ตอนที่แล้วตอนที่ 2 หนึ่งวันของเด็กน้อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 ทำความเข้าใจจิตเวทย์

ตอนที่ 3 มุ่งมั่นตั้งใจ


ในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ชีวิตประจำวันของลิธนั้นมีกิจวัตรประจำวันเข้มงวด

ในระหว่างวันเนื่องจากเขาถูกห่อเอาไว้ เขาจึงโฟกัสไปที่การฝึกฝนเทคนิคการหายใจและการเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวของเขาและภาษาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ในตอนกลางคืนเขาจะฝึกเวทมนตร์จนกระทั่งอ่อนเพลียแล้วผล็อยหลับไป จากนั้นทันทีที่เขาตื่นขึ้นมาเขาจะเริ่มต้นฝึกเวทมนตร์อีกครั้งจนกว่าเอลิน่าจะตื่นขึ้นมา

เขาเคยหยุดพักมากกว่าหนึ่งครั้งแต่ในแต่ละครั้งมันก็จะไม่นานนัก การใช้ชีวิตเป็นเด็กทารกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในทางตรงกันข้ามมันเครียดมาก

เขาไม่สามารถพูดคำที่เขาเข้าใจแล้วได้แม้แต่คำเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ครอบครัวของเขากลัว เขาไม่สามารถขยับตัวได้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากการมอง นอน กิน และก็ขับถ่าย

เขาไม่คุ้นเคยกับการที่เขาทำอะไรไม่ได้ เขาต้องพึ่งพาคนอื่นเสมอในการทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ การมีเวลาว่างที่มากเกินไปกำลังจะทำให้เขาเป็นโรคประสาท

ดังนั้นเขาจะฝึกฝนและฝึกฝนเพื่อพยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ เพื่อที่จะได้ไม่คิดมากเกี่ยวกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้

เมื่อพลังของลิธเพิ่มขึ้น ความสามารถในการควบคุมของเขาก็ดีขึ้นเช่นกัน หลังจากผ่านไปสองสามสัปดาห์เขาก็รู้สึกมั่นใจพอที่จะลองใช้เวทมนตร์ธาตุดินและเวทมนตร์ธาตุน้ำ

เขาระมัดระวังตัวเสมอ เขาจะเสกน้ำออกมาแค่ไม่กี่หยดหรือกำจัดสิ่งสกปรกเพียงแค่เล็กน้อย เขาค้นพบว่าเขาสามารถทำให้องค์ประกอบของธาตุลอยอยู่กลางอากาศได้ และสามารถเปลี่ยนรูปร่างและขนาดของพวกมันได้โดยการใช้มานาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนการฝึกในตอนกลางคืนของเขาให้โฟกัสไปที่การควบคุมมากกว่าการเพิ่มพลัง เนื่องจากมานาของเขามีจำกัดและเขาก็ชอบการทำอะไรให้มันสมบูรณ์แบบมากกว่าการสร้างสิ่งที่อาจจะทำให้ความลับของเขาถูกเปิดเผย

ไม่ว่าตรรกเกี่ยวกับเวทมนตร์โดยทั่วไปแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ลิธคิดว่าการที่เด็กทารกสามารถฝึกใช้เวทมนตร์มันจะไม่ใช่แค่น่าตกใจแต่มันน่ากลัวมากกว่า

ลิธกลัวว่าเขาจะถูกครอบครัวทอดทิ้งหรือที่แย่กว่านั้นเขากลัวว่าเขาอาจจะถูกฆ่าตายเลยก็ได้

เขากลับมากลัวความตายอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้เขามีสิ่งต่าง ๆ มากมาย มันจะมีโอกาสแค่ไหนกันเชียวในการจะหาโลกอื่นที่มีเวทมนตร์แบบนี้ นอกจากนี้มันจะมีโอกาสอีกแค่ไหนกันที่เขาจะได้เกิดมาเป็นเด็กทารกในครอบครัวที่อบอุ่น?

เป็นศูนย์ ไม่มีอยู่เลย หรือว่าเป็นไปไม่ได้

เขาต้องเล่นไพ่ของเขาให้ดีและซ่อนไพ่ของเขาเอาไว้ให้ลับมากที่สุด ก่อนที่จะเปิดเผยเบาะแสเกี่ยวกับพรสวรรค์ของเขา เขาจำเป็นต้องรู้ว่ามาตรฐานของโลกนี้เป็นแบบไหน

ต้องมีพรสวรรค์มากแค่ไหนถึงจะถือว่าดี? การแบ่งแยกระหว่างอัจฉริยะกับสัตว์ประหลาดต่างกันแค่ไหน?

จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลอย่างต่อเนื่อง และมีเพียงการฝึกฝนเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลของเขาได้

หลังจากผ่านไปสามเดือน เขาก็สามารถร่ายแบบไม่ต้องออกเสียงได้ดีพอที่จะลองร่ายเวทมนตร์ไฟที่เตาผิง

เมื่อไฟติดแล้วและในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการพูดคุยและรับประทานอาหารในช่วงอาหารเช้า เขาก็พยายามทำให้เปลวเคลื่อนไหวไปตามที่เขาต้องการ แต่เขาก็ล้มเหลวเนื่องจากเปลวไฟนั้นรุนแรงเกินไป และระยะระหว่างเขากับไฟก็มากเกินไปสำหรับมานาที่เขามีในตอนนี้

ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยายามอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากเขายังคงรู้สึกถึงการไหลเวียนของเวทมนตร์จากตัวเขาไปสู่ไฟที่เตาผิง ดังนั้นนี่จึงเป็นการฝึกที่ดีในการขยายขอบเขตการรับรู้และระยะการควบคุมมานาของเขา

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการฝึกก็คือลิธจะหิวเร็วขึ้น โชคดีที่เขาไม่ใช่ลูกที่กินเยอะคนแรกของเอลิน่าและเธอก็มีน้ำนมเพียงพอ

อีกหนึ่งเดือนผ่านไป เอลิน่าก็เริ่มหย่านมเขา

เหตุการณ์นี้มีความหมายสองประการ อย่างแรกคือลิธสังเกตเห็นว่าครอบครัวของเขาไม่ได้มีอาหารอุดมสมบูรณ์ขนาดนั้น และแม้ว่าเขาจะมีคลังคำศัพท์ที่จำกัดแต่เขาก็ยังสามารถอ่านสีหน้ากังวลของพ่อแม่ในทุกครั้งที่เขาต้องการอาหารได้

แม้ว่าเขาจะเป็นคนเย็นชาและเป็นคนขวางโลก แต่ลิธก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

พวกเขารักลิธเหมือนกับเป็นลูกของพวกเขา ในขณะที่ลิธคิดว่าพวกเขาไม่มีอะไรไปมากกว่าโฮสต์กับปรสิต ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือเอลิน่าและเรน่าพี่สาวคนโตของเขา เธอเป็นเพียงคนเดียวที่ที่ดูแลเขานอกเหนือจากแม่ของเขา

ด้วยความรักและการเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง พวกเขาก็ได้สร้างรอยแตกบนกำแพงทางอารมณ์ของเขา ยิ่งเขาใช้เวลากับพวกเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งคิดว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้มากกว่าแค่คนที่เขาเข้ามาเป็นกาฝาก

ดังนั้นเขาจึงเริ่มจำกัดการฝึกของเขาให้ไม่เกินปริมาณอาหารที่พวกเขาสามารถมอบให้ได้

เขาจะต้องใช้ความพยายามเล็กน้อยในการค้นหาปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากถ้าเขากินน้อยเกินไปมันจะน่ากังวลมากกว่ากินมากเกินไป

เหตุผลที่สองคือการค้นพบที่เปลี่ยนแปลงโลกของเขาไปเลย

เนื่องจากเขาถูกบังคับให้หยุดการฝึกเวทมนตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้ในตอนนี้ลิธมีเวลาว่างให้เขามาทุ่มเทให้กับการฝึกเทคนิคการหายใจที่เขาตั้งชื่อว่า “รวบรวม”

ด้วยวิธีนี้พลังงานภายในร่างกายของเขาซึ่งเขาได้ขนานนามมันว่า "แกนมานา" ก็ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงจุดคอขวด

เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเขาไม่ได้ใหญ่พอหรือแข็งแรงพอที่จะสะสมมานาได้ไม่จำกัด ลิธไม่เคยสังเกตเห็นสิ่งนี้มาก่อนเพราะว่าร่างกายทารกของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้เขาไม่เคยพบคอขวดมาก่อน

ดังนั้นร่างกายและแกนมานาของเขาได้เติบโตไปพร้อมกันโดยที่เขาไม่รู้ตัว

แต่ตอนนี้ความสมดุลนั้นก็ได้พังทลายลง และการฝึกฝนเทคนิครวบรวมจะทำให้กล้ามเนื้อทุกเส้นของเกิดอาการปวด ดังนั้นเขาจึงถูกบังคับให้ต้องหยุดการฝึกเทคนิคหายใจนี้ลง

โชคดีที่เขายังคงมีอาหารให้กินและร่างกายของเขาก็ยังเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นแม้ว่าจะไม่สามารถออกกำลังกายได้แต่คอขวดก็จะอยู่ไม่นานนัก

การค้นพบครั้งที่สองเป็นผลมาจากการที่เขาถูกบังคับให้ไม่ฝึกเวทมนตร์หรือใช้เทคนิครวบรวม

ในขณะที่ศึกษาสถานะคอขวดของเขา เขาก็พบว่ามันเป็นไปได้ที่จะปรับเปลี่ยนเทคนิคการหายใจของเขา โดยการเอาขั้นตอนการกลั้นหายใจออก ด้วยวิธีนี้พลังงานโลกจะไหลเข้าและออกจากร่างกายของเขา ด้วยวิธีนี้มันทำให้เขารู้สึกเหมือนนอนหลับฝันดี

ลิธตั้งชื่อเทคนิคใหม่นี้ว่า “เพิ่มพลัง”

หลังจากการทดลองหลายครั้ง เขาก็ค้นพบว่ามานาของโลกสามารถทำให้เขาตื่นตัวได้หลายวัน แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีขีดจำกัด

ทุกครั้งที่เขาใช้เทคนิคเพิ่มพลัง ประสิทธิภาพของมันจะลดน้อยลงเรื่อยๆ และการนอนหลับเท่านั้นที่จะรีเซ็ตประสิทธิภาพของมัน

แต่การค้นพบที่สำคัญที่สุดนั้นเกือบจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ

หลังจากปรับปริมาณอาหารของเขา ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลิธก็ได้กลายเป็นความหิวโหย มันไม่ใช่ความอยากอาหารเล็กน้อยที่สามารถแก้ไขได้ด้วยขนมทานเล่น

มันเป็นความหิวชนิดที่ไม่เคยหายไปไหนมันจะยังหิวอยู่เสมอแม้ว่าเขาจะทานอาหารไปแล้วก็ตาม แม้ว่าลิธจะไม่ได้หิวจนจะเป็นจะตายแต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ในบรรดาความโชคร้ายทั้งหมดในชีวิตแรกของเขา อาหารไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น เขาสามารถกินทุกอย่างได้ตามใจตัวเอง เขาแม้กระทั่งจู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับอาหารด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้เขาหิวมาก จนทุกมื้อเขาจะต้องกินให้เกลี้ยง และถ้าเขาสามารถขยับร่างกายได้เขาก็จะไม่ลังเลเลยที่จะเลียจานจนมันสะอาด

สำหรับลิธวันที่ดีก็คือวันที่มีอาหารมื้อใหญ่ขึ้น และวันที่แย่ก็คือวันที่มื้ออาหารมีขนาดเล็กลงนั่นหมายความว่าเขาจะฝึกเวทมนตร์ได้น้อยลงด้วย และถ้าเขาใช้มานามากไปมันก็จะกลายเป็นเรื่องที่น่าปวดหัว

เขาจะหิวมากจนเขาปวดหัวตลอดทั้งวันและมักจะรู้สึกหัวโล่ง ๆ และไม่มีสมาธิเลย อาหารจึงเป็นสิ่งเดียวที่เขาคิดถึง

แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนเดียวในครอบครัวที่หิว นอกเหนือจากเอลิน่าแล้ว มีเพียงแค่ออพัลและเรน่าเท่านั้นที่จะได้รับมอบหมายให้ป้อนอาหารเขา

และในขณะที่เรน่ามีนิสัยใจดีและพยายามที่จะเป็นเหมือนกับแม่ของเธอ ออพัลมักจะโมโหหิวอยู่บ่อย ๆ เขามักจะฝันถึงวันที่ลูกของบ้านนี้มีแค่เขาและน้องสาวฝาแฝดของเขาเท่านั้น

แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่ต้องต่อสู้ในแต่ละวันเพื่อให้ได้รับความสนใจจากพ่อแม่ แต่ยังรวมถึงอาหารและเสื้อผ้าด้วย

เมื่อก่อนเขามีห้องของตัวเอง แต่ตอนนี้เขาต้องแบ่งห้องกับไทรออน มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่ลิธจะมาแบ่งพื้นที่ตรงนี้ออกไปอีก

ออพัลไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมครอบครัวที่ยากจนอย่างเขาถึงยังจะต้องมีลูกเพิ่มอีก

ตอนนี้เป็นช่วงฤดูหนาวดังนั้นจึงไม่มีงานให้ทำมากนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ค่อยมีโอกาสได้เติมเสบียงอาหาร และพวกเขาก็ต้องอดทนให้ได้จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิ

มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของปีสำหรับครอบครัวชาวนาทุกคนเนื่องจากอาหารไม่เพียง นอกจากนี้อาหารยังไม่ได้มีไว้สำหรับพวกผู้ชายเท่านั้นแต่รวมถึงพวกสัตว์ด้วย

ออพัลรู้สึกแย่ที่เห็นลิธกลืนกินอาหารทั้งหมด จนถึงจุดเขาคิดว่าลิธนั้นเป็น “ปลิง”

ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ถึงตาของเขาที่จะต้องป้อนอาหารให้ปรสิตตัวน้อยเขาก็จะแอบใช้ช้อนตักเข้าปากตัวเอง แต่ลิธก็ไม่ใช่คนที่จะถูกรังแกได้ง่าย ๆ

ทันทีที่เขาสังเกตเห็นว่าช้อนไม่ได้กำลังมาที่เขา เขาก็จะเริ่มร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง แล้วเอลิน่าก็จะวิ่งมาที่เขาซึ่งนั่นทำให้แผนของออพัลพัง

ลิธไม่เคยร้องไห้เว้นแต่เขาจะหิวหรืออยากเปลี่ยนผ้าอ้อม มันทำให้ทั้งพ่อและแม่ของเขาทั้งดีใจและหวาดระแวงในตัวเขา เนื่องจากลิธไม่เคยร้องไห้พร่ำเพรื่อ ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นลิธร้องไห้พวกเขาจะจริงจังกับมันมาก

วันนั้นเป็นวันที่เลวร้ายสำหรับลิธจริง ๆ เขาหิวโหยเพราะการเติบโตของร่างกายและมันก็เป็นตาของออพัลที่จะต้องมาดูแลเขา

พ่อและแม่ของเขาออกไปข้างนอก เนื่องจากหนึ่งในวัวของพวกเขามีอาการป่วยจากภาวะบวมน้ำเหลือง

ออพัลหยิบจานที่เต็มไปด้วยซุปครีมสำหรับทารกขึ้นมาและกลืนลงไปหนึ่งช้อนเต็ม ๆ

ลิธเริ่มร้องไห้ทันทีแต่ไม่มีใครได้ยินเขา

“ร้องไห้ไปเลย *เจ้าปลิง*” ตอนนี้ลิธสามารถเข้าใจคำศัพท์ทั่วไปส่วนใหญ่ได้แล้ว รวมถึงการเยาะเย้ยของออพัลด้วย “วันนี้มีเพียงแค่แกกับฉันเท่านั้น ไม่มีแม่ในชุดอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยแกหรอกนะ” หลังจากที่พูดไปแบบนั้นเขาก็กลืนซุปไปอีกหนึ่งคำ

ลิธรู้สึกเหมือนเขากำลังจะเป็นบ้า เป็นอีกครั้งที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เวทมนตร์ของเขานั้นไร้ประโยชน์ เพราะไม่งั้นแล้วความลับของเขาก็จะถูกเปิดเผย

เป่าลมใส่เขา? หรือว่าจะทำให้เขาเปียก? การใช้ไฟนั้นอันตรายเกินไป แค่อาหารมื้อเดียวมันไม่คุ้มค่าที่จะเผาบ้านของเขา

ความหิวของลิธกำลังกัดกินเขา มันทำให้ความโกรธของเขาพลุ่งพล่านเกินกว่าที่เขาเคยคิดว่าจะเป็นไปได้

‘แก ไอ้แม่เ**! ’ เขาตะโกนในใจ ‘รู้สึกภูมิใจมากนักรึไงกับการแย่งอาหารเด็ก?’

จากนั้นเขาก็เห็นออพัลตักซุปคำที่สาม ตอนนี้อาหารครึ่งหนึ่งของเขาก็ได้หายไปแล้ว

ความโกรธของลิธมีมากกว่าเดิม ตอนนี้ความเกลียดชังกำลังเผาไหม้เขาเหมือนกับไฟ

‘แกไม่ใช่พี่ชายของฉัน!’ เขาตะโกนในใจ ‘แกมันก็แค่โจรน่ารังเกียจเท่านั้น ไอ้ขยะเอ้ย!’

จากนั้นแทนที่จะเขาจะรู้สึกถูกกระตุ้นเหมือนครั้งก่อน ๆ แต่ครั้งนี้เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างในร่างกายของเขากำลังแตก เหมือนกับเขื่อนที่ไม่สามารถกั้นกระแสน้ำได้อีกต่อไป

‘แดกจนสำลักไปเลย ไอ้เ*ร!’ ลิธโบกมือของเขาไปที่ออพัลแล้วมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ

ลิธรู้สึกถึงมานาที่แผ่กระจายออกไปจากร่างของเขาไปถึงช้อนที่อยู่ในปากของออพัลและผลักมันเข้าไปอย่างแรง

ออพัลเริ่มสำลักและหลังจากที่ดึงช้อนออกจากลำคอเขาก็อาเจียนออกมา

ลิธประหลาดใจมากจนเกือบจะลืมทั้งความโกรธและความหิวไปเลย

เขาค้นพบบางสิ่งที่ยอดเยี่ยม พลังที่ดูเหมือนไม่มีใครในครอบครัวของเขามี

ลิธได้ค้นพบจิตเวทย์!

---

สรุปนิดหนึ่ง

เทคนิคการหายใจจูจุสึ -(ลิธตั้งชื่อใหม่)-> เทคนิครวบรวม -(พัฒนาโดยลบขั้นตอนกลั้นหายใจออก)-> เทคนิคเพิ่มพูน

โดนออพัลแกล้ง -(ค้นพบ)-> จิตเวทย์

มีคำถามอะไรคอมเมนต์ได้เลยนะค้าบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด