ตอนที่ 102: ฐานเรดสโตน
ตอนที่ 102: ฐานเรดสโตน
เมื่อลูน่าได้ถูกนำเข้าไปเก็บภายในยานมิททัลแมมมอธ เซี่ยเฟยก็ได้ก้าวเท้าออกจากยานในรอบ 20 วัน ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขาก็ต้องยอมรับคำพูดที่อันธเคยบอกเอาไว้ในก่อนหน้านี้จริง ๆ ว่าการอยู่บนยานในอวกาศเป็นเวลานานเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก
หลังจากนั้นเซี่ยเฟยก็จุดบุหรี่ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องบัญชาการของยาน
บนเก้าอี้กัปตันมีร่างของสาวผิวเหลืองนั่งอยู่ โดยเธอเคี้ยวหมากฝรั่งภายในปากพร้อมกับสั่นขาดิ๊ก ๆ ตลอดเวลา ขณะเดียวกันเธอก็มองสำรวจชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า
เสื้อผ้าที่หญิงสาวคนนี้สวมใส่เป็นเสื้อผ้าเรียบ ๆ ที่ดูเหมือนกับจะไม่ได้ซักมาเป็นเวลานานแล้ว ขณะเดียวกันเธอก็สวมรองเท้าบู๊ทหนังวัวของผู้ชายที่ไม่พอดีกับเท้าของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นรองเท้าทั้งสองข้างไม่เพียงแต่จะใหญ่กว่าเท้าของผู้หญิงคนนี้เท่านั้น แต่รองเท้าทั้งสองข้างยังเป็นรองเท้าคนละสีและมีขนาดที่ไม่เท่ากัน
ผมของหญิงสาวได้ถูกเก็บเอาไว้ในหมวกเบสบอลทำให้เซี่ยเฟยไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเธอคนนี้ไว้ผมยาวหรือผมสั้นกันแน่
“ฉันชื่อเซี่ยเฟย” ชายหนุ่มยื่นมือออกไปทักทายด้วยรอยยิ้ม
เพียะ!
“ฉันชื่อ ‘ซาร่า’ ว่าแต่นายเตรียมของมาหรือเปล่า” ซาร่าตบมือทักทายเซี่ยเฟยพร้อมกับกล่าวถามขึ้นมา
ระหว่างที่ผิวหนังสัมผัสกันเซี่ยเฟยก็สังเกตเห็นว่ามือเล็ก ๆ ของซาร่าเต็มไปด้วยหนังหนา ๆ ที่หยาบกระด้าง ซึ่งโดยปกติแล้วสัมผัสของมือลักษณะนี้มักจะเป็นสัมผัสจากมือของชายฉกรรจ์ที่ทำงานมาอย่างตรากตรำไม่ใช่ผิวสัมผัสจากมือของหญิงสาวที่มีอายุเพียงแค่ประมาณ 18 ปี
หลังจากที่ชายหนุ่มใช้มือสัมผัสกับแหวน เขาก็นำกล่องเก็บของสดออกมายื่นให้กับซาร่า โดยภายในกล่องได้บรรจุผลน้ำค้างขาวกับผลเนตรนาคาเอาไว้อย่างละ 100 ผล
หลังได้รับกล่องบรรจุผลไม้หญิงสาวก็เทผลไม้ทั้งหมดลงไปในกระป๋องเก่า ๆ จากนั้นเธอก็นับผลไม้ทั้งสองด้วยความเร็ว
เมื่อเธอแน่ใจแล้วว่าเธอได้รับผลไม้มาครบจำนวนเธอก็เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา
“เห็นแก่ที่นายไม่ตุกติก ฉันจะให้คำแนะนำเป็นของแถมก็แล้วกัน” ซาร่ากล่าวพร้อมกับเขย่ากระป๋องภายในมือ จากนั้นเธอก็ได้กล่าวต่อไปว่า
“คราวหน้าอย่าเอาของมีค่าออกมาโชว์แบบนั้นเด็ดขาด แหวนมิติของนายสะดุดตามากเกินไป ฉันแนะนำให้นายซ่อนมันเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงจะดีกว่า ที่นี่คือเขตดาววิลเดอร์เนสถ้านายอยากมีชีวิตยืนยาวกว่านี้ก็ทำตามคำแนะนำจากฉันซะ”
ซาร่าเป็นผู้หญิงที่แตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เซี่ยเฟยเคยเห็นมา เพราะถ้าหากว่าเขาได้เปรียบเทียบผู้หญิงอย่างแอวริลเป็นแมวบ้านที่เอาแต่ใจ ซาร่าก็คงจะเป็นแมวป่าที่เต็มไปด้วยความดุร้าย
“เอาของพวกนี้ไปใส่ซะ ตอนนี้นายดูไม่เหมือนคนแถวนี้เลย” ซาร่ากล่าวพร้อมกับหยิบชุดที่ขาดรุ่งริ่งออกมาจากตู้แล้วโยนให้กับชายหนุ่ม
แต่เดิมเซี่ยเฟยก็ไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว เพราะเขามักจะใส่ชุดกีฬาตัวเก่าของเขาอยู่เสมอ ซึ่งสภาพของชุดกีฬานั้นไม่เพียงแต่จะหดสั้นลงตามกาลเวลาเท่านั้น แต่มันยังมีรอยบุหรี่เป็นรูเล็ก ๆ อยู่ตรงบริเวณแขนเสื้อด้านขวาอีกด้วย
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนชุดต่อหน้าผู้หญิงก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดี ดังนั้นชายหนุ่มจึงหยิบเสื้อผ้าแล้วทำท่าจะเดินออกไป
“เขินรึไง?” ซาร่ากล่าวถามพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ย
“ฉันแก่แล้วไม่จำเป็นจะต้องอาย ตราบใดก็ตามที่เธอไม่กลัว” เซี่ยเฟยหยุดเดินพร้อมกับหันไปกล่าวกับซาร่าด้วยรอยยิ้ม
หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็เริ่มถอดเสื้อผ้าจนก่อให้เกิดภาพอนาจาร แต่มันกลับกลายเป็นว่าหญิงสาวไม่ได้รู้สึกสนใจในตัวชายหนุ่มเลย
ในทางกลับกันเธอได้ใช้มือเท้าคางพร้อมกับพูดกับเซี่ยเฟยด้วยท่าทางสบาย ๆ
“นายสนใจทำธุรกิจไหม?”
“ธุรกิจอะไร?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
หลังจากที่ได้สวมใส่ชุดเขาก็ได้พบว่าชุดนี้ค่อนข้างจะมีปัญหาและถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกสนใจว่าเสื้อผ้าจะขาดหรือไม่ แต่การที่เขาได้ใส่ชุดหลวม ๆ มันก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในระหว่างการเคลื่อนไหว
แขนเสื้อจากชุดที่ซาร่าได้ให้มายาวเลยมือของเขาห้อยไปจนถึงเข่า ส่วนกางเกงก็ยาวลงไปจนสามารถปิดรองเท้าบู๊ทด้านล่างได้เลย
เซี่ยเฟยคิดว่าถ้าหากเขาไม่ได้มีความสูงซัก 2 เมตรและมีน้ำหนักซัก 200 กิโลกรัม เขาก็คงจะไม่สามารถสวมใส่ชุดนี้ได้อย่างพอดี
ท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็เป็นผู้ใช้พลังสายความเร็วและการสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่กะทัดรัด มันก็จะก่อให้เกิดอุปสรรคเมื่อเขาต้องเร่งความเร็ว
ขณะเดียวกันซาร่าก็ได้หยิบกล่องขนมแบน ๆ ออกมาจากกระเป๋าด้านหน้าชุดเอี้ยมของเธอ จากนั้นเธอก็นำกล่องขนมมาเขย่าบริเวณข้างหู 2-3 ครั้งก่อนที่จะเทหัวใจจักรวาลที่อยู่ด้านในออกมา
ในมือของหญิงสาวขณะนี้มีคริสตัลขนาดประมาณเมล็ดถั่วเขียวอยู่หนึ่งชิ้นและมีคริสตัลที่มีขนาดประมาณเมล็ดถั่วเหลืองอยู่อีกหนึ่งชิ้น
“นี่คือสกุลเงินที่พวกเราได้ใช้กันในเขตดาววิลเดอร์เนส อันเล็กนี่มีค่า 1 ยูนิต ส่วนอันใหญ่นี่มีค่า 10 ยูนิต ฉันขอซื้อผลเนตรนาคา 81 ผลในราคา 27 ยูนิตได้ไหม?”
ผลเนตรนาคา 3 ผลแลกหัวใจจักรวาลได้ 1 ยูนิต?
ข้อเสนอจากหญิงสาวทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึง เพราะในคราวที่แล้วเขาได้ขายหัวใจจักรวาลขนาดเท่ากำปั้นออกไปในราคาประมาณ 200 ล้านสตาร์คอยน์ แต่ผลเนตรนาคาแต่ละผลมีค่าเพียงแค่ประมาณ 30,000 สตาร์คอยน์เท่านั้น
“ไม่” เซี่ยเฟยส่ายหัวปฏิเสธ
ถึงแม้ว่าราคาที่หญิงสาวเสนอมาจะฟังดูไม่เลวแต่สีหน้าของซาร่าก็กำลังเผยออกมาว่าเธอกำลังเอาเปรียบเขาอยู่ ที่สำคัญมันก็ดูเหมือนกับว่าแมวป่าน้อยตัวนี้จะไม่รู้วิธีซ่อนความคิดเอาไว้ภายในใจของเธอ
“ขี้งก!” ซาร่าบ่นขณะเก็บกล่องขนมเข้าไปไว้ในกระเป๋าหน้าเอี้ยมอีกครั้ง
ระหว่างนั้นเซี่ยเฟยได้พยายามเดินสำรวจรอบ ๆ ห้องบัญชาการ แต่เสื้อผ้าหลวม ๆ พวกนี้กำลังทำให้เขารู้สึกอึดอัดมากจริงๆ
“เอาน่าตอนนี้นายดูเหมือนคนท้องถิ่นแล้ว ถ้าหากว่ามีใครมาถามว่านายเป็นใครก็ให้ตอบไปว่านายเป็นญาติห่าง ๆ ของลุงเอเลนนะ”
ระหว่างที่ซาร่าได้อธิบายมันก็ดูเหมือนกับยานบรรทุกลำนี้จะชาร์จพลังจนเต็มแล้ว ดังนั้นเธอจึงเริ่มเปิดใช้ระบบวาร์ปก่อนที่จะบังคับให้ยานบรรทุกที่ทรุดโทรมลำใหญ่เคลื่อนที่เข้าไปในรูหนอน
เมื่อเซี่ยเฟยมองออกไปนอกหน้าต่างเขาก็ได้มองเห็นแถบหินอุกกาบาตสีเหลืองที่มีรูปร่างเป็นวงแหวนล้อมรอบท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ยานบรรทุกแล่นเข้าไปใกล้เขตวงแหวนอุกกาบาตขนาดใหญ่อย่างช้า ๆ ซึ่งถ้าหากดูจากภายนอกหินอุกกาบาตก้อนที่ยานกำลังมุ่งหน้าเข้าไปหานี้ก็ไม่ต่างไปจากหินอุกกาบาตก้อนอื่น ๆ เลย แต่หลังจากที่ซาร่าได้ส่งรหัสยืนยันจู่ ๆ ประตูบนอุกกาบาตก็เปิดออกมา
ในที่สุดเซี่ยเฟยก็ได้พบว่าภายในอุกกาบาตมีฐานทัพอยู่ด้านในและสิ่งที่ยานกำลังมุ่งหน้าเข้าไปนั่นก็คือท่าเทียบยาน
หลังจากที่ยานจอดเทียบท่าแล้ว ซาร่าก็เป็นคนพาเซี่ยเฟยเดินออกมาจากยาน
“เฮ้ซาร่า! นั่นเธอกำลังหลอกไอ้หนุ่มคนนี้ไปไหน” ชายร่างใหญ่เดินเข้ามาทักทายซาร่าด้วยรอยยิ้ม โดยใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาเคยถูกทำร้ายจนกลายเป็นแผลเป็นที่ดูน่ากลัว
“หลอกบ้านเอ็งดิ! ไอ้หมอนี่เป็นหลานลุงเอเลน!” ซาร่าตะคอกพร้อมกับเตะก้นชายคนนี้อย่างโหดเหี้ยม
“ไอ้หนูเอ็งมาจากฐานไหน?” ชายร่างใหญ่เดินไปถามพร้อมกับจับไหล่เซี่ยเฟยโดยไม่สนใจการกระทำของซาร่าเลย
“ให้ตายเถอะ!” ซาร่าผลักชายร่างใหญ่ออกไป ก่อนที่เธอจะเดินไปจับมือเซี่ยเฟยแล้วลากออกไปจากท่าเทียบยาน
เซี่ยเฟยเคยเห็นพื้นที่เขตสลัมมาก่อนแต่ฐานเรดสโตนมีสภาพที่แย่กว่าสลัมมาก เพราะหลังจากที่เขาได้เข้ามาภายในฐานเพียงแค่ไม่นาน เขาก็ได้เห็นคนขี้เมานอนอยู่กลางถนนทั่วทุกที่และทั้งสองข้างทางก็เต็มไปด้วยบ้านที่ทรุดโทรม ที่สำคัญคือบนถนนมีแม้กระทั่งไก่และหมูที่เดินไปมาอย่างไม่เกรงกลัวผู้คน
ระหว่างทางเซี่ยเฟยได้พบกับชายอ้วนเดินกอดคอโซซัดโซเซมากับแมลงตัวสีดำ โดยในระหว่างนั้นพวกเขายังคงร้องเพลงอย่างสนุกสนานพร้อมกับมีขวดเหล้าอยู่ภายในมือ
ถึงแม้ว่าสงครามระหว่างพันธมิตรมนุษย์และพวกเซิร์กจะจบลงไปตั้งนานแล้ว แต่สถานการณ์ระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็กำลังเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด
แต่ภายในฐานทัพแห่งนี้มนุษย์กับแมลงกลับสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างสงบสุข ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยเห็นแม้กระทั่งแมลงตัวเมียสวมเครื่องประดับบนร่างกายพร้อมกับยืนยั่วยวนลูกค้าอยู่ข้างถนน
หลังจากเดินผ่านถนนที่ยุ่งเหยิงในที่สุดซาร่าและเซี่ยเฟยก็มาถึงเขตที่อยู่อาศัย โดยบ้านพักในบริเวณนี้เป็นเพิงเบี้ยว ๆ ที่พร้อมจะถูกลมพัดถล่มลงมาได้ทุกเวลา แต่โชคดีที่ภายในฐานทัพแห่งนี้อยู่ภายในหินอุกกาบาตมันจึงเป็นสถานที่ที่ไม่มีลม
สภาพบ้านของซาร่าถือได้ว่าค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยภายในบ้านของเธอมีลานเล็ก ๆ กว้างประมาณ 10 ตารางเมตร นอกจากนี้มันยังมีบังกะโล 3 หลังที่ทำขึ้นมาจากแผ่นโลหะเชื่อมติดกันและมีแถวปลูกผัก 3 แถวอยู่ในสวน
“ลุง!! หนูพาเขากลับมาแล้ว” ซาร่าเดินเข้าไปที่ประตูพร้อมกับส่งเสียงตะโกนออกไปเสียงดัง
หลังเซี่ยเฟยตามซาร่าเข้ามาภายในห้องเขาก็ได้พบกับโต๊ะไม้ทรงสี่เหลี่ยมเก่า ๆ ที่มีกะละมังอาหารที่ไม่รู้จัก นอกจากนี้มันยังมีโซฟาอยู่อีกตัวหนึ่งแต่พื้นของโซฟาด้านซ้ายขวากลับมีความสูงที่ไม่เท่ากัน
ซาร่าเดินตรงเข้าไปหยิบแท่งอาหาร 2-3 แท่งยัดเข้าไปในปากโดยที่ไม่ได้ล้างมือ
“กินดิ! ฉันให้กินฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย” ซาร่าหยิบอาหารขึ้นมาหนึ่งกำมือก่อนที่จะยัดอาหารใส่เข้าไปในมือของเซี่ยเฟย
“อืม… อร่อยดี อาหารนี่เรียกว่าอะไรหรอ?” เซี่ยเฟยอุทานหลังจากที่เขาหยิบอาหารที่คล้ายกับผักชุบแป้งใส่เข้าไปภายในปาก
“มันคือสาหร่ายชุบแป้งนึ่ง ทำมาจากสาหร่ายในท่อน้ำทิ้งก่อนจะเอามาจุ่มแป้งแล้วเอาไปนึ่ง” ซาร่ากล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“แบบนี้นี่เอง ฉันขอให้คะแนนสาหร่ายนี่ 8 คะแนน” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนจะหยิบสาหร่ายเข้าไปเคี้ยวในปากอีกชิ้น
“ฮ่า ๆ ๆ ใช้ได้นี่! คราวที่แล้วพ่อค้าขายของเถื่อนจากพันธมิตรมนุษย์แทบจะอ้วกออกมาหลังจากที่เขาได้ยินว่าไอ้นี่เป็นสาหร่ายท่อน้ำทิ้ง” ซาร่ากล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
ขณะเดียวกันเซี่ยเฟยก็ยังคงกินพืชที่ไม่รู้จักนี้เข้าไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร จากนั้นเขาก็ตบแป้งที่เลอะฝ่ามือก่อนที่จะไปนั่งลงบนโซฟาเอียง ๆ และจุดบุหรี่พ่นควันออกมา
“เฮ้ซาร่า! บลูแกรสมันกลายเป็นสาหร่ายท่อน้ำทิ้งได้ยังไง” เอเลนกล่าวในระหว่างที่เขาเดินออกมาจากห้องข้าง ๆ
“หนูไปพักแล้วนะ ถึงเวลาอาหารเย็นเรียกหนูด้วย” ซาร่าทำหน้ามุ่ยใส่เอเลนก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องของเธอ
“ซาร่าเป็นเด็กดีแต่น่าเสียดายที่เธอแก่นแก้วเกินไปหน่อย” เอเลนหันไปคุยกับเซี่ยเฟย
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรออกไป ท้ายที่สุดสิ่งที่ซาร่าแสดงออกมาก็เป็นตัวตนของเธอซึ่งมันก็ไม่ได้ถือว่ามีอะไรผิดปกติสำหรับเขาเลย
หลังจากที่เซี่ยเฟยได้ใช้เวลาคิดพิจารณาสักพัก เขาก็เริ่มหันไปถามเอเลนอย่างตรงประเด็น
“คุณเอเลน คุณพอจะบอกผมได้ไหมครับว่าผมจะหาอะไหล่มาซ่อมยานได้จากที่ไหน?”
***************
เอ่อ…คิดภาพไม่ออกเลยว่าถ้าเป็นเราที่รู้ว่าเพิ่งกินสาหร่ายจากท่อน้ำทิ้งจะอ้วกหรือเฉยๆแบบพี่เฟย แล้วทุกคนล่ะกินไหวไหม?