ตอนที่ 17
ออค
ว่ากันว่าออคในอดีตนั้นขาดสติปัญญาและมีกลยุทธ์ในการต่อสู้ที่แย่ แต่นั่นไม่ใช่ออคในปัจจุบันแล้ว
มนุษย์นั้นก้าวหน้าผ่านชีวิต เช่นเดียวกับสติปัญญาของออค
ออคในวันนี้รวดเร็ว แข็งแกร่ง และละเอียดอ่อนในแผนการ
“อั่ก!”
“หลบมัน!”
พวกมันพังแนวหน้าของอัศวินและเล็งตรงไปที่จอมเวทย์แนวหลัง
“มะ…มันหลบได้เรอะ?”
“ไม่มีทาง มันหลบธนูน้ำแข็งได้ยังไง?”
พวกมันยังหลบเวทมนตร์น่าขันของนักเรียนจากการเบี่ยงตัวเพียงเล็กน้อย
พลังของมันมากจนสามารถทำลายแนวอัศวินได้ในพริบตา และอาจารย์ไฮเดลก็ต้องก้าวเข้ามาและกดดันมันทุกครั้งที่ออคพุ่งเข้าใส่นักเรียนใกล้เกินไป
“ออคมันแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?”
“เราแค่ได้ยินว่ามันเป็นยังไง พอได้ลองสู้ดูแล้วชั้นก็คิดทางชนะมันไม่ได้เลย”
“ชั้นด้วย…”
มันแข็งแกร่ง
เมื่อประสบการณ์การต่อสู้ของนักเรียนต่ำเกินไป พวกเขาก็รู้สึกถึงพละกำลังอีกเล็กน้อย แต่พวกออคนั้นรู้สึกถึงพลังของนักเรียนที่จะสู้กับมัน
ผมเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน
‘อย่ามาล้อเล่นนะ…’
เมื่อรอบของผมใกล้ขึ้น ในหัวของผมก็เต็มไปด้วยความกังวลว่าผมจะสู้กับออคอย่างไร
จอมเวทย์คนอื่นนั้นร่ายเวทย์จากระยะไกล แต่ผมนั้นต่างกัน
อย่างแรกก็คือ มันมีร่างกายที่ใหญ่มากจนทำให้ผมตัวสั่นจากการแค่ได้เห็นมัน
และชั้นกล้ามเนื้อหนาก็ทำให้ผมเกิดคำถามว่าเวทมนตร์ของผมจะสร้างความเสียหายให้มันได้หรือไม่
ถ้าผมต้องสู้กับออคตัวนี้ซึ่งหน้า ทั้งที่หมัดของมันถ้าบอกให้เว่อซักหน่อยก็เท่าหัวของผมแล้ว
ผมเคยต่อยหุ่นไล่กาในการฝึกฝนมาก็จริง แต่ยังไม่เคยได้ต่อสู้ระยะประชิดอย่างจริงจังมาก่อน ความกังวลของผมจึงเพิ่มขึ้นไปอีก
‘แบบนี้ เราจะสู้ออคไหวไหมนะ..?’
แม้ว่าผมจะกลายเป็นผู้เล่นแล้ว นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมจะได้สู้กับมอนสเตอร์ในการต่อสู้จริง
แต่แม้ว่าจะคิดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ที่มุมปากของผมก็กระตุกอยู่เป็นระยะ
ใช่แล้ว
บอกตามตรง
‘มันน่าสนุก’
ครึ่งกังวล
ครึ่งคาดหวัง
ความกระวนกระวายประหลาดนี้ทำให้ร่างกายของผมรู้สึกดีแปลก ๆ
แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้
ทันทีที่ถึงรอบผม อาจารย์ไฮเดลก็เดินมาตามหาผมด้วยตัวเอง
พร้อมกับข่าวร้าย
“รูน อาเดล นายควรจะเตรียมใจให้ดีสำหรับการสอบ มันจะยากกับนายเป็นพิเศษ”
“หมายความว่าไงที่ว่า…”
“ดูเหมือนว่าโรงเรียนจะคาดหวังกับนายไว้สูงเพราะเป็นนักเรียนที่ได้ 100 คะแนนจากคิงแกรม การสอบของนายจะยากกว่านักเรียนคนอื่น หมายความว่ามอนสเตอร์ที่นายต้องสู้ด้วยจะไม่ใช่ออค”
“ว่าไงนะ?”
มอนสเตอร์ไม่ใช่ออคงั้นเหรอ?
แล้วเป็นอะไรล่ะ?
“แต่เป็นโอเกอร์”
ผมคิดว่าผมหูฝาด
แต่ก็ไม่ใช่
“ไม่จริงน่า! ให้เจ้าสู้กับโอเกอร์ตั้งแต่การสู้จริงครั้งแรก! น่าสนุกจริง ๆ”
สแตรงเองก็ได้ยินแบบเดียวกัน
อาจารย์ไฮเดลพูดต่อ
“หัวหน้าอัศวินแห่งพอลเดรนกับอาจารย์จะไปคุ้มกันความปลอดภัยของนายด้วย เรื่องความปลอดภัยน่าจะไม่มีปัญหา…แต่ชั้นแค่ไม่มั่นใจว่านายจะสอบได้ดีแค่ไหน”
ผมเป็นนักเรียนคนพิเศษที่ได้คะแนนเต็มจากคิงแกรม
เพราะเรื่องนี้ ผมก็เลยได้รับสิทธิพิเศษมาก(?)สินะ
สิทธิพิเศษสุดแสนจะลำบากใจที่ต้องสู้กับ ‘โอเกอร์’ ที่ใหญ่กว่าออคสามเท่า
ผมหัวเราะเบา ๆ ด้วยความกังวล
“อะฮ่าฮ่า…นี่มัน…ดีไหมเนี่ย”
“มันจะเป็นศัตรูที่ยากของนาย เตรียมใจเอาไว้”
อาจารย์ไฮเดลมองผมด้วยดวงตาที่สะท้อนความคิดซับซ้อนชั่วขณะหนึ่ง
แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็ต้องผ่านไปอยู่ดี อาจารย์
“รูน อาเดล เตรียมพร้อม”
“ครับ”
เมื่อถูกเรียก ผมก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง
“ไปจัดการมันซะ!”
ผมเดินเข้าลานสอบโดยมีเสียงให้กำลังใจจากเจสัน
แต่สีหน้าราวกับผู้ชนะของผมก็หายไปหลังจากได้เห็นความจริงซึ่งเป็นโอเกอร์ตรงหน้า
นี่มัน…ไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ?
“โฮกกกกกกกก!”
“อ…อะไรว่ะนะ?”
สภาพอารมณ์ของสถานที่สอบวุ่นวายในทันทีที่เห็นการเข้ามาของโอเกอร์ที่โกรธเกรี้ยว
“อ…ออคอะไรตัวใหญ่ขนาดนั้น?”
“เจ้าโง่ นั่นมันโอเกอร์!”
“นั่นมันโอเกอร์…มอนสเตอร์สอบของรูนคือโอเกอร์งั้นเหรอ?”
“โว้ววว…จะสู้กับไอ้นั่นได้ยังไง…?”
โอเกอร์นั้นมีกระดูกของสิ่งที่มันสังหารเป็นสร้อยคอ
โอเกอร์ปรากฏตัวบนลานสอบ มันมีกะโหลกอย่างน้อยสิบหัวแขวนรอบคอ
ทั้งหมดเป็นกะโหลกมนุษย์ และก็ยังมีกะโหลกของสัตว์วิเศษด้วย
หมายความว่าโอเกอร์ตัวนี้เคยต่อสู้และสังหารศัตรูมาแล้วอย่างน้อยสิบตัว
ในขณะนั้น ชายที่มีร่างใหญ่ก็เปิดปากขณะที่ถือดาบ
“ให้ตายเถอะ เราพามันมาที่นี่เพราะพวกเขาขอให้เราเอามา…แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะใช้เจ้านั่นทำการสอบ คิดจะบอกว่ามีนักเรียนในโรงเรียนที่สู้กับโอเกอร์ได้งั้นเหรอ?”
เขาคือโคลเตอร์ พิรันเต้
อัศวินขั้น 6 ที่มีออร่าสีฟ้าและเป็นหัวหน้าอัศวินแห่งดินแดนพอลเดรน
เขาคือคนที่จับออคและโอเกอร์ทั้งเป็นและพามาที่โรงเรียน
โคลเตอร์ พิรันเต้ถามอาจารย์ไฮเดล
“ผมได้รับคำขอมาจากผู้อำนวยการ…แต่คิดจะใช้เจ้านั่นกับการสอบจริง ๆ เหรอ? เราจับมันมาก็ยากอยู่แล้ว แม้ว่าจะใช้อัศวินจำนวนมากพร้อมมกัน”
ส่วนเรื่องคำถามนี้ อาจารย์ไฮเดลพยักหน้าอย่างใจเย็น
“ใช่แล้ว นี่เป็นคำสั่งผู้อำนวยการ”
ดูเหมือนว่าโคลเตอร์จะไม่พอใจกับคำตอบของอาจารย์ไฮเดล เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ดูเหมือนจะมีคนเสี่ยงชีวิตในโรงเรียนนี้นะ”
คำพูดของเขามีหนามที่ซ่อนอยู่
โอเกอร์นั้นแข็งแกร่ง
ถ้าหากโดนมันทุบเต็มแรง กะโหลกจะแยกเป็นสองซีกและกระดูกสันหลังจะบิดเบี้ยวไปเลย
แน่นอนว่ามันเป็นมอนสเตอร์ที่ต้องต่อสู้ในสนามรบจริง
แต่กลับใช้มันเป็น ‘ตัวทดสอบ’ สำหรับนักเรียน
นักเรียนคนนี้จะเก่งแค่ไหนกัน!
ในตอนนั้น
“ใช่ ผมกำลังเสี่ยงชีวิตตัวเอง”
“หืม? นายเป็นใคร?”
คนที่ตอบคำพูดเสียดแทงของโคลเตอร์ไม่ใช่อาจารย์ไฮเดล
แต่เป็นรูน ที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในที่สอบ
รูนโค้งศีรษะให้โคลเตอร์
“ผมชื่อรูน อาเดล เป็นนักเรียนที่รับการสอบครั้งนี้”
“...นายงั้นเหรอ?”
“ครับ ช่วยดูแลผมด้วย”
นักเรียนที่มีผมสีดำและใบหน้าที่นับว่าดี
เขาดูราวกับจะตัวขาดแยกออกจากกันถ้าโดนลมพัดเบา ๆ และสำหรับโคลเตอร์ที่ผ่านความยากลำบากทุกรูปแบบในชีวิตมาแล้ว รูนเป็นเพียงแค่เด็กอายุ 16 ที่ผอมแห้ง
‘เจ้าเด็กนี่จะสู้กับโอเกอร์งั้นเหรอ?’
แน่นอนว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากเขาและเหล่าอัศวิน
ไม่ว่าจะคิดเท่าไหร่ รูนก็ไม่ใช่จอมเวทย์ในระดับที่จะสู้กับโอเกอร์ได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น
“นี่…ทำอะไรน่ะ?”
“เตรียมสอบครับ”
“ตำแหน่งแกอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ตรงนี้”
โคลเตอร์ชี้ตำแหน่งด้านข้างที่นักเรียนยืนเพื่อสอบ
แต่จุดที่รูนยืนนั้นไม่ใช่ด้านข้างที่จอมเวทย์ควรจะอยู่ แต่เป็นแนวหน้ากับอัศวิน
โคลเตอร์คิดว่ารูนเป็นแค่คนโง่ที่หาตำแหน่งยืนของตัวเองยังไม่ได้ แต่คำพูดที่ออกมาจากปากรูนนั้นมันมากกว่าที่เขาคิดไว้
“ผมจะสู้จากตรงนี้”
“...ว่าไงนะ?”
“เวทมนตร์ของผมมัน…แปลกหน่อยน่ะ”
“ไร้สาระสิ้นดี…”
สายตาโคลเตอร์หันไปหาอาจารย์ไฮเดล
ราวกับจะถามว่าเขาไม่ได้หูฝาด และอาจารย์ไฮเดลก็พยักหน้าเงียบ ๆ
โคลเตอร์ไม่ใส่ใจอีกแล้ว เขาเดาะลิ้น
“ต่อให้นายจงใจมายืนใกล้ชั้น ชั้นก็ไม่มั่นใจว่าจะปกป้องนายได้ เจ้านั่นมันไม่ได้ตรงไปตรงมาขนาดนั้น”
“เข้าใจแล้วครับ”
“นายพูดว่านายเสี่ยงชีวิตเพื่อสอบใช่ไหม”
“ครับ”
“เพื่ออะไรกัน?”
“เพราะผมเองก็หมดหวังเหมือนกัน”
โคลเตอร์สังเกตดวงตาของรูน
ดวงตาของเขาต่างจากดวงตาพร่ามัวและหวาดกลัวของนักเรียนคนอื่น
จิตวิญญาณในดวงตานั้นดูกังวล แต่ไม่ใช่เพราะความกลัว
และเขายังดูมั่นใจและสนุกในขณะนี้ด้วย
‘อืม…เขาคงต่างจากคนอื่นบ้างล่ะมั้ง?’
และเมื่อรูนถอดผ้าคลุมออก โคลเตอร์ก็ได้ตกใจเป็นครั้งที่สอง
‘ทำไมจอมเวทย์ถึงมีร่างกายแบบนั้น…’
ผิดกับที่เขาเดาไว้ ร่างกายของรูนนั้นไม่ได้อ่อนแอผอมแห้งเลยแม้แต่น้อย
ผ้าคลุมนั้นปิดบังกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใหญ่ แต่มันอัดกันจนแน่น
‘เขาฝึกแบบอัศวินมางั้นเหรอ?’
คำถามของโคลเตอร์นั้นได้รับคำตอบในทันทีที่การสอบเริ่มขึ้น
“เฮ้ เฮ้ย! ทำอะไรน่ะ!”
ทันทีที่โซ่ตรวนที่มัดมือโอเกอร์ถูกเอาออกไป รูนก็วิ่งตรงไปหามัน
โคลเตอร์รู้ขนลุกด้วยความกลัว
‘บัดซบ!’
เขาไม่เคยจินตนาการด้วยซ้ำว่านักเรียนคนนั้นจะวิ่งตรงไปหาโอเกอร์
เขาขยับร่างกายช้าเกินไปขณะที่ตะโกน
“เฮ้! เฮ้! ทำอะไรอยู่น่ะ! หยุดนะ!”
แต่รูนไม่ได้ช้าลงเลย เขากลับใช้เวทย์ความเร็วกับตัวเองและวิ่งให้เร็วขึ้น
ระยะห่างระหว่างเขากับโอเกอร์สั้นลงอย่างรวดเร็ว
“โฮกกกกก!”
โอเกอร์ยกก้อนหินใกล้เท้าและพร้อมจะทุบหัวรูนเมื่อเขาเข้าใกล้
“เวรเอ้ย”
โคลเตอร์ชักดาบออกจากฝัก
ฟึ่บ!
ดาบยาวของเขาถูกปกคลุมด้วยออร่าสีฟ้าเปล่งประกายทันที
เขาคิดจะฟันโอเกอร์ให้ตายในดาบเดียว
ถ้าเขาไม่ทำแบบนั้น นักเรียนจำนวนมากที่มารวมตัวกันที่นี่อาจจะได้เห็นเพื่อนร่วมรุ่นของตัวเองตายจากกะโหลกที่แตกและเลือดไหลนองพื้นเป็นแน่
แต่ทว่า…
ก่อนที่ออร่าของโคลเตอร์จะไหลออกมา
ในเวลาสั้น ๆ นั้นเอง
‘...หา?’
สิ่งที่โคลเตอร์เห็นคือเพลิงขนาดใหญ่ที่ไหลออกมาจากมือของรูน
ในระยะเวลาอันสั้นนั้นเอง โคลเตอร์ได้จ้องมองเวทมนตร์ของรูนด้วยความงุนงง
ตะ…ตะ…ตู้มมมมมมมม!
เสียงระเบิดดังลั่นและแรงระเบิดก็ทำให้เกิดพายุทรายที่ทำให้เขาหลับตาแน่น
‘นั่นมันอะไร…?’
เมื่อพายุทรายสงบลงเล็กน้อย สิ่งที่โคลเตอร์ได้เห็นเมื่อลืมตาก็คือรูนที่ไร้รอยขีดข่วนกับโอเกอร์เซไปเซมาราวกับใกล้ตาย
ไม่มีทางที่เขาจะรู้ว่เกิดอะไรขึ้น
สิ่งเดียวที่เขามั่นใจก็คือ
‘จอมเวทย์…ระยะประชิด?’
ตอนนี้เขาเข้าใจความลับแล้วว่าทำไมจอมเวทย์คนนี้ถึงต้องฝึกร่างกายและต้องต่อสู้ในแนวหน้าไม่ใช่ด้านข้าง
โคลเตอร์วิ่งไปหารูนขณะที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“โถ่โว้ย! ถ้าคิดจะทำแบบนี้ก็บอกมาตั้งแต่แรกสิ มันอันตรายนะ!”
“ขอโทษทีครับ แต่…ถ้าผมบอกแล้วจะให้ผมทำแบบนี้เหรอ?”
“ว่าไงนะ?”
“รอหน่อยนะ การสอบยังไม่จบ”
รูนหันไปมองโอเกอร์
โอเกอร์ที่กำลังเซหลังจากโดนเวทย์ไฟนั้นมีดวงตาที่แสดงความป่าเถื่อน
ไม่ ไม่สิ
“โฮกกกกกกกก!”
มันดูจะเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม
ภาพโอเกอร์ทุบอกด้วยความโกรธที่เพิ่มขึ้นทำให้โอเกอร์มายืนบังรูนข้างหน้า
“นี่…อันตรายมากนะ ยืนข้างหลัง จากนี้ชั้นจะรับมือเอง”
แต่รูนก็โคงศีรษะให้โคลเตอร์ที่กังวลเบา ๆ
“นี่มันการสอบของผม”
“...อะไรนะ?”
“แค่ช่วยให้ผมสอบจบอย่างเดียวก็พอ”
โคลเตอร์มองรูนด้วยความอึ้ง
‘มีคนประเภทนี้อยู่ด้วยเหรอ?’