ตอนที่: 112 โจรปล้นโจร
ตอนที่: 112 โจรปล้นโจร
เอเลนส่งสัญญาณให้เซี่ยเฟยเพื่อเตือนว่าอย่าขัดคำสั่งนายน้อยคนนี้ ขณะที่ซาร่าแสดงท่าทางกังวลออกมาเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไรสักคำ อย่างไรก็ตามเด็กสาวคนนี้ก็ไม่เคยเก็บสีหน้าของเธอเอาไว้ได้อยู่แล้ว ดังนั้นอารมณ์ทุกอย่างจึงถูกเปิดเผยตามการแสดงออกของเธอ
“นายน้อยหนิงไม่ทราบว่าลุงของคุณต้องการอะไรจากผมอย่างนั้นหรอ?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“นายจะถามอะไรเยอะแยะ แค่ตามฉันมาเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ!” หนิงเตี้ยนกล่าวออกมาอย่างใจร้อน
ขณะเดียวกันพวกผู้ชายที่อยู่ด้านข้างก็จ้องมองมาที่เซี่ยเฟยอย่างเย่อหยิ่ง พร้อมกับจงใจกระตุกรอยยิ้มขึ้นมาคล้ายกับว่าถ้าหากเซี่ยเฟยไม่ให้ความร่วมมือ พวกเขาก็พร้อมที่จะลากชายหนุ่มคนนี้ไปด้วยกำลัง
สำหรับเซี่ยเฟยแล้วเขาไม่ได้รู้สึกสนใจคนเหล่านี้เลย แต่ซาร่ากับเอเลนอาจจะได้รับผลกระทบถ้าหากว่าเขาลงมือฆ่าใครสักคน นอกจากนี้ลูน่ายังถูกเก็บเอาไว้ในโกดัง ดังนั้นการสร้างปัญหาอาจจะทำให้เขาต้องทิ้งลูน่าไป
“ก็ได้ ผมจะไปกับพวกคุณ” เซี่ยเฟยกล่าว
เมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่มมันก็ทำให้เอเลนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ทว่าหญิงสาวอย่างซาร่าก็ยังคงแสดงท่าทีกังวลออกมาอยู่เช่นเคย
“เดี๋ยวฉันกลับมานะ ฝากเธอไปหาอะไรให้ฉันกินหน่อยสิ ตอนนี้ฉันกำลังหิวเลย” เซี่ยเฟยหันไปพูดกับหญิงสาวพร้อมกับใช้มือตบท้องตัวเอง
—
ตระกูลหนิงอาศัยอยู่ชั้นบนสุดของฐานทัพและพื้นที่ในตระกูลของพวกเขายังครอบครองพื้นที่ชั้นนี้ทั่วทั้งชั้น
ในสวนมีต้นไม้ที่เติบโตขึ้นมาจากของเหลวและกิ่งก้านสาขาที่กำลังผลิบานออกมาก็ทำให้คฤหาสน์หลังนี้ดูมีชีวิตชีวาแตกต่างจากบ้านหลังอื่น ๆ ในฐานเรดสโตนอย่างสิ้นเชิง
พื้นของคฤหาสน์ถูกปูด้วยแผ่นโลหะผสมและมีแผ่นหินสีแดงวางอยู่บนพื้นเป็นทางเดินยาว สองข้างทางประดับไปด้วยดอกไม้และต้นไม้มากมายทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกราวกับว่าเขาได้กลับมายังโลกอีกครั้งทั้ง ๆ ที่เขาก็ยังคงอยู่ในเขตดาววิลเดอร์เนส
นอกจากตระกูลหนิงจะทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายแล้ว พวกเขายังเก็บภาษีสินค้าทั้งหมดที่ผ่านฐานเรดสโตนเป็นจำนวนถึง 20% มันจึงทำให้รายได้ประจำปีของพวกเขามีจำนวนมากมายมหาศาล
ด้วยการที่พวกเขามีรายได้จำนวนมากเช่นนี้นี่เอง พวกเขาจึงได้จัดตั้งกองทัพทหารรับจ้างที่มีจำนวนทหารมากกว่า 1,000 คนพร้อมกับมียานรบคอยคุ้มกันอีกหลายลำ มันจึงทำให้ตระกูลนี้เป็นตระกูลทรงอิทธิพลภายในฐานเรดสโตนอย่างแท้จริง
“เข้าไปรอข้างในซะ” หนิงเตี้ยนชี้นิ้วสั่งเซี่ยเฟยไปที่ห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นแห่งนี้มีขนาดประมาณ 300 ตารางเมตรมีโต๊ะกลมวางอยู่ในห้องประมาณ 7-8 โต๊ะและทุกโต๊ะก็มีผลไม้และของว่างวางอยู่อย่างมากมาย
ขณะเดียวกันภายในห้องนั่งเล่นก็มีคนนั่งรออยู่แล้วประมาณ 20 คน เมื่อพิจารณาจากภายนอกพวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นชายฉกรรจ์ที่มีหน้าตาดุร้ายโดยส่วนใหญ่มีอาวุธแขวนไว้อยู่ที่เอว
ทันทีที่เซี่ยเฟยก้าวเท้าเข้าไปในห้องนั่งเล่น บทสนทนาของพวกเขาก็หยุดลงในทันทีพร้อมกับสายตาสงสัยที่กำลังจ้องมองมายังผู้มาใหม่
เมื่อได้รับสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตร ชายหนุ่มก็ส่งรอยยิ้มให้กับทุกคนโดยแสดงว่าตัวของเขาไม่มีอันตราย
หากมองจากภายนอกเซี่ยเฟยก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ดูธรรมดา ๆ เท่านั้น โดยในปัจจุบันเขาได้สวมใส่ชุดทำงานขาดรุ่งริ่งที่ซาร่าได้ให้มาเอาไว้อยู่ มันจึงทำให้เขาดูไม่ต่างไปจากชาวเรดสโตนโดยทั่วไป
คนภายในห้องไม่ได้ให้ความสนใจกับชายหนุ่มอย่างจริงจัง พวกเขาจึงได้หันไปพูดคุยในสิ่งที่พวกเขาพูดค้างกันเอาไว้ต่อ ซึ่งในระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้นพวกเขาก็ยัดผลไม้ลงไปในท้องราวกับว่าพวกเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้กินผลไม้พวกนี้อีกเป็นครั้งที่ 2
เซี่ยเฟยเดินไปหลบตรงบริเวณมุมห้องและมันก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาได้ฝึกวิชาพลางจิต มันจึงทำให้ตัวตนของเขาได้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็ว และไม่ว่าเขาจะเดินทางไปที่ไหนเขาก็สามารถที่จะหาสถานที่ในการอำพรางตัวเองได้อยู่เสมอ
หลังจากนั้นไม่นานสาวใช้รูปร่างอ้วนกลมก็นำถ้วยน้ำชาและผลไม้มาเสิร์ฟให้กับเซี่ยเฟย
การปลูกผักผลไม้ภายในดินแดนรกร้างเป็นเรื่องยากลำบากมาก มันจึงทำให้ราคาของผลไม้พวกนี้ค่อนข้างสูง โดยส้ม 1 ลูกสามารถขายได้ในราคาหัวใจจักรวาล 2 กรัม ซึ่งถ้าหากเขาได้กลับไปยังพันธมิตรหัวใจจักรวาลขนาด 2 กรัมนี้สามารถแปลงเป็นเงินได้หลายพันสตาร์คอยน์
ชายหนุ่มพยักหน้าขอบคุณให้กับสาวใช้ ก่อนที่จะค่อย ๆ ปลอกเปลือกและกินผลไม้เข้าไปอย่างช้า ๆ แต่สายตาและหูของเขากำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของชายฉกรรจ์เหล่านี้
หลังจากเวลาได้ผ่านไปไม่กี่นาที ชายหนุ่มก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวที่พวกเขากำลังพูดคุยกันได้
ดูเหมือนว่า ‘หนิงรั่วซาน’ ลูกชายคนเล็กของตระกูลหนิงและ ‘สการ์’ หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดนกฮูกจะตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน โดยในตอนแรกพวกเขาทั้งสองคนได้พูดจาเสียดสีกันเท่านั้น ก่อนที่สุดท้ายมันจะลงเอยด้วยการทะเลาะกันในที่สุด
ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นตระกูลหนิงก็ยังถือว่าเป็นผู้ปกครองฐานเรดสโตน มันจึงทำให้พันธมิตรของโจรสลัดนกฮูกต้องถูกบังคับให้หนีออกจากฐาน
หลังจากนั้นโจรสลัดนกฮูก 2 คนก็เข้าไปลอบสังหารหนิงรั่วซานซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่พวกเขาก็ไม่เคยพบโอกาสที่จะลงมือได้เลย ดังนั้นพวกเขาจึงได้ลงมือสังหารเหล่าทหารภายใต้สังกัดของตระกูลหนิงเพื่อเป็นการแก้แค้น
ตระกูลหนิงรู้ดีว่าโจรสลัดนกฮูกเป็นตัวตนที่อันตราย ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงติดต่อไปยังฐานทัพที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อรวบรวมคนไปกำจัดเหล่าโจรสลัดนกฮูก และคนเหล่านั้นก็คือชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าเซี่ยเฟยนี่เอง
อย่างไรก็ตามกลุ่มโจรสลัดนกฮูกก็ได้รับข่าวก่อนที่ตระกูลหนิงจะเริ่มลงมือ พวกเขาจึงบุกจู่โจมฐานเรดสโตนในวันนี้ แต่เนื่องมาจากกลุ่มโจรสลัดนกฮูกได้พ่ายแพ้กลับไป เหล่าชายฉกรรจ์จึงคิดว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะกำจัดกลุ่มโจรสลัดนกฮูกออกไปจากจักรวาล
หลังจากคิดพิจารณาเล็กน้อย ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกตัวมา
ท้ายที่สุดเขาก็พึ่งทำลายยานรบของกลุ่มโจรสลัดนกฮูกไป 1 ลำ ซึ่งมันเป็นเหมือนกับการช่วยเหลือตระกูลหนิงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้พวกเขายังคิดว่าเซี่ยเฟยเป็นหลานชายของเอเลนซึ่งมันก็ถือเป็นกองกำลังที่อยู่ใต้อาณัติของพวกเขา
สมาชิกส่วนใหญ่ของตระกูลหนิงอยู่ภายในฐานเรดสโตน แต่ถ้าหากพวกเขาต้องการจะออกจากฐานพวกเขาก็จำเป็นจะต้องพึ่งพายานรบ ขณะเดียวกันยานรบของตระกูลหนิงก็เป็นยานรบที่ธรรมดามาก ดังนั้นพวกเขาจึงคิดจะนำเซี่ยเฟยมาไว้ในทีมเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองยานของตัวเอง
ทีมที่ตั้งขึ้นมาทำสงครามกับกลุ่มโจรสลัดนกฮูกเป็นเหมือนกับทีมทหารรับจ้างเท่านั้น ดังนั้นเป้าหมายสูงสุดของเหล่าชายฉกรรจ์จึงมีเพียงแค่เรื่องเดียวนั่นก็คือค่าตอบแทน
อย่างไรก็ตามถ้าหากว่ากลุ่มโจรสลัดนกฮูกยื่นข้อเสนอที่สูงกว่าตระกูลหนิงเข้ามา คนเหล่านี้ก็พร้อมที่จะกลับลำกลายเป็นศัตรู เพราะท้ายที่สุดที่นี่ก็คือเขตดาววิลเดอร์เนส ด้วยเหตุนี้การทรยศใครสักคนจึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดสำหรับพวกเขาเลย
ขณะเดียวกันเอเลนกับซาร่าเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรของฐานเรดสโตน ซึ่งมันเป็นการรับประกันว่าเซี่ยเฟยไม่มีทางทรยศพวกเขาแน่นอน ตระกูลหนิงจึงคิดจะบังคับให้ชายหนุ่มได้เข้าร่วมในสงคราม
เมื่อเวลาผ่านไปมันก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาภายในห้อง โดยผู้นำของกลุ่มคนเหล่านี้คือชายชราหนวดขาวผู้มีอายุประมาณ 70 ปี ด้านหลังของเขาเป็นชายวัยกลางคน 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหนิงเตี้ยนนั่นเอง
เหล่าชายฉกรรจ์ภายในห้องต่างก็พร้อมใจกันลุกยืนขึ้นและกล่าวทักทายผู้นำตระกูลหนิงอย่างสุภาพ ขณะเดียวกันชายชราก็ตอบรับคำทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วเดินไปยังที่นั่งหัวโต๊ะพร้อมกับลูกชายทั้งสามคนที่ขนาบข้างซ้ายขวา
“ขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกคนต้องรอนาน ก่อนหน้านี้ทุกคนคงเห็นแล้วว่ากลุ่มโจรสลัดนกฮูกต้องการที่จะทำลายฐานเรดสโตน แต่โชคดีที่ระบบการป้องกันของพวกเราค่อนข้างดี พวกมันเลยต้องหนีหางจุกตูดกลับไป”
“อย่างไรก็ตามพวกโจรสลัดนกฮูกได้สร้างความเดือดร้อนให้กับเขตดาวของพวกเรามาเป็นเวลานานแล้ว และฉันก็คิดว่าเรื่องในวันนี้ไม่มีทางเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนโปรดระวังตัวเอาไว้ด้วย” ผู้นำตระกูลหนิงพูดอธิบายอย่างช้า ๆ
คำพูดของเขาถูกประดิษฐ์มาอย่างสวยงามโดยการบอกว่ากลุ่มโจรสลัดนกฮูกได้รับการสูญเสียครั้งใหญ่และหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเขาก็ให้ความเห็นว่าสักวันกลุ่มโจรสลัดนกฮูกจะกลับมาสร้างความเสียหายอีกครั้ง แล้วมันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเหยื่อรายต่อไปจะเป็นใครที่นั่งอยู่ในห้องแห่งนี้หรือไม่
อย่าลืมว่าในตอนนี้กลุ่มโจรสลัดนกฮูกรู้แล้วว่าพวกเขากำลังร่วมมือกัน ดังนั้นถ้าหากว่าใครคิดจะเล่นตุกติกเขาคนนั้นก็อาจจะเป็นศัตรูกับทั้งสองฝ่าย
“ผู้นำตระกูลหนิงพูดถูกแล้ว ฉันเกลียดพวกโจรสลัดนกฮูกมานานหลายปี มันถึงเวลาที่พวกเราต้องกำจัดพวกมันสักที” ชายผมสั้นลุกยืนขึ้นพร้อมกับแสดงความคิดเห็นอย่างเด็ดเดี่ยว
“ในฐานะผู้ปกครองฐานทัพที่อยู่ใกล้เคียง พวกเราจำเป็นจะต้องปกป้องความปลอดภัยของผู้คนภายในฐาน ฉันเห็นด้วยกับแผนการที่จะกำจัดกลุ่มโจรสลัดนกฮูก” ตัวแทนอีกคนของฐานบริเวณใกล้เคียงรีบแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างร้อนรน
ทุกคนในห้องต่างก็รู้ดีว่ากลุ่มโจรสลัดนกฮูกเป็นกลุ่มโจรสลัดที่คอยสร้างความเดือดร้อนมากแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นพ้องต้องกันว่าจะกำจัดกลุ่มโจรสลัดกลุ่มนี้ไปเพื่อรักษาความสงบสุขให้กับเขตดาว
หลังได้รับฟังความคิดเห็นเซี่ยเฟยก็คิดว่าเรื่องนี้ช่างเป็นเรื่องที่ไร้สาระจริง ๆ เพราะแต่ไหนแต่ไรผู้อยู่อาศัยในเขตดาววิลเดอร์เนสทุกคนต่างก็เป็นคนเทา ๆ อยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือโจรสลัดต่างก็ไม่มีความแตกต่างเลยแล้วคนพวกนี้จะพูดจาให้ตัวเองดูดีไปทำไม
สถานการณ์ในปัจจุบันมันไม่ต่างไปจากกลุ่มโจรสลัดหลาย ๆ กลุ่มกำลังรวมกองกำลังกันเพื่อกำจัดกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าเซี่ยเฟยจะมองจากทางไหนคนพวกนี้ก็ดูไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย
ตระกูลหนิงและตัวแทนพวกนี้สามารถที่จะพูดคุยตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว และทุกคนก็พร้อมใจกันเลือกผู้นำตระกูลหนิงเป็นผู้บัญชาการอย่างเป็นเอกฉันท์
ตอนนี้จุดประสงค์ของทุกคนตกลงกันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เวลาที่เหลือจึงเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับส่วนแบ่งที่พวกเขาจะได้รับ ซึ่งอันที่จริงเรื่องส่วนแบ่งเป็นเรื่องที่พวกเขารู้สึกซีเรียสมากที่สุด เพราะมิตรภาพทุกอย่างในเขตดาววิลเดอร์เนสต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นของปลอมและมันก็มีเพียงแต่เงินทองเท่านั้นที่เป็นของจริง
เหล่าชายฉกรรจ์ทุกคนภายในห้องต่างก็กำลังรอคอยให้ผู้นำตระกูลหนิงพูดถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ โดยทุกคนต่างก็จงใจเก็บความปรารถนาของตัวเองเอาไว้โดยยังไม่เปิดเผยความในใจออกมา
ขณะเดียวกันผู้นำตระกูลหนิงก็เป็นชายชราที่มีประสบการณ์มานานหลายปี แล้วเขาจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของคนพวกนี้ได้ยังไง ดังนั้นเขาจึงโบกมือให้หนิงรั่วซานเป็นคำสั่ง ก่อนที่ลูกชายคนเล็กของตระกูลคนนี้จะเดินออกไปจากห้องและเดินกลับเข้ามาพร้อมกับจานโลหะ
แผ่นจานโลหะถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าไหมสีแดงทำให้ทุกคนไม่รู้ว่ามันมีอะไรถูกเก็บเอาไว้อยู่ด้านใน
หลังจากลูกชายคนที่ 3 ของตระกูลหนิงนำจานโลหะมาวางเอาไว้บนโต๊ะ เขาก็เดินกลับไปยืนด้านข้างบิดาตามเดิม
ขณะเดียวกันชายชราก็ลุกยืนขึ้นพร้อมกับกวาดสายตาไปยังเหล่าชายฉกรรจ์ในห้องนั่งเล่น โดยดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมคล้ายกับสุนัขจิ้งจอกเฒ่าที่กำลังจ้องมองไปยังฝูงจิ้งจอกเยาว์วัย
“หากทุกคนจัดการกลุ่มโจรสลัดนกฮูกได้สำเร็จ ตระกูลหนิงของพวกเราจะไม่ขอรับส่วนแบ่งใด ๆ ทั้งสิ้นและถ้าหากว่าใครสามารถสังหารสการ์ได้ ฉันก็ยินดีจะมอบของสิ่งนี้เป็นรางวัลตอบแทน!”
ขณะที่ชายชราพูดจบเขาก็ดึงผ้าไหมสีแดงออกไปจากจานโลหะ ซึ่งมันก็ทำให้ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัดในทันที โดยสายตาของทุกคนต่างก็กำลังเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
***************
ของรางวัลมันคืออะไรกันแน่น๊อ?