ตอนที่แล้วบทที่ 76: ข้าก็อยากใช้ตะเกียบเหมือนกัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 78: ภูตมังกรอีกคน

บทที่ 77: นางหิวมากหรือไง?


ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น หลงโม่ก้าวเข้ามาในกระท่อมไม้แล้วย่อตัวลงสัมผัสพื้น

ทำไมพื้นนิ่มขนาดนี้?

สัมผัสที่เขารู้สึกไม่เหมือนกับพื้นที่ถูกปูด้วยหญ้าแห้งหรือหนังสัตว์ หูเจียวเจียวใส่อะไรไว้ใต้พื้นกันแน่?

ครู่ถัดมา เขาก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวและเดินเข้าไปอย่างระแวดระวัง หลังจากยืนยันว่าบนพื้นเป็นเพียงขนนุ่ม ๆ ที่ไม่มีอันตรายอะไร เขาก็ผ่อนคลายลงก่อนจะเอนตัวนอนบนพื้นที่ปูด้วยหนังสัตว์

กระท่อมไม้หลังนี้อบอุ่นสบาย ซึ่งไม่หนาวอับชื้นเหมือนกับการอาศัยอยู่ในถ้ำ อีกทั้งในนี้ยังมีแสงจันทร์นวลอ่อนส่องผ่านประตูเข้ามา

ยามนี้มังกรหนุ่มนอนราบกับพื้นนุ่ม ดวงตาสีทองของเขาเปล่งประกายในความมืดขณะจับจ้องไปที่หลังคาพลางใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง

หูเจียวเจียวต้องการทำอะไรกันแน่?

เป็นไปได้ไหมว่านางต้องการรอให้เขาปรับตัวเข้ากับชีวิตในเผ่าจนตายใจ แล้วฉุดเขาลงมาจากก้อนเมฆที่นุ่มสบายโดยการขับไล่เขาออกจากเผ่าเหมือนครั้งที่แล้ว?

นัยน์ตาสีทองของหลงโม่มืดลงและเขาคิดว่า

หูเจียวเจียว ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้มีโอกาสทำอย่างนั้นแน่!

ไม่นานเขาก็หลับตาลงเตรียมนอนพักผ่อน

ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็ดังมาจากนอกประตู

ชายหนุ่มที่กำลังนอนอยู่ลืมตาขึ้นทันที แล้วเขาก็สังเกตความเคลื่อนไหวนอกประตูอย่างเงียบเชียบ

หูเจียวเจียว? นางมาทำอะไรที่นี่?

นางไม่ได้ไปนอนกับลูก ๆ หรอกหรือ?

เสียงฝีเท้าของอีกฝ่ายดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีคนเข้ามาในห้อง ตอนนั้นหลงโม่กำลังจะลุกขึ้น ทว่าเขารู้สึกเจ็บตึงที่แผลจึงชะงักไปครู่หนึ่ง และก่อนที่เขาจะทันได้ขยับตัวอีกครั้ง เขาก็เห็นเงาดำกดทับลงมาบนตัวเขาแล้ว

หลังจากนั้นเสียงตกใจปนหวาดกลัวของหูเจียวเจียวก็ดังขึ้น

ในเวลาเดียวกัน มังกรหนุ่มเอามือข้างหนึ่งกุมหน้าอกแล้วใช้มืออีกข้างยันพื้นไว้ จากนั้นเสียงพูดลอดไรฟันเย็นยะเยือกราวกับเพิ่งออกมาจากห้องเก็บน้ำแข็งใต้ดินก็ดังขึ้น

"ซี๊ด... หูเจียวเจียว! เจ้ากำลังทำอะไร!?"

เขาไม่ได้เจอนางมาหลายปีแล้ว นางหิวมากหรือไง?

"หลง...หลงโม่ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?"

ทันทีที่จิ้งจอกสาวได้ยินเสียงของชายหนุ่ม เธอก็ผงะไปชั่วขณะก่อนจะลุกออกไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างเพื่อคลำหาตำแหน่งของอีกคน

“เจ้าเป็นอะไรไหม เมื่อกี้ข้าทับแผลเจ้าหรือเปล่า? ขอข้าดูหน่อย...”

พอเธอคิดว่าเมื่อกี้นี้น้ำเสียงของหลงโม่ฟังดูเจ็บปวดมาก เธอจึงตำหนิตัวเองในใจ

มังกรหนุ่มยังคงเป็นคนอ่อนแอที่แผลหายยาก มันอาจจะยิ่งแย่เข้าไปอีกถ้าเธอเผลอไปทำเขาแผลปริ

ตอนนี้หลงโม่ที่กำลังทนกับความเจ็บปวดจู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสเย็น ๆ ที่คอของตัวเอง และมือที่นุ่มนวลก็ลูบคลำตัวเขาไปมาสะเปะสะปะ ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“หยุดนะ อย่าขยับ!” เสียงเข้มพูดเหมือนคนที่กำลังพยายามระงับความโกรธ

หูเจียวเจียวที่ถูกตะคอกชะงักไปโดยที่ไม่กล้าขยับตัวอีก ต่อมา เธอรีบดึงมือของตัวเองออกแล้วไปยืนกุมมือเหมือนลูกศิษย์ที่กำลังถูกอาจารย์ดุ

“ถ้าเจ้าไม่สบายใจ เราจะออกไปดูแผลข้างนอกก็ได้ ถ้าเจ้าตกลง งั้น…”

“ข้าไม่เป็นไร… ข้าไม่เป็นไรแล้ว” เส้นเลือดบนขมับของชายหนุ่มปูดขึ้น พร้อมกับที่เขากัดฟันตอบอีกฝ่าย

ทำไมนางถึงทำท่าทางแบบนั้น?

นางอยากใช้วิธีนี้แกล้งเขางั้นหรือ?

ทางด้านจิ้งจอกสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่ามังกรหนุ่มไม่เป็นอะไรมาก เขาคงไม่อยากให้เธอช่วยจริง ๆ

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปนอนกับลูก ๆ สิ นี่เป็นห้องของข้า”

จากนั้นเธอก็เอ่ยปากขับไล่แขกไม่ได้รับเชิญทันที

"..."

ให้เขาไปนอนกับลูก ๆ?

นี่นางไม่ได้ตั้งใจล่อลวงเขามาที่นี่หรอกหรือ?

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นว่าอีกคนยังไม่ขยับ เธอก็เกาแก้มตัวเองและถามอย่างลังเลว่า "มีอะไรหรือเปล่า? เจ้าเป็นอะไรไป ลุกไม่ได้หรือ?"

“เปล่า” หลงโม่ยืนขึ้นพลางกุมหน้าอกตัวเอง แล้วเดินออกจากกระท่อมหลังเล็กไป

หลังจากที่หญิงสาวเห็นแผ่นหลังกว้างของชายร่างสูงหายไปในแสงจันทร์ เธอก็ทิ้งตัวลงนอนลงบนพรมนุ่ม

“เขาทำให้ฉันกลัวแทบตาย โชคดีที่เจ้าจอมวายร้ายยังไม่เข้าสู่ด้านมืด เขาดูเป็นคนที่คุยง่ายกว่าที่คิดแฮะ ขนาดว่าฉันทับเขา ๆ ยังไม่โกรธเลย เขาแค่มีอารมณ์แปลก ๆ...”

หูเจียวเจียวตบหน้าอกเบา ๆ พร้อมพึมพำกับตัวเองด้วยความกลัวที่ยังไม่หายไปจากใจ

เนื่องจากบ้านไม้หลังเดิมที่ลูกนอนนั้นค่อนข้างใหญ่ อีกทั้งเธอได้จัดเตียงใหม่ขึ้นมาเป็นพิเศษ ดังนั้นมันจึงไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับหลงโม่

เขาไม่ได้เจอเด็ก ๆ มานานแล้ว เขาน่าจะอยากอยู่กับลูกตัวเอง!

อีกด้านหนึ่งของนอกประตู ชายหนุ่มเดินกลับไปที่ห้องของพวกเด็กแสบด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง

หลังจากที่เขายืนลังเลอยู่ตรงหน้าประตูสักพัก สุดท้ายเขาก็ถอยกลับไปที่ลานบ้านและใช้เวลาทั้งคืนนอนบนฟางที่กองอยู่บนฟืน

ในบ้านไม้ เมื่อลูกน้อยทั้ง 5 คนเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวจากพ่อกับแม่เป็นเวลานาน ทุกคนจึงคิดว่าพวกเขากำลังนอนด้วยกันและทั้งคู่ก็นอนหลับไปแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ความจริงว่าพ่อมังกรนอนอยู่ตรงลานบ้านทั้งคืน

วันถัดมา

เมื่อหูเจียวเจียวตื่นขึ้น เธอเห็นหลงโม่กำลังสับฟืนอยู่บริเวณลานบ้านภายใต้แสงยามเช้า ด้วยแรงที่ถูกส่งจากแขนอันแข็งแกร่งส่งผลให้ไม้แยกออกเป็น 2 ส่วน และใบหน้าที่หล่อเหลาของชายคนนั้นก็สะดุดตามาก

"หลงโม่ตื่นเช้าจัง เมื่อคืนเจ้าหลับสบายไหม?"

เธอเดินตรงไปที่ลานบ้านพลางยกมือขึ้นทักทายอีกฝ่ายแบบแกน ๆ

หลังจากใช้ชีวิตมานานกว่า 20 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวเห็นผู้ชายคนหนึ่งในตอนที่เธอตื่นขึ้นมา และเขาก็เป็นชายหนุ่มที่น่าดึงดูดมาก เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่น่าอายเมื่อคืนนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกเขินมากขึ้นไปอีก

ทางด้านหลงโม่มองไปที่จิ้งจอกสาวด้วยสายตาเย็นชาเช่นเคย

เขาลงแรงเหวี่ยงไปที่ท่อนฟืนตามความโกรธของตัวเอง ถัดมาเศษไม้ก็กระเด็นผ่านหน้าของหูเจียวเจียวไปแบบเฉียดฉิว

แม่จิ้งจอกหดคอตัวเกร็งแข็งค้างไปทันที เธอยิ้มแหย ๆ และพึมพำกับตัวเองว่า "ดูเหมือนว่าเขาจะนอนหลับไม่สนิท ตื่นเช้ามาเลยอารมณ์บูดขนาดนี้..."

จากนั้นหูเจียวเจียวก็เริ่มไปเตรียมอาหารเช้าโดยไม่ได้คุยกับหลงโม่อีก

วันนี้เธอทำต้มถั่วเขียวใส่เม็ดบัว 1 หม้อใหญ่ มะระผัดและไข่เป็ดต้มใบใหญ่ไว้ให้คนละ 3 ฟอง อาหารทั้งหมดนี้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีสรรพคุณดับร้อนและล้างพิษ

ในเวลานี้เด็กทุกคนมานั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะพลางมองอาหารที่แม่จิ้งจอกเตรียมไว้อย่างพิถีพิถันด้วยสีหน้าแปลก ๆ

“ท่านแม่ ทำไมน้ำแกงวันนี้ถึงเป็นสีเขียว? ข้าไม่เคยเห็นใครกินของที่มีสีเขียวเลย” หลงหลิงเอ๋อเอ่ยถามขึ้นก่อนใคร

"นี่ไม่ใช่น้ำแกง แต่เป็นต้มถั่วเขียวที่แม่ไปเก็บมาจากในป่า  นี่เป็นของที่กินแล้วดีต่อสุขภาพของเจ้า รีบกินข้าวกันเถอะ"

หูเจียวเจียวยิ้มอย่างอ่อนโยน และเสิร์ฟต้มถั่วเขียวให้ลูกทีละคน

เมื่อเจ้าตัวเล็กทั้งหลายได้ยินว่ามันดีต่อสุขภาพจึงหยุดพูด

ถัดมา พวกเขาก้มหน้าก้มตากินอาหารที่มีหน้าตาสีเขียวนี้อย่างจริงจัง

ตอนนี้ในใจของเด็กทุกคนคิดอยากจะโตให้เร็วกว่านี้เพราะจะได้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะไม่ถูกคนอื่นมองว่าเป็นสวะไร้ประโยชน์อีก

ต่อไปหากผู้หญิงใจมารคนนี้ถูกใครรังแก พวกเขาก็จะมีแรงมากพอในการช่วยเหลือนาง

หลงจงเป็นคนที่กินหมดเร็วที่สุด เขาสามารถกินข้าวหมดชามภายใน 2-3 คำเท่านั้น

ไม่นานเขาก็ใช้ช้อนตักมะระขึ้นมา 1 ชิ้นแล้วยัดเข้าปาก ทันใดนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

"ถุยๆๆๆ! นี่มันบ้าอะไรเนี่ย ขมชะมัด..."

เด็กหนุ่มพ่นมะระออกมาจากปากจนหมด ในขณะที่เขาย่นหน้าแลบลิ้นอย่างรังเกียจเพราะในปากของเขาเต็มไปด้วยรสเฝื่อนของมะระ

"จงเอ๋อ อย่ากินทิ้งกินขว้าง"

หลังจากที่หลงโม่เห็นการกระทำของลูกชายคนที่ 3 เขาก็ขมวดคิ้วพูดตำหนิอีกฝ่าย

“แต่มันขมมาก...” หลงจงหดคอตอบเสียงอุบอิบ

ใบหน้าของพ่อมังกรเย็นชาและจริงจัง "เจ้าเป็นลูกผู้ชาย ทำไมเจ้าทนความยากลำบากแค่นี้ไม่ได้ นี่เจ้ายังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?"

“โทษที ข้าผิดเองที่ไม่ได้บอกให้เด็ก ๆ รู้ก่อนว่ามันขม”

เมื่อหูเจียวเจียวสัมผัสได้ว่าบรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวเริ่มตึงเครียด ราวกับว่าพวกเขากำลังสนทนาเรื่องสำคัญเกี่ยวกับชีวิตและความตาย เธอจึงรีบพูดไกล่เกลี่ย

จากนั้นเธอก็เดินไปหยิบหม้อที่ใส่มะระผัดมาวางลงตรงหน้าหลงโม่

“มันมีรสขม ข้าจึงเรียกมันว่าแตงขม ถ้าไม่อยากกินก็ไม่ต้องกินก็ได้” หลังจากพูดจบ เธอก็ยิ้มให้มังกรหนุ่ม “ข้าเตรียมสิ่งนี้มาให้เจ้าโดยเฉพาะ มันจะช่วยดับร้อน”

แล้วเธอก็พูดทิ้งท้ายไว้ว่า

"เจ้าเองก็อย่ากินทิ้งกินขวางนะ"

หลงโม่ขมวดคิ้วจนใบหน้าคมคายของเขาเกิดรอยย่นในขณะที่มองหูเจียวเจียวที่มีหน้าตายิ้มแย้ม ก่อนที่เขาจะตอบอย่างเย็นชาว่า "ข้าจะกินทิ้งกินขว้างได้ยังไง มีเพียงผู้หญิงและเด็กเท่านั้นที่ชอบทิ้งขว้างอาหารให้สูญเปล่า"

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: ลูกงง แม่งง พ่อก็งง สรุปพ่อมังกรต้องไปนอนตรงไหนนะ…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด