ตอนที่แล้วตอนที่ 68 : 1 กันยายน! เปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 70 : การลงทะเบียนนักศึกษาใหม่

ตอนที่ 69 : ผลลัพธ์ห้าเท่า!


"บอสฉิน เราทำสำเร็จแล้วครับ!"

เมื่อเห็นว่าพนักงานในร้านต่างก็ยุ่งอยู่กับลูกค้า ใบหน้าของจ้าวเทียนเฉียงก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ก่อนที่จะเริ่มเปิดร้าน เขารู้สึกประหม่ามาก ไม่แน่ใจว่ากิจการร้านเสื้อผ้าแห่งนี้จะเป็นเช่นไร

ท้ายที่สุดแล้วก็มีร้านขายเสื้อผ้าจำนวนมากมายที่เปิดได้แค่ 1-2 เดือนแล้วก็ปิดตัวลง ตัวอย่างเหล่านี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไป

"โชคดีที่ฉันฟังคำสั่งของบอสฉิน ที่ให้เรารับสมัครพนักงานจำนวนมากไว้ก่อน" ในเวลานี้จ้าวเทียนเฉียงรู้สึกมีความสุขมาก

ร้านขายเสื้อผ้าของพวกเขามีตารางการเข้างานอยู่สองกะ ขณะนี้ภายในร้านมีพนักงานขายมากกว่าหนึ่งโหล และลูกค้าภายในร้านซึ่งมีจำนวนที่มากกว่า

ถ้ายึดตามแผนของเขาก่อนหน้านี้ เขาคัดเลือกพนักงานมาแค่สิบคน

แต่เมื่อตัดสินจากสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้ที่พนักงานแค่สิบคนจะดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง

ขนาดตอนนี้พนักงานเหล่านี้ก็แทบจะไม่ได้พักเลย

ฉินหยุนไม่ได้เอ่ยอะไร ในขณะนี้เขากำลังรออย่างเงียบๆ สิบนาทีผ่านไปในพริบตา และจำนวนของเสื้อผ้าที่ขายออกไปภายในเวลานี้ก็คือหกตัว!

"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง โคตรทรงพลัง!"

เมื่อได้เห็นจำนวนเสื้อผ้าที่ขายออกไป ฉินหยุนก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนร้านแรกของเขาเปิดขึ้น ด้วยความช่วยเหลือของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งและส่วนลดสำหรับซื้อเสื้อผ้าอีก 10% ในเวลาเฉลี่ยเก้านาทีเขาสามารถขายเสื้อผ้าได้หนึ่งตัว

แต่ตอนนี้เขาสามารถขายเสื้อผ้าได้ประมาณ 5-6 ตัวภายในเวลาเก้านาที!

กล่าวอีกนัยก็คือ ผลลัพธ์ของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองนั้นมีประสิทธิภาพเกือบ 5-6 เท่า ของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งเลยก็ว่าได้!

ก่อนหน้านี้ ฉินหยุนเดาว่าประสิทธิภาพระหว่างทั้งสองระดับคงจะต่างกันแค่ประมาณสามเท่า และเขาก็วางแผนไว้ว่าจะเลือกที่ตั้งร้านขนาดประมาณ 150 ตารางเมตร

"ขนาด 200 ตารางเมตรก็เพียงพอแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงได้ไปไล่หาร้านค้าอีกรอบแน่" ฉินหยุนแอบดีใจ

ตามความแตกต่างของระดับ 5-6 เท่า ต่อจากนี้ร้านที่เขามองหาควรมีพื้นที่อยู่ระหว่าง 200 ถึง 240 ตารางเมตร และขนาด 200 ตารางเมตรก็ยังถือว่าเป็นพื้นที่ขั้นต่ำสำหรับตอบสนองต่อประสิทธิภาพของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองเท่านั้น

หากพื้นที่ของร้านเล็กเกินไป เงินที่ได้รับก็จะน้อยลง ดังนั้นเขาจะต้องเปลี่ยนที่ตั้งของร้านอีกรอบแน่นอน

ในการขอเซ้งร้านของเจ้าอ้วนหวังครั้งก่อน เขาไม่ได้เสียเปรียบเลย แถมเขายังถือว่าได้เปรียบมาก อย่างไรก็ตาม เขาคงจะพลาดอย่างแน่นอนหากเขาตัดสินใจยังไม่เลือกเช่าร้านนี้และไปดูที่ร้านอื่นต่อ

"ผู้จัดการจ้าว ฝากที่นี่ด้วยนะ ผมจะไปเปิดร้านที่เหลืออีกสองสาขา" ฉินหยุนกล่าวกับจ้าวเทียนเฉียงโดยตรง

"ไม่ต้องห่วงครับบอสฉิน ผมจะดูแลที่นี่ให้ดีเลย" จ้าวเทียนเฉียงกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้เขาเคยบริหารจัดการร้านเสื้อผ้าหลายสิบร้านโดยไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้เขาสามารถดูแลร้านค้าร้านเดียวได้อย่างสบายๆ

หลังจากนั้น ฉินหยุนก็ออกจากที่นี่ เรียกรถแท็กซี่และรีบไปยังที่ตั้งของร้านค้าอีกสองแห่งอย่างรวดเร็ว

ท้ายที่สุดแล้วค่ายกลรวบรวมโชคลาภจะได้รับเมื่อเวลา 12.00 น. เท่านั้น และร้านค้าทั้งสามแห่งก็ไม่ได้ตั้งอยู่ในที่แห่งเดียวกัน เพื่อจัดวางค่ายกลรวบรวมโชคลาภ เขาจึงต้องเดินทางไปที่ร้านอีกสองสาขาที่เหลือ

แน่นอน ตามคำสั่งของเขาคือ ร้านเสื้อผ้าจะเปิดทำการเมื่อเขาไปถึงแล้วเท่านั้น

ใช้เวลาไปทั้งหมด 40 นาที และในที่สุดร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนขนาด 40 ตารางเมตรทั้งสองสาขาก็ได้รับการจัดวางค่ายกลรวบรวมโชคลาภเรียบร้อย

เมื่อมองไปที่พนักงานขายที่กำลังต้อนรับลูกค้าในร้านอย่างชุลมุน ฉินหยุนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

"ในอนาคต เมื่อระบบรวบรวมโชคลาภได้รับการอัปเกรด ฉันก็จะได้รับค่ายกลรวบรวมโชคลาภมากขึ้น แสดงว่าเมื่อวันที่ 1 ของเดือนมาถึง ฉันก็ต้องเดินทางไปเปิดร้านเองตลอดน่ะสิ" เขาพึมพำอย่างลับๆ

"ฮัลโหล ผู้จัดการจ้าว"

ฉินหยุนพึมพำอยู่สักครู่ จากนั้นเขาก็โทรไปสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ทางฝั่งของจ้าวเทียนเฉียง

"บอสฉินครับ เราเปิดร้านมาได้ประมาณ 40 นาทีแล้ว และขายเสื้อผ้าไปทั้งหมด 28 ตัว ยอดขายตอนนี้คือ 6,300 หยวนครับ"

เมื่อได้ยินคำถามของฉินหยุน จ้าวเทียนเฉียงก็อธิบายอย่างตื่นเต้น

ในเวลาเพียง 40 นาที ยอดขายก็สูงถึง 6,000 กว่าหยวนแล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ยอดขายน่าจะเกิน 10,000 หยวนในเวลาเพียงชั่วโมงเดียวอย่างแน่นอน!

นี่อาจกล่าวได้ว่ามันคือปาฏิหาริย์

ในขณะนั้นเอง ภายในห้องใต้หลังคาจากอีกฟากถนนของร้านสาขาใหญ่สุด จางฉินเยว่ที่กำลังสังเกตสถานการณ์อยู่ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความตกใจ

เช่นเดียวกับหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเธอ ฉากรกร้างที่เธอคาดหวังว่ามันจะเกิดกับร้านค้าด้านล่างนั่น มันกลับไม่ได้เกิดขึ้น ตรงกันข้าม ทันทีที่ร้านเปิดทำการ ความนิยมของร้านก็ระเบิดออกมาทันที

...

"28 ตัว?" ฉินหยุนกำลังคิดกับตัวเอง

ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ซึ่งจัดวางค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งนั้น ในวันปกติที่ไม่มีกิจกรรมพิเศษใดๆ สามารถขายเสื้อผ้าได้ประมาณ 60 ตัว

ตอนนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แล้ว เป็นไปได้ว่ามันจะสามารถบรรลุผลระดับนั้นได้ภายในสองชั่วโมงนี้

คาดว่ายอดขายของร้านนี้เพียงร้านเดียว น่าจะมากกว่ายอดขายของทั้งสี่ร้านที่เขตชิงอู๋ในหนึ่งวันรวมกันเสียอีก!

"ในเมื่อเปิดทั้งสามร้านเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คงได้เวลาที่ฉันต้องไปที่มหาลัยเจียงหยวนแล้วสิ" มุมปากของฉินหยุนมีรอยยิ้มจางๆ

เปิดร้านค้าแห่งใหม่ทั้งสามร้านเสร็จแล้ว และภายใต้อิทธิพลของค่ายกลรวบรวมโชคลาภ ร้านค้าเหล่านั้นก็ได้รับความนิยมอย่างสมบูรณ์ และตอนนี้มันก็อยู่ในกระบวนการขั้นต้นในการตีตลาดที่เมืองจินหลิงแล้ว

แต่วันนี้เป็นวันเปิดลงทะเบียนของมหาลัยเจียงหยวน และเขายังต้องไปลงทะเบียนนักศึกษาใหม่ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเฝ้าอยู่ที่ร้านตลอดเวลา

แน่นอนว่าเวลาสำหรับการเปิดให้ลงทะเบียนนั้นมีเวลาหนึ่งวันเต็ม มันยังไม่สายเกินไปสำหรับเขาที่จะไปในตอนนี้

ผู้คนจากสถานที่ห่างไกล ส่วนมากแล้วเดินทางมายังจินหลิงโดยรถไฟ หากคุณขึ้นรถไฟในตอนเช้า คุณก็อาจมาถึงในตอนบ่าย

หลังจากออกจากร้านขายเสื้อผ้า ฉินหยุนก็เรียกแท็กซี่และรีบไปที่มหาลัยเจียงหยวน

สิ่งที่เขานำติดตัวไปด้วยมีเพียงกระเป๋าเดินทางที่มีเสื้อผ้าสองสามชุด แล้วก็แล็ปท็อป นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว

เมื่อเขามาถึงมหาลัย ก็มีทั้งผู้ปกครองรวมถึงเหล่านักศึกษาอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้ปกครองของพวกเขา

สำหรับนักศึกษาน้องใหม่ปี 1 โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาถือว่าเพิ่งออกจากบ้านเป็นครั้งแรก และกว่าพวกเขาจะสามารถกลับบ้านได้ก็หลังจากผ่านไปอีกหลายเดือน ผู้ปกครองหลายคนจึงรู้สึกกังวลใจหน่อยๆ

นอกจากนี้ยังมีบางคนถือธงเล็กๆยืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้ามหาลัย ธงเล็กๆมีชื่อของคณะต่างๆเขียนไว้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคือรุ่นพี่ปี 2 ในคณะ

หลังจากสังเกตรอบๆสักพัก ฉินหยุนก็ทำตามคำแนะนำของคณะกรรมการของทางมหาลัย เขาเดินไปที่คณะบริหารธุรกิจโดยตรง

"เฮ้ นายเป็นน้องใหม่ของคณะบริหารธุรกิจหรือเปล่า?" เมื่อเห็นฉินหยุนเดินมา ชายหนุ่มสวมแว่นตาคนหนึ่งก็เข้ามาถามอย่างสงสัย

"ใช่ครับ" ฉินหยุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเห็นฉินหยุนพยักหน้า ชายหนุ่มที่สวมแว่นตาก็ยิ้มและกล่าวว่า "ฉันชื่อจางต้าจื่อ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 เอกคณะบริหารธุรกิจ"

"สวัสดีครับรุ่นพี่" ฉินหยุนเอ่ยทักทาย จากนั้นก็กล่าวว่า "ผมชื่อฉินหยุน ฉินมาจากคำว่าราชวงศ์ฉิน หยุนมาจากคำว่าโชคดี"

"เป็นชื่อที่ดี"

จางต้าจื่อยิ้มและกล่าว "รุ่นน้องฉินหยุน ฉันจะพานายไปจัดการขั้นตอนการลงทะเบียนต่างๆสำหรับนักศึกษาใหม่ ไม่งั้นนายคงจะเสียเวลามากแน่ถ้าทำด้วยตัวเอง"

"งั้นผมขอรบกวนรุ่นพี่ด้วยนะครับ" เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฉินหยุนก็พยักหน้า

"ไม่มีปัญหา" จางต้าจื้อโบกมือ แล้วก็ยกนิ้วโป้งให้เขาพลางกล่าวว่า "รุ่นน้องฉินหยุน นักศึกษาใหม่หลายคนส่วนมากจะมากับพ่อและแม่ของพวกเขา นายมาที่นี่ได้ด้วยคนเดียว ฉันชื่นชมนายมากจริงๆ"

ฉินหยุนยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร

“หืม?”

ทันใดนั้น สายตาของเขาก็หันไปยังที่แห่งหนึ่ง และแววตาของเขาก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย

...

ที่หน้าประตูมหาลัยเจียงหยวน ในเวลานี้มีรถคันหนึ่งหยุดลงหลังจากที่เพิ่งขับมาถึง

ประตูรถเปิดออก จากนั้นคน 3 คนก็ออกมาจากประตูรถ จากใบหน้าของพวกเขาทั้งสามคือ เซียวผิงจุน เหวินหยุน และเซียวหลาน

"ถึงมหาลัยเจียงหยวนแล้ว" เหวินหยุนกล่าวขณะที่มองดูผู้คนที่พลุกพล่านอยู่ด้านหน้า "หลานหลาน ส่งข้อความไปบอกเฉียนเฉียนพี่สาวของลูกด้วย"

"หนูเพิ่งส่งไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน"

เซียวหลานยิ้มและกล่าวว่า "เราบอกเธอไปล่วงหน้าตั้งครึ่งชั่วโมง และพี่สาวเฉียนเฉียนก็เพิ่งตอบข้อความกลับมา เธอบอกว่าใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว"

เธอมองไปรอบๆ และทันใดนั้นก็มองไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง จากนั้นดวงตาของเธอก็สว่างขึ้น

"นักศึกษาเซียวหลาน ช่างบังเอิญจริงๆ" ฉินหยุนเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นเขาก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

(จบตอน)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด