ตอนที่ 67 : ไปที่จินหลิงอีกครั้ง
"มหาลัยจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 1 กันยายน เราจะไปด้วยกันไหม?" โจวหยางมองไปที่ฉินหยุนแล้วเอ่ยถาม
"ไม่เป็นไร"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนส่ายหัว "ฉันจะเดินทางไปก่อน วันที่ 30"
"ทำไมนายรีบไปจัง" โจวหยางถามด้วยความสงสัย
และเมื่อเขารู้ว่าฉินหยุนเปิดร้านขายเสื้อผ้าในจินหลิงด้วย โจวหยางก็ใบ้กินไปสักพักทันที เขาหยุดพูดไปสองสามวินาทีก่อนที่จะเอ่ยว่า "พี่ชาย นายทำงานหนักเกินไปแล้ว"
เขาเป็นคนประเภทที่รู้สึกพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้าเขาถูกขอให้ไปทำงานเหล่านี้ แค่คิดถึงเรื่องพวกนี้เขาก็เริ่มปวดหัวแล้ว
"ยิ่งนายอายุน้อย นายก็จะยิ่งรู้สึกมีพลังมากขึ้นเมื่อตอนที่นายทำงานหนัก" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ถ้าหากว่านายว่าง นายสนใจที่จะไปช่วยงานที่ร้านขายเสื้อผ้าในจินหลิงไหม?"
โจวหยางก็เลือกเรียนต่อมหาลัยในจินหลิงเช่นกัน แต่มันเป็นคนละมหาลัยกับฉินหยุน
"ลืมมันไปซะ ฉันจะไม่ทำงานในตอนที่เรียนอยู่มหาลัย" หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง โจวหยางก็ส่ายหัวและกล่าวออกมา
พื้นเพของเขามาจากครอบครัวที่ดี มีทั้งอาหารและเสื้อผ้าที่เพียงพอ เขาจึงกลายเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนไม่ได้พูดโน้มน้าวอะไรต่อ และเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่นทันที
โจวหยางกับเขา ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย พวกเขาล้วนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้แย่ไปกว่าพี่น้องมากนัก ดังนั้นหากเขาสามารถช่วยเหลือโจวหยางได้ เขาก็เต็มใจช่วยแน่นอน
แต่เนื่องจากโจวหยางไม่ต้องการ ดังนั้นก็ลืมมันไปเถอะ
"ฉินหยุน นายรู้หรือยัง ซุนเจี้ยนเฉียงผู้ซึ่งชอบอวดรวยในห้องเรียนของเรา กำลังจะได้เรียนมอปลายปีที่สามซ้ำ" โจวหยางกล่าวพลางหัวเราะ
"ซุนเจี้ยนเฉียงเรียนซ้ำชั้น?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขาไม่ได้เห็นซุนเจี้ยนเฉียงอีกเลยตั้งแต่ร้านเสื้อผ้าฉีหยุนปิดตัวลง เมื่อจู่ๆเขาก็ได้ยินชื่อนี้ มันทำให้รู้สึกว่าเป็นเวลานานมากแล้ว
ก่อนหน้านี้ ร้านเสื้อผ้าฉีหยุนเปลี่ยนจากขายเสื้อผ้าราคาถูกไปเป็นเสื้อผ้าราคาแพงภายใต้แผนการของเขา สุดท้ายซุนหยาตงก็เสียเงินไปหลายแสนหยวนและต้องขายร้านที่มีอยู่เพื่อชดเชยการขาดทุนในครั้งนั้น
"ใช่ คนอื่นๆในห้องเรียนบอกฉันว่าพวกเขาเห็นซุนเจี้ยนเฉียงที่โรงเรียน พวกเขาเลยไปถามอาจารย์เกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา"
โจวหยางกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ "ฉันขำแทบตาย ซุนเจี้ยนเฉียงที่ในห้องเรียนอยู่อันดับที่ห้าหรือที่หกมาโดยตลอด ตอนนี้เขากำลังจะกลายเป็นคนที่อายุมากที่สุดในโรงเรียนมัธยมปลายแล้ว น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันไม่เห็นเขาเลย ไม่อย่างนั้นฉันจะไปหัวเราะเยาะต่อหน้าเขาแน่นอน"
ส่วนมากหลายๆคนในห้องเรียนไม่ค่อยพอใจกับพฤติกรรมอวดรวยของซุนเจี้ยนเฉียงสักเท่าไร เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ซุนเจี้ยนเฉียงต้องเรียนซ้ำชั้น พวกเขาก็ค่อนข้างรู้สึกสะใจเล็กน้อย
ฉินหยุนยิ้ม หลังจากที่เขาได้รู้เรื่องนี้เขาก็ไม่มีความคิดใดๆอีกต่อไปแล้ว หากไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น โดยพื้นฐานแล้วเขากับซุนเจี้ยนเฉียงก็คงจะไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันในอนาคต
...
เวลายังคงไหลผ่านไป ทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างเป็นระบบระเบียบ ร้านค้าของฉินหยุนทั้งสี่ร้านก็ยังคงเฟื่องฟูและเป็นที่นิยม มีเพียงเสื้อผ้าในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนที่เพิ่งผลิตเสร็จเท่านั้น ที่กำลังกองสุมกันมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนการก่อตั้งโรงงานผลิตรองเท้าเทียนหยุนก็เสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน และการจัดหาบุคลากรก็ดำเนินไปได้ด้วยดี
ในจินหลิง ร้านค้าทั้งสามแห่งก็ได้รับการรีโนเวทใหม่ทั้งหมด พนักงานในร้านก็ได้รับการคัดเลือกเข้ามาทีละคนแล้ว
และแล้วเวลาก็มาถึงวันที่ 30 ในพริบตา
ฉินหยุนกำลังเตรียมตัวออกเดินทางไปที่จินหลิง เพื่อเข้าเรียนในมหาลัย
"เสี่ยวหยุน ลูกไม่อยากให้เราไปที่นั่นด้วยจริงๆเหรอ?" จ้าวเหมยมองไปที่ลูกชายของเธอและอดไม่ได้ที่จะถามออกมา
เมื่อนักศึกษาใหม่ไปลงทะเบียนที่มหาลัยครั้งแรก มักจะมีผู้ปกครองตามไปด้วยเสมอ ท้ายที่สุดแล้ว หลังจากไปถึงมหาลัย กว่าจะได้เจอหน้าครอบครัวอีกทีก็มักจะเป็นในช่วงวันหยุดยาว เช่นวันหยุดฤดูหนาวและฤดูร้อน
"แม่ ผมเคยไปจินหลิงมาแล้วนะครับ แม่จะกังวลไปทำไม" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในเวลานี้ จ้าวเหมยดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
ชีวิตในอดีตเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเลย ด้วยจำนวนร้านค้าที่เพิ่มมากขึ้น ภายใต้การโน้มน้าวของฉินหยุนและฉินซวน เธอจึงไม่ได้ทำงานในร้านอีกแล้ว เมื่อเธอมีเวลาว่าเธอก็จะไปดูที่ร้านค้าและโรงงานต่างๆบ้างในบางครั้ง
"เสี่ยวหยุน"
ข้างๆจ้าวเหมย ฉินกั๋วตงตบไหล่ฉินหยุนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม "พ่อรู้ว่าลูกมีความสามารถ และพ่อก็ไม่มีอะไรจะสอนลูกด้วย ดังนั้นพ่อแค่อยากจะบอกลูกว่า เราต้องมีความซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจและรับเฉพาะสิ่งที่เราควรได้รับ"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของฉินกั๋วตงก็มีความจริงจังเพิ่มเข้ามา
คนอื่นๆต่างก็อยากให้รู้ลูกๆของพวกเขามีแววที่ดี แต่ลูกชายของเขากลับมีแววมากซะจนเขาอดกังวลแทนไม่ได้
"พ่อครับ ผมเข้าใจ" เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของฉินกั๋วตง ฉินหยุนก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
หลังจากพูดคุยกับพ่อแม่ของเขาแล้ว ฉินหยุนก็มองไปที่ฉินซวน
"เสี่ยวหยุน เสื้อผ้าในสต๊อกมากกว่า 10,000 ตัว ถูกส่งไปที่จินหลิงแล้ว พวกมันน่าจะไปถึงช่วงเที่ยงของวันนี้" ฉินซวนกล่าว
"โอเคครับ"
ฉินหยุนพยักหน้าและเอ่ยว่า "พี่ใหญ่ ผมขอฝากที่นี่ด้วยนะ"
ผ่านไปหลายเดือนแล้วตั้งแต่ฉินซวนเริ่มมาทำงานกับเขา ตอนนี้เธอคอยบริหารจัดการโรงงานทั้งสองแห่งและกิจการของร้านค้าทั้งสี่ก็เป็นระเบียบเรียบร้อยดี ซึ่งเขารู้สึกโล่งใจมากที่ได้ฝากมันไว้กับฉินซวน
ในที่สุดฉินหยุนก็เข้าไปในรถ และออกเดินทางไปที่จินหลิงอีกครั้ง
...
เวลาประมาณช่วงเที่ยง ฉินหยุนมาถึงร้านค้าขนาด 200 ตารางเมตรในถนนย่านการค้าของเขตเจียงหนิง เมืองจินหลิง
"บอสฉินครับ" เมื่อเขามาถึง จ้าวเทียนเฉียงก็กำลังรออยู่ที่นี่พร้อมกับฉินเสี่ยวเทา และคนอื่นๆอีก 60 คน
ตามความต้องการของฉินหยุน ร้านเสื้อผ้าขนาด 40 ตารางเมตรทั้งสองร้านต้องการพนักงาน 8 คนต่อร้าน และอีก 4 คนสำหรับเปลี่ยนกะ
สำหรับร้านค้าขนาด 200 ตารางเมตร ตามการคาดคะเนของฉินหยุนเอง ค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่สองนั้น น่าจะทรงพลังมากกว่าค่ายกลรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งถึงสามเท่า ดังนั้นเขาจึงจัดให้มีพนักงานในร้านถึง 24 คน และอีก 12 คนในการเปลี่ยนกะ
รวมทั้งหมดแล้วการเปิดร้านในครั้งนี้ ใช้พนักงานไป 60 คนพอดี!
ในตอนแรกจ้าวเทียนเฉียงไม่ค่อยเห็นด้วยกับเขาเท่าไรในการรับสมัครพนักงานเป็นจำนวนมากในครั้งเดียว แต่ฉินหยุนยืนยันว่าให้ทำตามที่เขาบอก
"บอสฉินครับ นี่คือโจวจินหลัน หูเชียน และจางอี้อี้ โจวจินหลันเคยเป็นผู้จัดการร้านขายเสื้อผ้ามาประมาณสามปี ส่วนหูเชียนและจางอี้อี้ ต่างก็มีประสบการณ์ในการเปิดร้านเสื้อผ้าเล็กๆของตัวเอง" จ้าวเทียนเฉียงกล่าวแนะนำ
สามคนนี้คือคนที่เขาคัดเลือกมาเป็นผู้รับผิดชอบร้านค้าทั้งสามร้าน อันที่จริง คนที่คอยดูแลร้านที่มีพื้นที่แค่หลายสิบตารางเมตร อาจจะยังไม่ถือว่าเป็นผู้จัดการร้านที่แท้จริง
เมื่อมองไปที่พวกเขาทั้งสามคน โจวจินหลันและหูเชียนดูเหมือนจะอยู่ในวัยสามสิบปี ในขณะที่จางอี้อี้อายุเพียงยี่สิบกว่าๆเท่านั้น
ในแง่ของรูปลักษณ์ หูเชียนนั้นหน้าตาดี ดูสวย ส่วนโจวจินหลันและจางอี้อี้นั้นดูธรรมดานิดหน่อย
"บอสฉิน"
เมื่อมองไปที่ฉินหยุน โจวจินหลันและคนอื่นๆก็ไม่กล้าชักช้า ต่างพากันเอ่ยทักทายเขาอย่างรวดเร็ว
ในร้านขายเสื้อผ้าที่เปิดโดยฉินหยุนนั้น ฐานเงินเดือนของพนักงานขายบวกกับค่าเข้างานและโบนัสต่างๆคือ 5,000 หยวน สำหรับหูเชียนและจางอี้อี้ ฐานเงินเดือนคือ 6,000 หยวน ส่วนเงินเดือนของโจวจินหลันคือ 8,000 หยวน ตามลำดับ
งานนี้ได้เงินเดือนสูงมาก!
แม้ว่าเมืองจินหลิงจะพัฒนาไปมากแล้ว แต่ค่าจ้างของพนักงานในร้านขายเสื้อผ้านั้นยังไม่สูงนัก
อัตราการบริโภคสูงแต่ค่าแรงต่ำ ถือเป็นปัญหาทั่วไปในหลายเมืองใหญ่
"อืม" ฉินหยุนพยักหน้าให้พวกเธอทั้งสามคน
เรซูเม่ของพนักงานเหล่านี้ถูกกรองโดยจ้าวเทียนเฉียงมาก่อนแล้วรอบหนึ่ง จากนั้นจึงส่งให้เขาดูทางวีแชต ดังนั้นเขาจึงรู้ประวัติคร่าวๆของทุกคนแล้ว
เมื่อมองไปที่กลุ่มคนที่อยู่ด้านหน้า ฉินหยุนก็เริ่มทำความรู้จักกับพวกเขา
"ผู้จัดการจ้าว ตอนนี้สต๊อกเสื้อผ้ามาถึงแล้ว 10,000 ตัว เอาบาร์โค้ดของเสื้อผ้าลงในคอมพิวเตอร์ที่เครื่องแคชเชียร์ได้เลย ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทั้งสามร้านของเราจะเปิดในอีกสองวันต่อจากนี้ ดังนั้นเราต้องเตรียมการทั้งหมดให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะเปิดทำการ... " เขามองไปที่จ้าวเทียนเฉียงอีกครั้ง จากนั้นฉินหยุนก็สั่งการอย่างรวดเร็ว
จ้าวเทียนเฉียงพยักหน้าและกล่าวว่า "ตอนนี้งานเตรียมการถือว่าเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วครับ เหลือแค่เพียงยิงบาร์โค้ดและป้ายเสื้อผ้า"
หลังจากนั้น ร้านขายเสื้อผ้าทั้งสามร้านก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมการในขั้นตอนสุดท้ายสำหรับการเปิดร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน
(จบตอน)