ตอนที่แล้วตอนที่ 74 : คนบ้านเดียวกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 76 : ยอดขายรายวัน 100,000 หยวน!

ตอนที่ 75 : สี่ทุ่ม!


"หลี่หานอวี่ ในเมื่อตอนนี้นายสามารถหาเงินได้มากมาย ดังนั้นครั้งนี้นายต้องเลี้ยงพวกเรา"

"ใช่แล้ว เราไม่มีเงินเลย มันน่าอนาถมาก"

หลังจากหญิงสาวผมสั้นกล่าวจบ อีกสองสาวก็ส่งเสียงร้องเจี๊ยกๆออกมา

"แน่นอน ไม่มีปัญหา" หลี่หานอวี่ตบหน้าอกของเขาพลางกล่าวเสียงดัง

พื้นเพครอบครัวของเขานั้นค่อนข้างธรรมดา พ่อกับแม่ของเขาให้ค่าขนมกับเขาแค่ 2,000 หยวนต่อเดือนเท่านั้น แต่เงิน 6,000 หยวนที่ได้จากการเขียนนิยายจะถูกโอนให้ในวันที่ 12 นี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินเลย

เมื่อจ้าวคังฮ่าวเห็นว่าสาวๆเหล่านี้รู้สึกสนใจฉินหยุนก่อนในตอนแรก จากนั้นก็หันไปพูดคุยกับหลี่หานอวี่ต่อ เขาก็รู้สึกหดหู่ใจมาก

เขากลอกตาครั้งหนึ่งและกล่าวว่า "มาเถอะ นี่ถือว่าเป็นการเจอกันครั้งแรกของพวกเรา มาชนแก้วกัน"

เขาใช้มือหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมา

"ใช่ๆ ดื่มไปคุยไปกันเถอะ"

หลังจากคำกล่าวของเขาจบลง เจียงอี สาวสวยขาเรียวก็เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม

อาหารที่สั่งมาภายในห้องถูกเสิร์ฟมาทีละจาน มีทั้งเบียร์และเครื่องดื่มอื่นๆ และผู้คนในหอพักทั้งสองก็เริ่มคุ้นเคยกันอย่างรวดเร็ว

จากนั้นพวกเขาก็เริ่มคุยเล่นกัน

หลี่หานอวี่กำลังสนทนากับจางเสี่ยวเยว่แฟนสาวของเขา

ฉินหยุนพูดคุยกับหลินเมิ่งเมิ่ง สิ่งที่พวกเขาคุยเล่นกันก็เกี่ยวกับบางสิ่งในเมืองอู๋ซื่อ เป็นเพราะมาจากที่แห่งเดียวกัน พวกเขาจึงหาหัวข้อพูดคุยกันได้ง่ายขึ้น

สำหรับสาวสวยที่มีขาเรียวยาว เจียงอี เธอก็เลือกสนทนากับจ้าวคังฮ่าว

เดิมทีเฉิงต้าสงต้องการเข้าหาสาวสวยขาเรียวยาวคนนี้ แต่เมื่อเห็นว่าเธอเลือกพูดคุยกับจ้าวคังฮ่าว เขาก็เลยเลือกหญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่ง เธอคนนี้มีชื่อว่า รุ่ยเฉินฉี เธอสูงประมาณ 1.55 เมตร ไว้ผมทรงหน้ามา ตาโต และเธอดูน่ารักมาก

โจวผานกำลังสนทนากับหญิงสาวที่มีรูปร่างอวบเล็กน้อย เธอชื่อว่า เฉินซี อันที่จริงเฉินซีไม่รู้ว่าโจวผานพูดถึงเรื่องอะไร แต่เธอก็ยังคงหัวเราะออกมา

สำหรับหลิวซิน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครรู้สึกถึงการคงอยู่ของเขาเลย ราวกับว่าเขาเป็นเพียงแค่อากาศ เขาทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆอยู่ตรงโต๊ะ

และในห้องพักของจางเสี่ยวเยว่ ยังมีหญิงสาวผิวแทนตัวเล็กอีกคนหนึ่ง เธอชื่อว่าโจวเสี่ยวเค่อ ดูเหมือนเธอจะมีบุคลิกที่ค่อนข้างเฉยชาและเธอก็ยังนั่งเงียบๆอยู่ที่มุมโต๊ะเช่นกัน

หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ตอนนี้ก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว และผู้คนในหอพักทั้งสองก็กำลังจะแยกย้ายกัน

"เสี่ยวเยว่ ไปเถอะ เดี๋ยวค่อยเจอกันพรุ่งนี้" หลังจากมาส่งสาวๆถึงที่ชั้นล่างของหอพักหญิงแล้ว หลี่หานอวี่และจางเสี่ยวเยว่ก็สวมกอดกันด้วยความรัก สุดท้ายทั้งคู่ก็แยกกันหลังจากที่ถูกทุกคนกล่าวหยอกล้ออีกครั้ง

"เห้อ.. เสี่ยวเยว่ ความรักของคู่รักวัยรุ่นนี่ช่างน่าอิจฉาจริงๆ"

เมื่อกลุ่มผู้ชายจากไป สาวผมสั้น จ้าวฉิง เธอก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม "แถมเขาสามารถเขียนนิยายโดยมีรายได้มากกว่า 6,000 หยวนต่อเดือนอีกด้วย ฉันก็อ่านนิยายด้วยนะ ได้ยินว่ายิ่งเขียนมากเท่าไรก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้นเท่านั้น"

สาวๆคนอื่นก็อิจฉาเช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว คนที่หาเงินได้ตั้งแต่ต้นปีแรกของการเรียนมหาลัย ก็ได้ทิ้งผู้ชายส่วนใหญ่ไว้ที่เบื้องหลังแล้ว

จางเสี่ยวเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม "หานอวี่ของฉัน เขามีเจ้าของแล้ว แล้ววันนี้พวกเธอรู้สึกยังไงกับผู้ชายคนอื่นๆบ้าง พวกเธอชอบพวกเขาไหม?"

"ฉินหยุนก็ใช้ได้นะ เขาค่อนข้างหล่อแถมยังสูงอีกด้วย"

"ใช่ เขาหล่อกว่าและสูงกว่าหานอวี่ของเสี่ยวเยว่นิดหน่อย"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงสาวคนอื่นๆก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มทันที โดยเบนเป้าไปที่ฉินหยุน

"เห้อ.. ฉินหยุนก็ไม่เลวเลย แต่เขาเป็นของเมิ่งเมิ่งนี่สิ" จ้าวฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหลินเมิ่งเมิ่งก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที จากนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นด้วยความเขินอายว่า "จ้าวฉิง เธอพูดอะไรของเธอน่ะ"

"เฮ้ ฉันเห็นหมดแล้ว เธอกับฉินหยุนแลกวีแชตกันแล้วใช่ไหม"

จ้าวฉิงยิ้มพลางกล่าวว่า "ดูสิ เธอสวยมาก แถมยังมีบุคลิกที่นุ่มนวลและน่าทะนุถนอม ถ้าฉันเป็นผู้ชายฉันก็ชอบเธอเหมือนกัน อีกอย่างเธอกับฉินหยุนยังมาจากที่เดียวกันด้วย นี่เรียกว่าโชคชะตา"

"ใช่ เมิ่งเมิ่ง เธอกับฉินหยุนเป็นคู่ที่ดีจริงๆ"

"งั้น.. ฉันคิดว่าคืนนี้ฉันจะส่งข้อความไปหาเขาเพื่อสานความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น"

เมื่อถูกเพื่อนๆหยอกล้อด้วยคำพูดเหล่านี้ ก็ยิ่งทำให้หลินเมิ่งเมิ่งหน้าแดงมากขึ้นไปอีก

อันที่จริงเธอเองก็มีความรู้สึกดีต่อฉินหยุนอยู่แล้วเช่นกัน ซึ่งเขาถือว่าเป็นผู้ชายในอุดมคติของเธอเลยก็ว่าได้

"ผู้หญิงจะส่งข้อความถึงผู้ชายก่อนได้ยังไง"

ตอนนี้เองที่เจียงอี้ สาวสวยขาเรียวยาวส่ายหัวพลางกล่าวว่า "ถ้าฉินหยุนสนใจเมิ่งเมิ่ง คืนนี้เขาจะส่งข้อความถึงเมิ่งเมิ่งก่อนแน่นอน ส่วนเมิ่งเมิ่ง ถ้าฉินหยุนส่งข้อความมาแล้ว เธอต้องรอสักสองสามนาทีก่อนค่อยตอบกลับเขา อย่ากระตือรือร้นเกินไป ในช่วงแรกของการสานสัมพันธ์เธอต้องค่อยเป็นค่อยไป ถ้าทำแบบนี้ฉันรับรองเลยว่า เมิ่งเมิ่งจะสามารถควบคุมฉินหยุนได้จนวันตายเลย"

เธอให้คำแนะนำกับหลินเมิ่งเมิ่งด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

"ว้าว อีอี ฉันว่าเธอสุดยอดมาก!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จางเสี่ยวเยว่และคนอื่นๆก็อุทานออกมา

หลายคนยิ้มออกมาและเริ่มคุยกันว่าจะช่วยหลินเมิ่งเมิ่งเอาชนะฉินหยุนได้อย่างไร

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น เพราะพวกเขาเพิ่งเจอกันไม่ถึงวันเลยด้วยซ้ำ

หลังจากนั้น รุ่ยเฉินฉี หญิงสาวตัวเล็กเธอก็ถอนหายใจออกมา "ในห้องพัก 305 หลี่หานอวี่ และฉินหยุน ทั้งคู่ต่างก็ยอดเยี่ยมมาก แล้วผู้ชายคนอื่นๆในคณะของเราล่ะ"

ในห้องพักห้องเดียวยังมีตั้งสองคน ดังนั้นในคณะก็อาจจะมีนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมอยู่หลายคนเช่นกัน

ในปัจจุบันนี้มีผู้คนมากมายที่เริ่มคบหากันตั้งแต่เรียนอยู่ช่วงมอปลาย แต่พอขึ้นมหาลัยกลับไม่ได้เยอะอย่างที่คิด พออยู่ในช่วงวัยนี้ หลายๆคนก็เริ่มมีข้อกำหนดสำหรับความรักของพวกเขามากขึ้น พวกเขาต่างก็หวังว่าจะได้พบกับคนที่ยอดเยี่ยม

"เฮ้ๆ ฉีฉีตัวน้อยเริ่มรู้สึกกระปรี้กระเปร่าแล้วใช่ไหม?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สาวๆคนอื่นก็หัวเราะออกมาทันที

พวกเธอกล่าวหยอกล้อและหัวเราะกัน จากนั้นเจียงอีก็ยิ้มและกล่าวว่า "ฉันคิดว่า จ้าวคังฮ่าวก็ค่อนข้างดีเหมือนกัน"

"จ้าวคังฮ่าว?"

"เขาสูงนะ แต่ดูธรรมดาไปนิด แต่เขาก็สามารถทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาขึ้นได้"

"เพราะงั้นอีอีถึงชอบยังไงล่ะ"

สาวๆคนอื่นๆก็นึกไปถึงจ้าวคังฮ่าว แต่พวกเธอไม่รู้ว่าทำไมเจียงอีถึงเอ่ยถึงเขา

เมื่อเผชิญกับความสงสัย เจียงอีก็ไม่ได้กล่าวอะไรมาก เพียงแค่ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรต่อ

ในขณะที่เดินคุยกัน สาวๆหลายคนก็กลับมาถึงห้องพักแล้ว

"พี่สาวอีอี ฉันไม่ต้องส่งข้อความไปหาฉินหยุนก่อนจริงๆงั้นเหรอ?" เมื่อหลินเมิ่งเมิ่งสบโอกาส เธอเข้ามาที่ด้านข้างของเจียงอีและกระซิบเบาๆ

"เฮ้ เจ้าหญิงน้อยเมิ่งเมิ่งของเราสนใจฉินหยุนจริงๆงั้นเหรอเนี่ย" เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงอีมองไปที่หลินเมิ่งเมิ่งพลางกล่าวด้วยความประหลาดใจ

ในความคิดของเธอ ฉินหยุนก็แค่ดูหล่อเหลาและสดใสนิดหน่อยเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้มีคนหล่อมากมาย หลายคนสามารถเป็นดาราในซีรี่ย์ได้เลย ซึ่งเธอไม่ได้มองคนอื่นที่หน้าตา แต่มองในแง่มุมอื่นของคนๆนั้นมากกว่า

เสื้อผ้าที่ฉินหยุนสวมใส่ ราคาอยู่ที่ประมาณ 2-300 หยวนเท่านั้น ดังนั้นฐานะครอบครัวของเขาก็น่าจะอยู่แค่ในระดับปานกลาง ในใจของเธอคิดว่าเขาด้อยกว่าจ้าวคังฮ่าวอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงไม่ใช่เสปคของเธอ

หลินเมิ่งเมิ่งหน้าแดง แต่เธอไม่ได้ตอบอะไร

"เด็กโง่ ถ้าเธอส่งข้อความทันทีหลังจากที่เราเจอกัน นี่ไม่ใช่ว่าเธอกำลังบอกฉินหยุนว่าเธอชอบเขาหรอกงั้นเหรอ สำหรับผู้ชาย สิ่งที่ได้มาง่ายเกินไปพวกเขาจะไม่ค่อยรักษา"

เจียงอียิ้มและกล่าวต่อ "ลองรอดูก่อน ถ้าฉินหยุนชอบเธอ เขาจะส่งข้อความมาหาเธอแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นเดี๋ยวฉันจะสอนวิธีคุยกับเขาให้"

"ก็ได้" หลินเมิ่งเมิ่งคิดว่าคำกล่าวของเจียงอีก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล เธอจึงพยักหน้าตกลง

...

ในอีกด้านหนึ่ง จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็กำลังเดินกลับหอพัก

"ฉินหยุน ฉันคิดว่าหลินเมิ่งเมิ่งสนใจนายแน่เลย นายต้องคุยกับเธอให้มากขึ้น และพยายามจัดการเธอซะ" หลี่หานอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็กล่าวอย่างช่วยไม่ได้ "นายพูดถึงเรื่องนี้เร็วไปไหม?"

"ฮ่าฮ่า ฉินหยุน นายจะมาอายอะไร นี่มันยุคไหนแล้ว นักศึกษาคนไหนบ้างที่ไม่หาแฟนตอนอยู่มหาลัย"

หลี่หานอวี่ยิ้มและกล่าวว่า "ฉันมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง ตอนนี้เขาอายุ 29 ปี พ่อแม่ของเขาไม่ให้เขามีแฟนในตอนที่เรียนอยู่มหาลัย แต่หลังจากที่เขาเรียนจบ พ่อแม่ของเขากลับเริ่มเร่งให้เขาแต่งงานซะงั้น แต่มันยากเกินไปที่จะหาคนที่เหมาะสมในเวลาสั้นๆ ตอนนี้เขาก็ยังต้องนัดบอดอยู่เลย"

"ที่ฉันจะบอกก็คือ ถ้านายอยู่มหาลัยแล้วยังหาแฟนไม่ได้ นายก็ต้องเสียเวลาไปนัดบอดอยู่ตลอด หลังจากที่เรียนจบ"

"แม่ของฉันสนับสนุนให้ฉันมีแฟนตั้งแต่เนิ่นๆ แถมพวกเขาก็รู้เรื่องของเสี่ยวเยว่ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงสนับสนุนเราอย่างเต็มที่"

หลี่หานอวี่กล่าวออกมาราวกับผู้ชนะ

"พี่หลี่พูดถูก!"

ในขณะนี้เอง โจวผานก็พยักหน้าหลังจากที่เขาคิดตาม จากนั้นเขาก็กล่าวว่า "ตอนนี้พ่อแม่ของฉันก็เป็นเหมือนกัน พวกเขาไม่อนุญาตให้ฉันมีแฟนในตอนที่เรียนอยู่มหาลัย และถ้าฉันเรียนจบ พวกเขาจะต้องเร่งให้ฉันรีบแต่งงานแน่นอน หลายๆคนที่บ้านเกิดของฉันก็เป็นแบบนี้เลย ตอนนี้กว่าจะได้แต่งงานก็ถูกเลื่อนออกไปจนถึงอายุ 27 ปีนู่น"

"ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือ ทุกคนต้องนำประสบการณ์ของฉันไปใช้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" หลี่หานอวี่กล่าวราวกับว่าเขาผ่านโลกมามากแล้ว

"พี่หลี่โปรดชี้แนะพวกเราด้วย!"

ตอนนี้เอง เฉิงต้าสงก็ก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

ขณะนี้ในห้องพักของพวกเขา มีเพียงหลี่หานอวี่เท่านั้นที่มีแฟน และพวกเขาไม่อายเลยที่จะขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์

ฉินหยุนส่ายหัวและไม่ได้กล่าวอะไรเลย เพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับหลินเมิ่งเมิ่ง

ในตอนนี้ สิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ก็คือยอดขายของร้านขายเสื้อผ้าที่จะสรุปออกมาหลังสี่ทุ่ม

ร้านเสื้อผ้าที่เปิดใหม่ทั้งสามสาขา ก็ปิดร้านตอนสี่ทุ่มเช่นกัน

เมื่อพวกเขากลับมาถึงห้องพัก ก็เป็นเวลาประมาณ 21:40 น.แล้ว และหลังจากนั้นสิบกว่านาที ในที่สุดจ้าวเทียนเฉียงก็โทรมาหาฉินหยุน

(จบตอน)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด