CD บทที่ 339 การทำเกี๊ยวสุดสยอง PART 1
เมื่อจ้าวหยู่กลับไปถึงบ้าน เขาได้เห็นฉากที่เขาไม่เคยจินตนาการมาก่อน นั่นก็คือเหมี่ยวอิงผู้กล้าหาญในเครื่องแบบตำรวจกำลังห่อเกี๊ยวในครัวกับแม่ของเขา!
เหมี่ยวอิงกำลังม้วนห่อ ในขณะที่แม่ของเขาจับจีบแป้งเกี๊ยว
กรามของจ้าวหยู่ลดลง เขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
“อ้าว ลูกแม่ วันนี้ลูกกลับมาเร็วจัง” แม่ของเขาไม่เงยหน้าขึ้นในขณะที่เธอพูด “ดูสิ วันนี้ช่างบังเอิญจริง ๆ แม่คิดว่าลูกอยู่คนเดียวมานาน ลูกน่าจะไม่ได้กินเกี๊ยวมาพักใหญ่แล้ว แม่เลยไปซื้อกุ้ยช่ายฝรั่ง ใครจะไปคิดว่าแม่จะบังเอิญไปเจอแฟนของลูก เธอกำลังซื้อแพนเค้กอยู่ แล้วแม่ก็คิดว่าคงจะไม่เลวถ้าเธอมาช่วยแม่ทำเกี๊ยว แม่เลยตัดสินใจชวนลูกสะใภ้ในอนาคตมาช่วยน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า”
จ้าวหยู่กลืนน้ำลายและมองไปที่เหมี่ยวอิง ดูเหมือนเธอจะไม่โกรธ แต่เธอกำลังม้วนห่ออย่างตั้งใจ
‘โอ้พระเจ้า’ จ้าวหยู่คิด เหงื่อเย็นผุดขึ้นมา
เขาเห็นว่าแม่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมอง ดังนั้นเขาจึงรีบส่งสัญญาณไปที่เหมี่ยวอิงด้วยสายตาของเขาและเรียกเธอให้เข้ามาหา เหมี่ยวอิงล้างมือและเดินไปที่ห้องนอนกับจ้าวหยู่
“หัวหน้าทีมเมียว… หัวหน้าเหมี่ยว… นี่… นี่มันอะไรกัน?” จ้าวหยู่งงงวย
"อะไรนะ!?" เหมี่ยวอิงโกรธจัด เธอถามเขาว่า “ฉันต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายถามไม่ใช่เหรอ? จู่ ๆ ก็มีหญิงชราเข้ามาหาฉันและก็พาฉันมาที่นี่ ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าเรื่องมันจะลงเอยอย่างนี้”
“เออ…” สมองของจ้าวหยู่กำลังปั่นป่วน และทันใดนั้นก็เข้าใจว่าทำไม เขาจึงอธิบายอย่างรวดเร็ว “หัวหน้าเหมี่ยว… ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอีดอย่างนี้ แต่ขอให้ฉันได้อธิบายให้คุณฟังก่อนได้มั้ย?”
“เอาสิ ฉันรอฟังคุณอยู่นะ” เหมี่ยวอิงตอบเรียบ ๆ
“คุณจำตอนที่ฉันนัดบอดกลุ่มได้ไหม? แม่ของฉันบังคับให้ฉันไปหาลูกสะใภ้และบอกว่าถ้าฉันไม่ทำเธอจะล้มป่วย ฉันจึงไม่มีทางเลือก ฉันนำรูปของคุณให้แม่ดูและบอกว่าคุณเป็นลูกสะใภ้ของฉัน ไม่สิ ภรรยาของฉัน ไม่ ไม่ แฟนของฉัน ลูกสะใภ้ในอนาคตของเธอ…”
เมื่อมองไปที่จ้าวหยู่พูดติดอ่างไปทั่ว เหมี่ยวอิงก็ได้แต่ส่ายหัว
“หัวหน้าเหมี่ยว มันเป็นความผิดของฉันเอง” จ้าวหยู่ขอโทษ “ถ้าคุณช่วยฉันรอดพ้นสถานการณ์ตรงนี่ไปได้ ฉันจะถือว่าฉันติดหนี้คุณก้อนโต ฉันจะกระโจนลงไปในไฟที่โหมกระหน่ำหรือน้ำเดือดพล่านเพื่อช่วยคุณ แม้ฉันจะตายไปแล้วก็จะกลับมาช่วยคุณแน่นอน ฉันรับประกัน
ถ้าฉันสามารถจัดการกับอาการป่วยของแม่ได้ ฉันจะทุ่มเททั้งหมดให้กับงานของฉัน มันก็ฟังดูไม่เลวนะ ดังนั้น ได้โปรดเถอะนะ ช่วยฉันด้วย…”
“ก็เอาสิ” เหมี่ยวอิงอดไม่ได้ที่จะแกล้งจ้าวหยู่ “ใครจะไปคิดว่านักเลงจ้าวก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน แล้วการที่ได้เห็นคุณโดนแม่ดุก็ทำให้รู้สึกดีเหมือนกันด้วย ก็ได้ ฉันจะช่วยให้คุณ แต่อย่าลืมทำตามที่สัญญาไว้ด้วย ตกลงมั้ย?”
"ตกลง" จ้าวหยู่ตบหน้าอกของเขาและพูดว่า “คำสัญญาไม่สามารถเรียกคืนได้เมื่อให้ไปแล้ว ขอบคุณ คุณเหมี่ยว หากมีสิ่งใดที่แม่ของฉันพูดทำให้คุณขุ่นเคืองใจ คุณสามารถมาลงที่ฉันได้เลย…” จ้าวหยู่ประสานมือเข้าด้วยกันและทำท่าเคารพ
เหมี่ยวอิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ จากนั้นเธอก็กลับไปที่ห้องครัวพร้อมกับส่ายหัว จากนั้นก็ห่อเกี๊ยวต่อ!
“เยี่ยมมาก ลูกสะใภ้ของฉัน…” เธอเพิ่งเดินเข้ามา แต่แม่ของจ้าวหยู่ไม่สามารถระงับคำชมของเธอได้ “ฉันสงสัยว่าลูกชายของฉันหาลูกสะใภ้สวยขนาดนี้ได้ยังไง ดูเขาสิ หัวก็ล้าน สภาพก็ดูไม่จืดอย่างนี้ ใครเห็นก็ต้องร้องยี้ ดังนั้น ลูกสะใภ้ที่รัก ได้โปรดอย่าทิ้งเขาไปนะ แม้ว่าลูกชายของแม่จะไม่ได้ดีมาก แต่เขาก็เป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์และจะไม่สร้างปัญหาให้กับลูกแน่นอน…”
‘นี่แม่เอาจริงเหรอเนี่ย?’ จ้าวหยู่คิดกับตัวเอง
จู่ ๆ แผ่นแป้งห่อเกี๊ยวของเหมี่ยวอิงกลิ้งตกลงบนพื้น เธอมองไปที่จ้าวหยู่ จากนั้นสายตาของเธอเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม จ้าวหยู่เช็ดเหงื่อ ก่อนที่จะเดินไปข้างใน
“แม่… แม่… มานี่หน่อยสิ” จ้าวหยู่เรียกแม่ของเขาไปยังห้องนอนของเขา
“แม่รู้ไหมว่ามันน่าอึดอัดมากแค่ไหน” จ้าวหยู่ฏ็โพล่งขึ้นมา เมื่อแม่ของเขาเข้ามาในห้อง “จู่ ๆ แม่ก็พาเธอมาที่บ้านได้ยังไง? ความสัมพันธ์ของเรายังไม่ได้คืบหน้ามากขนาดนั้นนะ”
“แม่เปล่านะ” แม่ของเขาพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “ในตอนนั้นแม่พูดแค่ว่า ‘ไหน ๆ ก็เจอกันทั้งที ทำไมไม่กินข้าวด้วยกันแหละ ยิ่งคนเยอะยิ่งทำเกี๊ยวอร่อย’ แม่พูดแค่นั้นเอง แล้วเธอก็ตามมาโดยไม่ว่าอะไรเลย
เรื่องพวกนั้นช่างมันก่อนเถอะ เสี่ยวหยู่ ผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลย เธอมีรูปลักษณ์ที่มั่งคั่ง ถ้าลูกได้แต่งงานกับเธอ ลูกจะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินตลอดชีวิตที่เหลือเลย แต่น่าเสียดาย แม่ไม่เห็นใบหูของเธอเลย ไม่รู้ว่าเธอจะคลอดลูกชายได้หรือเปล่า?”
“แม่อย่าพูดเสียงดังไป เดี๋ยวเธอได้ยิน!” จ้าวหยู่หยุดแม่อย่างรวดเร็ว “แม่ครับ ผมเตือนแม่แล้ว อย่าทำอะไรเพียงเพราะแม่รู้สึกไปเอง ผมต้องบอกแม่ให้รู้เรื่องหนึ่ง” จ้าวหยู่ชี้ไปที่เหมี่ยวอิงซึ่งอยู่ข้างนอก “เธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยมาก รถที่เธอขับมีมูลค่าหลายล้าน เธอเป็นลูกสาวของตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจ แม่เข้าใจใช่ไหม?”
"อะไรนะ? ทำไมลูกถึงไม่บอกแม่ก่อนหน้านี้“ใบหน้าของแม่เปลี่ยนไป เธอเช็ดมือด้วยผ้ากันเปื้อน”เธอรวยขนาดนั้นเลยเหรอ? อย่างที่แม่พูด ทักษะของแม่ค่อนข้างตรง ฮึ่ม! แล้วทำไมลูกไม่บอกแม่ก่อนหน้านี้!?”
ก่อนที่จ้าวหยู่จะได้ทันพูดอะไร แม่ของเขาก็วิ่งเข้าไปในครัวและพูดกับเหมี่ยวอิงว่า
“ลูกสะใภ้ที่รัก ลูกไม่เหนื่อยเหรอ? ไปพักผ่อนแล้วให้จ้าวหยู่หาน้ำหาท่ามาให้ลูกดีกว่า ส่วนที่เหลือเดี๋ยวแม่จัดการเอง พวกลูก ๆ นั่งพักอยู่ตรงนี้ไปก่อนนะ!”
"ไม่เป็นไรค่ะ" เหมี่ยวอิงยิ้มและพูดว่า “แค่ทำเกี๊ยวนิดเดียวเอง มันไม่ได้เหนื่อยอะไรเลยค่ะ”
“แต่ว่า… จริงสิ ลูกยังสวมเครื่องแบบอยู่ จ้าวหยู่!” แม่ของเขาตะโกนว่า “ไปเปิดแอร์! อย่าปล่อยให้ลูกสะใภ้ที่รักของแม่หายใจไม่ออก”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูสบายดี” เหมี่ยวอิงไม่ได้แสดงท่าทีกระอักกระอ่วนแต่อย่างใด เธอค่อนข้างเป็นธรรมชาติจริง ๆ เธอพยายามห่อเกี๊ยวให้มากขึ้น
แม่ของจ้าวหยู่ไม่ได้พูดอะไรมากหลังจากนั้น เธอนั่งลงเพื่อทำเกี๊ยวเพิ่มเติม จากนั้นห้องครัวก็กลับมาเงียบอีกครั้ง แม่ของจ้าวหยู่และเหมี่ยวอิงเข้ากันได้ดีมาก พวกเธอกำลังทำเกี๊ยวในขณะที่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในครอบครัว
จ้าวหยู่ถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายและไปล้างมือในห้องน้ำ
แม้ว่าเหมี่ยวอิงจะไม่มีความเชื่อในพระพุทธศาสนา แต่เธอก็ให้ความเคารพต่อแม่ของจ้าวหยู่ แต่ไม่ใช่กับจ้าวหยู่ เมื่อเห็นว่าจ้าวหยู่ไม่อยู่แถวนี้ เธอจึงฉวยโอกาสนี้เล่นงานจ้าวหยู่ เธอหันไปบอกแม่ของเขาว่า
“คุณป้าคะ? คุณป้าบอกว่าจ้าวหยู่เป็นคนซื่อสัตย์ หนูไม่คิดว่าเขาจะเป็นอย่างนั้นนะคะ คุณป้ารู้มั้ยว่ามีสาวสวยสองคนอยู่ตรงข้ามเขา พวกเธอเคยมาที่บ้านของจ้าวหยู่บ่อย ๆ ด้วยค่ะ”
จ้าวหยู่ล้างมือในห้องน้ำ แต่เขากระโดดเข้ามาทันทีเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น ด้วยไหวพริบของเขา เขาสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า เหมี่ยวอิงตั้งใจให้เขาได้ยินสิ่งที่เธอพูด
‘เอ๊ะ? เป็นไปได้ไหมว่า… เธอจะหึงฉัน?’ จ้าวหยู่คิดกับตัวเอง
"จริงสิ! วันก่อนที่แม่มาถึงที่นี่ แม่เห็นคนที่มาส่งสุนัขมาเป็นผู้หญิงจากห้องนั้น!“ตอนนี้แม่ของเขากำลังแตกตื่นและพูดว่า”แม่บอกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขา แม่บอกให้จ้าวหยู่อยู่ห่างจากเธอแล้ว!
ลูกสะใภ้ที่รักของแม่ ลูกไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่แม่ยังอยู่ เขาจะไม่กล้านอกใจลูกอย่างนอน ถ้าเขากล้าทำล่ะก็ แม่ถลกหนังมันออกมาให้หมด!”
จ้าวหยู่กลืนน้ำลายอีกครั้ง แต่เมื่อเขากลืนน้ำลายลงคอ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น
จ้าวหยู่รีบวิ่งไปที่ประตูและมองผ่านช่องตาแมว
‘โอ้พระเจ้า!!’ เขาคิด
คนที่กดกริ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฮัวฮัวกับหยางฮง พวกเธอยืนรออยู่ข้างนอก
‘บ้าอ๊ย!!!’ จ้าวหยู่กำลังจะสติแตก ‘นี่มันเรื่องบังเอิญบ้าอะไรวะเนี่ย!?”
ทันใดนั้น จ้าวหยู่ก็เข้าใจ ‘นี่ต้องเป็นฝีมือของระบบปาฏิหาริย์แน่นอน!’ เขาคิด
จ้าวหยู่กำลังคลั่งไคล้เพราะระบบ เขากำลังวิงวอนอยู่ในตัวเอง
“ระบบ คุณช่วยหยุดเรื่องไร้สาระพวกนี้ได้ไหม? ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะถูกถลกหนังจริง ๆ ก็ได้นะ…”