ตอนที่ 104: หาวิธีซ่อมยาน
ตอนที่ 104: หาวิธีซ่อมยาน
ถนนภายในฐานเรดสโตนนั้นคล้ายกับอัฒจันทร์ของสนามฟุตบอลที่ล้อมรอบฐานเป็นชั้น ๆ ในขณะนี้ซาร่ากับเซี่ยเฟยได้เดินออกจากโกดังและเดินไปตามถนนวงกลมโดยมีจุดหมายคือร้านแลกเงิน
ร้านแลกเงินเป็นจุดในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ที่ใช้ในเขตดาว โดยสินค้าที่เซี่ยเฟยจะนำมาแลกเปลี่ยนมันก็คือผลน้ำค้างขาวและผลเนตรนาคา ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสินค้าสำคัญที่สามารถแลกเปลี่ยนได้เช่นกัน
ผลไม้ทั้งสองชนิดนี้สามารถนำมาใช้เพิ่มพละกำลังให้กับผู้ที่กลืนกินมันเข้าไปได้ ซึ่งสำหรับนักสู้อย่างเซี่ยเฟยแล้วเขาก็มักที่จะพกผลไม้พวกนี้ติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา
“จุดแลกเงินที่ฉันแนะนำในฐานเรดสโตนมีอยู่ 3 ร้าน เจ้าของร้านพวกนี้ค่อนข้างน่ารักและให้ราคาที่ยุติธรรม ฉันจะพานายไปร้านพวกนั้นก็แล้วกัน” ซาร่ากล่าว
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเซี่ยเฟยวางตัวค่อนข้างดีมากทำให้ในตอนนี้ซาร่าเริ่มที่จะเปิดใจให้กับชายหนุ่มแล้ว และสิ่งที่เธอได้แสดงออกมาก็มีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“เดี๋ยวฉันแบ่งผลไม้ออกเป็น 3 ส่วนแล้วกระจายขายใน 3 ร้านนี้ก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นถ้าหากว่าพวกเราเอาผลไม้ไปขายที่ร้านเดียวมากเกินไป พวกเขาก็อาจจะสงสัยแหล่งที่มาของผลไม้ได้” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากใช้เวลาคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง
“แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน ดูเหมือนวิธีคิดของนายจะคล้ายกับพวกเรามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ” ซาร่าพยักหน้ารับความคิดของเซี่ยเฟย
ราคาของหัวใจจักรวาลในพันธมิตรมนุษย์ค่อนข้างสูงมากแต่ที่นี่ราคาของมันกลับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ในความเป็นจริงผลเนตรนาคา 1 ผลสามารถแลกหัวใจจักรวาลได้ถึง 10 กรัม ขณะที่ผลน้ำค้างขาวสามารถแลกหัวใจจักรวาลได้ 4 กรัม
ชายหนุ่มตัดสินใจแลกเปลี่ยนผลไม้ทั้งสองชนิดอย่างละ 300 ผลและได้รับหัวใจจักรวาลมาถึง 4,200 กรัม
การลักลอบขนส่งสินค้าระหว่างเผ่าพันธุ์สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล และถึงแม้ว่าหัวใจจักรวาลบางก้อนจะเป็นเพียงแค่อัญมณีชิ้นเล็ก ๆ แต่เซี่ยเฟยก็ประเมินราคาอัญมณีพวกนี้เอาไว้ที่ประมาณ 70-80 ล้านสตาร์คอยน์
ในความเป็นจริงหากเขานำอาหารไปแลกกับหัวใจจักรวาล เขาจะได้อัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ากว่า เพราะช็อกโกแลตเพียงแค่ 2-3 ชิ้นก็สามารถแลกหัวใจจักรวาลได้ 1 กรัมแล้ว ซึ่งมันคุ้มค่ากว่าการแลกหัวใจจักรวาลโดยใช้ผลเนตรนาคามาก
น่าเสียดายที่ชายหนุ่มจำเป็นต้องบริโภคอาหารเป็นจำนวนมากในทุก ๆ วันและมันก็คงจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่าเขาจะสามารถซ่อมลูน่าจนเสร็จ ดังนั้นอาหารสำรองในแหวนมิติจึงถือเป็นทุนสำรองที่สำคัญที่เซี่ยเฟยจะขาดไปไม่ได้
หลังจากทำการแลกเปลี่ยนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยกับซาร่าก็เดินทางมาจนถึงอู่ต่อยาน ซึ่งอู่ต่อยานแห่งนี้เป็นอู่ต่อย่านเพียงแห่งเดียวภายในฐานทัพ แต่มันก็ไม่ใช่อู่ต่อยานขนาดเล็กเลยเพราะมันมีท่าเทียบยาน 6 ท่า, ห้องเวิร์กช็อป 2 ห้องและมีช่างซ่อมอยู่มากกว่า 20 คน
เซี่ยเฟยกวาดสายตามองรอบ ๆ อู่และได้พบว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในอู่นี้มีสภาพที่เก่ามากและเครื่องจักรหลายเครื่องที่กำลังทำงานก็อาจจะมีอายุเกินกว่า 100 ปี
“ซาร่า! คิดถึงจังเลย”
“คืนนี้ไปกินเหล้ากันดีกว่า”
เมื่อเหล่าช่างได้เห็นหญิงสาว พวกเขาก็รวมตัวกันล้อเลียนเธอในทันที ขณะที่ซาร่าก็ไล่เตะช่างพวกนี้ด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“กลับไปทำงานได้แล้ว!” ทันใดนั้นชายวัยกลางคนผู้มีอายุประมาณ 50 ปีก็ส่งเสียงตะโกนขึ้นมาเสียงดังทำให้เหล่าช่างรีบกลับไปทำงานของตัวเอง แต่สายตาของพวกเขาก็ยังคงจับจ้องมองไปยังก้นของซาร่าอย่างไม่วางตา
“สวัสดีลุงแอนดี้” ซาร่ากล่าวทักทายชายผู้มาใหม่
แอนดี้พยักหน้ารับก่อนที่เขาจะพาซาร่าและเซี่ยเฟยเข้าไปในห้องทำงาน จากนั้นหญิงสาวก็แนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันโดยบอกว่าเซี่ยเฟยเป็นญาติห่าง ๆ ของเอเลน
ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็ส่งรายการอะไหล่ที่เขาต้องการให้กับแอนดี้ ซึ่งมันก็ทำให้ชายวัยกลางคนคนนี้ขมวดคิ้วจนหน้าผากย่น
“ของพวกนี้เป็นของระดับสูงหมดเลย ฉันคิดว่าการจะหาพวกมันในเขตดาววิลเดอร์เนสเป็นงานที่ยากมาก”
“คุณพอจะหาพวกมันจากฐานทัพอื่นได้ไหมครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพ่นควันบุหรี่
“ถึงจะรวมฐานอื่นด้วยแต่มันก็ยังยากอยู่ดี อู่ของฉันถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอู่ที่ใหญ่ที่สุดในเขตดาววิลเดอร์เนสแล้ว ยานลำอื่นหลาย ๆ ลำที่หาอู่ซ่อมไม่ได้ก็มักที่จะมาจบที่อู่นี่ ฉันพอจะถามหาอะไหล่ให้กับนายได้แต่อย่าคาดหวังเลยจะดีกว่า” แอนดี้กล่าวพร้อมกับเหลือบสายตามองไปทางเซี่ยเฟย
“ถ้าคุณหาอะไรได้มันก็ดี แต่ถ้าคุณหาไม่ได้เดี๋ยวผมจะลองหาวิธีอื่นด้วย” เซี่ยเฟยกล่าว
“นายน่าจะรู้อยู่แล้วว่าสัญญาณรบกวนในเขตดาวรุนแรงมาก ฉันน่าจะต้องใช้เวลาอีกวันสองวันในการหาอะไหล่พวกนี้ พรุ่งนี้นายค่อยกลับมาดูอีกทีก็แล้วกัน” แอนดี้กล่าวพร้อมกับวางรายการอะไหล่ไว้บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ลุกยืนขึ้นไปส่งเซี่ยเฟยที่นอกประตู
หลังได้รับคำตอบเซี่ยเฟยก็พยักหน้ารับ จากนั้นเขาก็ส่งถุงเงินที่มีหัวใจจักรวาลจำนวน 500 กรัมให้กับชายวัยกลางคน ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปทางเดิมที่เขาเดินมาพร้อมกับซาร่า
“ลุงแอนดี้เป็นคนที่ไว้ใจได้หรือเปล่า?” เซี่ยเฟยถาม
หากใครก็ตามที่มีประสบการณ์เรื่องงานช่างได้มาเห็นใบรายการอะไหล่ที่เขาได้ให้แอนดี้ไป ช่างพวกนั้นก็จะรู้ได้ในทันทีว่าเขากำลังต้องการจะซ่อมยานไทนี่ฟอลคอนรุ่นกองทัพอยู่ และมันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าข้อมูลพวกนั้นจะถูกขายออกไปในเขตดาวนี้หรือไม่
“ลุงเคยเล่าให้ฟังว่าลุงแอนดี้หนีมาเพราะเขาเผลอไปฆ่าชู้เมียตัวเอง ตอนแรกเขาเริ่มต้นจากการเป็นช่างก่อนที่จะค่อย ๆ พัฒนามาเป็นเจ้าของอู่เหมือนกับที่นายได้เห็น”
“ใครก็ตามที่สามารถเติบโตขึ้นมาได้จนถึงระดับนี้จะรู้ดีว่าอะไรที่พวกเขาควรพูดหรืออะไรที่พวกเขาไม่ควรพูด เพราะถ้าหากว่าผู้อยู่อาศัยถาวรอย่างพวกเราไม่รู้วิธีเก็บความลับ พวกเราก็คงไม่สามารถเอาชีวิตรอดในเขตดาวนี้ได้” ซาร่ากล่าว
สิ่งที่ซาร่าพูดมาเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว เพราะท้ายที่สุดเหล่าบรรดาผู้อยู่อาศัยถาวรต่างก็จำเป็นที่จะต้องทำงานกับพวกใต้ดิน ดังนั้นถ้าหากว่าใครพูดอะไรโดยไม่ระมัดระวังพวกเขาก็อาจจะเสียชีวิตลงไปโดยไม่รู้ตัว
ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าสำหรับที่นี่ แล้วใครจะกล้ารับประกันว่าคนแปลกหน้าจะเป็นคนดี ดังนั้นการที่มันไม่มีใครรู้รายละเอียดเบื้องหลังของเซี่ยเฟยจึงได้กลายเป็นเกราะป้องกันตัวของเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์
—
บนถนนห่างออกไปในระยะไกลมีทหารกลุ่มหนึ่งผู้ซึ่งสวมชุดเครื่องแบบสีกากี, สวมหมวกเปเล่, สะพายปืนเลเซอร์เอาไว้บนไหล่และกำลังอาละวาดอยู่บนถนนด้วยท่าทางที่ดุร้าย
“ไอ้แก่! คลานเร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอวะ!” ทหารคนหนึ่งเดินเข้าไปเตะชายชราขาพิการที่กำลังรีบคลานหนีเหล่าทหารอยู่บนพื้น
พวกคนบนท้องถนนต่างก็พยายามหลีกเลี่ยงทหารที่อันธพาลเหล่านี้ แล้วมันก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไรออกมาสักคำ
ด้านหลังของกลุ่มทหารเป็นชายหนุ่มผู้ซึ่งมีอายุไม่ถึง 20 ปี โดยชายคนนี้เป็นคนผิวขาวที่มีหน้าตาหล่อเหลา แต่น่าเสียดายที่ถึงแม้เขาจะอายุยังน้อยแต่เขาก็ดื่มสุราจนร่างกายเสื่อมสภาพไปจนหมดแล้ว ดังนั้นทุกการก้าวเดินของชายหนุ่มคนนี้จึงเป็นเหมือนกับเหล่าคนเมาที่ไม่มีแรง
เมื่อได้เห็นเหล่าอันธพาลซาร่าก็ลากเซี่ยเฟยเข้าไปในตรอกข้างถนน
“คนพวกนั้นเป็นทหารจากตระกูลหนิง ตอนที่ฉันไปส่งทาสฉันได้ยินมาว่าทหารของตระกูลหนิงถูกฆ่าไปสองคนพวกเขาเลยกำลังออกตามหาฆาตกร ในฐานะที่นายเป็นคนแปลกหน้านายก็ควรจะหลีกเลี่ยงพวกเขาไปก่อน” ซาร่ากล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางประหม่าเล็กน้อย
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” เซี่ยเฟยที่ในปัจจุบันกำลังยืนอยู่ในมุมมืดกล่าวถามพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ชายหนุ่มผิวขาว
“เขาชื่อ ‘หนิงเตี้ยน’ เป็นหนึ่งในลูกชายของตระกูลหนิง เขาเป็นคนที่หยิ่งผยองมาก ทุกคนภายในฐานต่างก็พยายามหลีกเลี่ยงเขา” ในระหว่างอธิบายเสียงของซาร่าก็สั่นขึ้นมาเล็กน้อยคล้ายกับว่าเธอรู้สึกรังเกียจนายน้อยหนิงคนนี้มาก
—
ในเช้าวันรุ่งขึ้นเซี่ยเฟยก็กลับมาที่อู่ของแอนดี้อีกครั้งตามที่พวกเขาได้ตกลงกันเอาไว้
“ทำไมวันนี้ซาร่าไม่มาด้วย?” แอนดี้ถาม
“ซาร่าเป็นขนทาส เธอจะตามมาประมาณตอนเที่ยง” เซี่ยเฟยตอบ
หลังได้ยินคำอธิบายแอนดี้ก็พยักหน้ารับ จากนั้นเขาก็หยิบใบรายการออกมาจากโต๊ะก่อนที่จะส่งให้ชายหนุ่ม
เมื่อได้รับใบรายการเซี่ยเฟยก็รีบทำการตรวจสอบรายละเอียดทันที ซึ่งในรายละเอียดของแต่ละรายการมีการระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าอะไหล่ชิ้นไหนมีอยู่ในเขตดาวนี้หรือไม่ ถ้ามีอะไหล่ชิ้นนั้นอยู่ที่ไหน, สามารถจัดส่งได้เมื่อไหร่และมีราคาเท่าไหร่
เห็นได้ชัดเลยว่าแอนดี้ใช้เวลาไปกับใบรายการนี้มากแค่ไหน แล้วมันก็แสดงออกถึงความจริงจังของเขาได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของ 4 หน้าแรกยังมีอะไหล่ที่ไม่สามารถจัดหาได้อีก 34 ชิ้น ซึ่งน่าเสียดายที่ชิ้นส่วนเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นชิ้นส่วนหลักในการซ่อมลูน่าและถ้าหากว่าเขาไม่สามารถหาอะไหล่เหล่านี้ได้ เขาก็ไม่สามารถที่จะทำให้ลูน่ากลับไปบินได้อีกครั้งจริง ๆ
“ขอบคุณครับ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มและมันก็ไม่ใช่ความผิดของแอนดี้ที่เขาไม่สามารถตามหาชิ้นส่วนอะไหล่เหล่านี้ได้
“ว่าแต่นายจะเอายังไงต่อ?” แอนดี้ถาม
“ผมว่าจะลองไปเสี่ยงโชคในสนามรบโบราณดูครับ ถ้ามันไม่ได้ผลผมจะซื้อยานบรรทุกขนยานของผมไปซ่อมในเขตพันธมิตรมนุษย์” เซี่ยเฟยกล่าว
“ลืมเรื่องการใช้ยานบรรทุกแล้วเดินทางไปยังพันธมิตรได้เลย” แอนดี้กล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“มันมีปัญหาอะไรเหรอครับ?” เซี่ยเฟยถามด้วยความสงสัย
“ยานบรรทุกทั้งเงอะงะและเชื่องช้า พวกมันต้องใช้เวลาในการชาร์จพลังงานหลังการวาร์ปมากกว่า 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยานบรรทุกมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทำให้ตัวยานถูกค้นพบได้ง่ายมาก”
“ในเขตดาววิลเดอร์เนสมีสภาพแวดล้อมที่อันตรายมาก ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์พายุแม่เหล็กไฟฟ้าหรือระเบิดโปรตอน ฉันขอถามหน่อยว่ายานบรรทุกขนาดใหญ่จะหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลาพวกนี้ได้ยังไง” แอนดี้อธิบาย
“โจรสลัดในเขตดาววิลเดอร์เนสมีจำนวนอยู่นับไม่ถ้วน เนื่องจากหลาย ๆ คนก็เลือกที่จะทำงานปกติในวันธรรมดาและทำการออกปล้นในช่วงวันหยุด เพราะท้ายที่สุดสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในเขตดาววิลเดอร์เนสแล้วการปล้นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในงานของพวกเขาด้วยเหมือนกัน”
“นายรู้ไหมว่าทำไมซาร่าถึงต้องออกไปทำงานตอนเช้าทุกวัน แต่ไม่เคยกลับมาเกินเที่ยงเลย” แอนดี้ถาม
เซี่ยเฟยส่ายหัวเป็นคำตอบ เพราะเขาไม่เคยถามเกี่ยวกับเรื่องงานของซาร่าเลยและหญิงสาวก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
“นั่นก็เพราะว่าซาร่ามีหน้าที่เพียงแค่ขนส่งสินค้าไปยังจุดปลอดภัยที่ใกล้ที่สุดเท่านั้น ในเขตดาววิลเดอร์เนสยานบรรทุกเป็นเหมือนกับสะพานเชื่อมระหว่างตู้เซฟในแต่ละจุดเท่านั้น แต่ไม่มีใครคิดจะใช้พวกมันในการเดินทางไกล”
“หากนายต้องการเดินทางระยะไกลนายก็จำเป็นที่จะต้องมียานฟริเกตขนาดเล็ก และการวาร์ปแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 100 ปีแสง เพราะการวาร์ปภายในระยะ 100 ปีแสงใช้เวลาในการชาร์จพลังงานน้อยที่สุดและช่วยลดโอกาสในการถูกตรวจจับจากเรดาร์ระยะไกลมากที่สุด”
หลังได้รับคำอธิบายเซี่ยเฟยก็ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
เขารู้อยู่แล้วว่าในระหว่างที่เครื่องวาร์ปจะทำการปล่อยพลังงานเป็นจำนวนมากออกมาเพื่อทำการสร้างรูหนอนชั่วคราว ดังนั้นยิ่งระยะทางในการวาร์ปไกลมากเท่าไหร่จำนวนพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาสร้างรูหนอนก็จะยิ่งสูงมากขึ้นไปเท่านั้น และพลังงานเหล่านี้ก็สามารถที่จะถูกตรวจจับได้โดยเรดาร์พลังงานที่ติดตั้งไว้บนยาน
“การวาร์ประยะสั้นแบบนั้นมันไม่เสียเวลาไปหน่อยหรอครับ” เซี่ยเฟยถาม
“ถามว่าเสียเวลาไหมก็ใช่ แต่มันไม่มีใครกล้าวาร์ปออกไปในระยะไกลหรอก เพราะถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังแล้ว แต่โอกาสเดินทางออกไปจากเขตดาวนี้ได้ก็มีอยู่น้อยมาก มันเลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมสินค้าจากพันธมิตรถึงมีราคาที่แพงมาก” แอนดี้อธิบายพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“ดูเหมือนว่าผมคงจะต้องไปเสี่ยงโชคในสนามรบโบราณสินะ” เซี่ยเฟยพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ
***************