ตอนที่ 74 : คนบ้านเดียวกัน
ขณะที่พวกเขากำลังจะเริ่มเล่นเกมตาที่สาม หลี่หานอวี่ก็ยิ้มขึ้นทันทีและกล่าวว่า "ทุกคน พวกนายอยากจะไปเจอผู้หญิงคนอื่นในคณะของเราไหม?"
หลังจากคำกล่าวนั้นจบลง ดวงตาของจ้าวคังฮ่าว โจวผานและคนอื่นๆ ก็สว่างวาบขึ้นทันที
วันนี้เป็นวันแรกสำหรับการลงทะเบียนนักศึกษา พวกเขาจึงยังไม่ได้เริ่มเรียนกันอย่างเป็นทางการ และจะเริ่มเรียนอีกทีวันที่สอง
ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงยังไม่รู้จักผู้หญิงสักคนในคณะเลย
"หลี่หานอวี่ นายรู้จักผู้หญิงในคณะของเรางั้นเหรอ?" โจวผาน หรือก็คือโจวเสี่ยวพั่ง ถามด้วยความสงสัย
หลี่หานอวี่ยิ้มและกล่าวว่า "แฟนของฉันก็อยู่ในคณะเดียวกันนี่แหละ"
"บัดซบ ให้ตายเถอะ!"
"จริงดิ!"
หลังจากเขากล่าวจบ จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็รู้สึกตกใจพลางสบถออกมา
"เร็วเกินไปไหมพี่ชาย นายเพิ่งมาถึงมหาลัยได้วันเดียวเอง แต่นายกลับจีบสาวในคณะติดแล้วงั้นเหรอ?"
"พี่ใหญ่ นายมีเทคนิคลับพิเศษอะไรงั้นเหรอ สอนฉันหน่อยสิ"
พวกเขาพากันเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
"พวกนายคิดบ้าอะไรกัน ฉันจะไปมีความสามารถแบบนั้นได้ยังไง" เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่หานอวี่ก็กล่าวอย่างหมดหนทางเล็กน้อย "ฉันกับแฟนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันตอนเรียนอยู่มัธยม จากนั้นเราก็สอบเข้ามหาลัยเจียงหยวนได้เหมือนกัน และเราทั้งคู่ก็เลือกเรียนเอกคณะบริหารธุรกิจเหมือนกันด้วย"
"ว้าว เรียนมัธยมด้วยกัน สอบเข้ามหาลัยได้เหมือนกัน แถมเลือกคณะเดียวกันอีก พี่ชาย นายกำลังถ่ายซีรี่ย์อยู่หรือเปล่า?"
"น่าอิจฉาชะมัด"
จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆพากันอุทานออกมา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา
หลี่หานอวี่ยิ้มและกล่าวว่า "ตอนนี้ฉันกำลังคุยกับแฟนของฉัน เธอบอกว่าอยู่ที่หอพักก็ไม่มีอะไรให้ทำ ดังนั้นพวกเธอจึงบอกว่าพวกเราสามารถออกไปทำความรู้จักกันได้"
หลังจากที่เขากล่าวจบ จ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นทันที
"ไม่แปลกใจเลย หลี่หานอวี่ ปกตินายจะกดแป้นพิมพ์ในคอมขณะที่ดูโทรศัพท์ไปด้วย ไม่คิดเลยว่านายกำลังจะคุยอยู่กับแฟนสาวของนาย"
"ไปๆ พวกเราไปกันเถอะ!"
"พี่จ้าว เกมยังไม่จบเลยนะ"
"เกมคืออะไร มันจะไปสำคัญมากกว่าการทำความรู้จักกับสาวๆในคณะได้ยังไง!"
โจวผานและคนอื่นๆ เอ่ยออกมากันทีละคน
หลายคนกำลังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น แต่ฉินหยุนไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมกับฉากนี้มากนัก ในเวลานี้เขากำลังคิดถึงร้านขายเสื้อผ้าของเขาเป็นหลัก
เมื่อถึงเวลาปิดร้านตอนสี่ทุ่มตรง เขาก็จะสามารถทราบยอดขายรวมของร้านขายเสื้อผ้าทั้งสามสาขาของเขาได้
"ฉันแนะนำให้เราหาร้านอาหารที่ใหญ่ๆหน่อย พอถึงตอนที่ไปกินข้าวข้างนอก เราก็จะได้คุยไปกินไปกับสาวๆได้อย่างเต็มที่!" จ้าวคังฮ่าวกล่าว
ถึงแม้ว่าครอบครัวของจ้าวคังฮ่าวจะค่อนข้างมีฐานะ แต่เขาถูกควบคุมอย่างเข้มงวดในตอนที่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม และก็ไม่ค่อยมีผู้หญิงติดต่อกับเขามากนัก เขาจึงยังไม่เคยมีแฟนเลยสักครั้ง
"ไอเดียแจ่ม!"
โจวผานซึ่งเคยปฏิเสธจ้าวคังฮ่าวมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาพยักหน้าเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการคัดค้านใดๆเลยสักนิด
เฉิงต้าสงก็เช่นเดียวกัน เขารีบเอ่ยถามหลี่หานอวี่ ว่าในหอพักของแฟนสาวของเขามีสาวสวยบ้างไหม
ในพริบตา คนสามคนภายในห้องพักก็เห็นพ้องต้องกันโดยไม่ได้นัดแนะเลย
"ฉินหยุน หลิวซิน พวกนายคิดว่าไง?" หลี่หานอวี่มองไปที่คนสองคนในห้องพัก ซึ่งไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก
ฉินหยุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า "แน่นอน ฉันไม่มีปัญหา"
เขารู้สึกว่าการออกไปข้างนอกกับคนอื่นในตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นอะไร ยิ่งตอนนี้ทุกคนต่างก็อยู่ในหอพักเดียวกันแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่วงคนอื่น
เมื่อเห็นว่าทั้งห้าคนเห็นด้วย แม้ว่าหลิวซินจะไม่ค่อยอยากไปด้วยเท่าไร แต่เขาก็ยังพยักหน้า
วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเทอมในมหาลัย แม้ว่าเขาจะค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว แต่เขาก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เข้าร่วมในกิจกรรมแรกของกลุ่มคนในห้องพัก
"ในเมื่อทั้งหกคนในห้องพักของเราเห็นด้วยกันหมด งั้นเราก็ไปกันเถอะ!"
หลี่หานอวี่โบกมือ
...
วันนี้อากาศตอนกลางวันนั้นร้อนมาก แต่เมื่อตกกลางคืน ร่องรอยของความเย็นอันหาได้ยากก็ปรากฏออกมา
ในวันแรกของการเปิดเทอม มีผู้คนจำนวนมากมายเดินไปรอบๆมหาลัย แต่คนจากห้องพัก 305 กลับมาที่วิทยาเขต หาร้านอาหารเล็กๆและจองห้องส่วนตัวไว้
"เฮ้ เสี่ยวเยว่ เราอยู่ในห้องที่สาม..."
หลี่หานอวี่กำลังคุยโทรศัพท์กับแฟนสาวของเขา
ไม่เกินหนึ่งนาที ในที่สุดก็มีร่างหลายร่างปรากฏขึ้นนอกประตูห้อง และหญิงสาวหกคนก็เดินเข้ามา
"หานอวี่" เมื่อทั้งหมดเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงคนนี้หน้าตาไม่ได้สวยเป็นพิเศษ แต่สามารถถูกมองว่าน่ารักได้ ผิวของเธอก็ขาวใสมาก มองดูแล้วเธออาจจะคล้ายๆกับน้องสาวข้างบ้าน
"เสี่ยวเยว่"
หลี่หานอวี่ก้าวไปข้างหน้าทันทีและกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ทุกคน ให้ฉันแนะนำ นี่คือแฟนของฉัน จางเสี่ยวเยว่ และอีกห้าสาวงามเป็นเพื่อนร่วมห้องพักของเธอ"
เมื่อหลี่หานอวี่กำลังแนะนำแฟนสาวของเขา ฉินหยุนก็มองไปที่เธอเช่นกัน
จางเสี่ยวเยว่และสาวๆคนอื่น ต่างก็อยู่ในหอพักอาคารเลขที่ 11 ห้องพัก 406 นอกจากจางเสี่ยวเยว่แล้ว ยังมีผู้หญิงอีกสองคนในห้องพักที่ดูสวยมาก คนหนึ่งสวยบริสุทธิ์ดูไร้เดียงสาและสูงประมาณ 1.6 เมตร
อีกคนเป็นผู้หญิงขายาว เธอคนนั้นขาเรียวยาวและหุ่นดีมาก และเธอสูงประมาณ 1.7 เมตร ในแง่ของรูปลักษณ์ เธออาจจะด้อยกว่าสาวสวยไร้เดียงสาคนนั้นเล็กน้อย แต่เมื่อมองโดยรวมแล้วเธอดูไม่ด้อยกว่าเลย
สำหรับอีก 3 สาว พวกเธอด้อยกว่าเล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้วก็มีคนสวยอยู่ไม่มากนัก โดยเฉพาะคนที่มีผลการเรียนดี โดยทั่วไปแล้วความน่าจะเป็นที่จะหน้าตาดีค่อนข้างมีน้อย
ทั้งสองฝ่ายต่างแนะนำกันและกัน และเมื่อฉินหยุนบอกว่าเขามาจากมณฑลอานฮุย หญิงสาวคนหนึ่งจึงถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า "ฉินหยุน นายมาจากมณฑลอานฮุย นายอยู่ที่เมืองไหนงั้นเหรอ ฉันก็มาจากที่นั่นเหมือนกัน"
มีผู้ชายทั้งหมดหกคนในห้องพัก 305 กล่าวตามตรง รูปลักษณ์ของฉินหยุนนั้นได้เปรียบที่สุด
หลี่หานอวี่ถือว่าดูหล่อ แต่เขาเตี้ยไปหน่อย เฉิงต้าสงและจ้าวคังฮ่าวนั้นตัวสูง แต่หน้าตาก็ปานกลาง แต่ฉินหยุนนั้นไม่เพียงสูงเท่านั้น แต่ยังดูหล่อเหลาและสดใสอีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้หญิงคนอื่นๆรู้สึกสนใจเขามากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
"อู๋ซื่อ" ฉินหยุนตอบด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จางเสี่ยวเยว่และคนอื่นๆก็มองไปที่หญิงสาวที่สวยที่สุดและดูไร้เดียงสาในหมู่พวกเธอทันที จากนั้นจึงกล่าวว่า
"เมิ่งเมิ่ง ฉินหยุนกับเธอมาจากที่เดียวกันด้วยล่ะ"
"คนบ้านเดียวกันนี่นา พอถึงวันหยุดพวกเธอก็สามารถกลับบ้านพร้อมกันได้ใช่ไหม"
หลายคนหัวเราะออกมา
ฉินหยุนชำเลืองมองหญิงสาวผู้ไร้เดียงสาด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าจะมีคนที่มาจากอู๋ซื่ออยู่ในห้องพักของฝั่งตรงข้าม
มณฑลอานฮุยมีขนาดใหญ่มาก และความน่าจะเป็นที่จะเจอคนเมืองเดียวกันที่นี่จึงมีน้อยมาก
ชื่อของหญิงสาวที่ดูไร้เดียงสาคนนี้คือ หลินเมิ่งเมิ่ง บุคลิกของเธอดูขี้อายเล็กน้อย ใบหน้าเล็กๆของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงหลังจากฟังคำพูดหยอกล้อสองสามคำจากเพื่อนร่วมห้องของเธอ เธอมองไปที่ฉินหยุนและเอ่ยถามด้วยเสียงเบาว่า "ฉินหยุน บ้านของนายอยู่ที่เขตไหนในเมืองอู๋ซื่องั้นเหรอ?"
"เขตชิงอู๋" ฉินหยุนไม่ได้ปิดบังอะไรและบอกเธอไปตรงๆ
"โอ้ บ้านของฉันอยู่ในเขตจิ่วเจียง" เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหยุน หลินเมิ่งเมิ่ง ดูผิดหวังเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ตอบกลับ
หลังจากคำพูดของเธอจบลง คนในห้องพักของหลินเมิ่งเมิ่งก็ถามต่อทันทีว่าระยะทางระหว่างเขตชิงอู๋และเขตจิ่วเจียงไกลแค่ไหน
"เฮ้ อย่ามัวแต่พูดถึงฉินหยุนสิ ฉันพาพี่น้องคนอื่นมาด้วยนะ" เมื่อเห็นว่าสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ฉินหยุนคนเดียว หลี่หานอวี่ก็ยิ้มและเอ่ยขึ้นทันที จากนั้นก็กล่าวว่า "พี่น้องของฉันเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนโสด"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงสาวผมสั้นในห้องพักของจางเสี่ยวเยว่ก็ยิ้มขึ้นทันทีและกล่าวว่า "หลี่หานอวี่ ฉันได้ยินจากเสี่ยวเยว่ว่า นายเขียนนิยายบนอินเทอร์เน็ตและสามารถทำเงินได้ 6,000 หยวนต่อเดือนเลยงั้นเหรอ?"
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หลี่หานอวี่
"ไม่ถึงหรอก แค่เกือบๆน่ะ ประมาณห้าพันกว่าหยวน" ก่อนหน้านี้หลี่หานอวี่ดูภูมิใจมากเมื่อเขากล่าวต่อหน้าฉินหยุนและคนอื่นๆ แต่ขณะนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าสาวๆเขากลับกล่าวอย่างถ่อมตัว
"สุดยอดมาก ตอนที่เราเริ่มหางานหลังเรียนจบ เราอาจจะไม่ได้เงินเดือนขนาดนี้เลยก็ได้" สาวผมสั้นกล่าวขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอิจฉา
ท้ายที่สุดแล้ว ในตอนที่อยู่มหาลัย พวกเขาส่วนใหญ่ก็ยังใช้จ่ายด้วยเงินของพ่อแม่ ถึงแม้จะมีคนที่เริ่มทำงานพาร์ทไทม์ แต่พวกเขาจะสามารถหาเงินจากงานพาร์ทไทม์ได้เท่าไรกันเชียว?
อีกอย่าง หญิงสาวเหล่านี้ก็ได้ค่าขนมจากครอบครัวไม่เกิน 5,000 หยวนต่อเดือนเท่านั้น
*จากผู้แต่ง [ช่วงนี้เนื้อเรื่องอาจจะยังอยู่ที่มหาลัย เพราะผมต้องวางเนื้อเรื่องและปูบทตัวละครบางส่วน ซึ่งอาจจะน่าเบื่อบ้างสักหน่อย ส่วนจุดหลักๆในอนาคตพระเอกจะเริ่มเปิดร้านและขยายสาขาแน่นอน]
(จบตอน)