ตอนที่ 131 เผ่าคนแคระ
ตอนที่ 131 เผ่าคนแคระ
หลังจากที่กลายพันธุ์ทหารไป พลังเวทย์ของ หลิน ยู ก็เหลือเพียงแค่ 40000 แต้มเท่านั้น
กองกำลังระดับ 6 ที่สามารถขยายพันธุ์ได้จากเดิม 85 เพิ่มขึ้นมาเป็น 92
หากไม่นับมอสหุ้มเกาะที่ไม่มีความสามารถในการรบด้วยตัวมันเอง เขาจะมีกำลังทหารเพียงแค่ 90 ตัวเท่านั้น และจำนวนของมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าหลังจากแยกตัวเสร็จสิ้น
กล่าวได้ว่านี้คือพลังที่ยิ่งใหญ่
แต่โชคไม่ดีนัก ด้วยการตายของร่างแยก มันจะทำให้ร่างหลักที่อยู่ในดินแดนสูญเสียพลังงานไปด้วยเช่นกัน ทำให้ไม่สามารถแยกตัวออกไปได้มากกว่านี้ ดังนั้น เขาจึงต้องเก็บเหล่าร่างหลักไว้ในดินแดนก่อน
โชคดีที่วัตถุศักดิ์ชิ้นใหม่ของเขามีผลในการเร่งการฟื้นฟู
ควบคู่ไปกับการรักษาของหญ้าโคมไฟที่อยู่ในดินแดน ทำให้มันสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
จริงๆแล้ว
แม้ว่า หลิน ยู จะประสบความสูญเสียอย่างหนักจากการต่อสู้ที่รอยแยกมิติ แต่หากเทียบกับสิ่งที่เขาได้รับมามันก็ยังกำไรอยู่มากโข
เขานั้นไม่รู้ว่าราชันคนอื่นๆเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อคิดถึงมัน หลิน ยู ก็เปิดช่องแชทภูมิภาคดูทันที
"ลุยกันเลย! ฉันสังหารมอนสเตอร์จนหมด และได้รางวัลในที่สุด!"
"ฉันก็เหมือนกัน มันมีราชันจำนวนมาอยู่ที่นี้พวกเขารอรางวัลตอนสุดท้ายกันทั้งนั้น"
"พวกนายดูมีความสุขนะเพื่อน มีรอยแยกมิติขนาดใหญ่อยู่ใกล้เมืองของฉัน โชคดีจริงๆที่มีราชันระดับแปดโผล่มา ไม่อยากนั้นฉันคงไม่รอดแน่ๆ"
"ให้ตายซิ ราชันระดับแปดงั้นเหรอ?"
"ฉันก็ได้เจอกับราชันระดับสูงเหมือนกัน ดูเหมือนพวกเขาออกล่ารางวัลจากรอยแยกมิติขนาดใหญ่ ยิ่งรอยแยกมิติใหญ่เท่าไหร่ รางวัลก็ยิ่งดี"
"มันไม่ใช่เรื่องแปลก! รอยแยกมิติที่มีขนาด 100 กว่าเมตรรางวัลย่อมดีกว่ารอยแยกธรรมดามาก แต่มอนสเตอร์ที่อยู่ในนั้นก็โหดเอาเรื่องเหมือนกัน"
......
เห็นได้ชัดว่าเนื่องจากมีการเกิดรอยแยกมิติขึ้นเป็นจำนวนมาก ราชันส่วนใหญ่จึงได้เข้าร่วมในการแย่งชิงทรัพยากร
หลังจากที่เฝ้ามองอยู่นั้น หลิน ยู ก็ค้นพบ
ว่าราชันระดับล่างเหล่านั้นได้เจอกับ รอยแยกที่มีเพียงมอนสเตอร์ระดับ 6 หรือระดับ 7 ปรากฏออกมาเท่านั้น มันไม่มีมอนสเตอร์ระดับ 8 อยู่เลย
เป็นไปได้ไหมว่าอาณาเขตของเขากำลังพบเจอกับภัยภิบัติ?
หรือว่ามอนสเตอร์ระดับ 8 เหล่านั้นเลือกที่จะบุกเข้ามาจากที่นี้ เพราะพวกมันรู้สึกว่าที่นี้เป็นพื้นที่รกร้างที่มีราชันอยู่น้อยมาก?
หลิน ยู ถึงกับทำอะไรไม่ถูก
หากไม่ใช่เพราะว่าเขานั้นแข็งแกร่ง เกรงว่าเขาคงจะถูกกองทัพมอนสเตอร์ที่นำโดยเถาวัลย์พันหน้าถล่มจนราบไปแล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็รับรู้ได้ถึงความโหดร้ายของการแข่งขัน
เห็นได้ชัดว่า ในขณะที่พวกเขามอบทรัพยากรให้ ก็ยังมีการคัดเลือกราชันไปในตัวอีกด้วย
มีเพียงราชันที่เอาตัวรอดจากอันตรายนี้เท่านั้นถึงจะมีคุณค่าพอที่จะให้ส่งเสริม
ไม่อย่างนั้น ต่อให้พวกเขาได้ไปรบไปรบที่สงครามหมื่นโลก มันก็ไม่ต่างกับเป็นการส่งหมูไปให้ราชันจากโลกอื่นเชือดเล่น
หลังจากเฝ้าดูช่องแชทภูมิภาคกับช่องแชทโลกอยู่พักหนึ่ง หลิน ยู ก็มายังต้นไม้แห่งชีวิตเพื่อตรวจสอบสิ่งก่อสร้างต่างๆ
มันเป็นไปตามที่เขาคิดไว้
หลังจากที่อาคารพื้นฐานต่างๆในเมืองได้อัพเกรดขึ้นเป็นระดับ 2 แล้ว มันก็ได้ทำให้รายได้ต่อวันสูงขึ้นอย่างมาก
หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว
มันก็ยังเหลือคริสตัลเวทย์อีกตั้ง 4 ถึง 500 ชิ้น
ยกเว้นสนามฝึกซ้อมระดับ 6
แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้คือร้านช่างตีเหล็ก
ทุกๆวัน จะมีผู้ฝึกตนจำนวนมากไปยังที่นั้นเพื่อสร้างอุปกรณ์ด้วยวัสดุแปลกประหลาดที่เขาเพิ่งล่ามาได้ ซึ่งมันทำให้หลิน ยู แปลกใจอย่างมาก
"ดูเหมือนว่าเราต้องรีบหาช่างฝีมือระดับสูงแล้ว"
หลิน ยู อดที่จะพูดกับตัวเองไม่ได้
ปัจจุบันคนที่ประจำร้านช่างฝีมือในตอนนี้นั้นเป็นช่างตีเหล็กระดับ 3 ที่มาจากเมืองโม่หยวน
เขาสามารถสร้างอุปกรณ์ที่ต่ำกว่าระดับ 3 ลงมาเท่านั้นไม่ใช่ระดับ 3 ขึ้นไป
มันจึงไม่สามารถดึงดูดเหล่าผู้ฝึกตนระดับสูงได้เลย
หรือว่าเขาต้องไปหาช่างฝีมือระดับสูงจากอาณาจักรอื่น?
แย่ละ
เมื่อคิดถึงการพัฒนาในอนาคต หลิน ยู ติดต่อไปซู่ จงทันทีถามเขาเกี่ยวกับช่างฝีมือระดับสูง
"นายท่านต้องการถามว่าจะให้ช่างฝีมือระดับสูงได้จากที่ไหนงั้นเหรอ?"
"ใช่!" หลิน ยู พยักหน้า "คุณพอจะแนะนำได้บ้างไหม"
"ข้าน้อยก็ไม่ทราบเหมือนกันขอรับ แต่ลูกน้องของข้าน้อยเคยได้ยินมาว่ามันมีเผ่าคนแคระอาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขาไฟในอาณาจักรเทียนหยาน ความสามารถในการตีเหล็กของพวกเขานั้น หาใครเทียบได้ยาก"
"เผ่าคนแคระ?" หลิน ยู ถามออกมาด้วยความแปลกใจ
โลกนี้มีคนแคระอยู่ด้วยงั้นเหรอ
หลังจากที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขานั้นเคยเห็นวิญญาณตัวเป็นๆมาแล้วตอนอยู่สนามรบหมื่นโลก มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะมีคนแคระด้วย
ที่สำคัญเลย คือความสามารถในการตีเหล็กของพวกเขาทรงพลังอย่างมาก
นี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการที่สุดอย่างนั้นเหรอ?
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาพูดต่อ "บอกฉันถึงสถานการณ์ที่นั้น ฉันต้องการรู้มากกว่านี้"
"ได้ขอรับ"
ซู่ จง เริ่มบอก หลิน ยู เกี่ยวกับทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับเผ่าคนแคระ
จนกระทั่ง 10 นาทีต่อมา
หลิน ยู ก็ได้มีความเข้าใจเกี่ยวชนเผ่านี้เล็กน้อย
โดยพื้นฐานแล้ว คนแคระในโลกนี้ไม่ได้แตกต่างจากคนแคระที่เขารู้จักมากนัก พวกเขาชำนาญในการตีเหล็ก
และไม่ชอบติดต่อกับคนภายนอก
เช่นเดียวกับเหล่าเอลฟ์ที่รักของธรรมชาติ
มันมีเหตุผลทางประวัติศาสตร์ ว่าทำไมคนภายนอกถึงไม่เป็นที่ต้อนรับ
มันเรื่องที่ยากจริงๆ
มีทางไหนบ้างนะที่เขาจะเชิญเหล่าช่างฝีมือคนแคระระดับสูงมาได้?
หลิน ยู ลูบคางพลางครุ่นคิด
อาณาจักร เทียนหยาน นั้นอยู่ใกล้กับ อาณาจักรหวงหวู่มาก
มันมีเดียวแนวเขาที่สุดลูกหูลูกตารวมถึงเหวขนาดใหญ่ขวางกั้นอยู่เท่านั้น
แต่ปัญหาคือเขานั้นไม่รู้จักราชันคนไหนในอาณาจักรเทียนหยานเลย อีกทั้งอาณาจักรนั้นยังตกอยู่ในความวุ่นวาย
หากตอนนี้เขาบุ่มบามเข้าไป ไม่รู้ว่าต้องเจอกับอันตรายอะไรบ้าง
"ลืมมันไปก่อนแล้ว รอพรุ่งนี้ค่อยไปตรวจสอบสถานการณ์ที่นั้น"
สุดท้าย หลิน ยู เลือกที่จะไปตรวจสอบดูก่อน
เพราะช่างฝีมือที่แข็งแกร่งนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาของเมืองหวงซา เขาต้องใส่ใจให้มาก
ถอยกลับไม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ด้วยมังกรราชาปิศาจที่บินได้นั้น ตราบใดที่เขาไม่ไปเจอกับราชันระดับ 7 ที่มีทหารบินได้ เขาก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
เมื่อตัดสินใจได้ แล้วเขาก็วางแผนภายในดินแดนทันที
....
ชั่วพริบตาเดียว เช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากทีได้พักผ่อนมาทั้งคืน
ในที่สุดพืชในดินแดนของ หลิน ยู ก็ฟื้นตัวกลับมา กองกำลังพืชของเขากลับมาสมบูรณ์พร้อมอีกครั้ง
เขามีทหารพืชมากกว่า 300 เกือบจะถึง 400 ตัว เต็มดินแดนทั้งหมด
ส่วนหนึ่งของพวกมันกระจายออกไป นอกป่าเถาวัลย์ เขาสามารถใช้พวกมันเพื่อป้องกันดินแดนได้อีกด้วย
เมื่อฟ้าสว่างขึ้น
จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นในหัวของ หลิน ยู
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณอยู่ในอันดับ 394 ในการจัดอันดับอาณาจักร(ระดับ 6) ได้รับรางวัลพลังเวทย์ 50000 แต้ม]
"รางวัลจัดอันดับ?"
หลิน ยู หยุดลงทันทีขณะกำลังลงบันได เขาลืมไปเลยว่าการแจกรางวัลจัดอันดับนั้นจะเกิดขึ้นเดือนละครั้ง
นับจากเวลาในตอนนี้ เขาอยู่ที่นี้มาได้เกือบเดือนแล้ว
น่าเสียดายจากการสูญเสียทหารระดับ 7 ไปหลายตัว ทำให้อันดับของเขานั้นไม่สูงมากนัก เขาติดอันดับ 1 ใน 1000 เท่านั้น
แต่ก็ไม่เป็นไร
ในตอนนี้เขานั้นไม่ได้ขาดแคลนพลังเวทย์ พลังเวทย์ 50000 แต้มเพียงพอแล้วสำหรับเขา ทำสามารถให้ทำอะไรได้หลายอย่าง
เขาถอนหายใจออกมา
เขาเรียก หลิง ซี ราชาปิศาจเห็ด มังกรราชาปิศาจและมังกรสนมปิศาจ มาอย่างละตัวพร้อมกับเอลฟ์ผู้ส่งสาสน์ธรรมชาติ 2 ตัวที่รักษาหมู่ได้
หลังจากเตรียมการง่ายๆแล้ว เขาก็บินออกไปจากดินแดนท่ามกลางสายลม