ตอนที่ 68 : 1 กันยายน! เปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองแล้ว!
สองวันสุดท้ายของเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันที่ 1 กันยายน เป็นวันที่มหาลัยส่วนใหญ่เปิดให้นักศึกษาใหม่เริ่มลงทะเบียน ตอนนี้ทั่วทุกมหาลัยในเมืองจินหลิง ส่วนมากแล้วเต็มไปด้วยนักศึกษาและผู้ปกครองของพวกเขา นักศึกษาใหม่หลายคนกำลังสังเกตรอบๆมหาลัยด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเวลา 3-4 ปีเลยทีเดียว
ในเวลานี้ฉินหยุนยังไม่ได้ไปลงทะเบียนที่มหาลัย แต่เขากำลังอยู่ในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ที่ตั้งอยู่บนถนนย่านการค้าของเขตเจียงหนิง
เวลาผ่านไปทุกชั่วขณะ ภายในใจของเขากำลังเฝ้ารอคอยบางสิ่งบางอย่าง
ในที่สุดเวลาก็มาถึง 12.00 น.!
อืม...
ในขณะนี้ ฉินหยุนรู้สึกเพียงว่าจิตสำนึกของเขาตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นข้อความชุดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา
"ชื่อ: ฉินหยุน"
"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง : 4 จุด"
"ยอดคงเหลือ: 1,341,000"
เมื่อเห็นยอดคงเหลือที่พุ่งสูงขึ้น ฉินหยุนรู้สึกยินดีมาก
จากครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม เมื่อตอนนั้นเขามียอดคงเหลือเพียง 700,000 ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า!
กำไรสุทธิต่อเดือนของเขาสูงถึง 640,000 หยวน!
"แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเปิดทำการแล้ว ยอดคงเหลือจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว"
การก่อตั้งโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ทำให้ต้นทุนเสื้อผ้าของเขาลดลงกว่าครึ่งในทันที
หากต้นทุนลดลง กำไรของเขาก็จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นยอดคงเหลือในระบบจึงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
เมื่อข้อมูลของระบบรวบรวมโชคลาภปรากฏขึ้น เสียงที่ตามมาของระบบก็ดังขึ้นในจิตใจเขาทันที
"ยอดคงเหลือถึงหนึ่งล้านแล้ว ในทุกๆเดือนต่อจากนี้ คุณจะได้รับค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง 1 จุด และค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง 2 จุด หากต้องการเปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สาม คุณต้องมียอดคงเหลือในระบบ 100 ล้าน"
หลังจากเสียงของระบบดังขึ้น ฉินหยุนก็รู้สึกว่ามีกระแสน้ำอุ่นไหลพล่านไปทั่วร่างกายของเขา และดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่พิเศษบางอย่างขึ้น
เมื่อระบบรวบรวมโชคลาภได้รับการอัปเกรด ร่างกายของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
"การเปิดใช้งานค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สามต้องมียอดคงเหลือ 100 ล้านเลยเหรอ?" ในเวลานี้ ฉินหยุนค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจ
ความแตกต่างระหว่างหนึ่งล้านกับหนึ่งร้อยล้านนั้นมากเกินไป มีเงินหนึ่งล้านหยวนยังไม่ถือว่ารวยด้วยซ้ำ เงินหนึ่งล้านหยวนสามารถใช้ซื้อบ้านในเมืองระดับ 4 หรือเมืองระดับ 5 ได้แค่ขนาด 100 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งหลายๆคนสามารถซื้อได้ด้วยเงินสดเต็มจำนวน
สำหรับมหาเศรษฐีตัวจริงนั้น เงินจำนวนนี้ไม่ถือว่าเป็นอะไรเลยสำหรับพวกเขา
เขาดึงสติกลับมาจากความคิดมากมายที่แล่นผ่านในใจของเขา ในเวลานี้ หลังจากเสียงระบบดังขึ้น ข้อมูลในจิตใจของฉินหยุนก็เปลี่ยนไปอีกครั้งทันที
"ชื่อ: ฉินหยุน"
"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง: 1 จุด"
"ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง: 6 จุด"
"ยอดคงเหลือ: 341,000"
หลังจากข้อมูลปรากฏขึ้น ฉินหยุนก็สัมผัสได้ถึงดวงแสงแปลกประหลาดสามจุดที่ปรากฏขึ้นโดยตรงในจิตใจของเขา
เขารู้สึกคุ้นเคยกับดวงแสงจุดเล็กๆสองจุดในนั้น ซึ่งมันเหมือนกับดวงแสงที่ปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ และตอนนี้ก็มีดวงแสงจุดเล็กๆอีกจุดหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนกันปรากฏขึ้น แต่เมื่อจิตสำนึกของเขาจมลงไปในนั้น เขาสามารถเห็นได้ว่าภายในนั้นมันซับซ้อนมากกว่าอีกสองดวงมาก มีเส้นสัญลักษณ์หลายเส้นที่ตัดไขว้กันไปมา และความสลับซับซ้อนของมันก็แซงหน้าดวงแสงสองจุดแรกไปไกลลิบ
นี่คือดวงแสงของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สอง!
"บอสฉินครับ ตอนนี้ถึงเวลาสิบสองนาฬิกาแล้ว เราจะเริ่มเปิดกิจการกันเลยไหมครับ?"
มีแค่ฉินหยุนเท่านั้นที่รับรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของระบบรวบรวมโชคลาภ อันที่จริงแล้วการอัปเกรดระบบใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งในเวลานี้จ้าวเทียนเฉียงกำลังเอ่ยถามออกมาขณะที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
"โอเค เริ่มเลย" ฉินหยุนพยักหน้า
ด้วยความคิดในใจของเขา ดวงแสงค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองจุดเล็กๆก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาทันที
ภายใต้การควบคุมด้วยความคิดของเขา ดวงแสงนี้เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ลายเส้นสัญลักษณ์บนนั้นยังคงขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนมันเข้าครอบคลุมร้านขายเสื้อผ้าขนาด 200 ตารางเมตรทั้งหมด
ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน เปิดร้านครั้งแรกในเมืองจินหลิงแล้ว!
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือ ร้านนี้ดูไม่เหมือนเพิ่งเปิดใหม่เลยสักนิด
เรื่องนี้ถือว่าไม่แปลก เพราะฉินหยุนไม่รู้จักพ่อค้ารายอื่นในเมืองจินหลิงเลย ดังนั้นจึงไม่มีใครส่งกระเช้าดอกไม้หรืออะไรทำนองนี้มาให้ และเขาก็ไม่ได้สั่งกระเช้าดอกไม้มาด้วยเช่นกัน
มีเพียงป้ายที่แขวนไว้หน้าร้านว่า ‘เปิดร้านใหม่’ พร้อมส่วนลด 10% ในวันแรกที่เปิดร้าน ซึ่งพิสูจน์ได้ว่านี่คือร้านที่เพิ่งเปิดใหม่จริงๆ
พนักงานในร้านทุกคนก็กำลังคอยสังเกตว่าจะมีลูกค้าเดินเข้ามาที่ประตูร้านหรือไม่
...
ในเวลานี้ ไม่ไกลจากร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาใหญ่สุด ผู้หญิงคนหนึ่งก็กำลังให้ความสนใจกับที่นี่เช่นกัน
เธออยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมรองเท้าส้นสูงสีดำ และถือกระเป๋าหนังสีดำไว้ในมือ เธอก็คือจางฉินเยว่นั่นเอง
ถึงแม้ว่าฉินหยุนจะเคยปฏิเสธเธอในการสัมภาษณ์งานก่อนหน้านี้ แต่จางฉินเยว่ก็รู้จักชื่อร้านของเขา และเธอบังเอิญผ่านมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นเธอจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษกับสถานการณ์ของมัน
"พี่สาวฉินเยว่ ฉันรู้มาว่าผู้จัดการคนปัจจุบันของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน คือจ้าวเทียนเฉียง เขาเคยเป็นผู้จัดการของร้านขายเสื้อผ้าในเครือเทียนอี้เตี๋ยมาก่อน"
หญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆจางฉินเยว่กล่าวออกมา
จากสีหน้าของเธอดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร เธอกล่าวต่อว่า "เจ้าของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนกล้าปฏิเสธพี่สาวฉินเยว่ แต่กลับไปเลือกจ้าวเทียนเฉียงแทนเนี่ยนะ ดูแล้วธุรกิจของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนไม่น่าจะไปได้ดีหรอก"
ในความเป็นจริง หรืออาจจะแค่ในความคิดของเธอ เธอคิดว่าจ้าวเทียนเฉียงนั้นด้อยกว่าจางฉินเยว่มาก
"เอาล่ะ ถึงยังไงจ้าวเทียนเฉียงคนนี้ก็ยังถือว่ามีฝีมือ เขาสามารถบริหารเทียนอี้เตี๋ยได้ดีเลย" จางฉินเยว่กล่าวอย่างใจเย็น
เธอมองลงไปด้านล่าง จากตำแหน่งของเธอ เธอสามารถเห็นสถานการณ์ทั้งหมดของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าดูเผินๆแล้วเธอจะอยู่ในอารมณ์นิ่งสงบ แต่สิ่งที่เธอคิดว่าน่าจะได้มาง่ายๆ แต่กลับถูกปฏิเสธไปโดยตรง เป็นธรรมดาที่เธอจะรู้สึกไม่พอใจบ้าง
ดังนั้นเธอจึงอยากรู้ว่าสถานการณ์มันจะเป็นยังไง
...
"ติดตั้งค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองแล้ว แต่ผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง?" หลังจากปล่อยดวงแสงค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองออกมาแล้ว ฉินหยุนก็กำลังรอดูผลลัพธ์ของมัน
จนถึงตอนนี้ เขายังไม่รู้ผลลัพธ์ที่แท้จริงของค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองเลยด้วยซ้ำ
"หืม..ที่นี่มีร้านขายเสื้อผ้าด้วยงั้นเหรอ?"
"ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย มันไม่ใช่ร้านแบรนด์พวกนั้น"
"ลองเข้าไปดูสิ"
เช่นเดียวกับฉากเมื่อเปิดร้านก่อนหน้านี้ ผู้คนที่สัญจรผ่านร้านขายเสื้อผ้าดูเหมือนจะมองมาที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ และหลายคนก็เดินเข้ามาในร้านทันที
"สวัสดีค่ะ" เมื่อเห็นดังนั้น หญิงสาวในร้านซึ่งสวมเครื่องแบบพนักงานของร้านก็รีบเข้าไปทักทายลูกค้า
"เริ่มต้นได้สวย!"
จ้าวเทียนเฉียงมองไปที่ฉินหยุนและเอ่ยอย่างมีความสุขว่า "บอสฉินครับ นี่เป็นสัญญาณที่ดีเลย"
ทันทีที่เปิดร้านก็มีลูกค้าเข้ามา ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านค้ามากมายต้องการจะเห็น
ฉินหยุนยิ้ม แต่เขาไม่ได้เอ่ยอะไรและเฝ้ารอต่อไป
เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนคนในร้านก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลังจากนั้นไม่ถึงสองนาที ก็มีลูกค้าใช้เงินซื้อเสื้อผ้าหนึ่งตัวทันที
"เสื้อผ้าที่นี่ราคาไม่แพง แถมสไตล์ก็ดูแปลกใหม่มาก พวกนี้เป็นดีไซน์ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย"
"โลโก้บนเสื้อผ้าพวกนี้ดูแปลกดี ดูเหมือนค่ายกลเล็กๆเลย ดูเก่าแก่แต่ก็มีเสน่ห์"
"เทียนหยุน นี่เป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นใหม่หรือเปล่า?"
"ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าโลโก้สวยมาก"
"เสื้อผ้าในร้านส่วนใหญ่มีราคาเพียงสองร้อยหยวนเท่านั้น แถมมีแบบให้เลือกเยอะมาก ราคาถูกกว่าร้านเสื้อผ้าแบรนด์อีก แต่คุณภาพไม่ด้อยกว่ากันเลย"
"ถ้าว่างๆ เดี๋ยวค่อยแวะมาบ่อยๆ"
ภายในร้านมีเสียงพูดคุยกันของลูกค้ามากมาย
ในร้านค้าขนาด 200 ตารางเมตร มีลูกค้าเดินไปเดินมาประมาณ 20 คน ซึ่งพวกเขากำลังไล่ดูดีไซน์ของเสื้อผ้าทีละตัว
"ร้านเสื้อผ้านั่นดูมีชีวิตชีวาจัง"
"เราไปดูกันเถอะ"
เมื่อจำนวนลูกค้าในร้านเพิ่มขึ้น มันก็ดึงดูดนักช้อปคนอื่นๆด้วยเช่นกัน
ผู้คนชอบความมีชีวิตชีวา โดยทั่วไป ไม่ว่าจะตกแต่งร้านดีแค่ไหน แต่ถ้ามันดูอึมครึม สลัวๆและไม่มีลูกค้าเลย คนจำนวนมากก็จะหลีกเลี่ยงมันโดยธรรมชาติ
สี่นาทีต่อมา เสื้อผ้าตัวที่สองก็ถูกขายออกไป
และในนาทีที่ห้า เสื้อผ้าตัวที่สามก็ถูกขายตามไปติดๆ
(จบตอน)