บทที่ 78: ภูตมังกรอีกคน
หลังจากนั้นหลงโม่ก็ใช้ตะเกียบคีบมะระขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง
"..."
“เป็นยังไงบ้าง อร่อยไหม?” หูเจียวเจียวกะพริบตามองอีกฝ่ายอย่างคาดหวัง
ด้วยความที่ว่าเด็ก ๆ คนอื่นไม่พอใจที่ก่อนหน้านี้พ่อมังกรดุพี่น้องของตัวเอง พวกเขาจึงหันไปมองผู้เป็นพ่ออย่างพร้อมเพรียงกัน ในขณะที่ในใจทุกคนอยากเห็นว่าเขาจะกินมะระในหม้อจนหมดหรือเปล่า
ในเวลาเดียวกัน สีหน้าของหลงโม่ขุ่นมัวเนื่องจากเขารับรู้ถึงสายตา 6 คู่ที่กำลังจ้องมองมา เขาจึงพูดด้วยความอดกลั้นว่า "อร่อยมาก"
“ถ้าอย่างนั้นท่านพ่อก็กินเยอะ ๆ เลยนะ” หลงหลิงเอ๋อแลบลิ้นใส่พ่อของนาง
หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ หูเจียวเจียวก็พร้อมที่จะออกไปข้างนอก
อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงฤดูหนาวแล้ว เธอจำได้ว่ามีเนื้อหาบรรยายไว้ในหนังสือว่าภูตของเผ่าจะอาศัยอยู่ในถ้ำระหว่างหน้าหนาวเพราะที่บ้านอากาศเย็นเกินกว่าจะต้านทานพายุอันหนาวเหน็บได้
แต่ถ้ำที่นี่ทั้งชื้นและเย็น อีกทั้งข้างในก็ไม่มีแสงไฟ ตอนที่ฤดูหนาวมาถึง เธอไม่มีทางที่จะจุดไฟทำเนื้อย่างในถ้ำปิดทึบได้ด้วย เธอต้องใช้ชีวิตด้วยการกินเนื้อดิบเหมือนสัตว์ป่า
เมื่อหญิงสาวนึกถึงการกินเนื้อดิบ เธอก็รู้สึกรับไม่ได้
เธอยอมรับได้ที่สภาพความเป็นอยู่ขณะนี้เรียกได้ว่าเกือบจะเลวร้าย แต่เธอทำใจกินเนื้อดิบไม่ได้จริง ๆ บวกกับนวัตกรรมทางการแพทย์ของที่นี่ก็แย่มาก ถ้าหากว่าเธอป่วยเพราะติดเชื้อโรค เธอจะเสียชีวิตทันที
หลังจากที่หูเจียวเจียวคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เธอก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่ตนจะต้องสร้างบ้านหินขึ้นมาสักที
บ้านหินนั้นให้ความอบอุ่น อีกทั้งยังต้านลมหนาวได้ดี ตอนนี้ขอแค่เธอสามารถรวบรวมวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมและมีไม้เพียงพอ การใช้ชีวิตท่ามกลางฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป แล้วเธอจะสามารถจุดไฟทำเนื้อย่างได้ตลอดเวลา
เพียงแต่ว่าเธอไม่รู้จักสภาพแวดล้อมที่นี่ รวมถึงไม่รู้ว่าจะหาวัสดุก่อสร้างได้ที่ไหน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไปถามหัวหน้าเผ่า
เมื่อหลงหลิงเอ๋อเห็นแม่จิ้งจอกกำลังจะออกจากบ้านไป นางก็วิ่งตามหาพ่อมังกรทันที แล้วดันต้นขาของเขาด้วยมือเล็ก ๆ เพื่อพาเขาออกไปจากลานบ้านโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“ท่านพ่อ ท่านแม่กำลังจะออกไปข้างนอก ท่านไปกับนางสิ”
หลงโม่ขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจตามจิ้งจอกสาวไป
เขาต้องการไปดูว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการทำอะไรกันแน่
...
หูเจียวเจียวเตรียมจะไปที่บ้านของหัวหน้าเผ่า แต่ระหว่างทางเธอกลับพบชาวบ้านทั้งหมดพากันเดินออกจากเผ่าไป
เธอจึงเรียกผู้ชายคนหนึ่งมาถามด้วยความสงสัยว่า "เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเจ้าถึงออกไปจากเผ่า?"
ชายคนนั้นชำเลืองมองหญิงสาวอย่างเย้ยหยัน
“เจ้ายังไม่รู้หรือ ตอนนี้มีภูตมังกรอีกคนมาที่เผ่าของเรา มีคนพูดกันว่าเขามาจากเผ่าเดียวกับหลงโม่”
“ภูตมังกร?”
แล้วยังมาจากเผ่าเดียวกับหลงโม่ด้วย?
จิ้งจอกสาวทำหน้าสงสัย ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย
ในหนังสือเคยเขียนเอาไว้ว่าภูตมังกรจะออกไปฝึกฝนข้างนอกหลังจากที่พวกเขาโตขึ้น แต่หลงโม่ถูกเผ่าของเขาปฏิเสธตั้งแต่เขายังเด็กเพราะความล้มเหลวในการแปลงร่าง และถูกโยนออกจากเผ่าให้ไปเอาชีวิตรอดข้างนอกก่อนที่เขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นเขาจึงรังเกียจภูตของเผ่ามังกรมาก
หากภูตมังกรมาที่นี่ อีกฝ่ายจะไม่ทำให้หลงโม่ลำบากใจหรือ?
ต่อมา ชายคนนั้นผลักมือของเธอออกไปด้วยความรังเกียจ “อย่ามาขวางทาง ข้ายังอยากเห็นภูตมังกรคนอื่น ข้าได้ยินมาว่าภูตมังกรนั้นทรงพลังมาก พวกเขาแข็งแกร่งกว่าอิงหยวนด้วยซ้ำ ต่อจากนี้ไปเผ่าของเราจะดียิ่งขึ้น”
หูเจียวเจียวที่ถูกอีกฝ่ายผลักออกซวนเซไปด้านข้าง
เธอมองไปยังทิศทางที่เหล่าภูตกำลังหลั่งไหลไป
ไม่! เธอต้องไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าภูตมังกรคนนี้จะทำให้หลงโม่จมดิ่งสู่ความมืดเร็วกว่าเดิม เธอต้องป้องกันไม่ให้เขาพบกับคนที่กำลังจะมาเยือน
ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้เจอกัน อีกฝ่ายจะไม่มีอิทธิพลต่อหลงโม่!
หลังจากที่หญิงสาวตัดสินใจได้ เธอก็รีบเดินตามทุกคนไป...
…
ณ ทางเข้าเผ่า
ชายร่างสูงใหญ่แข็งแรงที่อกผายไหล่ผึ่งกำลังยอมรับคำชื่นชมจากกลุ่มภูตที่อยู่รายรอบตนอย่างเย่อหยิ่ง
ขณะนี้ ‘หลงอู่’ แสดงสายตาดูถูกเหยียดหยามภูตทั้งหลาย
ไอ้พวกฝูงสัตว์อ่อนแอไร้ประโยชน์ ดูสิ พอพวกมันเห็นข้า พวกมันก็ตื่นเต้นแค่ไหน ข้าเกรงว่าคนในเผ่านี้คงจะไม่เคยเห็นภูตที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อนสินะ
ถ้าไม่ใช่เพราะภูตมังกรต้องออกมาฝึกฝนหลังจากที่พวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาคงไม่มายุ่งกับเผ่าไก่อ่อนนี้ที่ถ่วงแข้งถ่วงขาเขาหรอก
ส่วนพวกชาวบ้านที่มารวมตัวกัน พอได้เห็นภูตมังกรก็พากันพูดคุยไปมากมายหลายเรื่อง
"นี่คือภูตมังกรหรือ? เขาดูแข็งแกร่งจริง ๆ!"
"ดูรูปร่างกำยำของเขาสิ เขาไม่ได้แย่ไปกว่าอิงหยวน บางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าอิงหยวนด้วยซ้ำ"
“ก็อาจจะเป็นไปได้ ถ้าเขาดีกว่าอิงหยวน เผ่าของเราจะแข็งแกร่งขึ้นมากไม่ใช่หรือ?”
"ข้าไม่รู้ว่าเขาดีกว่าอิงหยวนหรือเปล่า เราต้องรอดูกันไปก่อน”
“แต่เขาคงไม่เลวร้ายไปกว่าไอ้สวะหลงโม่หรอก”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากชาวบ้าน ภูตคนอื่นที่ได้ยินก็ยิ้มเย้ยหยันคนที่ถูกพูดถึงทันที
ตอนที่หูเจียวเจียวมาถึง เธอก็ได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายเต็ม 2 รูหู
ทันใดนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา ก่อนที่เธอจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อเบียดตัวผ่านชายที่พูดถึงหลงโม่
"ขอทางหน่อย"
เมื่อพวกภูตชายเห็นว่าเป็นหูเจียวเจียว พวกเขาก็นึกถึงสิ่งที่เธอทำเมื่อเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าหลายคนจะรังเกียจแต่ก็ไม่มีใครอยากสร้างปัญหาให้กับตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงรีบถอยเปิดทางให้อีกฝ่าย
จิ้งจอกสาวเดินเข้าไปกลางฝูงชน ก่อนจะหันกลับมากวาดตามองผู้ชายเหล่านี้ด้วยสายตาคมกริบ
ไม่นานเสียงที่คมชัดเต็มก็ไปด้วยความโกรธและเข้มงวด "ถ้าข้าได้ยินเจ้าพูดว่าหลงโม่เป็นสวะอีกล่ะก็… ข้าจะทำให้พวกเจ้าเป็นกลายเป็นสวะไร้ประโยชน์ซะให้หมด"
พอพูดจบเธอก็บีบมือแน่นเป็นการข่มขู่
ท่าทางของหญิงสาวทำให้ผู้ชายหลายคนรู้สึกหนาวสะท้านไปทั่วร่างกายส่วนล่าง
ทำไมหูเจียวเจียวถึงกลับมาบ้าอีกแล้ว นางเป็นคนที่เกลียดหลงโม่มากที่สุดไม่ใช่หรือ เมื่อก่อนคนที่ตะโกนด่าเขาว่าเป็นไอ้สวะไร้ประโยชน์มากที่สุดก็คือนาง แต่มาวันนี้ทำไมนางถึงเปลี่ยนกลายเป็นคนละคนไปเสีย
กลุ่มภูตชายได้แต่สงสัยอยู่ในใจ แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นดวงตาที่น่าสะพรึงกลัวของจิ้งจอกสาวก็ไม่มีใครกล้าที่จะปฏิเสธสักคน
นังผู้หญิงบ้าคนนี้สามารถจัดการกับลู่หลีได้ แถมนางยังฟาดเขาจนลุกจากเตียงไม่ได้เลย ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครสงสัยในความบ้าของนางอีกแล้ว
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นผู้ชายปากเปราะพวกนั้นเดินหลบออกไป เธอก็รู้สึกโล่งใจและหันไปมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน
ชายคนนั้นมีคิ้วหนา ปากหนา และใบหน้าใหญ่ ประกอบกับดวงตาที่เรียวเล็ก ทำให้คนที่ได้พบเห็นรู้สึกผิดหวัง
ความจริงแล้วหูเจียวเจียวไม่อยากจะตัดสินผู้คนจากรูปร่างหน้าตาของพวกเขา แต่พอได้เห็นสีหน้าหยิ่งผยองและสายตาดูถูกของภูตมังกรตัวใหญ่นั่น เธอก็รู้สึกไม่ประทับใจในตัวของเขาทันที
ในเมื่อเขาดูถูกคนอื่นขนาดนั้นแล้วจะมายืนเชิดหน้าอยู่ตรงนี้ทำไม?
เหตุใดเขาไม่ไปตามหาเผ่าที่แข็งแกร่งกว่าเผ่าของพวกเธอเสียล่ะ?
หูเจียวเจียวอดที่จะขมวดคิ้วมุ่นไม่ได้
ในระหว่างที่จิ้งจอกสาวกำลังคิดถึงวิธีป้องกันไม่ให้หลงโม่พบกับชายคนนี้ หลงอู่ก็เหลือบไปเห็นภูตหญิงที่งดงามและมีเสน่ห์ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ไม่นานดวงตาของเขาก็พลันสว่างขึ้น
เผ่าเล็ก ๆ ที่ห่างไกลมีคนที่งดงามเช่นนี้ซ่อนอยู่ด้วยหรือ!?
ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาดีมากซึ่งไม่ด้อยไปกว่าผู้หญิงในเผ่าของตน ถ้าเขาสามารถพาหญิงสาวกลับไปที่เผ่าได้ กลุ่มมังกรวัยฉกรรจ์ในเผ่าจะต้องอิจฉาเขามากแน่
ยามนี้ดวงตาของหลงอู่ล่องลอยไปกับจินตนาการที่เพ้อฝันในใจ ขณะนึกภาพที่ตนกำลังกอดหูเจียวเจียวไว้ในอ้อมแขนแล้วมีผู้ชายในเผ่ามังกรกำลังสรรเสริญเขาอยู่
ต่อมา ชายหนุ่มม้วนผมที่เป็นปอยปัดไปด้านข้างเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเอง ก่อนจะเดินอาจหาญเข้าไปหาจิ้งจอกสาวด้วยท่าทางมั่นใจ
“แม่นาง เจ้าดูดีมาก เจ้าจะมาเป็นคู่ครองของข้าได้ไหม?”
หูเจียวเจียวที่ได้ยินประโยคข้างต้นรู้สึกหน้ามืดไปอย่างกะทันหัน พอเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็พบกับใบหน้าที่ดูธรรมดาแต่ไม่รู้ว่าไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าตัวเองหน้าตาดีกำลังยื่นเข้ามาใกล้
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไรโต้กลับไป ผู้ชายคนนั้นก็พูดต่อว่า
"ตราบใดที่เจ้ามาอยู่กับข้า ข้าจะพาเจ้ากลับไปอยู่ที่เผ่ามังกร แล้วเจ้าจะได้เพลิดเพลินกับสิ่งที่ดีที่สุดที่เจ้าไม่เคยพบเห็นมาก่อน เจ้าไม่จำเป็นจะต้องมาซุกตัวอยู่ในเผ่าเล็ก ๆ แบบนี้อีก"
“ข้ารู้ดีว่าผู้ชายในเผ่านี้คงไม่มีใครแข็งแกร่งได้เท่าข้าอีกแล้ว หากเจ้าพลาดโอกาสนี้ไป ไม่แน่ว่าในอนาคตเจ้าจะโชคดีแบบนี้อีกไหม”
“โอ้ แม่นาง เจ้าคงตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออกสินะ ไม่เป็นไร ข้าอดทนรอคำตอบของเจ้าได้”