ตอนที่ 45 : เจ้าอิทธิฤทธิ์ออกลาย! ฆ่าด้วยตัวเอง!
ตอนที่ 45 : เจ้าอิทธิฤทธิ์ออกลาย! ฆ่าด้วยตัวเอง!
“พี่ตะวันสาดแสง พวกเรามาจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินเหมือนกัน พี่ช่วยปล่อยผมไปได้ไหม?”
“ผมสัญญาว่าผมจะไม่มายั่วโมโหพี่อีกเลยตลอดชีวิต” เจิ้งฮวยป้า หรือก็คือเจ้าอิทธิฤทธิ์อดทนต่อความอัปยศอดสูและพูดออกมา
“ดินแดนของพวกเราอยู่ในทะเลทรายตะวันสาดแสงเหมือนกัน ในไม่ช้าก็เร็วพวกเราก็ต้องปะทะกันอยู่ดีถ้าพวกเราพัฒนาต่อไปเช่นนี้ ในเวลานั้นการต่อสู้ก็คงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
“ฉันจะปล่อยนายไปได้ยังไง?” โจวโจวพูดอย่างใจเย็น
“ผมจะละทิ้งดินแดน ละทิ้งสถานะลอร์ด และกลายเป็นลูกน้องของพี่ โอเคไหม?” เมื่อเจิ้งฮวยป้าได้ยินคำพูดของโจวโจว เขาก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีและรีบพูดออกมา
โจวโจวมองไปที่เขา
“ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้าร่วมดินแดนของฉันได้”
“นายสามารถเข้าร่วมดินแดนของฉันได้ถ้านายต้องการ แต่ฉันก็ต้องดูนิสัยของนายก่อนว่าดีหรือเลว ก่อนที่ฉันจะตัดสินว่านายจะเข้าร่วมดินแดนของฉันได้ไหม”
“แล้วต้องทำยังไงเหรอ?”
“พาพวกเราไปที่ดินแดนของนาย เรียกคนในดินแดนของนายออกมาและให้ฉันถามพวกเขาว่านายปฏิบัติต่อคนพวกนั้นยังไง ถ้านายทำให้ฉันพอใจได้ ฉันก็จะยอมให้นายเข้าร่วมดินแดนของฉันและได้รับการคุ้มครองจากฉัน แต่ถ้าไม่ล่ะก็ งั้นก็จบกัน” เขาพูดอย่างใจเย็น
ดินแดนของเขาไม่ต้องการเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดี
โจวโจวไม่คิดที่จะปล่อยอีกฝ่ายไปถ้าเขาเป็นคนดีจริงๆ
นอกจากนี้เขายังต้องการดูว่าลอร์ดจะกลายเป็นนักผจญภัยยังไง
“เรื่องนี้…”
ดวงตาของเจิ้งฮวยป้าฉายแววความตื่นตระหนกขึ้นมา แต่เขาก็กัดฟันและพยักหน้าในท้ายที่สุด
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
นอกเมืองโลกา
โจวโจวมองไปยังสิ่งปลูกสร้างธรรมดาๆ ไม่กี่แห่งในบาเรียป้องกันลอร์ดมือใหม่และบอกให้เจิ้งฮวยป้าขอความช่วยเหลือ
เจิ้งฮวยป้าอยากจะวิ่งกลับเข้าไปในดินแดนของเขาทันที แต่ความรู้สึกภายในของเขาบอกเขาว่าหากเขากล้าที่จะวิ่ง เขาคงจะตายเร็วกว่าที่เขาสามารถวิ่งได้แน่ๆ
เขาทำได้เพียงยืนอยู่ห่างจากบาเรียป้องกันลอร์ดมือใหม่ 40-50 เมตรและตะโกนให้ลูกน้องทุกคนของเขาออกมา
อึดใจต่อมา ลูกน้อง 18 คนก็เดินออกมาจากเมืองโลกา
ลูกน้อง 18 คนเดินออกมาจากเมืองโลกาและมองไปที่ผู้คนบนเมคาโนสไตรเดอร์และลอร์ดของพวกเขาด้วยความหวาดกลัว
พวกเขาทั้งผอมบางและอ่อนแอ ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียว และแขนขาก็สั่น…
พวกเขาดูขาดสารอาหารมาก
“ข้าจับลอร์ดของพวกเจ้าที่ต้องการเป็นลูกน้องในดินแดนของข้ามา”
“แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นลูกน้องของข้าได้”
“เอาล่ะบอกข้ามาว่าเจ้าอิทธิฤทธิ์ของพวกเจ้าเป็นยังไงบ้าง? เขาทำเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีอะไรไว้บ้าง?”
“สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวตัดสินว่าเขาจะกลายเป็นลูกน้องของข้าหรือเป็นนักโทษของข้า”
“อย่าโกหก”
“ข้ามีวิธีตรวจสอบความจริง ถ้าพวกเจ้ากล้าโกหกก็จงรู้ไว้ว่าข้าจะไม่แสดงความเมตตาออกมา” โจวโจวเหลือบมองลูกน้องเหล่านี้
แต่ความดุร้ายในดวงตาของเขาจางหายไปเล็กน้อยเมื่อเขาเหลือบมองเด็กหญิงอายุหกหรือเจ็ดขวบที่ดูอายๆ คนหนึ่ง
“ใช่แล้ว บอกเขาไปว่าข้าปฏิบัติต่อพวกเจ้ายังไง ข้าทำดีกับพวกเจ้าอยู่ตลอดใช่ไหม?” เจ้าอิทธิฤทธิ์มองไปยังลูกน้องทั้ง 18 คนของเขาและยิ้มออกมา ในตอนท้าย จู่ๆ แววตาดุร้ายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา แต่ก็หายไปในชั่วพริบตา
อย่างไรก็ตาม ลูกน้อง 18 คนที่เห็นภาพฉากนี้ก็ยังตัวสั่นอยู่เล็กน้อย
“นายท่าน ลอร์ดของพวกเราทำดีกับพวกเราอยู่เสมอ” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งยืนขึ้นและพูดออกมา
“นายท่าน ลอร์ดของพวกเราไม่เคยทำเรื่องไม่ดีเลย เขาเป็นที่รักของพวกเรา” หญิงคนหนึ่งก็ยืนขึ้นมาด้วย
“นายท่าน โปรดให้ท่านลอร์ดของพวกเราเป็นลูกน้องของท่านด้วยเถอะ”
“ใช่แล้วๆ”
…
ในเวลานั้นเองก็มีลูกน้องกว่า 10 คนยืนขึ้นและพูดออกมา
เจิ้งฮวยป้าถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเขาเห็นเช่นนี้
โจวโจวที่อยู่ด้านหลังเขามองไปยังคนเหล่านี้อย่างใจเย็น จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นชายชราคนหนึ่งที่อยู่ตรงมุมๆ
เขากอดหลานชายไว้แน่นและมองไปยังภาพฉากนี้ด้วยสีหน้าอันขมขื่น
หลานชายของเขาก็มองมาที่ฉากนี้ด้วยความสับสนด้วย
“ท่านผู้อาวุโส ออกมาบอกข้าหน่อย” โจวโจวพูดกับชายชราคนนั้นในทันใด
ชายชราอึ้งไป จากนั้นเขาก็ตัวสั่นและเดินออกมา เขามองไปยังทุกคนก่อนที่จะมองไปยังเจ้าอิทธิฤทธิ์
“ลอร์ดของพวกเรา… เป็นคนดีมาก” ชายชราก้มศีรษะลง
“ดียังไง?” โจวโจวถาม
ชายชราอ้าปากและอึ้งไปชั่วขณะ
“เขาเป็นคนไม่ดี! เขามันสารเลว!”
ในเวลานั้นเอง หลายชายที่อยู่ข้างๆ เขาก็ชี้นิ้วไปที่เจ้าอิทธิฤทธิ์ในทันใดพร้อมด้วยดวงตาอันแดงก่ำและตะโกนออกมา
“เขาเอาพี่สาวของข้าไป! และเธอก็ไม่กลับมาอีกเลย เรื่องแบบเดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นกับเด็กสาวคนอื่นด้วย พวกเธอต่างก็ถูกคนชั่วผู้นี้และทหารอีกหลายคนพาตัวไป! และพวกเธอก็ไม่ได้กลับมาอีก ท่านปู่บอกว่าพวกเธอจะไม่ได้กลับมาแล้ว!” เด็กน้อยตะโกนออกมาด้วยดวงตาแดงก่ำ
“เด็กคนนี้บ้าไปแล้ว เขากำลังพูดเรื่องไร้สาระอยู่ พี่ตะวันสาดแสง อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของมันนะ” เจิ้งฮวยป้าอธิบายด้วยสีหน้าซีดเผือด
ปัง!
ชายชราที่อยู่ข้างๆ หลานชายของเขาคุกเข่าลงในทันใดและคร่ำครวญอย่างอ่อนแรง
ลูกน้องคนอื่นๆ ก็มองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
“นายบอกว่าเขาพูดเรื่องไร้สาระสินะ? งั้นฉันจะตรวจสอบมันเอง” โจวโจวมองไปที่เขาอย่างเย็นชา
ดวงตาของเขาสว่างวาบขึ้น
การควบคุมจิต
อึดใจต่อมา เจ้าอิทธิฤทธิ์ก็ยืนนิ่งอยู่กับพื้นด้วยความสับสน
“ให้ฉันถามหน่อย สิ่งที่เด็กคนนั้นพูดเป็นความจริงไหม? เด็กสาวทั้งสามคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?” โจวโจวถามอย่างเย็นชา
“สิ่งที่เขาพูด… เป็นเรื่องจริง พวกเราฆ่าเด็กพวกนั้นไปแล้ว” เจิ้งฮวยป้าพูดด้วยความงุนงง
ใบหน้าของทหารทั้งเจ็ดที่ถูกกดไว้ด้านหลังของโจวโจวซีดลงในทันใด
“ข้าจะฆ่าเจ้า!!!”
ชายชราวิ่งเข้ามาหาเจิ้งฮวยป้าอย่างบ้าคลั่งและทุบตีเขา
โจวโจวให้คนมาดึงเขาออกไปเมื่อเขาหมดแรงแล้ว จากนั้นเขาก็ถามว่า “เจ้าทำเรื่องเลวๆ พวกนี้กับใคร?”
เจิ้งฮวยป้ายกมือขึ้นและชี้ไปที่ทหารเจ็ดคนที่อยู่ข้างหลังโจวโจว
เมื่อทหารทั้งเจ็ดเห็นเช่นนี้ พวกเขาก็คุกเข่าลงทันทีพร้อมกับสีหน้าซีดเผือด
“ท่านลอร์ดไว้ชีวิตพวกเราด้วย!”
“พวกเรายินดีที่จะรับใช้ท่านลอร์ดไปจนวันตาย!”
“ท่านลอร์ด! อย่าฆ่าข้าเลย! ข้าสามารถช่วยท่านจัดการกับมอนสเตอร์แห่งหมอกได้ ข้ามีค่ามากเลยนะ!”
ทั้งเจ็ดคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตา
“ไอ้พวกบัดซบ… ฆ่าพวกมันซะ” โจวโจวพูดอย่างเย็นชา
“ขอรับ!”
ในทันทีที่เขาพูดจบ ทหารดาบโล่ทั้งเจ็ดคนก็ชูดาบขึ้นและเหวี่ยงมันลง ทำให้คนทั้งเจ็ดกลายเป็นศพไร้หัว
ในเวลานั้นเอง เจิ้งฮวยป้าก็หลุดออกมาจากการควบคุมจิตแล้วและได้สติกลับมา
เขาตื่นตระหนกเมื่อเขาเห็นเช่นนี้
“นายจะฆ่าฉันไม่ได้นะ ฉันคือลอร์ดจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินและเป็นเพื่อนร่วมโลกกับนาย นายไม่กลัวว่าลอร์ดในกระดานสนทนาจะรุมประนามนายเหรอถ้านายฆ่าฉันเพราะชาวทวีปจื้อเกา?!”
“นายมีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ?” โจวโจวมองไปที่เขาอย่างเย็นชา
เจิ้งฮวยป้าวิ่งไปทางบาเรียป้องกันลอร์ดมือใหม่ทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า
แสงแห่งความหวังในดวงตาของเขาสว่างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเห็นว่าเขาเข้าใกล้บาเรียป้องกันลอร์ดมือใหม่แล้ว
ในเวลานั้นเอง…
ฉึก!
เจิ้งฮวยป้าแข็งค้างไปในทันใด จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงและมองไปที่หัวลูกศรที่แทงทะลุหน้าอกของเขาด้วยความไม่เชื่อ
เศษผงพิษสีดำที่สะดุดตาเป็นพิเศษติดอยู่บนลูกศร
เจิ้งฮวยป้าล้มลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
ไม่ไกลจากเขา โจวโจวเก็บหน้าไม้พิษแมงป่องดำกลับไปอย่างใจเย็น
[ท่านได้สังหารเผ่าพันธุ์มนุษย์แห่งดาวเคราะห์สีน้ำเงิน–เจ้าอิทธิฤทธิ์ ได้รับพลังงานเสริมแกร่ง+2! สามารถเก็บไอเท็มดรอปได้แล้ว!]
[เมืองโลกากลายเป็นเมืองไร้เจ้าของ บาเรียป้องกันลอร์ดมือใหม่หายไป ท่านสามารถปล้นชิงหรือยึดครองดินแดนแห่งนี้ได้!]
ในเวลาเดียวกัน ลอร์ดที่กำลังให้ความสนใจกับเรื่องนี้บนกระดานสนทนาก็ตระหนักได้ในทันใดว่าชื่อของเจ้าอิทธิฤทธิ์ในรายชื่อเพื่อนของพวกเขาได้ดับแสงไปแล้ว
หลังจากรู้เรื่องนี้ ลอร์ดบนกระดานสนทนาเป็นจำนวนมากก็โวยวายออกมาทันที
Kaimah - ทรานสเลท (กลุ่มลับราคาพิเศษ/อ่านล่วงหน้า)