ตอนที่แล้วตอนที่ 100: ทุ่มสุดตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 102: ฐานเรดสโตน

ตอนที่ 101: เขตดาววิลเดอร์เนส


ตอนที่ 101: เขตดาววิลเดอร์เนส

ปัจจุบันเซี่ยเฟยยืนอยู่ตรงช่องหน้าต่างจุดบุหรี่และสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ

ในนาทีสุดท้ายเขาได้กระแทกยานของพวกเซิร์กออกจากรูหนอนไปแล้ว ซึ่งกองยานของพันธมิตรย่อมสามารถเข้าจับกุมพวกมันได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใด ๆ และถ้าหากว่าเซียวรั่วหยูอยู่ในยานลำนั้นเธอก็จะได้รับการช่วยเหลือ

เซี่ยเฟยรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก แต่ปัญหาในตอนนี้คือเขาได้มาปรากฏตัวในสถานที่อันแปลกประหลาดผ่านทางรูหนอน

ภาพที่ปรากฏนอกหน้าต่างเต็มไปด้วยฝุ่นควันสีเหลืองและลมกรรโชกที่พัดแรง โดยมีเศษหินขนาดประมาณ 10 ลูกบาศก์เมตรพัดไปมาอยู่อย่างมากมาย

ทุกครั้งที่เศษหินกระทบเข้ากับยานมันก็จะผลักให้ยานรบซวนเซไปตามแรง และในอีกไม่กี่นาทีต่อมามันก็มีเศษหินพุ่งเข้ามากระแทกลูน่าจนกระเด็นไปอีกทาง

ก้อนหินเหล่านี้พัดมากระแทกลูน่าเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนและทำให้ยานรบของเซี่ยเฟยกระเด็นกระดอนไปมาเหมือนกับลูกบิลเลียด

เห็นได้ชัดว่าพื้นที่บริเวณนี้คือแนวหินอุกกาบาตในจักรวาล แล้วมันก็ไม่มียานอวกาศไหนที่ชอบสถานที่ลักษณะนี้เลย โดยเฉพาะยานรบขนาดเล็กของเซี่ยเฟยที่จะต้องได้รับความเสียหายจากอุกกาบาตเหล่านี้อย่างแน่นอน

“สถานการณ์ตอนนี้น่าตื่นเต้นจริง ๆ” อันธที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง

“ใช่! ฉันเกือบปล่อยให้ยานของเซิร์กลำนั้นหนีไปได้แล้ว” เซี่ยเฟยพยักหน้ารับพร้อมกับโยนก้นบุหรี่ลงพื้นและกระทืบมันด้วยเท้า

อันธหันไปมองเซี่ยเฟยด้วยแววตาอันว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกมาว่า

“ฉันกำลังพูดถึงสถานการณ์ของนายต่างหาก! นายรู้ไหมว่าการเข้าไปในรูหนอนของคนอื่นเป็นเรื่องที่อันตรายมากแค่ไหน ถ้านายโชคร้ายนายอาจจะถูกแรงโน้มถ่วงฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ๆ แต่ในครั้งนี้นายยังโชคดีที่สามารถผ่านรูหนอนมาได้อย่างราบรื่น”

แม้จะได้รับคำตำหนิเซี่ยเฟยก็ยังคงพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร หลังจากนั้นเขาก็เดินกลับไปนั่งยังตำแหน่งของกัปตันพร้อมกับเปิดระบบเพื่อตรวจสอบความเสียหายของยาน

“ตอนนั้นฉันคิดวิธีนี้ได้แค่วิธีเดียวและฉันก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้มันหนีไปต่อหน้าต่อตาได้จริง ๆ”

“ไอ้ซื่อบื้อเอ้ย! แล้วตอนนี้นายจะทำยังไงต่อไป” อันธกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

การตรวจสอบสถานะของยานจำเป็นต้องใช้เวลาสักพัก เซี่ยเฟยจึงใช้ช่วงเวลานี้คิดพิจารณาสถานการณ์ ทว่าใบหน้าของเขายังคงดูสงบไม่เหมือนกับคนที่ตื่นตระหนกที่จู่ ๆ ต้องมาปรากฏตัวในสถานที่อันแปลกประหลาด

“ตอนนี้ฉันคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจากต้องค่อย ๆ แก้สถานการณ์เฉพาะหน้า” เซี่ยเฟยกล่าว

ไม่กี่นาทีต่อมาระบบก็ทำการตรวจสอบสถานะของยานสำเร็จ และมันก็ทำให้เซี่ยเฟยถึงกับต้องขมวดคิ้วหลังจากที่เขาได้เห็นผลลัพธ์

ลูน่าได้รับความเสียหายมากกว่า 60% และอุปกรณ์ที่สำคัญทั้งหมดก็ใกล้ที่จะพังเต็มที แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในตอนนี้คือเขาไม่สามารถเปิดใช้เครื่องวาร์ปได้อีกต่อไป และการไม่มีเครื่องวาร์ปในจักรวาลอันกว้างใหญ่มันก็เหมือนกับว่าเขาได้เดินมาเจอทางตัน

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของลูน่าอยู่ที่ประมาณ 8 กิโลเมตรต่อวินาที แต่มันก็จำเป็นจะต้องใช้เวลามากกว่า 10 วันหากต้องการจะใช้ความเร็วเพียงแค่นี้เดินทางจากโลกไปยังดวงจันทร์ และถ้ามันได้เทียบกับจักรวาลอันกว้างใหญ่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของลูน่าก็ไม่ต่างไปจากหอยทาก

ที่แย่ไปกว่านั้นคือทั้งระบบระบุตำแหน่งและระบบสื่อสารต่างก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้เขาไม่สามารถระบุตำแหน่งของตนเองได้และระบบสื่อสารก็สามารถใช้ได้แต่ช่องสัญญาณความถี่ต่ำเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าระบบของยานรบไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป ชายหนุ่มจึงได้ทำการเปิดไมโครคอมพิวเตอร์ขึ้นมาโดยหวังว่าจะใช้สตาร์เน็ตเวิร์กในการขอความช่วยเหลือ แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่ไมโครคอมพิวเตอร์ก็ไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อกับสตาร์เน็ตเวิร์กได้เลย

สตาร์เน็ตเวิร์กเป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ครอบคลุมทั่วทั้งพันธมิตรทั้งหมดและการที่เซี่ยเฟยไม่สามารถเชื่อมต่อสตาร์เน็ตเวิร์กได้แบบนี้ มันก็หมายความว่าตำแหน่งในปัจจุบันของเขาไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของพันธมิตรมนุษย์

หลังจากพิจารณาสถานการณ์ เซี่ยเฟยก็ตัดสินใจใช้ช่องสัญญาณคลื่นความถี่ต่ำในการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

การใช้ช่องสัญญาณคลื่นความถี่ต่ำมีข้อเสียอยู่อย่างมากมาย เช่น มันเป็นคลื่นสัญญาณที่ถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อมได้ง่ายและระยะทางในการส่งคลื่นสัญญาณก็มีอยู่อย่างจำกัด

น่าเสียดายที่ในตอนนี้เซี่ยเฟยไม่มีทางเลือกมากนัก เขาจึงทำได้เพียงแต่หวังว่าสภาพแวดล้อมจะไม่รบกวนคลื่นสัญญาณที่เขาส่งออกไปมากจนเกินไป และขอให้คลื่นสัญญาณถูกส่งออกไปได้ไกลที่สุด

ในจักรวาลที่ไร้แผนที่ไม่สามารถจะระบุทิศเหนือ, ใต้, ออก, ตกได้ ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงทำได้เพียงแต่สุ่มหาทิศทางขับเคลื่อนยานรบไปด้านหน้า พร้อมกับเปิดเกราะป้องกันพลังงานที่เหลือสภาพเพียงแค่ 25% ในการป้องกันไม่ให้เศษอุกกาบาตพุ่งเข้ามากระทบกับตัวยาน

“การทำอะไรโดยขาดความยั้งคิดมักจะต้องมีสิ่งที่แลกเปลี่ยนเสมอ ตอนนี้นายเข้าใจความเป็นจริงในข้อนี้แล้วหรือยัง” อันธกล่าวสั่งสอน

“รู้แล้วน่า!” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็ได้ถามต่อไปว่า

“ว่าแต่ลูน่าเสียหายขนาดนี้มันต้องเสียค่าซ่อมเท่าไหร่?”

“นายเป็นคนแบบไหนกันเนี่ย? ตอนนี้นายอยู่ไหนก็ไม่รู้แต่ยังกังวลเกี่ยวกับค่าซ่อมยานเนี่ยนะ ถ้าเป็นคนธรรมดามาเจอสถานการณ์แบบนี้เข้า คนพวกนั้นอาจจะร้องไห้ไปแล้วด้วยซ้ำ!” อันธกล่าวออกมาด้วยอารมณ์เหลือเชื่อหลังจากได้ยินคำถามของเซี่ยเฟย

“ร้องไห้ตอนนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไร” เซี่ยเฟยตอบกลับ

“อย่างน้อยมันก็ระบายความทุกข์ได้ก็แล้วกัน” อันธพึมพำกับตัวเองหลังจากพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

เซี่ยเฟยทำการตั้งค่าให้ยานเคลื่อนที่ไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ ก่อนที่เขาจะหันกลับมากล่าวกับอันธว่า

“ที่ฉันเอายานพุ่งเข้าชนพวกเซิร์กไม่ใช่เพราะฉันขาดความยั้งคิด แต่มันเป็นเพราะทางเลือกนี้คือทางเลือกเดียวในตอนนั้น ฉันไม่มีทางมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ฉันได้ตัดสินใจลงไปอย่างเด็ดขาด และถึงแม้ว่าในบางครั้งทางเลือกที่ดีที่สุดจะดูเป็นเหมือนทางเลือกบ้า ๆ แต่ฉันก็ยังตัดสินใจที่จะใช้ทางเลือกแบบนั้นอยู่ดี”

หลังกล่าวจบเซี่ยเฟยก็เริ่มถอดชุดต่อสู้มาสวมใส่เสื้อยืด, กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะสบาย ๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อไปว่า

“เอาล่ะตอนนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดของเราคือการอาบน้ำแล้วนอน หลังจากที่เราตื่นมาฉันจะต้มไข่กินซักฟองแล้วหาหนังดูไปด้วย”

ในช่วงเวลาเพียงแค่พริบตาเซี่ยเฟยก็ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศมาเป็นเวลากว่า 20 วันแล้ว

ในช่วงเวลานี้ชายหนุ่มตื่นตรงเวลาทุกวัน ซึ่งหลังจากที่เขาได้รับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาจะเริ่มทำการฝึกฝนทั้งวิชาพลางจิตและวิชาเล่ห์สังหาร ต่อมาเขาก็จะเปลี่ยนไปใส่ชุดทำงานเพื่อทำการซ่อมแซมยานรบ

แต่ถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะทำการซ่อมแซมยานอยู่เป็นประจำแต่ความคืบหน้าในการซ่อมยานก็เป็นไปอย่างเชื่องช้ามาก นอกจากนี้ชิ้นส่วนอุปกรณ์หลายชิ้นก็ไม่สามารถที่จะซ่อมแซมได้เนื่องมาจากว่ามันยังขาดอะไหล่ที่จำเป็น

ขณะเดียวกันแม้ว่าเซี่ยเฟยจะเปิดคลื่นสัญญาณความถี่ต่ำเพื่อขอความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง แต่ในช่วง 20 วันที่ผ่านมาก็ไม่มีใครพยายามติดต่อกลับมาหาเขาเลย

หลังวางคีมอเนกประสงค์ลงบนพื้นเซี่ยเฟยก็คลานออกมาจากใต้ห้องเครื่อง โดยเนื้อตัวของเขามีกลิ่นที่คล้ายกับน้ำมันเครื่องติดอยู่ทุกที่

“เป็นไงบ้าง นายพอซ่อมได้ไหม?” อันธถาม

“ไม่ได้ ตัวจุดชนวนควอนตัมถูกเผาไหม้จนหมดและถึงแม้ว่าเราจะหาอะไหล่มาเปลี่ยนตัวจุดชนวนควอนตัมได้มันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะระบบแปลงพลังงานก็ได้รับความเสียหายหนักด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยตอบกลับพร้อมกับส่ายหัว

เซี่ยเฟยเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับล้างสิ่งสกปรกบนร่างกายด้วยน้ำเย็น โชคดีที่ระบบน้ำภายในยานใช้ระบบหมุนเวียนอัตโนมัติเขาจึงสามารถล้างเนื้อล้างตัวได้อย่างสบายใจ

แต่ในระหว่างที่เขากำลังใช้สบู่ทำความสะอาดไปทั่วทั้งร่างกาย จู่ ๆ มันก็มีเสียงคนแก่ดังขึ้นมาจากช่องสัญญาณความถี่ต่ำ

“ถ้าไม่อยากถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ปิดสัญญาณขอความช่วยเหลือเดี๋ยวนี้! การส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือในเขตดาววิลเดอร์เนสมันก็ไม่ต่างไปจากการบอกคนอื่นว่าเข้ามาปล้นฉันสิ”

เมื่อได้รับคำเตือนอย่างกะทันหันเซี่ยเฟยก็สะดุ้งขึ้นมาอย่างฉับพลัน จากนั้นเขาก็รีบคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วรีบวิ่งไปที่เครื่องสื่อสารทันที

บนหน้าจอของเครื่องสื่อสารได้ปรากฏภาพของชายร่างผอมสวมแว่นดำหนาที่เหลือผมบนศีรษะอยู่เล็กน้อยและมีเคราแพะที่ยุ่งเหยิง

“สวัสดีครับผมชื่อเซี่ยเฟย ตอนนี้ยานของผมกำลังมีปัญหา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับปิดสัญญาณขอความช่วยเหลือ

“เรียกข้าว่า ‘เอเลน’ ก็ได้” ชายชราร่างผอมกล่าวพร้อมกับมองไปยังภาพของเซี่ยเฟยที่ถูกพันด้วยผ้าเช็ดตัว จากนั้นเขาก็ส่งเสียงหัวเราะและกล่าวต่อไปว่า

“ฮ่า ๆ ๆ ไอ้หนุ่ม ดูเหมือนว่าตอนนี้เอ็งจะกำลังเจอปัญหาใหญ่สินะ”

“ใช่ครับ ยานของผมพังอยู่ในเขตหินอุกกาบาต ผมจำเป็นที่จะต้องหาสถานที่ลงจอด ว่าแต่คุณลุงอยู่แถว ๆ นี้หรือเปล่าครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับ

หลังได้รับคำถามเอเลนก็ชำเลืองมองเรดาร์ ก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกไปว่า

“ตอนนี้เอ็งอยู่ห่างจากฐานเรดสโตน 0.37 ปีแสง”

“เยี่ยมไปเลย! ผมขอลงจอดแป๊บนึงได้ไหมครับ ผมสัญญาว่าหลังจากผมซ่อมลูน่าจนเสร็จผมจะออกไปในทันที” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างยินดี

“ไอ้หนุ่มฐานเรดสโตนเป็นฐานอิสระ ถ้าเอ็งมีเงินมากพอก็เชิญตามสบาย” เอเลนกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกไปเสียงดัง

“ไม่มีปัญหาครับ ว่าแต่คุณรับเงินสกุลสตาร์คอยน์รึเปล่า?” เซี่ยเฟยถาม

“สตาร์คอยน์? สกุลเงินของพวกพันธมิตรมนุษย์? ขอโทษทีแต่บนฐานเรดสโตนพวกเรายอมรับแต่สิ่งนี้เท่านั้น” เอเลนกล่าวก่อนที่เขาจะหยิบคริสตัลก้อนสีฟ้าเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับโบกคริสตัลก้อนนี้ไปมาต่อหน้าเซี่ยเฟย

ถ้าเซี่ยเฟยจำไม่ผิดคริสตัลสีฟ้าก้อนนี้น่าจะเป็นหัวใจจักรวาล ซึ่งเป็นแหล่งบรรจุพลังงานดั้งเดิมของจักรวาลเอาไว้

หลังจากใช้เวลาคิดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็ใช้นิ้วสัมผัสแหวนก่อนที่เขาจะหยิบผลน้ำค้างขาวและผลเนตรนาคาออกมา จากนั้นเขาก็ได้กล่าวถามออกไปว่า

“ขอโทษด้วยครับผมไม่มีคริสตัลพวกนั้น ไม่ทราบว่าผลไม้พวกนี้พอจะเอามาใช้แลกเปลี่ยนแทนได้ไหมครับ?”

เอเลนหรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อมองไปยังผลไม้ในมือของเซี่ยเฟย

“ผลเนตรนาคากับผลน้ำค้างขาวเป็นสกุลเงินที่ดีมากในเขตดาววิลเดอร์เนส ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วเอ็งไม่น่าจะใช่คนแถวนี้นี่ แล้วเอ็งมาที่นี่ทำไม?”

“พอดีว่ายานผมเกิดอุบัติเหตุในรูหนอนก่อนจะมาโผล่อยู่ที่นี่น่ะครับ แล้วอุปกรณ์สื่อสารเกือบทั้งหมดบนยานก็ได้รับความเสียหายด้วยเหมือนกัน ผมเลยส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไปแบบนั้นแล้วผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขตดาววิลเดอร์เนสเลย” เซี่ยเฟยตอบกลับพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาแห้ง ๆ

“โชคดีจริง ๆ ที่เอ็งไม่ถูกรูหนอนฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ๆ ตอนนี้ที่ที่เอ็งอยู่ชื่อว่าเขตดาววิลเดอร์เนส มันเป็นพื้นที่เขตดาวชายแดนระหว่างพันธมิตรมนุษย์กับพวกเซิร์กทำให้แถวนี้มีโจรสลัดอยู่ยั้วเยี้ยไปหมด” เอเลนกล่าวพร้อมกับขากเสลดถุยลงไปบนพื้น

“เมื่อ 2,000 ปีที่แล้วพื้นที่เขตนี้ถูกใช้เป็นสนามรบระหว่างมนุษย์กับแมลง หลังจากสงครามได้จบลงต่างฝ่ายก็ต่างถอนกำลังออกไปและทิ้งฐานร้างเอาไว้ในบริเวณนี้อย่างมากมาย ฐานเรดสโตนที่ฉันพูดถึงในก่อนหน้านี้ก็เป็นฐานที่ถูกทิ้งเอาไว้ตั้งแต่สงครามด้วยเหมือนกัน”

หลังได้รับคำอธิบายเซี่ยเฟยก็พยักหน้ารับ

ดูเหมือนว่าเขาจะโชคดีอยู่ไม่น้อยที่ไม่ได้หลุดเข้าไปในพื้นที่ของพวกเซิร์ก ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ

“เอาล่ะเลิกพูดเรื่องไร้สาระกันได้แล้ว ถ้าให้ข้าเดาพวกที่ฐานยังหาตัวเอ็งไม่พบไม่งั้นเอ็งได้พบกับความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่ ข้าขอผลน้ำค้างขาวกับผลเนตรนาคาอย่างละ 100 ผลละกัน แล้วข้าจะหาวิธีพาเอ็งเข้ามาในฐาน” เอเลนกล่าว

“ได้ครับไม่มีปัญหา” เซี่ยเฟยตอบรับข้อเสนอของเอเลนอย่างรวดเร็ว เพราะท้ายที่สุดภายในแหวนมิติของเขาก็มีผลเนตรนาคากับผลน้ำค้างขาวอยู่มากกว่า 1,000 ผล ดังนั้นเขาจึงมีผลไม้เป็นจำนวนมากเกินพอที่จะใช้ในการขอความช่วยเหลือ

“ถ้าเอ็งพร้อมแล้วข้าจะส่งคนไปรับ แต่จำไว้ว่าถ้าเอ็งต้องการจะอยู่รอดในเขตดาวนี้ เอ็งห้ามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกมาเด็ดขาด”

ทันทีที่เอเลนพูดจบเขาก็ตัดการเชื่อมต่อไปทันที

เซี่ยเฟยกลับไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย จากนั้นเขาก็เปลี่ยนชุดกลับมาเป็นชุดต่อสู้วินด์ชาโดว์พร้อมกับติดตั้งเชสซิ่งไลท์เอาไว้บนแขน

จากบทสนทนาสั้น ๆ เซี่ยเฟยก็ได้รู้แล้วว่าพื้นที่เขตดาวบริเวณนี้เป็นเขตชายแดน ดังนั้นเขาจำเป็นจะต้องเตรียมตัวรับสิ่งที่ไม่คาดฝันตลอดเวลา

การรอคอยเป็นเรื่องที่ยาวนานเสมอ ซึ่งหลังจากที่ชายหนุ่มได้รอมาเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง ในที่สุดมันก็มีสัญญาณวิดีโอเชื่อมต่อเข้ามาอีกครั้ง แต่ในคราวนี้ภาพที่ปรากฏไม่ใช่ชายชราแต่เป็นเด็กสาวผู้มีอายุประมาณ 18 ปี

เด็กสาวคนนี้สวมหมวกเบสบอลสีแดงพร้อมกับเคี้ยวหมากฝรั่งภายในปากและลักษณะของเธอก็ค่อนข้างจะดูเป็นสาวห้าวอยู่ไม่น้อย

นอกจากนี้บนใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยจุดฝ้ากระจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่หน้าตาดูดีไม่เลว

“นั่งเฉย ๆ อย่าพึ่งขยับ มันอาจจะสั่นนิดหน่อย” หญิงสาวกล่าวขณะที่ยังคงเคี้ยวหมากฝรั่ง

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับโดยที่ไม่พูดอะไร

หลังจากนั้นหญิงสาวก็ทำการควบคุมยานบรรทุกลดระดับลงมาอย่างชำนาญ ก่อนที่จะนำลูน่าเข้าไปไว้ในตัวยาน

***************

สาวใหม่อีกแล้ว!! พี่เฟยนี่เจอสาวทุกที่ที่ไปเลยจริง ๆ!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด