรเลย
ในวันนี้เขาได้เห็นลูกค้ามากมายเข้ามาที่ร้าน และเสื้อผ้าหนึ่งตัวเฉลี่ยแล้วถูกขายออกไปในเวลาแค่สองนาที ซึ่งแสดงให้เห็นว่าร้านค้าเป็นที่นิยมมากเพียงใด
ดังนั้นจ้าวเทียนเฉียงจึงต้องรีบโทรหาพนักงานคนอื่นๆที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุด เพื่อขอให้พวกเขาเข้ามาทำงานก่อน พนักงานคนอื่นๆจึงจะไม่ได้ยุ่งเกินไป
"แน่นอน เราต้องรับเพิ่ม" ฉินหยุนพยักหน้า
ก่อนหน้านี้ จำนวนพนักงานที่เขารับสมัครเข้ามา เขาอิงจากการคาดเดาของเขาเกี่ยวกับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง ซึ่งเขาคาดว่า มันคงมีผลลัพธ์ประมาณ 3 เท่าของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง แต่ในวันนี้ ผลลัพธ์ของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองที่แสดงออกมานั้น มันมากกว่าค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งอย่างน้อย 5 เท่า!
ดังนั้นถ้าไม่รับสมัครพนักงานเพิ่ม คนก็ไม่พออย่างแน่นอน
"ให้พนักงานบางคนทำโอทีไปก่อน สำหรับการรับพนักงานเพิ่ม ให้รีบดำเนินการรับสมัครทันที และพยายามจัดการให้เสร็จภายในสามวัน" ฉินหยุนออกคำสั่ง
จ้าวเทียนเฉียงรับคำ จากนั้นเขาก็เสนอว่า "บอสฉินครับ ผมคิดว่าเราสามารถรับสมัครนักศึกษามาทำงานพาร์ทไทม์ได้ เพราะมีมหาลัยหลายๆแห่งอยู่รอบๆเมืองนี้ แถมนักศึกษาเหล่านี้หลายคนก็ทำงานพาร์ทไทม์แค่ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ดังนั้นเราจึงสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วนได้"
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ฉินหยุนก็คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า "โอเค จัดการตามนั้นได้เลย"
ในเมื่อสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายภายในร้านได้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเมินเฉยต่อสิ่งนี้ อีกอย่างคนที่เลือกทำงานพาร์ทไทม์หลายๆคนก็มาจากครอบครัวที่ยากจน ดังนั้นจึงไม่เป็นไรที่จะให้โอกาสพวกเขาในการหารายได้เสริม
ทั้งสองพูดคุยรายละเอียดกันสักพัก จากนั้นก็วางสายไป
...
ในเวลานี้ จ้าวเทียนเฉียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและพลังงานเต็มเปี่ยม ใครจะไม่อยากให้ธุรกิจในที่ทำงานของตัวเองดีขึ้น?
เขากำลังมีความสุข ตัดภาพมาที่อีกสถานที่ จางฉินเยว่กำลังนั่งคุยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง
รอบข้างของทั้งคู่เงียบลงเล็กน้อย เพราะไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา
หลังจากนั้นครู่หนึ่งในที่สุดทางฝั่งของหญิงสาวก็ทนไม่ไหวเปิดปากออกมา เธอกล่าวว่า "พี่สาวฉินเยว่ ฉันไม่เชื่อว่าธุรกิจของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนจะร้อนแรงอย่างที่เราเห็นกันหรอก ฉันว่าฉินหยุนต้องจ่ายเงินให้กับคนเหล่านั้นแน่ ไม่อย่างนั้นทำไมแค่เปิดร้านวันแรก ธุรกิจจะเป็นที่นิยมขนาดนี้?"
เธอกำหมัดพลางกล่าวออกมา
เมื่อร้านค้าหลายแห่งเปิดทำการวันแรก เถ้าแก่เหล่านั้นจะจ้างหน้าม้ามาสร้างสถานการณ์ว่าธุรกิจของพวกเขาเป็นที่นิยม เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า
หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย จางฉินเยว่มีคุณสมบัติสูงขนาดนี้ ถ้าเธอต้องการ ไม่รู้ว่ามีบริษัทใหญ่กี่แห่งที่เต็มใจที่จะแย่งเธอไป แต่จางฉินเยว่กลับเต็มใจที่จะเข้าร้านเสื้อผ้าที่เพิ่งเริ่มต้นกิจการเล็กๆอย่างร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนแห่งนี้ แต่เธอกลับถูกปฏิเสธ
มันก็แค่หุ้นเพียง 10% เท่านั้น ในอนาคต รายได้ของบอสจะมากกว่าสิบเท่าหรืออาจจะเป็นร้อยเท่าของหุ้นที่เขาจ่ายไปแน่นอน
เธอรู้สึกว่าบอสอย่างฉินหยุนต้องมองการณ์ไกลไม่เป็นแน่นอน และเธอกำลังรอดูธุรกิจของเขาเจ๊งไม่เป็นท่า
แต่เธอกลับไม่คาดคิดว่า ธุรกิจจะร้อนแรงขนาดนั้นได้แค่ภายในวันเดียว
จางฉินเยว่เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหัวและกล่าวว่า "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน"
ความร้อนแรงของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนในวันนี้ สร้างความประหลาดใจให้เธอเล็กน้อยเช่นกัน
เธออยู่ในวงการเสื้อผ้ามาหลายปี และเธอก็ไม่เห็นหนทางว่าร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้ได้จะรับความนิยมได้อย่างไร ท้ายที่สุดแล้วร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนก็ไม่ได้จัดกิจกรรมโปรโมทใดๆเลย
อย่างไรก็ตาม มันกลับร้อนแรงมากซะอย่างนั้น!
ในความเห็นของเธอ สิ่งที่หญิงสาวที่อยู่ข้างกายเธอพูดมานั้นน่าจะใกล้เคีบงที่สุด มีเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเป็นที่นิยมมาก นั่นก็คือการจ้างหน้าม้ามาที่ร้าน
ในขณะนี้เอง โทรศัพท์มือถือของจางฉินเยว่ก็ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเธอ
"ฮัลโหล"
เธอมองดูมันและกดรับสาย
สิบวินาทีต่อมา การคุยกันทางโทรศัพท์ก็สิ้นสุดลง และจางฉินเยว่ก็ยืนขึ้นทันที
"พี่สาวฉินเยว่" เมื่อเห็นจางฉินเยว่กำลังจะเดินออกไป หญิงสาวข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม "เราจะไปไหนกันเหรอคะ?"
"ไปมหาลัยจินหลิง" จางฉินเยว่กล่าวเบาๆ
...
หลังจากพูดคุยกับจ้าวเทียนเฉียงเสร็จแล้ว ฉินหยุนก็คิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็โทรหาฉินซวน
"เสี่ยวหยุน สถานการณ์ของร้านเสื้อผ้าฝั่งนั้นเป็นยังไงบ้าง" ฉินซวนรีบเอ่ยถามทันทีหลังจากที่กดรับสายโทรศัพท์
เธอรู้ว่าร้านค้าทั้งสามแห่งของฉินหยุนในเปิดขึ้นในวันนี้
ในเวลานี้ ฉินซวนกำลังอยู่ในแผนกออกแบบของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนที่เขตชิงอู๋ และตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว แต่โจวซินหยาและคนอื่นๆยังอยู่ที่นี่ เพราะกำลังคิดเกี่ยวกับการปรับปรุงดีไซน์เสื้อผ้าบางจุด
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินซวน โจวซินหยาและคนอื่นๆก็เงี่ยหูและตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ
พวกเธอก็รู้เช่นกันว่าฉินหยุนเปิดร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนในเมืองจินหลิงด้วย และตอนนี้เสื้อผ้ามากกว่าครึ่งในโรงงานก็ถูกส่งไปที่นั่น
นั่นคือเสื้อผ้าที่พวกเธอออกแบบ ดังนั้นพวกเธอก็อยากทราบสถานการณ์การขายที่จินหลิงโดยเช่นกัน
ที่สำคัญคือ หากกิจการที่นั่นไปได้ดีทางโรงงานก็ดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
ก่อนหน้านี้ โรงงานขยายขนาดจาก 20 คนเป็น 50 คนแล้ว ซึ่งเหล่าพนักงานก็ได้รับการปรับเงินเดือนขึ้นกันหมดแล้ว
แต่ถ้ากิจการในจินหลิงไปได้ไม่ดี ทางโรงงานก็อาจเลิกจ้างพนักงานและอาจลดค่าจ้างพนักงานที่เหลือลงด้วย
นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอต้องการเห็นอย่างแน่นอน
ดังนั้นวันนี้พวกเธอจึงเลือกที่จะทำโอที เพื่อให้ทราบสถานการณ์การขายในจินหลิงโดยเร็วที่สุด
"พี่ใหญ่ ธุรกิจที่นี่ดีมาก ภายในสิบชั่วโมงหลังจากเปิดร้าน ร้านค้าทั้งสามสาขาสามารถขายเสื้อผ้าได้ทั้งหมด 428 ตัว ยอดขายรวมอยู่ที่ 95,500 หยวน" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
(จบตอน)