ตอนที่แล้วตอนที่ 71 : ห้องพัก 305
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 73 : นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ในหอพักนักศึกษา

ตอนที่ 72 : รูมเมท


ที่ยืนถัดจากชายหนุ่มร่างผอม เป็นชายคนหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะผ่านโลกมามาก รูปลักษณ์ของเขาค่อนข้างชราภาพเล็กน้อย แลดูเหมือนคนอายุหกสิบกว่าๆ

ใบหน้าของเขามีสีเหลือง ร่างกายก็งองุ้มเล็กน้อย และส่วนสูงของเขาก็ดูเหมือนจะน้อยกว่าชายหนุ่มร่างผอมบางที่ยืนข้างๆอีกด้วย

"คนสุดท้ายมาแล้ว"

ทุกคนในห้องพักไม่ได้คิดอะไรมากกับฉากที่เห็น เฉิงต้าสงกล่าวด้วยรอยยิ้ม "พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา นายน่าจะเป็นหลิวซินใช่ไหม?"

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉิงต้าสง ชายหนุ่มร่างผอมก็พยักหน้าและเอ่ยด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน "สวัสดี ฉันชื่อหลิวซิน"

เมื่อมองไปที่เขา เห็นได้ชัดว่าเขาดูขี้อายเล็กน้อย เหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ

หลังจากพูดจบ หลิวซินก็เดินเข้ามาในห้องพัก มองไปที่เตียงและโต๊ะของเขา จากนั้นก็เริ่มจัดของต่างๆ

ในเวลานี้เอง ที่ข้างๆของจ้าวคังฮ่าว ในที่สุดพ่อกับแม่ของเขาก็จัดผ้าปูที่นอนเสร็จ จากนั้นก็พูดกับเขาอีกสองสามคำ และจากไปในที่สุด

ในเวลาเดียวกัน พ่อแม่ของโจวผานก็ออกจากห้องไปเช่นกัน และโจวผานก็เดินตามพวกเขาออกไป ซึ่งเขาอาจจะเดินไปส่งพ่อแม่ของเขา

ในเวลานี้ เหลือเพียงผู้ปกครองของหลิวซินเท่านั้นที่ยังอยู่ในห้อง ดูเหมือนว่าพ่อของหลิวซินจะเริ่มเกร็งอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขารู้สึกว่าทั้งห้องพักเงียบเสียงลง

"พ่อครับ เดี๋ยวผมค่อยจัดการต่อเอง" ราวกับรู้ได้ว่าพ่อของเขากำลังรู้สึกเกร็งอยู่ หลิวซินจึงเอ่ยว่า "พ่อต้องขึ้นรถไฟตอน 6 โมงเย็น รีบไปที่สถานีรถไฟกันเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง"

"ก็ได้" พ่อของหลิวซินก็ไม่ยืนกรานที่จะอยู่ต่อ เขาพยักหน้าและหันมาฝืนยิ้มให้ฉินหยุนกับคนอื่นๆในห้อง จากนั้นพวกเขาก็ออกจากห้องพักไปทันที

ในชั่วพริบตา ภายในห้องพักที่แออัดก็เหลือเพียงคนสี่คน

หลังจากพูดคุยกับเพื่อนใหม่สองสามคนในห้องพักอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เขาก็มองไปที่เตียงของเขา ฉินหยุนกำลังเตรียมที่จะออกไปซื้อของใช้ที่จำเป็นต่างๆ

ตอนนี้เขามีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ตัวเท่านั้น ซึ่งเขายังขาดของใช้ต่างๆเช่น ผ้าห่ม ขันตักน้ำ ขวดน้ำดื่มและอื่นๆ

"ฉินหยุน นายจะไปซื้อของใช่ไหม? ฉันไปด้วย! ฉันยังมีของที่ต้องซื้ออีก" เมื่อได้ยินว่าฉินหยุนจะออกไปข้างนอก หลี่หานอวี่ก็กล่าวออกมาทันที

"ฉันยังขาดขวดน้ำดื่มและขันตักน้ำ ฉันได้ยินมาว่ามันมีขายที่ฝั่งตะวันออกของมหาลัยเรา แถมราคายังถูกมากด้วย" หลังจากที่กล่าวจบ เฉิงต้าสงก็ยืนขึ้นและกล่าวออกมา

จากนั้นเขาก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า "จ้าวคังฮ่าว นายจะไปด้วยกันไหม?"

"พวกนายทั้งสามคนกำลังจะไปกันหมด แล้วทำไมฉันจะไม่ไป" จ้าวคังฮ่าวตบไหล่ของเฉิงต้าสงพลางกล่าวว่า "ให้ตายเถอะต้าสง นายฝึกมายังไงเนี่ย ไหล่ของนายแข็งอย่างกับหินเลย?"

"นายจะดึงดูดสาวๆได้ยังไง ถ้านายไม่ฝึกตัวเองให้แข็งแกร่ง" เฉิงต้าสงกล่าวพลางหัวเราะ

เขามีผิวสีแทนและรูปร่างที่กำยำ แม้ว่าเขาจะสูงพอๆกับจ้าวคังฮ่าว แต่เมื่อมองผ่านๆแล้วเขาดูตัวใหญ่กว่ามาก

เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวคังฮ่าวก็เหลือบมองไปที่เฉิงต้าสงด้วยความเหยียดหยามและกล่าวว่า "เหอะ นายตัวใหญ่เกินไป นายอาจจะทำให้สาวๆตกใจได้ง่ายๆเลยรู้ไหม? มีแต่คนอย่างฉันเท่านั้นแหละที่สามารถดึงดูดความสนใจของสาวๆเหล่านั้นได้"

เขาจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่เข้าทาง แต่น่าเสียดายที่เฉิงต้าสงไม่รู้จักแบรนด์พวกนั้นเลยสักนิด เขาเม้มริมฝีปากพลางมองไปที่รูปลักษณ์ที่ดูธรรมดาของจ้าวคังฮ่าว

หลังจากนั้นคนทั้งสี่ก็เดินออกจากห้องพักมา ในขณะที่พวกเขาเดินไปทางฝั่งตะวันออกของมหาลัย พวกเขาก็พูดคุยกันระหว่างทาง

"โคตรร้อนเลยวันนี้"

จ้าวคังฮ่าววิ่งไปซื้อน้ำมา เขาสบถพลางยื่นขวดน้ำให้ฉินหยุนและคนอื่นๆ

เห็นได้ชัดว่าเขากลัวความร้อนเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ตอนเขามาที่มหาลัย ครอบครัวของเขาก็เป็นคนขับรถมาส่ง

"ตอนประมาณบ่ายสองฉันดูในแอพสภาพอากาศ อุณหภูมิมันอยู่ที่ 38 องศาเลย" หลี่หานอวี่กล่าว "การฝึกทหารจะเริ่มในวันที่ 4 นี้ ฉันตรวจสอบสภาพอากาศแล้ว ช่วงนี้อุณหภูมิจะสูงมากเป็นเวลาหนึ่งถึงสองสัปดาห์เลยทีเดียว"

"ร้อนขนาดนั้นฉันจะไปทนได้ยังไง" เมื่อได้ยินเช่นนี้ จ้าวคังฮ่าวก็โอดครวญออกมาทันที

"เฮ้ ฉินหยุน นายไม่ร้อนหรือไง" หลังจากเอ่ยจบ จ้าวคังฮ่าวก็มองไปที่ฉินหยุนและถามด้วยความประหลาดใจ

ทันทีที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงมาโดนพวกเขา ที่หน้าผากของพวกเขาก็เหงื่อแตกพลั่กกันทันที แต่ฉินหยุนกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย

ฉินหยุนยิ้มและเอ่ยว่า "ฉันทนความร้อนได้ดีน่ะ"

เขารู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาก็พูดแบบเดียวกันนี้กับรุ่นพี่จางต้าจื่อเลย

ประเด็นสำคัญคือสมรรถภาพทางกายของนักศึกษาในปัจจุบันนั้น โดยพื้นฐานแล้วไม่ค่อยดีเท่าไรนัก พอโดนแดดแค่นิดหน่อยพวกเขาก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว

ทั้งสี่คนเดินมาถึงสวนหย่อมทางด้านตะวันออกของมหาลัย พอสังเกตดูก็เห็นว่ามีนักศึกษามากมายมาตั้งแผงขายของกันที่นี่

หลังจากดูแล้ว ฉินหยุนก็ไปซื้อของใช้บางอย่างมา เพราะเขาซื้อของมามากมาย แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากจ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆ พวกเขาก็ยังถือกันเต็มสองมือ ท้ายที่สุดแล้วจ้าวคังฮ่าวและคนอื่นๆก็มีสิ่งที่ต้องซื้อมากมายเช่นกัน

หลังจากซื้อของที่สวนหย่อมเสร็จ พวกเขาก็ไปที่โรงอาหารใต้หอพักด้วยกัน และซื้อของทุกอย่างที่จำเป็นต้องใช้กลับมา

หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นก็เป็นเวลาสี่โมงเย็นกว่าๆแล้ว

ประมาณห้าโมงเย็นกว่าๆ โจวผานและหลิวซินก็กลับมาถึงที่หอพักเช่นกัน

ภายในห้องพัก เครื่องปรับอากาศกำลังเปิดอย่างเต็มกำลัง และหลังจากตากแอร์อยู่สักพัก จ้าวคังฮ่าวก็รู้สึกว่าเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยเลือดที่เต็มเปี่ยมแล้ว เขายืนขึ้นและเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "พี่น้อง ต่อจากนี้ไปเราจะอยู่อาศัยในห้องพักเดียวกันแล้ว ตอนนี้ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ออกไปหาอะไรกินกันเถอะ?"

เมื่อได้ยินดังนั้น เฉิงต้าสงก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มทันที "พี่ใหญ่จ้าว นายจะเลี้ยงพวกเราใช่ไหม?"

"แน่นอน" จ้าวคังฮ่าวเอ่ยออกมาอย่างยิ่งใหญ่

แต่หลังจากที่เขาพูดจบ โจวผานก็กล่าวว่า "กินข้าวข้างนอกมหาลัยนั่นมันแพงเกินไป แค่กับข้าวจานผัดธรรมดาๆราคาตั้งสิบกว่าหยวน ไปกินที่โรงอาหารของมหาลัยกันเถอะ ถูกกว่าตั้งเยอะ"

เหตุผลที่แท้จริงเป็นเพราะว่าเขาเพิ่งกลับมาถึงที่หอพักหลังจากยุ่งมาทั้งวัน ความร้อนที่สะสมอยู่ในร่างกายของเขายังไม่ทันได้ระบายออกด้วยซ้ำ และเขาขี้เกียจเกินกว่าที่จะออกไปข้างนอกอีกรอบ

หลิวซินซึ่งอยู่ข้างๆ เขาก็พยักหน้าเช่นกัน และพูดเสียงเบาว่า "ฉันก็จะไปกินในโรงอาหารเหมือนกัน"

"ช่างไม่ไว้หน้ากันเลย"

เมื่อเห็นว่าคำแนะนำของเขาถูกปฏิเสธไปทันที จ้าวคังฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

เมื่อเผชิญกับความไม่พอใจของเขา โจวผานและคนอื่นๆก็ไม่สนใจเลยสักนิด

นี่คือมหาลัยเจียงหยวน มหาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในประเทศจีน ทุกคะแนนที่สามารถเข้ามาได้นั้นถือว่ายอดเยี่ยมมาก ในโรงเรียนมัธยม เหล่าอาจารย์และนักเรียนคนอื่นต่างก็ชื่นชมพวกเขา เมื่ออยู่ที่นี่คนละดับเดียวกันจึงไม่ได้รับความสำคัญเลย

"หลี่หานอวี่ ฉินหยุน พวกนายจะไปไหม เสียงส่วนน้อยต้องเชื่อฟังเสียงส่วนมาก" จู่ๆจ้าวคังฮ่าวก็เอ่ยถามขึ้นหลังจากที่หันไปมองรอบๆ

"ไม่ต้องถามฉัน ฉันยังไงก็ได้" หลี่หานอวี่รู้สึกถึงร่องรอยของความตึงเครียดภายในห้องพัก เขาจึงผายมือออก และกล่าวอย่างเฉยเมย

ทันใดนั้น สายตาของหลายๆคนก็ตกไปที่ฉินหยุน

ฉินหยุนทำรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เขาชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นจึงกล่าวว่า "ไปที่โรงอาหารกันเถอะ วันนี้ฉันยุ่งทั้งวันและเหนื่อยมาก จะใช้เวลาอย่างน้อยสิบกว่านาทีในการเดินไปที่สตรีทฟู้ดนอกมหาลัย และตอนนี้อากาศก็ยังร้อนอยู่เลย แถมโจวผานกับหลิวซินก็เพิ่งกลับมาอีก วิ่งไปวิ่งมามันเหนื่อยเปล่าๆ"

จ้าวคังฮ่าวมองไปที่โจวผานและหลิวซิน ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ยังคงเหงื่อออกเล็กน้อย

นอกจากนี้ ตอนนี้อุณหภูมิก็ยังคงสูงมาก และสตรีทฟู้ดนอกมหาลัยก็ค่อนข้างไกลจากที่นี่ หลังจากคิดดู เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่ฉินหยุนพูดนั้นสมเหตุสมผลมาก

"งั้นก็ไม่เป็นไร ไปที่โรงอาหารกันเถอะ แต่ฉันจะเป็นคนเลี้ยงเองที่ พี่ใหญ่อย่างฉันเป็นชาวจินหลิง ดังนั้นอาหารมื้อแรกต้องให้ฉันเป็นคนเลี้ยง" จ้าวคังฮ่าวกล่าว

"ฮ่าฮ่า พี่ใหญ่จ้าว ถ้านายพูดแบบนี้ งั้นเราก็จะไม่สุภาพกับนายแล้ว" โจวผานก็ตระหนักได้เช่นกันว่าจ้าวคังฮ่าวก็รู้สึกอับอายเล็กน้อยจากการปฏิเสธโดยตรงของเขา ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ก็แค่ทานอาหาร หลังจากนี้ยังมีเวลาอีกมากมาย ครั้งต่อไปค่อยชวนกันใหม่อีกรอก็ได้

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครคัดค้านอีกต่อไป จ้าวคังฮ่าวจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

จากนั้นพวกเขามาถึงโรงอาหาร จ้าวคังฮ่าวนำฉินหยุนและคนอื่นๆ ไปที่จุดสั่งอาหารและเริ่มสั่งอาหารจานใหญ่มาหลายจาน

ในบรรดานักศึกษาใหม่ทั้งหมด คนหกคนในหอพัก 305 ของคณะบริหารธุรกิจชั้น 22 ของมหาลัยเจียงหยวน เสร็จสิ้นการรับประทานอาหารเย็นมื้อแรกด้วยกันเรียบร้อยแล้ว

(จบตอน)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด