ตอนที่แล้วตอนที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4

ตอนที่ 3


“อาจารย์…”

“อาการเป็นยังไงบ้าง?”

เป็นอาจารย์ไฮเดลนั่นเอง

เขากำลังมองผมด้วยสีหน้าซับซ้อน

การได้เห็นอาจารย์ทำหน้าแบบนี้แล้ว ผมก็พยายามสุดความสามารถที่จะตอบออกไปอย่างใจเย็น

“ไม่เป็นไรครับ”

“...โล่งอกไปที”

เขากระแอมราวกับจะปลดปล่อยความกระอักกระอ่วนและพูดบางอย่างออกมา

“อย่างแรกก็คือ เบน พอลท์ถูกไล่ออกจากโรงเรียนแล้ว”

เบน พอลท์

คนที่ผมซัดจมูกหัก

แล้วก็เป็นคนที่ร่ายเวทย์สายฟ้าใส่ผมอย่างกับคนบ้าด้วย

ลูกชายคนที่สองของบารอนพอลท์ เป็นที่รู้กันดีว่าเขาก้าวร้าวแค่ไหน

แต่เรื่องที่น่าตกใจที่สุดก็คือการถูกไล่ออกของเขา

“ไล่ออก?”

“ใช่แล้ว”

“เขาถูกไล่ออกทั้ง ๆ ที่อีกไม่ถึงปีจะเรียนจบเนี่ยนะ?”

“กฎของโรงเรียนถือเป็นที่สุด”

โรงเรียนเวทมนตร์อิกนิท

หนึ่งในโรงเรียนเวทมนตร์ที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในอาณาจักร

ไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือสามัญชน นักเรียนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน

แน่นอนว่าการรังแกหรือการทะเลาะเบาะแว้งกันด้วยเหตุผลใดก็ตามนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม

การต่อสู้เล็ก ๆ ที่ไม่ใช้เวทมนตร์ในระดับหนึ่งนั้นมักจะลงเอยด้วยการลงโทษจากคนระดับสูงของโรงเรียน

แต่เรื่องราวนั้นจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงถ้าหากมีเวทมนตร์มาเกี่ยวข้องด้วย

เพราะมันจะแสดงให้เห็นถึงเจตนาฆ่า การไล่ออกถือเป็นบทลงโทษสถานเบาแล้ว

“ถ้าอย่างนั้น…”

แต่เจ้านั่นจะต้องหาทางอะไรสักอย่างแน่

นั่นก็เพราะว่าตระกูลพอลท์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ ‘คณะราชวงศ์’ ที่ถือศูนย์กลางอำนาจในอาณาจักร

ต่อให้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนอิกนิท พวกเขาก็ต้องหาทางออกอื่นในโรงเรียนอื่นได้แน่นอน

พวกเขามีอำนาจ

ปัญหาก็คือ…ตัวผมเอง

“เช่นเดียวกัน รูน นายเองก็หนีบทลงโทษไม่พ้นนะ”

อย่างที่คิดเลย

ผมเองก็หนีบทลงโทษไม่พ้นเช่นเดียวกัน

แม้ว่าหลัก ๆ แล้วเรื่องจะเกิดขึ้นเพราะเบน พอลท์ แต่คนที่เริ่มใช้กำลังก่อนก็คือตัวผม

‘ถ้าหากเราโดนไล่ออก…’

จะเกิดอะไรขึ้นกับเรากันนะ?

ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมาล่ะ?

ครอบครัวของผมไม่มีอำนาจพอที่จะหาโอกาสอื่นอย่างเบน พอลท์

นี่คงเป็นทางตันแล้ว

ผมข่มความวิตกกังวลที่ทำให้ตัวสั่นและพูดให้ใจเย็นที่สุด

“...ครับ บอกมาเถอะว่าบทลงโทษคืออะไร”

“บทลงโทษของนายคือ…ทำงานอาสาที่โรงเรียนเป็นเวลาหนึ่งเดือน”

“...หา?”

งานอาสา

ผมประหลาดใจที่บทลงโทษนั้นเบาจนไม่คาดคิด

“พวกเราได้ยินเรื่องการเลือกปฏิบัติและการดูถูกเหยียดหยามในตัวนายมาก่อน แล้วเราก็ได้ยินเรื่องที่เบน พอลท์กล้าดูถูกหัวหน้าตระกูลอาเดลด้วย”

“พอคิดดูในฐานะนายแล้ว นี่จึงเป็นบทลงโทษของนาย”

ราวกับว่าพายุได้พัดผ่านไป

บางทีผมก็รู้สึกว่าโรงเรียนเข้าใจผม

“บทลงโทษจะเริ่มในทันทีที่นายฟื้นฟูตัวเต็มที่แล้ว จนถึงตอนนั้นก็รีบรักษาตัวซะล่ะ”

“......ครับ”

บทสนทนาของเราจบลงแต่เพียงเท่านี้ แต่อาจารย์ไฮเดลก็ยังคงไม่ไปไหน

แม้ว่าเขาจะบอกเรื่องที่ผมจำเป็นต้องรู้จนหมดแล้ว แทนที่จะกลับไป เขาก็เดินไปที่เก้าอี้ถัดจากเตียงและนั่งใกล้ผม

จากนั้นเขาก็ถามอย่างจริงจัง

“ชั้นถามอะไรนายหน่อยได้ไหม?”

ผมพยักหน้าตอบรับ อาจารย์ไฮเดลลังเลอยู่หนึ่งวินาที จากนั้นจึงถาม

“หรือว่านายจะมี…‘อาติแฟกต์’ ?”

“อะไรนะครับ?”

อาติแฟกต์

อาวุธที่เหลือทิ้งไว้โดยจอมเวทย์เก่าแก่ อาวุธที่ควรจะมีมานาไร้ขีดจำกัดอยู่ภายใน

อุปกรณ์อันน่าสะพรึงกลัวที่ทำให้โลกสั่นคลอดและเปลี่ยนรากฐานของโลกได้

แต่มันก็แค่เรื่องเล่าอันว่างเปล่าที่เจอในหนังสือประวัติศาสตร์เท่านั้น

อาติแฟกต์ที่มีอยู่ในชีวิตจริงนั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับพลังที่เขียนไว้ในประวัติศาสตร์และถูกนับว่าเป็นของวิเศษเท่านั้น

มันเป็นของวิเศษที่จะคงสภาพมานาของผู้ใช้ในระยะเวลาหนึ่งหรือไม่ก็ฝังเวทย์ถาวรพิเศษบางอย่างลงไป

จะนับว่ามันเป็นของเลียนแบบอาติแฟกต์ในตำนานก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็หาได้ยากมากและแพงอีกด้วย แพงจนถึงขั้นที่ขุนนางทั่วไปไม่มีทางได้ฝันว่าจะเป็นเจ้าของมัน

นั่นยังหมายถึงตระกูลของผมด้วย

“เห ไม่มีทางที่ผมจะมีอาติแฟกต์ได้หรอก…”

ตระกูลและพ่อของผมนั้นห่วงใยเรื่องของดินแดนเสียยิ่งกว่าอำนาจและเงินตรา

ของแพง ๆ อย่างอาติแฟกต์นั้นไม่คู่ควรกับพวกเราจริง ๆ

อาจารย์ไฮเดลเองก็รู้เรื่องนี้ดี

“จริงของนาย คงยากที่ตระกูลอาเดลจะมีอาติแฟกต์ได้”

“ทำไมถึงถามผมล่ะครับ?”

อาจารย์ไฮเดลตอบคำถามของผม

และเป็นคำตอบที่น่าตกใจด้วย

“ก่อนหน้านี้ ตอนที่นายล้มลงหลังจากโดนเวทย์สายฟ้า มีแสงประหลาดเปล่งประกายออกมาจากตัวนาย”

“ว่าไงนะ?”

“มันเป็นแสงสีแดง เหมือนกับมีอาติแฟกต์โบราณกำลังปกป้องนาย แสงสีแดงนั้นสะท้อนเวทย์ของเบน พอลท์ออกไป”

“เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย…”

คำถามแรกก็คือเรื่องที่เขาพูดเป็นความจริงหรือไม่

แต่ผมรู้ว่าอาจารย์ไฮเดลไม่ใช่พวกที่พูดเล่นในสถานการณ์แบบนี้

‘เดี๋ยวก่อน’

สมองของผมเริ่มใช้ความคิดขึ้นเรื่อย ๆ

ผมจำได้ว่าฮีลเลอร์เฮเลนนั้นพูดถึงร่างกายที่ปกติจนผิดปกติของผม

และความฝันประหลาดของผม

ชายที่มีดวงตาสีแดง

และเสียงที่แตกต่างกันที่ได้ยิน

.

.

คุณคือดร้าก้าผู้ทำลายล้างโลกที่กลับมาเกิดใหม่

อาติแฟกต์ “ผู้เล่น” ทำงาน

ขีดจำกัดถูกยกเลิกผ่านหน้าต่างสถานะ

.

.

ผมส่ายหัว

นี่เราคิดอะไรอยู่กันเนี่ย?

มันก็แค่ความฝัน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

จู่ ๆ ก็พูดถึงเรื่องอาติแฟกต์…

ผมตอบกับอาจารย์ไฮเดลที่กำลังวิเคราะห์ตัวผมด้วยสายตาทิ่มแทง

“ผมไม่คิดว่าผมจะรู้เรื่องนะ”

“...ช่างเถอะ”

เขาพยักหน้าให้กับคำตอบก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้

จากนั้นเขาก็พูดเรื่องสุดท้าย

“ดีแล้วที่นายไม่ได้บาดเจ็บอะไร”

“ก็ไม่ได้เป็นอะไรนั่นแหละครับ”

ผมไม่ได้เป็นอะไรเลยหลังจากเจอกับเวทย์สายฟ้าเข้าจัง ๆ

อาจารย์ไฮเดลบอกว่าสถานการณ์ของผมแปลกมาก แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านี้

“พักผ่อนเถอะ”

“ครับอาจารย์”

อาจารย์ไฮเดลออกจากห้องฟื้นฟู และผมก็เอนกายลงตามเดิม

ปึ้ก

“เฮ่อ”

ความกังวลเรื่องเหตุที่เกิดขึ้นกับบทลงโทษของผมนั้นลงน้อยลงไปเล็กน้อย แต่คำถามที่ตอบไม่ได้นั้นทำให้ความคิดของผมยุ่งเหยิง

อาติแฟกต์

ดราก้า ผู้ทำลายล้างโลก

แล้วก็ ‘ผู้เล่น’

คำที่ไม่คุ้นเคยกับคำที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตของผมเล่นซ้ำอยู่ในหัว

ไม่ใช่แค่นั้น

‘คิดว่ายังมีอย่างอื่นอีกนะ…’

ผมนึกถึงคำพูดนั้นซ้ำ พึมพำอยู่แผ่วเบา

“หน้าต่างสถานะ?”

จากนั้นก็มีบางอย่างปรากฏขึ้นมาต่อหน้าต่อตา

.

.

“โว้ววว! อะไรเนี่ย?”

ผมตกใจจนเตะผ้าห่มตกจากเตียง

เฮเลนรีบเข้ามาถาม

“เธอเป็นอะไรรึเปล่า?”

“...เอ๋?”

“เธอหน้าซีดนะ เจ็บตรงไหนไหม?”

“เอ่อ…เปล่าครับ มันก็แค่…คุณไม่เห็นนี่เหรอ?”

ผมชี้ไปที่จอสีฟ้ากึ่งโปร่งใสตรงหน้า

มันเหมือนกับม่านพลังมานา มีข้อความเขียนไว้ตัวเล็ก ๆ

.

.

.

รูน อาเดล

ดราก้าผู้ทำลายล้างโลกที่กลับมาเกิดใหม่

ด้วยผลจากการตามหาพลังอันไร้สิ้นสุด จอมเวทย์ดราก้าดับสูญไปพร้อมกับโลกของเขา สำหรับดราก้าที่เกิดมาไร้พลังในการปลุกมานานั้น พละกำลังคือต้นกำเนิดพลังของเขา

ผู้เล่น : อาติแฟกต์ของดรากร้าที่สามารถอัญเชิญหน้าต่างสถานะ และเพิ่มพลังได้อย่างไร้ขีดจำกัดผ่านภารกิจ

Strength : 150 +++

Agility: 100

Wisdom: 1550

.

.

“ไอนี่น่ะ! ที่อยู่ตรงนี้!”

บอกตามตรง ใบหน้าของเฮเลนนั้นตอบออกมาได้ดีที่สุดแล้ว

“รูน แน่ใจนะว่าเธอไม่เป็นอะไร?”

“เอ๋?”

“มานี่หน่อยสิ ชั้นจะดูสมองของเธอ”

“?? ทำอะไรกับผมน่ะ??”

“อยู่นิ่ง ๆ ค่ะ”

เธอวางมือบนหัวของผมและส่งมานาออกมาเหมือนกับรักษาเด็กเวรที่น่าสงสาร

อา นี่เราบ้าไปแล้วงั้นเหรอ?

แต่ถึงอย่างนั้นเฮเลนก็เอียงคอด้วยความสับสน

“มันไม่ดูเหมือนว่าเธอบ้าไปแล้วเลยนะ”

“แน่ใจนะ? ผมไม่ได้บ้าใช่ไหม?”

“ไม่เลยล่ะ คนบ้าไม่คิดว่าตัวเองบ้าหรอก”

“ถ้างั้น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย…”

มันไม่ใช่เรื่องของคนวิกลจริตอะไร

ต่อให้ผมขยี้ตา ผมก็ยังเห็นมันอย่างชัดเจน

อาจจะเป็นเพราะผมเห็นมันอยู่คนเดียว

เดี๋ยวสิ เราต้องยอมรับเรื่องนี้ง่าย ๆ งั้นเหรอ?

“เธอบอกว่าเธอมองเห็นอะไรนะ?”

ในตอนที่เฮเลนโบกมือ มือของเธอแล่นผ่าน ‘หน้าต่างสถานะ’ ไปอย่างชัดเจน

แบบนี้ก็ยืนยันได้แล้ว

มีแค่ผมที่มองเห็นหน้าต่างสถานะ

“เอ่อ ไม่มีอะไรครับ ดูเหมือนว่าผมจะคิดไปเอง”

“ก็แน่ล่ะสิ พักอีกซักหน่อยเถอะ เราต้องการให้เธออาการดีกว่านี้”

หลังจากเฮเลนเดินออกไปผมก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับมัน

“นี่มันเรื่องจริง…”

.

.

.

รูน อาเดล

ดราก้าผู้ทำลายล้างโลกที่กลับมาเกิดใหม่

ด้วยผลจากการตามหาพลังอันไร้สิ้นสุด จอมเวทย์ดราก้าดับสูญไปพร้อมกับโลกของเขา สำหรับดราก้าที่เกิดมาไร้พลังในการปลุกมานานั้น พละกำลังคือต้นกำเนิดพลังของเขา

ผู้เล่น : อาติแฟกต์ของดรากร้าที่สามารถอัญเชิญหน้าต่างสถานะ และเพิ่มพลังได้อย่างไร้ขีดจำกัดผ่านภารกิจ

Strength : 150 +++

Agility: 100

Wisdom: 1550

.

.

อย่างแรกเลยนะ ผมไม่รู้ว่านี่คืออะไร

ผมพยายามจะคิดถึงเรื่องที่ผมเข้าใจก่อน

เรื่องแรกก็คือ

นี่อาจจะเป็นหนึ่งในอาติแฟกต์ในตำนานที่หายไปเนิ่นนานมาแล้ว

‘ผู้เล่น’ ควรจะเป็นชื่อของอาติแฟกต์ และทำให้ผมได้ ‘ภารกิจ’ ที่ทำให้ได้พลังไร้ขีดจำกัดมา

ต่อไป

มันเป็นส่วนที่น่าตกใจอยู่หน่อย ๆ

“ผู้ที่ไร้ความสามารถในการปลุกมานา…ดราก้า”

จอมเวทย์ดราก้าคนนี้ พิกลพิการเหมือนกับผม

อีกทั้งยังมีภาวะแบบเดียวกันด้วย

และเขา ด้วยสื่อกลางที่เรียกว่า ‘ภารกิจ’ เขาสามารถเพิ่มพลังและแข็งแกร่งกว่าเดิมได้

พลังอันไร้ขีดจำกัด

แข็งแกร่งจนทำลายทั้งตัวเขาเองและโลกของเขา

และสุดท้าย

.

.

“นี่…แทนสถานะตอนนี้ของเราหลังจากกลายเป็น ‘ผู้เล่น’ สินะ”

.

.

.

Strength : 150 +++

Agility: 100

Wisdom: 1550

.

.

.

พละกำลัง ความคล่องแคล่ว และปัญญา

ปัญญาที่สูงจนผิดปกตินั่นก็เพราะผมทุ่มเทตัวเองจากการศึกษาเวทมนตร์มาตลอดชีวิต

เครื่องสร้างแบบนี้เริ่มจะสมเหตุสมผลแล้ว

“อืม เราเข้าใจถึงตรงนี้แล้ว…”

แต่ในใจผมก็ไม่เข้าใจมันอยู่ดี

ผมได้แต่วิเคราะห์มันโดยใช้สมอง

ใช่แล้ว

เหตุการณ์ประหลาดที่แม้แต่ตัวผมเองก็ยากที่จะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นกับตัวผม

พลังนี้ช่วยชีวิตผมเอาไว้

และอาติแฟกต์ของ ‘ดราก้า’ คนนี้ที่มีภาวะไร้ความสามารถในการปลุกมานาเช่นเดียวกับผม ได้ถ่ายทอดมาที่ตัวผม

ความฝันที่ผมฝันก่อนหน้านี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย

บางดีชายที่มีดวงตาสีแดงคนนั้นอาจจะเป็นดราก้าก็ได้

แต่มันก็มีอีกคำถามทีสำคัญ

“ทำไมถึงเป็นเราล่ะ?”

.

.

โดยเฉพาะในตอนที่มีโอกาสตาย

‘เพราะเราเองก็ใช้เวทมนตร์ไม่ได้งั้นเหรอ?’

นี่เป็นเรื่องที่ผมหาคำตอบไม่ได้จนกว่าจะได้เจอกับ ‘ดราก้า’ โดยตรงและถามเขา

‘เดี๋ยวลองแล้วเราก็จะได้รู้เอง’

ผมปัดความคิดทิ้งไปและลุกขึ้นมา

ผมสังเกตเห็นและเพ่งมองตรงมุมเล็ก ๆ ของหน้าต่างสถานะที่เขียนว่า ‘ภารกิจ’

‘ไม่รู้เลยว่านั่นคืออะไรแฮะ…’

ผมรู้ว่ามันเป็นสื่อกลางที่จะเพิ่มพละกำลังของผม

ต่อให้ผมไม่รู้ว่ารายละเอียดมันคืออะไรก็เถอะ…

‘เราไม่มีอะไรจะเสียนี่นา’

ผมกลายเป็นจอมเวทย์ที่ล้มเหลวไปแล้ว

อนาคตของชีวิตในโรงเรียนเองก็เห็นอยู่ตรงหน้า

ผมจะสอบจบการศึกษาตกและต้องซ้ำชั้นต่อไปเรื่อย ๆ

ถ้าผมเรียนจบไม่ได้ ผมก็จะกลายเป็นผู้ช่วยจอมเวทย์ที่เก่งที่สุด หรือไม่ก็บรรณารักษ์ในหอคอยที่ผมจะต้องแก่ตายไปที่นั่น

บางทีผมอาจจะใช้ชีวิตโดยที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับเวทมนตร์และตายอย่างเงียบ ๆ ในที่ไหนสักแห่ง

ผมไม่อยากจะเป็นแบบนั้นเลย

นี่จึงเป็นเหตุผล ที่แม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์สักแค่ไหน ผมก็ไม่เคยยอมแพ้และยังอยู่ในโรงเรียน

‘พลังไร้ขีดจำกัด…’

ผมหลับตา ค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ และพูดเบา ๆ

“ภารกิจ!”

หน้าต่างประหลาดอีกหน้าต่างปรากฏตรงหน้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด