บทที่ 955 (76) ถือหางเสือ (ตอนฟรี)
บทที่ 955 (76) ถือหางเสือ
“นายต้องการจะทำอะไรกับเงินจำนวนนี้?” ฮั่นจงตกตะลึง
จี้เฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก ไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันเป็นแค่ความคิดไร้สาระที่ผุดขึ้นมาในหัวโดยบังเอิญ ไม่คุ้มที่จะพูดถึงมัน!”
อันที่จริง จู่ๆเขาก็นึกถึงงานชุมนุมสังสรรค์ของนักธุรกิจที่เขาเข้าร่วมกับพี่ชายรองจี้ช่าวเหลยในหยานจิงเมื่อช่วงก่อนวันตรุษจีน ในงานชุมนุมนั้น เขาได้ยินนักธุรกิจบางคนพูดถึงการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ส(สัญญาซื้อขายล่วงหน้า)ว่าสามารถทำเงินได้เท่าไหร่ และดียังไง
เขารู้สึกว่าหากเขานำเงินสภาพคล่องหลายร้อยล้านเหล่านี้ไปลงในตลาดฟิวเจอร์ส ไม่รู้ว่ามันจะทำกำไรได้ดีไหม...
แต่ความคิดนี้มันแค่แวบเข้ามาในหัวของเขา และในไม่ช้าเขาก็รู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ
มันเป็นที่ที่เต็มไปด้วยนักเก็งกำไรมากประสบการณ์ ในมือของพวกเขาเต็มไปด้วยข้อมูลวงในและสถิติ ซึ่งนั่นไม่ใช่สนามรบที่มือใหม่อย่างเขาควรจะลงไปเล่น
จู่ๆบุคลิกของฮั่นจงก็เปลี่ยนไป เขาดูเหมือนนักธุรกิจที่น่าเกรงขาม เขาส่ายหัวเล็กน้อยและพูดอย่างจริงจังว่า “จี้เฟิง นายอย่าทำเป็นเล่น!”
นี่คือเงินหลักร้อยล้าน ไม่ใช่หลักหมื่นหยวน หากต้องการจะใช้ มันจำเป็นจะต้องผ่านการคิดอย่างรอบคอบ!
“ไม่ๆๆ” จี้เฟิงโบกมือของเขาและหัวเราะ “เงินนี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะตัดสินใจได้คนเดียวอยู่แล้ว ฉันแทบไม่ได้ทำอะไรเลย!”
ฮั่นจงยังคงมีใบหน้าที่เคร่งขรึม “ถ้านายคิดอย่างนั้น นายคิดผิด! พูดตามตรง แม้ว่าตอนนี้มันจะดูเหมือนว่านายยังไม่ได้ทำอะไรเท่าไหร่ แต่มันเป็นเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น เพราะความจริงแล้วตำแหน่งที่นายอยู่นั้นสำคัญกว่าตำแหน่งอื่นๆ! หากนายตัดสินใจที่จะทำอะไรแล้ว ก็ทำเลย แต่ทำให้มันจริงจัง!”
“สำคัญกว่ายังไง?” จี้เฟิงยิ้มแห้งๆและกล่าวว่า “มันเป็นแค่ความคิดที่ผุดขึ้นมาชั่ววูบ อย่าไปจริงจังกับมันเลย!”
“มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก”
ฮั่นจงส่ายหัว “พูดตามตรง แม้ดูเหมือนว่านายจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่คำพูดของนายนั้นสามารถกำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของบริษัทได้!”
“ลองคิดดูสิ แม้ว่านายจะได้มีส่วนร่วมในงานที่มันเฉพาะเจาะจง แต่นายคือคนที่จัดคนที่เหมาะสมให้มาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น นายให้ฉันมีอำนาจในการจัดการสิ่งต่างๆในบริษัท ให้อิสระในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ วางฉันไว้ในตำแหน่งผู้ควบคุมหางเสือ ซูหยวนก็เหมือนกัน นายให้เธอเป็นผู้จัดการใหญ่ของโรงงานเซียว...”
ฮั่นจงกล่าว “สิ่งที่นายจัดไว้คือผู้ที่ถือหางเสือของแต่ละองค์กร และลักษณะหางเสือจะเป็นตัวกำหนดอนาคตขององค์กรโดยตรง! นอกจากนี้ มันยังหมายความว่านายคือผู้ที่กำหนดอนาคตของแต่ละองค์กรด้วย นั่นคือเห็นผลที่ฉันบอกว่าตำแหน่งของนายสำคัญกว่าใคร!”
จี้เฟิงยิ้มและโบกมือ “นั่นเป็นเพราะความสามารถที่โดดเด่นของนายด้วย ไม่อย่างนั้นฉันก็คงไม่ไว้ใจและปล่อยให้นายเป็นคนถือหางเสือหรอก”
“ฉันก็ว่างั้น..”
ฮั่นจงแบมือทั้งสองข้างและยักไหล่ “นี่คือศูนย์รวมของความสามารถของนาย! พูดตามตรง ฉันมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ ฉันรู้วิธีจัดคนเพื่อดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ และยังได้เรียนรู้วิธีจัดการ... อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้มีวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลเหมือนนาย และการควบคุมสถานการณ์โดยรวมของฉันก็ด้อยกว่านายมาก!”
“และนี่คือความแตกต่างระหว่างเรา!”
ฮั่นจงกล่าวว่า “นายคือผู้ควบคุมทิศทางทั่วไป ส่วนซูหยวนกับฉันเป็นผู้ดำเนินการที่เฉพาะเจาะจง หากเรามาผิดทาง นายคือคนที่ต้องแก้ไข แต่ถ้านายไปผิด... ก็หายนะดีๆนี่เอง! ดังนั้นอย่าคิดไอเดียไร้สาระขึ้นมาปุบปับแบบนี้อีก อย่าปล่อยให้มันเกิดขึ้นจนเคยตัว!”
จี้เฟิงพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ฮั่นจงพูดนั้นสมเหตุสมผลมาก วันนี้เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มเพิ่งเริ่มหัดทำธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเจ้านายใหญ่ที่มีลูกน้องเป็นพันคน มีคนจำนวนมากที่ต้องพึ่งพาอาศัยเขา!
ถ้าหากเขาตัดสินใจโง่ๆ คนหลายคนเหล่านั้นจะต้องโชคร้ายไปกับเขาด้วย...
เมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกดดันขึ้นมาทันที!
“ฮั่นจง นายตั้งใจจะบอกฉันเรื่องนี้มานานแล้วสินะ?” จี้เฟิงถามด้วยรอยยิ้ม
ฮั่นจงยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ เนื่องจากโรงงานผลิตยามาถูกทางแล้ว ฉันจึงอยากหาโอกาสที่จะบอกนาย แต่ก็ไม่พบโอกาสที่เหมาะสมซักที”
จี้เฟิงตบไหล่เขา “ถ้าตระกูลใดมีลูกชายที่ตักเตือนได้ ตระกูลนั้นจะไม่ถูกทำลาย ถ้ารัฐใดมีรัฐมนตรีที่ตักเตือนได้ บ้านเมืองจะไม่พังพินาศ! และถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันอยากจะทำอะไรโง่ๆ ในอนาคต นายต้องหยุดฉัน ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!”
“ฮ่าๆ!”
ฮั่นจงหัวเราะและพูดว่า “ดูเหมือนว่าฉันไม่ได้รับแค่จ๊อบเดียวนะเนี่ย ไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้าโรงงานยาเท่านั้น แต่ยังต้องมาทำหน้าที่ตรวจสอบอีกด้วย...”
“ไอ้หนู...”
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและหัวเราะ “ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้ฉันยังมีสติดีอยู่ น่าจะยังไม่ทำอะไรโง่ๆให้นายต้องปวดหัวไวขนาดนั้น แต่อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องของบริษัททำให้ฉันประหลาดใจมากจริงๆ แต่สำหรับความต้องการของฉันที่จะแข่งขันกับหรงเผิงกรุ๊ป ถือว่ายังห่างไกลอีกมาก...”
“ถ้านายต้องการจะพึ่งบริษัทเถิงเฟยเพียงอย่างเดียวก็ยากหน่อย แม้จะมีสภาพคล่องที่ดี แต่จะให้มันพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาสั้นๆคงเป็นไปได้ยาก” ฮั่นจงกล่าว “ตอนนี้เราต้องหวังว่าห่านจากโรงงานเซียวจะออกไข่ทองคำมาให้เรา!”
“อืม!” จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย
สำหรับตอนนี้ ความร่วมมือระหว่างบริษัทยาเถิงเฟยและเทียนเหยากรุ๊ปมีเสถียรภาพมาก แทบไม่ต้องคาดหวังเลยว่ายอดขายยากระแสไฟฟ้าพิเศษจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะทางกองทัพจะซื้อเฉพาะปริมาณดังกล่าวทุกไตรมาส ไม่สามารถเพิ่มได้ตามต้องการ!
นอกเสียจากว่า... ยากระแสไฟฟ้าพิเศษจะส่งออกไปขายยังต่างประเทศ
แต่มันยิ่งเป็นไปไม่ได้มากกว่า!
หากจี้เฟิงกล้าที่จะขายยากระแสไฟฟ้าพิเศษในต่างประเทศ ผู้อาวุโสจี้อาจจะหักขาของเขาด้วยไม้เท้าในวันพรุ่งนี้เลย!
โดยพื้นฐานแล้วยาประเภทนี้เป็นยาที่มีคุณสมบัติสํารองเชิงกลยุทธ์ได้แล้ว เมื่อนำไปใช้ในสงครามจะสามารถลดการบาดเจ็บล้มตายและซื้อเวลาในการช่วยเหลือได้อย่างมาก
แล้วจะปล่อยให้ของดีๆแบบนี้หลั่งไหลไปต่างประเทศได้อย่างไร?
ดังนั้นอย่าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับมัน!
แต่นอกเหนือจากบริษัทเถิงเฟยแล้ว มีเพียงโรงงานเซียวเท่านั้นที่ทำกำไรและมีแนวโน้มในการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้ แม้ว่าบริษัทยาฉางเหอจะสามารถทำกำไรได้เช่นกัน แต่มันก็เป็นบริษัทของเซียวฉางเหอ 100% ดังนั้นก่อนที่จี้เฟิงจะบรรลุข้อตกลงกับเซียวฉางเหอ เขาจะไม่นับบริษัทยาฉางเหอเข้าไปด้วย
“ตอนนี้ก็ปีหนึ่งได้แล้วใช่มั้ย นับตั้งแต่ที่คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์เปิดตัว ยอดขายเป็นยังไงบ้าง?” ฮั่นจงถาม
“ปริมาณการขายเพิ่งเริ่มต้น ขนาดของโรงงานผลิตก็ยังเล็กก่อนไป คำสั่งซื้อที่บริษัทยาสั่งซื้อเข้ามา จนถึงตอนนี้ เวิร์กช็อปทั้งหมดของโรงงานกำลังผลิตยาอย่างเต็มกำลังทั้งกลางวันและกลางคืน และสามารถนำส่งให้พวกเขาได้เป็นชุดๆเท่านั้น”
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “จริงๆแล้วปริมาณการขายไม่ได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยอย่างที่กล่าวมา แต่มีค่าธรรมเนียนตัวแทนจำนวนมาก ครั้งล่าสุดที่ซูหยวนบอกฉัน เฉพาะค่าธรรมเนียมตัวแทนอย่างเดียวก็ที่ได้รับมาแล้วนั้นมีมากกว่า 200 ล้านหยวนแล้ว ยังมีอีกสองสามพันล้านหยวนที่ยังไม่ได้เก็บ และคาดว่าภายในหนึ่งปี สินทรัพย์รวมของโรงงานเซียวจะมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน...”
“การพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็วจริงๆ!” ฮั่นจงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ “ยาใหม่เพียงสองชนิดก็ทำให้โรงงานยาทั้งสองแห่งเติบโตได้ขนาดนี้แล้ว!”
“แต่เหมือนจะยังเร็วไม่พอ...” จี้เฟิงส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม “เป้าหมายของฉันคือต้องแข็งแกร่งให้มากพอที่จะต่อสู้กับหรงเผิงกรุ๊ปในเวลาที่สั้นที่สุด!”
“ไม่ง่ายเลย...”
ฮั่นจงยิ้มอย่างขมขื่น “หรงเผิงกรุ๊ปมีสินทรัพย์รวมในปริมาณมาก มันยากมากที่จะแข่งขันกับยักษ์ใหญ่รายนี้!”
แต่จี้เฟิงโบกมือ “แล้วสินทรัพย์รวมของมูลค่าทางตลาดของเราล่ะ? สิ่งเหล่านี้มักทำให้ผู้คนหวาดกลัว ประเด็นสำคัญคือ ตราบใดที่เราทำให้สภาพคล่องของเราแซงหน้าพวกนั้นได้ เราก็หายใจสะดวกขึ้นเล็กน้อย”
หากกลุ่มหรงเผิงต้องการลอบโจมตีขัดแข้งขัดขาจี้เจิ้นหัวพ่อของจี้เฟิง อีกฝ่ายต้องทำให้สถานการณ์ในบางอุตสาหกรรมหยุดชะงัก และเมื่อถึงเวลานั้น ตราบใดที่ฝ่ายจี้เฟิงสามารถระดมทุนได้มากพอ มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะต่อต้านพวกหรงเผิงกรุ๊ป หากจะบาดเจ็บ อย่างน้อยก็ต้องทำให้อีกฝ่ายได้แผลกลับไปด้วยเช่นกัน!
“เอาล่ะ พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เราไปหาว่าที่ผู้จัดการใหญ่คนใหม่กันดีมั้ย?” จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ไปคุยเรื่องอนาคตหลังจากที่นายลงจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปแล้ว”
“โอเค!” ฮั่นจงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ในสำนักงานผู้จัดการฝ่ายขาย จี้เฟิงได้พบกับเหลียงชุนฮุ่ย ซึ่งในเวลานี้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองผู้จัดการฝ่ายแล้ว เขาดูสงบนิ่งและดูเป็นตัวของตัวเองมากกว่าครั้งก่อนที่จี้เฟิงได้พบกับเขา
“คุณฮั่น? คุณจี้?” เหลียงชุนฮุ่ยตกใจเมื่อเห็นฮั่นจงและจี้เฟิง “ทำไมถึงต้องลำบากมาที่นี่ด้วยตัวเองด้วยล่ะครับ?”
“เอาล่ะๆ” ฮั่นจงโบกมือและพูดด้วยรอยยิ้ม “เลิกพูดประจบประแจงเราได้แล้ว เก็บคำพวกนี้ไว้คุยกับลูกค้าเถอะ!”
เหลียงชุนฮุ่ยยิ้มเล็กน้อย “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ การติดต่อกับลูกค้าเป็นเรื่องที่ผมถนัด”
ฮั่นจงพูดด้วยรอยยิ้ม “ชุนฮุ่ย ที่ฉันมาหาคุณครั้งนี้ก็เพราะมีบางอย่างจะถาม และต้องการความคิดเห็นของคุณ พอดีฉันได้หารือกับบอสใหญ่แล้วว่าอาจจะไปที่อื่น ดังนั้นบอสใหญ่จึงตั้งใจที่จะหาคนมารับตำแหน่งหัวหน้า เป็นผู้จัดการทั่วไปของโรงงานผลิตยา และคนที่ว่านั่นก็คือคุณ!”
“ว่าไงนะครับ?”
เหลียงชุนฮุ่ยตกตะลึง “จะให้ผมรับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป?”
“ถูกต้อง เป็นหัวหน้าใหญ่ของที่นี่!” ฮั่นจงพูดด้วยรอยยิ้ม “ว่าไง จะเก็บไปลองคิดดูก่อนก็ได้นะ!”
“คุณฮั่น คุณล้อเล่นหรือเปล่า...” เหลียงชุนฮุ่ยถามอย่างลังเล “คุณทำผมกลัวนะครับเนี่ย!”
ฮั่นจงหัวเราะและพูดว่า “ใช่! พอดีฉันว่างมาก ก็เลยมาที่นี่เพื่อมาล้อเล่นกับคุณและทำให้คุณกลัว! ... คิดให้ดีๆก็แล้วกัน และจะดีมากถ้าให้คำตอบฉันโดยเร็ว”
“อ่า... ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอคิดดูก่อน” เหลียงชุนฮุ่ยรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ
เพื่อปล่อยให้เหลียงชุนฮุ่ยใช้เวลาครุ่นคิดอย่างรอบคอบตามลำพัง จี้เฟิงและฮั่นจงได้ออกจากห้องทำงานของเขาและไปที่แผนกรักษาความปลอดภัย
“บอส!”
อี้ซิงเฉินและเหยาจื่อเจี้ยนกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างในแผนกรักษาความปลอดภัย แต่เมื่อพวกเขาเห็นจี้เฟิงเข้ามา พวกเขาก็ยืนขึ้นทันที “มาตรวจสอบความเรียบร้อยเหรอครับบอส?”
จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ แล้วระหว่างที่กำลังทำการตรวจสอบ ฉันก็ได้เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราสองคนกำลังอู้งานอยู่พอดี... คุณฮั่นครับ คุณคิดว่าเราควรจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้ดี?”
“ตามกฎข้อบังคับ เราคงต้องหักค่าจ้าง!” ฮั่นจงพูดอย่างเคร่งขรึม จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพรวดออกมา
“พวกคุณได้ยินกันแล้วใช่มั้ยว่าพวกคุณจะต้องถูกหักเงินเดือนเพราะความขี้เกียจ!” จี้เฟิงหัวเราะ เขายังคงมีความประทับใจที่ดีต่ออี้ซิงเฉินและคนอื่นๆ แน่นอนว่าจี้เฟิงชื่นชมความสามารถและสไตล์การทำงานที่แข็งแกร่งของพวกเขาเหล่านี้
พวกเขาหลายคนพูดคุยและหัวเราะกันครู่หนึ่งก่อนจะนั่งลง
จี้เฟิงถามว่า “เหล่าอี้ สถานการณ์ด้านความปลอดภัยของโรงงานผลิตยาเป็นยังไงบ้าง?”
“โดยรวมแล้วก็ไม่เลวเลย ยกเว้นเหตุการณ์ขโมยของในโกดัง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ!” เมื่อพูดถึงเรื่องการงาน อี้ซิงเฉินก็จริงจังทันที
“ขโมยของในโกดัง?” จี้เฟิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ถูกต้อง แม้ว่าวัสดุทางการแพทย์ที่เราใช้ในการผลิตยาไฟฟ้าพิเศษจะมีราคาไม่สูงนัก แต่เนื่องจากตัวยาที่เราคัดสรรล้วนมีคุณภาพ จึงยังขายได้ราคาดีในตลาด! ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนบางคนจะเสี่ยง!” ฮั่นจงกล่าว
.....จบบทที่ 955 ~
++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ
ปีนี้ผู้อ่านหลายๆท่านคงได้เล่นน้ำกันจนสะใจไปเลย ยังไงก็อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะคะ
ด้วยรักและห่วงใย
เนตรนารีสีชมพู