บทที่ 75: หูเจียวเจียวสอนลูกไม่ดี
ตอนนี้ในหัวของหลงหลิงเอ๋อกำลังมีความคิดที่ซับซ้อน นางขมวดคิ้วพลางเอียงหัวมองผู้เป็นแม่คล้ายกับมีบางอย่างผิดปกติ
"เอ๊ะ..." หูเจียวเจียวชะงักไปชั่วขณะ
เป็นอย่างนั้นเองเหรอ?
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนที่เธอไม่ให้หลงโม่ไปซักเสื้อผ้า ใบหน้าของเขาถึงบูดบึ้งได้ขนาดนั้น นี่เขาคงมโนไปไกลแล้วว่าสาเหตุที่เธอไม่ให้เขาทำงานเป็นเพราะเธอไม่ชอบเขาหรือเปล่า?
“วันนี้พ่อของเจ้าออกไปล่าก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว แม่แค่อยากให้เขาได้พักผ่อนแค่นั้นเอง แล้วอีกอย่างตอนที่พ่อของเจ้าไม่อยู่ แม่ก็เป็นคนทำงานพวกนั้นทั้งหมดใช่ไหม?”
หลงหลิงเอ๋อกะพริบตา 2-3 ครั้งก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แบบคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ฟังดูเหมือนจะเข้าท่า แต่…เอ๊ะ!
ท่านแม่ก็ด่าท่านพ่อไม่ใช่หรือ?
"หลิงเอ๋อ ไม่มีอะไรหรอก เจ้าอย่าคิดมากไปเลย เจ้าไปเล่นกับพวกหลงอวี้ก่อนเถอะ ถ้ากับข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่จะไปเรียก"
แม่จิ้งจอกลูบหัวของลูกสาวอย่างขบขัน ก่อนจะลุกขึ้นไปทำอาหารต่อ
หลังจากที่สาวน้อยได้รับคำมั่นสัญญาจากผู้เป็นแม่ ในที่สุดนางก็รู้สึกพึงพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนต้องการ
ในเวลาเดียวกัน
ณ บ้านไม้หลังเก่า
หลงอวี้ดึงพ่อมังกรไปที่ประตู ทำให้ทั้งคู่ได้ยินคำพูดของหูเจียวเจียวอย่างชัดเจนทุกคำ
ไม่นานดวงตาสีทองของหลงโม่ฉายแววประหลาดใจ จากนั้นมันก็ถูกแทนที่ด้วยความมืดมิด
ที่ผ่านมาถ้าไม่ใช่เพราะว่านางมัวแต่เพ้อฝันถึงอิงหยวนแล้วขับไล่ตัวเขาออกไป นางคงจะหาผู้ชายคนอื่นมาช่วยปรนนิบัตินางเหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ในเผ่า ในเวลานั้นนางคงจะไม่ต้องทำงานแล้วก็อยู่อย่างสุขสบายโดยไม่ต้องลำบากตรากตรำอะไร
แต่ตอนนี้พอนางได้ทำงานบางอย่างแล้ว นางก็ทำตัวมั่นอกมั่นใจหนักหนาเหมือนกำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสียอย่างนั้น?
นางอยากจะทำเองไม่ใช่หรือไง!
ขณะนี้หลงอวี้ที่ยืนอยู่ข้างพ่อมังกรตัวโตดูตัวเล็กไปเลย เนื่องจากความสูงที่แตกต่างกันมาก
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ถมึงทึงของหลงโม่ เขาเม้มปากอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า "อิงหยวนกับลู่เมี่ยนเอ๋อตกลงปลงใจอยู่กินกันแล้ว นางเองก็ไม่ได้ไปหาอิงหยวนมานานแล้วเหมือนกัน"
อืม… เวลาผ่านไปนานจริง ๆ
ช่วงเวลาแห่งความสุขที่ยาวนานถึงครึ่งเดือนมันเหมือนกับเวลาชั่วกัปชั่วกัลป์ในชีวิตของเขา
ในช่วงที่ผ่านมา หลงอวี้คิดว่าถ้าพ่อของเขาไม่ออกจากเผ่าและผู้หญิงเลวทรามคนนั้นไม่ได้หลงใหลในตัวอิงหยวน ป่านนี้เหล่าพี่น้องตระกูลหลงอาจจะมีพ่อหลายคนเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆ ในเผ่า
แล้วตอนนั้นพวกเขาก็จะมีน้อง ๆ เพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้งพวกเขาก็ยิ่งต้องทำงานหนักเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานจากผู้เป็นพ่อเป็นแม่
นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้มากว่าน้องรอง น้องสามรวมถึงน้องห้าอาจถูกขับไล่ออกจากเผ่าไป
ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง มันคงไม่ดีไปกว่าชีวิตในอดีตของพี่น้องทั้ง 5 คนมากนัก
เมื่อหลงโม่ได้ยินคำพูดของลูกชายคนโต เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
นางไม่ได้ทำทั้งหมดนี้เพื่อเอาใจอิงหยวนหรอกหรือ?
“ท่านพ่อ ในตอนนี้นางดีขึ้นมากแล้ว รวมทั้งนางก็เลิกไปตอแยอิงหยวนด้วยเหมือนกัน ถ้าหลังจากนี้ไปท่านไม่อยู่บ้าน นางอาจจะไปตกหลุมรักชายคนอื่นแล้วให้กำเนิดลูกออกมาอีกครอกหนึ่ง ในตอนนั้นพวกข้าก็จะถูกแย่งอาหารไป”
“ฉะนั้น เพื่อให้พวกเราเติบโตอย่างปลอดภัย ข้าหวังว่าท่านจะไม่กลับไปอยู่ในป่าอีก”
หลงอวี้กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังเคร่งขรึม ท่าทางของเขาในระหว่างที่พูดนั้นเหมือนกับว่าเขากำลังเจรจาทำข้อตกลงกับคนเป็นพ่อเสียอย่างนั้น
ต่อมา ผู้ชายต่างวัยทั้ง 2 ก็หันมาเผชิญหน้ากัน ในขณะที่พ่อลูกจ้องหน้ากันเขม็งแบบไม่มีใครยอมใคร
ทางด้านหลงโม่ขมวดคิ้ว ใบหน้าหล่อเหลาเศร้าหมองของเขาดูไม่พอใจเล็กน้อย "พ่อสอนเจ้าว่ายังไง? เจ้าเป็นผู้ชาย เจ้าจะต้องหาอาหารกินเอง ไม่มีใครสามารถปกป้องเจ้าได้ตลอดเวลาหรอกนะ"
ยามนี้เด็กหนุ่มกอดอกเหมือนผู้ใหญ่ตัวเล็กและออร่าของเขาก็มั่นคงไม่สะทกสะท้านเหมือนก้อนหิน ในบรรดาลูกทั้ง 5 คน เขากับพ่อดูคล้ายกันมากที่สุด หากมองเพียงแว้บแรก มักจะมีคนบอกว่าเขาดูเหมือนหลงโม่รุ่นจิ๋ว
จากนั้นหนุ่มน้อยก็ยักไหล่พร้อมกับตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า "นี่ข้าก็กำลังพึ่งพาความสามารถของตัวเองอยู่โดยการพยายามหาทางให้ท่านพ่อได้อยู่ที่นี่ และนั่นก็เป็นจุดแข็งของข้าด้วย"
สิ่งที่ลูกชายพูดทำให้ใบหน้าของพ่อมังกรขุ่นมัว
แล้วแบบนี้มันต่างจากผู้หญิงที่คอยพึ่งพาคู่ครองของตัวเองอย่างไร?
นี่เขาให้กำเนิดลูกที่รู้แต่จะพึ่งพาคนอื่นออกมาได้อย่างไรกัน...ทั้งหมดนี้ต้องเป็นเพราะหูเจียวเจียวสอนมาแน่!
1 ชั่วโมงต่อมา ในที่สุดหูเจียวเจียวก็เตรียมอาหาร 4 อย่างและน้ำแกง 1 หม้อเสร็จพอดี
อาหารในวันนี้มีทั้งคากิ, เนื้อตุ๋น, ซี่โครงตุ๋น, ยำหนังและน้ำแกงเครื่องใน
เนื้อที่เอามาตุ๋นนั้นชั้นนอกถูกคั่วจนกรอบ พอกัดผ่านเนื้อชั้นนอกที่บางกรอบไปแล้วก็จะเจอกับข้างในที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำซอส แล้วรสชาติทั้งหมดก็ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในปากอย่างไม่รู้จบ
"เด็ก ๆ ได้เวลากินข้าวแล้ว"
จิ้งจอกสาวตะโกนเรียกเสียงดัง ทันใดนั้นเด็กทั้ง 5 ก็กระโดดออกมาจากทางไหนไม่ทราบโดยพุ่งมานั่งบนเก้าอี้ไม้ด้วยความเร็วปานสายฟ้า
แล้วภาพเจ้าตัวเล็ก 5 คนนั่งหลังตรงมองดูอาหารอร่อย ๆ บนโต๊ะก็ปรากฏขึ้นในเวลาไม่กี่อึดใจ
ตอนนี้ที่ลานบ้านมีเก้าอี้เล็ก ๆ ทั้งหมด 7 ตัว แต่เหลือเพียง 2 ตัวเท่านั้นที่ยังคงว่างเปล่า
เมื่อหลงโม่มองลูกชายคนโตที่วิ่งหนีไปโดยทิ้งเขาไว้ในบ้านคนเดียว ใบหน้าของเขาก็มืดลง
เจ้าเด็กแสบ เจ้าต้องการขายพ่อตัวเองเพื่ออาหารใช่ไหม?
ต่อมา มังกรหนุ่มก็เดินออกจากประตูมาพร้อมกับออร่าเย็นชา จิ้งจอกสาวคนนั้นไม่เคยทำงานมาก่อน นางจะทำอาหารอร่อยได้อย่างไรกัน?
หลังจากที่หลงโม่เดินออกไปข้างนอก เขาก็กวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาเยาะเย้ย แต่พอเขาได้เห็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารละลานตา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
หูเจียวเจียวทำทั้งหมดนี้เองหรือ?
เป็นไปได้ยังไง!
“ท่านพ่อ รีบมากินเนื้อเถอะ เนื้อที่ท่านแม่ทำอร่อยมาก ถ้าท่านไม่รีบมา เนื้อจะหมดก่อนนะ” หลงหลิงเอ๋อโบกมือให้ผู้เป็นพ่อพลางพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ
หลงโม่ถูกดึงออกจากความคิดของตนเองด้วยเสียงของลูกสาว ก่อนจะเดินตัวแข็งทื่อเข้าไปแล้วพบว่าตอนนี้เหลือเก้าอี้ว่างแค่ 2 ตัวติดกัน
เขาหันไปมองจิ้งจอกสาวที่ยังพยายามหั่นขาเนื้อสัตว์ ไม่นานใบหน้าของเขาก็กลับมาเย็นชาดังเดิม
"เหยาเอ๋อ เจ้ามานั่งนี่" ชายหนุ่มเดินตรงไปหาหลงเหยาซึ่งอยู่ไกลที่สุด แล้วหิ้วเขาขึ้นไปนั่งอีกฝั่ง
ทว่าพอเขาจัดแจงที่นั่งใหม่เสร็จแล้ว เขาก็ไม่ได้นั่งทันทีที่เปลี่ยนที่นั่งกับลูก
ชายตัวสูงเดินไปข้างหลังหูเจียวเจียวก่อนจะคว้าเสื้อของอีกฝ่ายเพื่อดึงเธอให้หลบไปข้างหลัง จากนั้นเขาก็หยิบเนื้อส่วนขาจากมือของเธอมาถือไว้ในมือ
"ข้าทำเอง"
จิ้งจอกสาวผงะไปครู่หนึ่งในขณะที่จ้องมองร่างสูงตรงหน้าเธอ
นี่เขา…ต้องการจะช่วยเธอหรือ?
ตอนแรกเธอกำลังจะเอ่ยปากบอกว่าไม่ต้อง เธอทำเองได้ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร เธอก็นึกถึงสิ่งที่หลงหลิงเอ๋อพูดกับตนก่อนหน้านี้จึงกลืนคำพูดทั้งหมดลงท้องไป
ถ้าฉันไม่อยากให้เขาโกรธก็ควรปล่อยให้เขาทำ
หลังจากที่หญิงสาวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เธอก็เอื้อมมือไปสะกิดแขนของหลงโม่ก่อนจะยื่นมีดให้เขา "ใช้นี่สิ"
มังกรหนุ่มชำเลืองมองเธออย่างเย็นชา สายตาคมจับจ้องไปที่มีดและน้ำเสียงของเขาฟังดูขยะแขยงมันมาก "ไม่จำเป็น"
ถัดมา หูเจียวเจียวเห็นมือขวาของเขาเปลี่ยนกลายเป็นกรงเล็บมังกรก็เข้าใจบางอย่างขึ้นมาในทันที และกล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว "งั้นเจ้าช่วยแบ่งขาทั้ง 3 นี้ออกเป็น 2 ซีก ส่วนที่เหลือไม่ต้องแบ่ง"
หลงโม่ไม่ตอบอะไร และในชั่วพริบตาขาตุ๋นทั้ง 3 ก็ถูกตัดแยกออกเป็น 2 ส่วน
แปะ ๆ!
"น่าทึ่งมาก" เธอปรบมือในขณะที่แววตาของจิ้งจอกสาวเป็นประกายพร้อมกับความชื่นชมที่ฉายไปทั่วดวงตา
อย่างที่คาดไว้สำหรับวายร้ายรูปหล่อ แม้แต่เวลาที่เขาหั่นเนื้อก็ยังดูสะดุดตา แล้วจู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าการใช้ชีวิตร่วมกับหลงโม่คงจะไม่ยากนัก
ใครจะไม่ชอบดูผู้ชายหล่อ ๆ บ้างล่ะ นี่มันอาหารตาชั้นยอดเลยนะ!
นอกจากนี้เขายังเป็นหนุ่มรูปงามที่มีความคิดที่จะช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้าน ถ้าหากว่าเขาเกิดในยุคเดียวกับเธอ ผู้ชายดี ๆ แบบนี้หาได้ยากมากแล้ว
เมื่อมังกรหนุ่มได้ยินเสียงของหูเจียวเจียว มือของเขาก็หยุดลงชั่วคราว และร่องรอยของความมืดก็พาดผ่านดวงตาที่ลึกล้ำคู่นั้น
“มองพอหรือยัง?” ร่างสูงพูดอย่างเย็นชาก่อนจะหยิบเนื้อส่วนขาใส่จานใหญ่แล้วมาวางบนโต๊ะ
เสียงนั้นทำให้จิ้งจอกสาวตื่นจากความคิดของตัวเอง เธอรีบหันไปมองทางอื่นด้วยความขัดเขิน ก่อนจะยกชามและตะเกียบตามอีกฝ่ายไป
เธอเริ่มจะปลาบปลื้มในตัวเจ้าจอมวายร้ายเข้าแล้ว >//<
พอหญิงสาวลองมาคิดไตร่ตรองดูอีกครั้ง เดิมทีพวกเขามีความสัมพันธ์กัน แล้วเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้าของร่างเดิมกับมังกรหนุ่ม?
ระหว่างที่คิดหูเจียวเจียวก็จัดชาม ตะเกียบและช้อนส่งให้ลูกทีละคน เสร็จแล้วเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ว่างที่เหลืออยู่
“ทุกคนคงหิวกันแล้ว กินข้าวกันเถอะ”
เวลานี้เด็กทั้ง 5 คนและตัวจิ้งจอกสาวกินเนื้อตุ๋นส่วนขากันคนละครึ่งขา ขณะที่หลงโม่ได้กินทั้งขา
เนื่องจากภูตชอบกินเนื้อชิ้นใหญ่ หูเจียวเจียวเลยจงใจไม่หั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ
เมื่อเหล่าเด็กน้อยได้ยินคำพูดของผู้เป็นแม่ พวกเขาก็เริ่มก้มหน้ากินข้าวในส่วนของตัวเองทันที โดยที่ทุกคนหยิบเนื้อส่วนขาขึ้นมาแทะกินด้วยความพึงพอใจ