ตอนที่แล้วตอนที่ 102: ฐานเรดสโตน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 104: หาวิธีซ่อมยาน

ตอนที่ 103: ได้รับความเสียหายอย่างหนัก


ตอนที่ 103: ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

“คุณเอเลน คุณพอจะบอกผมได้ไหมครับว่าผมจะหาอะไหล่มาซ่อมยานได้จากที่ไหน?” เซี่ยเฟยถาม

เมื่อได้ยินคำถามเอเลนก็ชี้นิ้วไปยังสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่นอกหน้าต่าง ซึ่งภายในฐานทัพอันมืดมิดสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่ก็เปรียบเสมือนกับดวงอาทิตย์ที่คอยบอกเวลากลางวันและกลางคืน

“ตอนนี้เริ่มมืดแล้ว พวกเรามีกฎในฐานเรดสโตนว่ามืดเมื่อไหร่ทุกคนต้องกลับบ้าน ดังนั้นถ้าหากว่าเอ็งต้องการจะซื้ออะไรไปซ่อมยาน อย่างเร็วที่สุดเอ็งก็ต้องรอจนถึงวันพรุ่งนี้” เอเลนกล่าว

“ที่นี่เป็นฐานทัพอิสระไม่ใช่หรอครับ? แล้วทำไมมันถึงมีคนตั้งกฎเคอร์ฟิวขึ้นมาด้วยล่ะครับ?” เซี่ยเฟยถามด้วยความสงสัย

“อิสระ? ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนมันก็ไม่มีคำว่าอิสระจริง ๆ หรอก เหตุผลที่ฐานทัพเรดสโตนถูกเรียกว่าฐานทัพอิสระมันเป็นเพราะว่าไม่ว่าใคร ๆ ก็สามารถเข้ามาทำธุรกิจภายในฐานแห่งนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นนักโทษ, โจรสลัด, พวกใต้ดินทั้งหลายแหล่หรือแม้กระทั่งเอ็งก็ตาม” เอเลนอธิบายพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ จากนั้นเขาก็อธิบายต่อไปว่า

“แต่ถึงแม้ว่าที่นี่จะต้อนรับทุก ๆ คน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าที่นี่จะไม่มีข้อจำกัด พวกตระกูลหนิงเป็นคนคุมกฎที่นี่ หากใครไม่เชื่อฟังคำสั่งจะถูกพวกเขาจับไปลงโทษ”

“เมื่อไม่นานมานี้ตระกูลหนิงเพิ่งมีปัญหากับกลุ่มโจรสลัดนกฮูกทำให้มีคนตายระหว่างการปะทะมากกว่า 10 คน ดังนั้นพวกตระกูลหนิงจึงส่งคนออกมาลาดตระเวนทุกคืนและพวกเขาก็จะตรวจสอบคนแปลกหน้าอย่างเข้มงวด”

“ถึงแม้ว่าจะมีคนเสียชีวิตไปมากกว่า 10 คน แต่ผมก็ยังเห็นบรรยากาศบนท้องถนนเป็นเรื่องปกติอยู่เลยนี่ครับ” เซี่ยเฟยตั้งข้อสงสัย

“อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า ในฐานเรดสโตนไม่มีคนดีหรอก มันไม่มีใครสนใจว่าใครจะตายคนที่กังวลมีแต่พวกคนในตระกูลหนิงเท่านั้นแหละ เพราะคนที่ตายคือทหารรับจ้างที่พวกเขาต้องจ่ายเงินจ้างมา” เอเลนส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับตบไหล่เซี่ยเฟย

ชายหนุ่มพูดคุยกันกับชายชราต่อไปสักพักแล้วมันก็ทำให้เขาได้รู้ว่าภายในฐานทัพแห่งนี้มีผู้อาศัยอยู่เกือบ 30,000 คน แต่ผู้อาศัยในระยะยาวมีอยู่เพียงแค่ประมาณ 10,000 คนเท่านั้น ส่วนพวกที่เหลือเป็นพวกที่เข้ามาพักเพียงแค่ชั่วคราว

ภายในพื้นที่เขตดาววิลเดอร์เนสไม่มีดาวเคราะห์ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยอยู่เลยแม้แต่ดวงเดียว มันจึงทำให้คนในบริเวณนี้จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาฐานทัพอย่างฐานเรดสโตน

ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับฐานทัพทั้งหมดในเขตดาววิลเดอร์เนส ฐานเรดสโตนก็ถือได้ว่าเป็นเพียงแค่ฐานขนาดกลางเท่านั้น เพราะภายในฐานขนาดใหญ่มีผู้อาศัยอยู่มากกว่า 100,000 คน และการค้าขายภายในฐานขนาดใหญ่ก็สมควรที่จะถูกเรียกว่าเป็นการค้าขายที่เสรีอย่างแท้จริง

ปัจจุบันพันธมิตรมนุษย์กับพวกเซิร์กไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางด้านการค้ากันเลยแม้แต่นิดเดียว มันจึงทำให้เขตดาววิลเดอร์เนสซึ่งเป็นชายแดนระหว่างสองเผ่าพันธุ์นี้ได้กลายเป็นตลาดมืดที่คึกคักสำหรับพ่อค้าทั้งสองเผ่าพันธุ์

ในตลาดมนุษย์มักจะขายอาหาร, เสื้อผ้า, กาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่พวกแมลงก็จะนำสินค้าพวกก้อนแร่ออกมาขาย

ซึ่งถ้าหากพวกมนุษย์รับก้อนแร่เหล่านี้กลับไปขายในพันธมิตรมนุษย์ พวกเขาก็จะสามารถสร้างผลกำไรได้มากมายมหาศาล

พวกเซิร์กมีเหมืองคริสตัลขนาดใหญ่อยู่ภายในเขตแดนของตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะนำหัวใจจักรวาลมาแลกกับเหล้าดี ๆ

โดยปกติพวกเซิร์กจะแลกหัวใจจักรวาลน้ำหนักเกือบ 1 กรัมกับเหล้าดี ๆ 1 ขวด แต่ถ้ามนุษย์ได้ขนส่งหัวใจจักรวาลกลับไปขายในพันธมิตร พวกเขาก็จะสามารถสร้างกำไรได้หลายร้อยเท่า

แมลงส่วนใหญ่ไม่กินกาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่แมลงพวกนั้นเป็นเพียงแค่พวกชั้นต่ำที่ไม่มีอะไรต่างไปจากสัตว์เดรัจฉาน แต่ภายในเขตดาววิลเดอร์เนสก็พอจะมีแมลงที่มีสติปัญญาอยู่บ้าง โดยแมลงเหล่านี้มีพฤติกรรมคล้ายกับมนุษย์ที่ชอบสังสรรค์และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แม้ว่าการค้าขายในชายแดนที่ผิดกฎหมายแบบนี้จะสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล แต่มันก็แลกมากับความเสี่ยงที่สูงมากเช่นเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดพื้นที่ชายแดนมันก็ไม่ต่างไปจากพื้นที่ป่าเถื่อนที่ไม่มีอะไรสามารถรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยได้เลย

ยกตัวอย่างเช่น การที่จู่ ๆ สัญญาณได้หยุดชะงักไปอย่างกะทันหันหรือการที่ยานหายสาบสูญไปอย่างไม่สามารถอธิบายได้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องปกติของคนในท้องถิ่น ในความเป็นจริงมันไม่มีใครสามารถนับจำนวนยานที่สูญหายไปในพื้นที่บริเวณนี้ได้ด้วยซ้ำ เพราะในแต่ละปีมีจำนวนยานที่สูญหายไปจำนวนมากจนเกินไป

แต่ถึงยังไงมันก็มีนักธุรกิจจากพันธมิตรและพวกเซิร์กมาเสี่ยงชีวิตในพื้นที่เขตนี้เสมอ เพราะมีคนร่ำรวยจากการทำธุรกิจในเขตนี้ในทุก ๆ วัน แต่คนส่วนใหญ่คงจะไม่รู้ว่าผู้ที่สามารถกลับไปได้อย่างร่ำรวยเป็นเพียงแค่ส่วนน้อย และเบื้องหลังของผู้ประสบความสำเร็จเหล่านั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าได้ซุกซ่อนผู้เสียชีวิตเอาไว้กี่คน

หลังจากนั้นไม่นานสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่ก็ดับแสงลง เอเลนจึงเรียกเซี่ยเฟยและซาร่ามารับประทานอาหารในห้องนั่งเล่น

เอเลนหยิบจานเซรามิกออกมาจากตู้อย่างพิถีพิถัน โดยจานเหล่านี้มีฝุ่นเกาะอยู่อย่างมากมาย ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าชายชราเก็บรักษาพวกมันเอาไว้เป็นอย่างดีและจะเอามาใช้ในวันพิเศษเท่านั้น

“ไอ้นี่อีกแล้ว! พวกเราเพิ่งจะทำเงินจากเซี่ยเฟยได้ไม่ใช่หรอ ทำไมพวกเราไม่ไปซื้อผักซื้อไข่จริง ๆ มากินล่ะ ปากหนูมันเต็มไปด้วยกลิ่นบลูแกรสหมดแล้วนะ!” ซาร่าคว้าอาหารเข้าไปภายในปากพร้อมกับบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ

หลังได้ยินคำบ่นเอเลนก็ยื่นมือออกไปตีแขนของซาร่า แต่น่าเสียดายที่การเคลื่อนไหวของเขายังไม่เร็วมากพอหญิงสาวจึงสามารถเอาแขนหลบไปได้

“วันนี้พวกเรามีแขก เธอไม่ควรทำตัวแบบนี้” เอเลนกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“แขก? เมื่อตอนเที่ยงลุงยังบอกว่าจะฆ่าเขาอยู่เลย แล้วทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าเขากลายเป็นแขกแล้วล่ะ” ซาร่าถามหลังจากที่เธอได้กลืนอาหารภายในปาก

หลังถูกแฉเอเลนก็รู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย แต่เขาก็รีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว

“ธุรกิจมันก็คือธุรกิจ! ในเมื่อตอนนี้เขาเป็นลูกค้าพวกเราก็ต้องถือว่าเขาเป็นแขก ว่าแต่ฉันยังไม่ได้ถามเธอเลยว่าผลน้ำค้างขาวมันหายไปไหน 10 ผล”

“หนูหักพวกมันเอาไว้เป็นค่าแรงของหนูไง” ซาร่ากล่าวพร้อมกับยักไหล่

“ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์” เอเลนถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัวไปมา

บทสนทนาระหว่างสองลุงหลานทำให้เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หยิบช็อกโกแลต, เนื้อกระป๋อง, ลูกพลัมถุงใหญ่และขวดเหล้าออกมาจากแหวนมิติ

ซาร่าเคยเตือนเซี่ยเฟยแล้วว่าเขาควรเก็บซ่อนแหวนมิติเอาไว้ในกางเกง แต่ชายหนุ่มไม่ค่อยชินกับการทำแบบนั้น เขาจึงตัดสินใจหันแหวนด้านที่มีหินมิติฝังอยู่หลบเข้ามาด้านในทำให้จากภายนอกคนอื่นจะมองแหวนบนนิ้วของเขาเป็นเพียงแหวนธรรมดา เว้นแต่ว่ามันจะมีใครมาบังคับให้เขาแบมือ

“ช็อกโกแลต!” ซาร่าอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่เธอจะฉีกห่อช็อกโกแลตพร้อมกับกินขนมเข้าไปด้วยความตื่นเต้นเหมือนกับเด็ก ๆ

“ค่อย ๆ กิน เดี๋ยวก็ติดคอหรอก” เซี่ยเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม

ซาร่าเป็นคนตรง ๆ ที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งหลังจากที่เธอได้กินช็อกโกแลตเข้าไป 2-3 ชิ้นเธอก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

หากหญิงสาวที่กำลังอยู่ตรงหน้าไม่ใช่ซาร่าแต่เป็นหญิงสาวชาวโลก หญิงสาวพวกนั้นก็คงจะขมวดคิ้วพร้อมกับบอกเขาว่า

“ขอโทษด้วยนะฉันกำลังลดน้ำหนักอยู่ ฉันคงกินช็อกโกแลตพวกนี้ไม่ได้”

หลังจากกินช็อกโกแลตหมดปากซาร่าก็เลียริมฝีปากอย่างพอใจ จากนั้นเธอก็แอบเก็บช็อกโกแลตอีกชิ้นเอาไว้ในกระเป๋าเพื่อที่เธอจะได้แอบเอามันขึ้นมากินในภายหลัง

ขณะเดียวกันเอเลนก็เทเหล้าลงไปในแก้ว 2 ใบ ซึ่งหลังจากที่เขาได้ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดมเขาก็กระดกพวกมันลงไปในคอในครั้งเดียว

“อืม! เหล้าดี”

ในตอนเช้าซาร่าก็พาเซี่ยเฟยเดินไปบนถนนของฐานเรดสโตน โดยเซี่ยเฟยต้องการจะเดินทางกลับไปยังท่าเทียบยานเพื่อตรวจสอบความเสียหายของลูน่าอย่างละเอียดอีกครั้ง

ครั้งหนึ่งลูน่าเคยเป็นยานรบที่สง่างาม แต่ในตอนนี้ทั่วทั้งยานกลับเต็มไปด้วยความเสียหาย

หลังจากซาร่าลากยานอวกาศเข้าไปในโกดังส่วนตัวแล้ว เธอก็เช็ดเหงื่อด้วยแขนเสื้อก่อนที่จะหันไปกล่าวกับชายหนุ่มว่า

“การต่อสู้ในก่อนหน้านี้จะต้องเป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายมากแน่ ๆ แค่ยานลำนี้พานายรอดชีวิตมาได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์แล้ว”

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร เพราะท้ายที่สุดการต่อสู้ระหว่างยานรบก็เป็นการระดมยิงเข้าใส่กัน ซึ่งแน่นอนว่าผลที่ตามมาย่อมก่อให้เกิดความเสียหายที่ร้ายแรง

“เอาล่ะเดี๋ยวฉันไปทำงานขนทาสก่อนนะ แล้วฉันจะพยายามกลับมาก่อนมื้อเที่ยง” ซาร่ากล่าว

“ขนทาส?” เซี่ยเฟยอุทานด้วยความสงสัย

“พวกแมลงชอบมนุษย์หน้าตาดี พวกเราสามารถขายทาสพวกนั้นแลกกับหัวใจจักรวาลได้คนละประมาณ 10 กรัม ถือว่ามันเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ค่อนข้างดีเลย” ซาร่ากล่าวออกมาอย่างเฉยเมย

เซี่ยเฟยไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไปและเขาก็กำลังจินตนาการถึงภาพมนุษย์ถูกขังเอาไว้ในกรงและถูกขายออกไปคล้ายกับสัตว์เลี้ยง

ในความเป็นจริงบนดาวเคราะห์บางดวงในเขตพันธมิตรก็มีการขายทาสอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน และถึงแม้ว่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในจักรวาลจะได้ก่อตั้งพันธมิตรขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดมันก็ยังคงมีช่องว่างระหว่างวัฒนธรรมบนดาวแต่ละดวงอยู่ดี

มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีความหลากหลายมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่บนดาวเคราะห์ดวงเดียวกัน แต่พวกเขาก็มีศาสนา, วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงมนุษย์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนดาวคนละดวง มันจึงทำให้ทั่วทั้งพันธมิตรมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

ซาร่าอาศัยอยู่ในเขตดาววิลเดอร์เนสมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเขตดาวบริเวณนี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องปกติในสายตาเธอ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตชายแดนที่ไม่มีกฎหมายคอยคุ้มครอง ดังนั้นใครที่แข็งแกร่งกว่าย่อมเป็นผู้ถือกฎเหนือผู้อื่น

“ฉันจะล็อกประตูเอาไว้นะจะได้ไม่มีใครเข้ามากวนนาย แล้วฉันจะกลับมารับนายตอนเที่ยงก็แล้วกัน” ซาร่าพูดขณะที่เธอเดินออกไป

“เอานี่ไว้กินระหว่างทางสิ” เซี่ยเฟยหยิบกระป๋องลูกพีชออกมาจากแหวนมิติและโยนไปให้หญิงสาว

“ผลไม้!” ซาร่ากอดกระป๋องผลไม้เอาไว้ในอ้อมแขนอย่างมีความสุข ก่อนที่เธอจะส่งยิ้มหวานให้เซี่ยเฟยและวิ่งออกไป

คนจีนให้ความสำคัญกับการให้ของขวัญซึ่งกันและกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเซี่ยเฟยก็ได้ทดสอบแล้วว่าการให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ถือว่าเป็นการสร้างมิตรภาพที่ดีแม้กระทั่งในสังคมระดับจักรวาลก็ตาม

เงินตรา, ผู้หญิงและความแข็งแกร่งคือ 3 อาวุธที่อันตรายที่สุดในจักรวาล หากใครสามารถควบคุมอาวุธทั้งสามสิ่งนี้เอาไว้ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนพวกเขาก็จะมีอำนาจไปทั่วทุกที่ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ได้เสมอตราบใดที่มนุษย์ยังคงเป็นมนุษย์

เซี่ยเฟยจดอุปกรณ์ที่เสียหายเอาไว้ภายในมือพร้อมกับตรวจสอบลูน่าจากด้านในสู่ด้านนอก

ระบบตรวจสอบด้วย AI มีความฉลาดและมีข้อผิดพลาดน้อยมาก แต่ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็มักที่จะทำการตรวจสอบยานรบด้วยตัวเอง เพราะท้ายที่สุดยานลำนี้ก็เป็นยานรบที่เขาต้องขับเคลื่อนมันในจักรวาลไม่ใช่ยานสำราญที่ล่องลอยอยู่ในท้องทะเล

การผจญภัยในจักรวาลเต็มไปด้วยอันตราย ดังนั้นเซี่ยเฟยจำเป็นจะต้องมั่นใจว่ายานรบของเขาอยู่ในสภาพพร้อมรบอยู่เสมอและสกรูทุกตัวต้องถูกขันเอาไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม

เมื่อเวลาได้เดินมาจนใกล้เที่ยงเซี่ยเฟยก็ได้รายการอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนยาวถึง 16 หน้า โดย 4 หน้าแรกเป็นรายการที่จะต้องเปลี่ยนอย่างเร่งด่วน ส่วน 12 หน้าหลังเป็นรายการที่เขาสามารถกลับไปซ่อมหลังจากกลับไปยังพันธมิตรได้

หลังตรวจสอบรายการอุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเฟยก็นั่งสูบบุหรี่รอคอยอยู่เงียบ ๆ ซึ่งหลังจากที่เขาได้สูบบุหรี่มวนที่ 5 ซาร่าก็เปิดโกดังพร้อมกับเดินเข้ามาด้านใน

“เป็นยังไงบ้าง ยานของนายพอจะซ่อมได้ไหม?” ซาร่าถามอย่างร่าเริง ซึ่งดูเหมือนว่าในวันนี้งานของเธอน่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

บริเวณมุมปากของหญิงสาวมีคราบสีเหลืองติดอยู่นิดหน่อย ซึ่งเซี่ยเฟยรู้ดีว่ามันคือคราบน้ำจากลูกพีชกระป๋อง

หญิงสาวคนนี้เป็นเหมือนกับแมวป่าตัวเล็กที่ไม่เคยกินอาหารจากเมืองใหญ่ ดังนั้นลูกพีชกระป๋องที่มีราคาเพียงแค่ 3.50 แอลไลคอยน์ก็สามารถที่จะทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจได้แล้ว

เซี่ยเฟยใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำลูกพีชออกจากมุมปากของหญิงสาว จากนั้นเขาก็ส่งรายการอะไหล่ทั้ง 16 หน้าไปให้เธอ

“โอ้แม่จ้าว! โคตรเยอะ” ซาร่าอุทาน

“พวกเราไม่จำเป็นจะต้องหาอะไหล่ทั้ง 16 หน้าก็ได้ ตราบใดก็ตามที่เธอช่วยฉันหาอะไหล่ 4 หน้าแรกได้ครบทั้งหมด ฉันก็สามารถซ่อมยานบินกลับไปยังพันธมิตรได้แล้ว” เซี่ยเฟยอธิบาย

“นายจะเอาที่ที่นายเคยอยู่มาเทียบกับที่นี่ไม่ได้ แค่การหาอะไหล่ 4 หน้าแรกก็ค่อนข้างลำบากแล้ว ฉันคิดว่าฉันคงจะต้องไปสนามรบโบราณเพื่อกอบกู้อะไหล่บางส่วนมา” ซาร่ากล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

***************

สนามรบโบราณ!!! ของดีกำลังรอพี่เฟยอยู่สินะ!!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด