(ฟรี) จอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ Online บทที่ 906: ปกป้องเกียรติยศด้วยหยาดโลหิต
บทที่ 906: ปกป้องเกียรติยศด้วยหยาดโลหิต
บทที่ 906: ปกป้องเกียรติยศด้วยหยาดโลหิต
. . .
ในระหว่างที่หุบเขาสีเทาถูกรุกรานโดยจักรวรรดิแห่งเปลวเพลิง อิลลิดัน สตอร์มเรจได้ดูดซับพลังงานจากสิ่งประดิษฐ์ของพ่อมดอันทรงพลังที่มีนามว่า "กระโหลกแห่งกุลดาน" และตัวเขาก็ได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายปีศาจ ยามนั้นเขาได้รับความแข็งแกร่งอันมากมายและความทรงจำของกุลดาน
จากนั้นเขาก็ได้พบกับคิลจาเดน ปีศาจผู้เป็นคนที่ทำให้เรื่องราวทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ลิชคิงเนอจูลมีพลังมากเกินไป คิลจาเดนรู้ดีว่ามันเป็นคนที่สร้างลิชคิงผู้นี้ขึ้น ทว่ามันก็ไม่อาจควบคุมอีกฝ่ายได้อีกแล้ว ดังนั้นคิลจาเดนจึงได้สั่งให้อิลลิดัน สตอร์มเรจไปกำจัดลิชคิงเนอจูลที่ตนเป็นคนสรรสร้างขึ้นมา เพื่อที่อิลลิดัน สตอร์มเรจจะได้มีพลังมากขึ้น เขาได้ตกลงทำสัญญากับเนอจูลและได้กลายเป็นผู้นำของจักรวรรดิแห่งเปลวเพลิง
อิลลิดัน สตอร์มเรจผู้แปดเปื้อนได้ตอบตกลงและเริ่มเตรียมการทำลายบัลลังก์แช่แข็งที่กักขังวิญญาณของลิชคิง ทว่าการที่เขาจะทำเช่นนั้นได้ เขาจำเป็นต้องอัญเชิญเผ่านาคจากท้องทะเลลึก ค้นหาเกาะที่เป็นที่ตั้งสุสานในตำนานของซาเจอรัส
อิลลิดัน สตอร์มเรจสามารถขโมยดวงตาของซาร์เกราสมาได้และเขาก็ไปยังเมืองดาลารัน เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากพลังงานอันทรงพลังภายในเมือง
ด้วยคาถาทำลายล้าง เขาข้ามผ่านการป้องกันของลิชคิงที่เส้นแบ่งสะพานระหว่างโลก อย่างไรก็ตาม เขาได้ถูกหยุดในวินาทีสุดท้ายโดยมาเยฟ ผู้ซึ่งถูกส่งมาโดยมัลฟูเรียนและนักบวชหญิงไทแรนด์
ซึ่งมาเยฟเป็นพี่สะใภ้ของอิลลิดัน สตอร์มเรจ แต่เขาไม่คิดจะสนใจเรื่องนี้สักนิดเดียว
สุดท้าย อิลลิดัน สตอร์มเรจก็ได้ช่วยเหลือราชินีซิลวานาส อัศวินแห่งความตาย และปลดปล่อยทุกคนออกจากการควบคุมของลิชคิง แต่กลับไม่มีผู้ใดรู้สึกขอบคุณเขาเลย
เมื่อลิชคิงสูญเสียการควบคุม อัศวินแห่งความตายก็สาบานว่าจะแก้แค้นลิชคิง
ส่วนเหล่าอัศวินแห่งความตายบางคนที่ไม่มีจุดประสงค์หรือบ้านเดิมให้กลับก็ได้เดินทางไปทั่วดินแดนมนุษย์ ขณะที่พวกเขาเดินทาง พวกเขาก็พบว่าตนแข็งแกร่งขึ้นและมีร่างกายอันไม่มีวันตาย
ทว่าร่างกายของพวกเขากลับเย็นชืดไม่ต่างจากศพ ทั้งยังมีประกายแสงให้ความมืดห่อหุ้มร่างกายไว้ด้วย
อัศวินแห่งความตายเป็นอาชีพต่อสู้ระยะประชิด และพวกเขาจะใช้เวทมนตร์แห่งความมืดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอาวุธให้ตนแข็งแกร่งขึ้น สร้างบัพให้ศัตรูอ่อนแอลง
บารอนริเวนแดร์เป็นอัศวินแห่งความตายรุ่นที่สอง แต่ตัวตนของเขามีความพิเศษบางอย่างอยู่ เพราะเขาเป็นที่โปรดปรานของเคลธูซาด สถานะของเขาจึงอยู่สูงกว่าอัศวินแห่งความตายทั่วไป
เรื่องราวในเกมรุ่งอรุณมันลึกลับซับซ้อนมาก อดีตเจ้าเมืองแห่งสแตรทโฮล์มผู้นี้เคยมีวีรกรรมฆ่าลูกชายของตนและชุบชีวิตของลูกขึ้นมาเป็นอัศวินแห่งความตาย ก่อนที่จะออกเดินทางตามหาจุตรอาชาแห่งจุดจบ อเล็กซานเดอร์ มอเกรน เจ้าเซลิค ท่านหญิงเบลาเมอซ์และธาน คอสแซส
ทว่าตอนนี้เขาเป็นเพียงบอสระดับ 50 ที่นั่งอยู่คนเดียวในสแตรทโฮล์ม สั่งการกองทัพอันเดดของเขาให้ออกไปสู้
ตัวเขาได้แต่ต่อต้านเหล่าผู้เล่นที่พยายามแย่งชิงม้าสงครามความตายพุ่งทะยานอย่างสิ้นหวัง ซึ่งถึงจะต่อต้านยังไง เขาก็แพ้ผู้เล่นอยู่ดี ยิ่งพาหนะม้าสงครามพุ่งทะยานเป็นที่นิยมมากเท่าไร ตัวเขาก็ยิ่งถูกผู้เล่นเข้ามารุมยำมากเพียงเท่านั้น
“ผู้บุกรุก ออกไปจากดินแดนของข้า!”
“ให้ตายเถอะ มอนสเตอร์ตัวอื่นมันให้เลือดกับบอสด้วย!”
ด้วยความที่เขาเป็นถึงผู้บัญชาการสงคราม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบารอนริเวนแดร์จะมีเลือดและทักษะทรงอานุภาพมากเพียงใด ผู้เล่นที่พยายามจะสร้างความเสียหายใส่เขาก็ต้องพบเข้ากับฝูงโครงกระดูกหกตัว มอนสเตอร์พวกนี้ไม่พุ่งเข้าใส่ผู้เล่น แต่กลับพุ่งตรงไปที่บอสแทน
ขณะที่ทุกคนจ้องมองด้วยความสับสน เลือดของริเวนแดร์ก็เพิ่มขึ้นทันทีเมื่อโครงปะทะเข้าตัวเขา
“นั่นมันโกงแล้วนะโว้ย” อาเซอร์ซีบรีสบ่นออกมา ตัวเขาใช้ทักษะลดความเสียหายเพื่อรับทักษะก่อนหน้านี้ของบอสไปแล้ว ถ้าเกิดบอสตัวนี้ยังเพิ่มเลือดของตัวเองอย่างต่อเนื่องแบบนี้ เขาคงเครียดจนตายแน่
“สนใจมอนสเตอร์กองเล็กก่อน ดอกไม้อ้างว้างและลูกชิ้นงา พวกนายรับหน้าที่นี้ไป”ลูหลี่กล่าว
บารอนริเวนแดร์มีทักษะพุ่งกวาดฟันและทักษะปะทะที่เป็นการโจมตีระยะประชิด ส่วนการโจมตีระยะไกล เขามีทักษะสายฟ้าแห่งความมืดที่เรียนมาจากนักเวทย์อันเดด นอกจากนี้เขายังมีทักษะอัญเชิญอันเดดอีก แถมเขายังสามารถใช้ทักษะพลังแห่งชีวิตเพื่อให้พวกอันเดดฟื้นฟูเลือดตนเองได้อีก
ทักษะพุ่งกวาดฟันเป็นหนึ่งในทักษะที่เป็นเอกลักษณ์ของนักรบ ความเสียหายของมันมักจะไม่สูงมากนัก แต่มันมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการต่อสู้กับแท๊งค์ เนื่องจากมันจะลดอัตราการฟื้นฟูลง
หากเป้าหมายติดสถานะลดการฟื้นฟู ผลการฟื้นฟูทั้งหมดจะลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งหมายความว่ามาสเรนที่แต่เดิมฮีล 400 จุดให้กับอาเซอร์ซีบรีส ก็เหลือเพียงแค่ 200 จุดเท่านั้น สถานะนี้คงอยู่เป็นเวลา 10 วินาที
ข้ารับใช้อันเดดมากมายต่างตรงเข้าไปฟื้นฟูเลือดให้กับบารอน ผู้เล่นที่ต้องเผชิญหน้ากับบริเวนแดร์ครั้งแรกจึงมักจะทำอะไรไม่ถูกกัน
อย่างไรก็ตาม ของพวกนี้ใช้ไม่ได้ผลกับลูหลี่หรอก
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าลูหลี่มีแผนมากกว่า 300 กลยุทธ์ที่ใช้สู้กับบอสตัวนี้ เขารู้ดี
ว่าจะต้องทำยังไงกับบอส
ริเวนแดร์ถือได้ว่าเป็นบอสที่โชคร้ายที่สุดในดันเจี้ยนนี้ อุปสรรคทั้งหมดที่ออกแบบโดยนักออกแบบเกมได้ถูกเอาชนะอย่างง่ายดายจากการตัดสินใจของลูหลี่ ถึงแม้ผู้ออกแบบเกมจะมาตรวจสอบดู พวกเขาก็คงจะคิดแค่ว่าทีมของลูหลี่มันโชคดีเท่านั้นเอง
“ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์”
น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาเตรียมไว้ล่วงหน้าตอนนี้มีบทบาทอย่างมากในการต่อสู้ อีกทักษะหนึ่งของบารอนริเวนแดร์อย่างความโหดร้ายของอันเดดก็ไม่มีผลกับพวกเขาอีกต่อไป
ทักษะความโหดร้ายของอันเดดนั้นคล้ายกับสถานะบ้าคลั่ง กระทั่งแท๊งค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสมาคมใหญ่ๆ ก็อาจไม่สามารถทนได้ เมื่อใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์กับดันเจี้ยนสแตรทโฮล์ม ทุกอย่างก็แทบจะง่ายขึ้นเยอะ
ในความเป็นจริง ลูหลี่มีวิธีอื่นๆ อีกหลายวิธีในการจัดการกับทักษะความโหดร้ายของอันเดด แต่พวกเขาจำเป็นจะต้องใช้ไอเท็มบางอย่างภายนอกดันเจี้ยน
“ข้าจักปกป้องเกียรติด้วยหยาดโลหิตของข้า!”
หลังจากการต่อสู้ยืดเยื้อออกไปสิบนาที ในที่สุดกลุ่มทหารรับจ้างซินซินก็ก้าวไปสู่ระยะสามของบอสบารอนริเวนแดร์ ตอนนั้นเอง ได้มีภูตผีปรากฏขึ้นมาด้านหลังพวกเขา มันเป็นวิญญาณของพาลาดินที่ตอนนี้ได้กลายเป็นอัศวินแห่งความตายไปแล้ว
อัศวินแห่งความตายพวกนี้วิ่งไปหาผู้เล่นพร้อมกับใช้ปลายหอกแทงใส่ เมื่อโดนเป้าหมาย ผู้เล่นจะโดนความเสียหายที่สูงมาก หากพวกเขาใช้กลยุทธ์การป้องกันแบบเดิม พวกเขาคงจะสูญเสียสมาชิกไปสองสามคนแล้ว
โชคดีที่ลูหลี่รู้ถึงข้อบกพร่องของเกมบางอย่าง เขาจึงสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย