บทที่ 74: นางทำเพื่อให้อิงหยวนประทับใจ
ในใจของหลงโม่อยากจะเห็นว่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์คนนี้ต้องการอะไรกันแน่
เขาบาดเจ็บถึงขนาดนี้ นางยังอยากจะสาดเกลือลงบนบาดแผลของเขาอีกหรือ?
ทันทีที่หูเจียวเจียวปลดหนังสัตว์บนร่างกายท่อนบนของมังกรหนุ่มออก มันก็มีกลิ่นเลือดแรง ๆ โชยออกมา พร้อมกับที่รอยแผลเป็นคล้ายตะขาบจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏต่อหน้าเธอ
ตอนนี้ยังมีบาดแผลฉกรรจ์ขนาดเท่าฝ่ามืออยู่ที่หน้าอก ซึ่งแผลนั้นมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
จิ้งจอกสาวได้แต่อ้าปากค้าง
“ทำไมมันแย่ขนาดนี้”
แม้ว่ามันจะไม่ลึกถึงกระดูก แต่บาดแผลนั้นมีขนาดใหญ่มาก แล้วมันคล้ายกับเนื้อเน่าที่ถูกบี้จนเละ ภาพที่ปรากฏจึงน่ากลัวมากกว่าเดิม
ตามปกติบาดแผลแบบนี้จะไม่สามารถเย็บได้ เธอจึงทำได้เพียงรอให้แผลตกสะเก็ดจนตื้นขึ้นแล้วปล่อยให้มันค่อย ๆ หายไปเอง ซึ่งกระบวนการรักษานี้จะยาวนานกว่าและทรมานมากสำหรับหลงโม่
หญิงสาวไม่กล้ารอช้า เธอรีบเข้าไปในบ้านโดยแสร้งทำเป็นหยิบของ แต่ความจริงแล้วเธอหยิบยาฆ่าเชื้อ รวมถึงยาต่าง ๆ ออกมาจากมิติ ก่อนจะกลับมาทำความสะอาดบาดแผลของคนเจ็บอย่างระมัดระวัง
ในขณะนี้ เป็นเพราะเธอมัวแต่เพ่งสมาธิอยู่กับบาดแผลมากเกินไปจึงไม่รู้ว่าตัวเองกับมังกรหนุ่มอยู่ใกล้กันมากจนลมหายใจอุ่น ๆ ของเธอพ่นลงบนบาดแผลของเขา
ฝ่ายที่กำลังได้รับการรักษากัดฟันอดทนจนเหงื่อหยดลงมาจากหน้าผาก
แต่ใบหน้าของเขายังคงไร้ความรู้สึก ราวกับว่าเขาชินชากับบาดแผลเหล่านี้ไปแล้ว
ทว่าสายตาที่มืดมิดนั้นจ้องมองใบหน้าของหูเจียวเจียวเหมือนกำลังมองเหยื่อโดยพร้อมที่จะขย้ำอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ
แล้วยังมีร่องรอยของความมึนงงในม่านตาสีทอง แต่ในไม่ช้ามันก็ถูกแทนที่ด้วยความเย็นชา
นางทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้อิงหยวนประทับใจ!
หูเจียวเจียวไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับหลงโม่ ดังนั้นหลังจากที่ทายาและพันผ้าพันแผลให้ชายหนุ่มเสร็จ เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นเลือดค่อย ๆ หยุดไหล
“เอาล่ะ 2-3 วันหลังจากนี้เจ้าอย่าให้แผลโดนน้ำ ห้ามออกแรงทำอะไรหนัก ๆ แผลจะได้ไม่ปริ แล้วเจ้าก็ต้องพักผ่อนให้มาก ๆ เพื่อที่แผลจะได้หายไวขึ้น”
ขณะที่จิ้งจอกสาวกำลังเก็บข้าวของ เธอก็พูดเตือนมังกรหนุ่มอย่างจริงจัง
หลังจากพูดจบ เธอก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้หลงโม่เกลียดตัวเองมาก เขาอาจจะไม่ยอมฟังที่เธอพูด
เพราะฉะนั้นเธอเลยกล่าวเสริมว่า "หากบาดแผลของเจ้าหายช้า เจ้าจะไม่สามารถออกไปล่าสัตว์ได้ ถึงตอนนั้นเจ้าก็จะไม่มีปัญญาเอาอะไรมาเลี้ยงลูกอีก"
คำพูดของเธอทำให้ใบหน้าของคนเจ็บยิ่งมืดลง เขากัดฟันตอบกลับทีละคำว่า “ข้า-รู้-แล้ว”
จากนั้นหูเจียวเจียวก็แสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ
เมื่อเธอหันกลับมาก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะสวมเสื้อหนังสัตว์ที่โชกเลือด เธอจึงรีบคว้าเสื้อของอีกคนมา
“เจ้าจะทำอะไร?” หลงโม่มองเธออย่างไม่พอใจ
“เสื้อหนังสัตว์นี่เปื้อนเลือดแล้ว แน่นอนว่าข้าจะต้องเอามันไปซักสิ มันสกปรกมากขนาดนี้จะใส่เข้าไปได้ยังไง” แม่จิ้งจอกเม้มริมฝีปากเพราะตกใจเล็กน้อยกับดวงตาที่น่ากลัวของมังกรหนุ่ม แต่เธอก็ยังรวบรวมความกล้าโต้กลับไป
ฝ่ายที่ได้ยินขมวดคิ้วมองลงไปที่สิ่งแปลก ๆ บนร่างกายของตัวเอง
มันรู้สึกแปลกมาก
แต่เมื่อคิดถึงคำพูดของหูเจียวเจียว เขาก็เม้มริมฝีปากอย่างไม่สบอารมณ์
“ข้าจะซักเอง” เขาเอื้อมมือไปเพื่อจะคว้าเสื้อหนังสัตว์คืน
“ข้าเพิ่งบอกไปเองว่าห้ามให้แผลโดนน้ำ เจ้าเข้าไปพักผ่อนในบ้านก่อนเถอะ แล้วข้าจะรีบกลับมา”
จิ้งจอกสาวรีบนำเสื้อหนังสัตว์ไปซ่อนไว้ข้างหลัง พอพูดจบเธอก็รีบมุ่งหน้าไปที่แม่น้ำทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ปฏิเสธ
…
ด้านนอกบ้าน
ขณะนี้เด็กน้อยทั้ง 5 คนกำลังซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ เมื่อพวกเขาเห็นผู้เป็นแม่เดินออกจากบ้านมา ทุกคนก็รีบซ่อนตัวกันอลหม่าน ก่อนจะโผล่หัวออกมาหลังจากเห็นว่านางเดินผ่านไปแล้ว
“ดูเหมือนท่านแม่จะอารมณ์เสียนิดหน่อย นางทะเลาะกับท่านพ่อหรือเปล่า?” หลงหลิงเอ๋อประคองใบหน้าเล็ก ๆ ของนางขึ้นด้วยสีหน้างุนงง
“ท่านพ่อต่างหากที่ต้องอารมณ์เสีย นางไม่ให้เขาสวมเสื้อด้วยซ้ำ” หลงจงพ่นลมอย่างเย็นชา พลางกัดลูกพลับในมือกินคำหนึ่งในขณะที่ตอบน้องสาว
“ไม่มีทาง ท่านแม่ไม่ใช่คนแบบนั้น” สาวน้อยทำหน้ามุ่ย
"ครั้งล่าสุดที่ข้าถูกงูพิษกัด ท่านแม่เป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าได้ยินมาว่าท่านแม่ตีลู่หลีเองกับมือ ท่านแม่เป็นคนล้างแค้นให้ข้า ตอนนี้นางเป็นคนดีแล้วเหอะ!"
หลงหลิงเอ๋อพยายามพูดปกป้องแม่จิ้งจอก
"ใช่" หลงอวี้ขัดจังหวะการสนทนาระหว่างน้องทั้ง 2 เบา ๆ "ตอนนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าใครกำลังโกรธ แต่อยู่ที่ว่าวันนี้นางจะขับไล่ท่านพ่อออกจากบ้านไปหรือเปล่า"
เมื่อเด็กสาวเพียงหนึ่งเดียวของกลุ่มได้ยินคำพูดของพี่ใหญ่ นางก็รู้สึกท้อแท้ขึ้นมาทันที "อ่า...แต่ท่านแม่ไม่ชอบท่านพ่อมาตลอด นางคงไม่ให้ท่านพ่ออยู่ที่บ้านแน่นอน งั้นเราควรจะทำยังไงดี?”
ยามนี้ 5 พี่น้องตระกูลหลงมองหน้ากันด้วยสีหน้าวิตกกังวล แม้ว่าพวกหลงอวี้จะไม่ยอมรับหูเจียวเจียวอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่อยากแยกจากนาง
ในใจของเด็ก ๆ หวังว่าพ่อมังกรจะเข้ากับแม่จิ้งจอกได้ดี เพราะถึงอย่างไรตอนนี้นางก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เวลาต่อมา หลงเซียวก็พูดเตือนน้องสาวขึ้นมากลางปล้อง
“ท่านพ่อของเรากำลังบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือ? ก่อนหน้านี้นางยังช่วยดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของหลิงเอ๋ออยู่ตลอดเวลา ถ้านางยอมดูแลท่านพ่อเหมือนกัน งั้นท่านพ่อของเราก็ไม่ต้องกลับไปอยู่ในป่าแล้ว”
“เหอะ นางจะเก่งถึงขนาดที่ว่าดูแลท่านพ่อได้หรือ ใครเชื่อก็โง่แล้ว” หลงจงพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
แต่จู่ ๆ หลงลิงเอ๋อก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ พลันดวงตากลมโตของนางก็สว่างขึ้นมาทันที
…
ในเวลาเดียวกัน พอหูเจียวเจียวซักเสื้อผ้าเสร็จก็กลับไปทำอาหารที่ลานบ้าน
ตอนนี้มันเกือบจะมืดเต็มที แต่โชคดีที่หลงโม่จัดการกับเหยื่อทั้ง 2 เอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเนื้อก็ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ อย่างประณีตสวยงาม
เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยของชายหนุ่ม เธอจึงใช้เนื้อสัตว์ที่อีกฝ่ายนำกลับมาทำอาหารเย็น แต่เพิ่มส่วนผสมที่เป็นผักลงไป นั่นทำให้พวกเขาไม่สามารถสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติได้อยู่ดี
"ท่านแม่"
ระหว่างที่จิ้งจอกสาวกำลังแล่เนื้ออยู่ จู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงของหลงหลิงเอ๋อดังขึ้นมาจากข้างหลัง
พอเธอหันกลับไปมองก็เห็นมือเล็ก ๆ คู่หนึ่งกำลังจับชายกระโปรงของตน ขณะนี้สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยน้ำตาที่คลอหน่วย
“หลิงเอ๋อ เกิดอะไรขึ้น ใครรังแกเจ้า?”
หูเจียวเจียวรู้สึกเย็นยะเยือกในหัวใจ เธอรีบวางของในมือแล้วเช็ดมือให้สะอาดก่อนจะย่อตัวลงดึงลูกสาวเข้ามากอด
หลงหลิงเอ๋อส่ายหัวแล้วพูดว่า "ท่านแม่ ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว ท่านอย่าไล่ท่านพ่อออกจากบ้านได้ไหม?"
หญิงสาวที่ได้ยินคำถามนั้นตกตะลึง เธอทันไปบอกใครเมื่อไหร่ว่าจะขับไล่หลงโม่ออกจากบ้าน?
ถึงแม้ว่าเธออยากจะไล่เขาออกไปมากแค่ไหน แต่ใจเธอก็ไม่กล้าอยู่ดี
เมื่อสาวน้อยเห็นว่าอีกคนไม่ได้พูดอะไร นางก็เขย่าแขนของผู้เป็นแม่เบา ๆ และพูดต่ออย่างระมัดระวัง
“ท่านแม่ วันนี้ท่านพ่อเอาเหยื่อกลับมาตั้งมากมาย แถมยังได้รับบาดเจ็บระหว่างที่ออกล่า ตอนนี้ท่านพ่อจะต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆ ท่านแม่ช่วยฝืนใจให้ท่านพ่ออยู่ที่บ้านกับเราสัก 2-3 วันได้ไหม ข้ากับพี่น้องคิดถึงท่านพ่อมากเลย...”
หลงหลิงเอ๋อไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บของพ่อมังกรเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่นางคาดเดาว่ามันน่าจะเกิดจากการล่าสัตว์
เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินลูกสาวพูดขอร้องเสียงอ่อน หัวใจของเธอก็อ่อนยวบทันที
จากนั้นเธอยกมือขึ้นแตะแก้มของเด็กสาวและพูดเบา ๆ ว่า "แม่ไม่ไล่พ่อออกไปหรอก หลังจากนี้ครอบครัวของเราจะกลับมาอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และแม่ก็จะทำให้ครอบครัวของเรามีชีวิตที่ดีขึ้น แม่สัญญา"
พอเธอคิดว่าหลงโม่ยังคงได้รับบาดเจ็บ ความโศกเศร้าในใจของเธอก็สลายไป
ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วยเธอ จากมุมมองนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความรู้สึกใด ๆ กับเจ้าของร่างเดิมเลย อย่างน้อยมันก็ยังไม่ถึงจุดที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก
หญิงสาวต้องตีเหล็กในขณะที่เหล็กยังร้อนอยู่ เธอจะต้องทำดีกับหลงโม่เพื่อที่ในอนาคตเธอจะได้ไม่ตายอย่างอนาถ!
ยามนี้หลงหลิงเอ๋อกะพริบตาที่ขุ่นมัวปริบ ๆ ก่อนจะถามอย่างไม่แน่ใจ "จริงหรือ?"
แต่ในไม่ช้านางก็ทำหน้าบึ้งด้วยความไม่เชื่อ
“แต่ตอนนี้ท่านแม่ยังโกรธท่านพ่ออยู่เลย...”
“อะแฮ่ม... แม่… แม่ไม่ได้โกรธเขา หลิงเอ๋อ เจ้าเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว” หูเจียวเจียวกระแอมเบา ๆ ในขณะที่ดวงตาของเธอเลื่อนไปด้านข้าง
เธอยอมรับว่าตอนที่อยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนั้น เธอค่อนข้างก้าวร้าวไปสักหน่อย
จิ้งจอกสาวก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เธอมีความรู้สึกทั้งสุข ทุกข์ เศร้า บางครั้งเธอก็ต้องรู้สึกโกรธบ้างเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่ดีจากอีกฝ่าย พอลองคิดย้อนกลับไปตอนที่หลงโม่พูดแบบนั้นเป็นเพราะการกระทำของเจ้าของร่างเดิม มันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเองเลยสักนิด ดังนั้นเธอจึงทำใจให้สงบลง
“แต่เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าท่านแม่ไม่ให้ท่านพ่อทำงาน ปกติแล้วการที่ไม่ให้ผู้ชายในเผ่าทำงานถือว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยามพวกเขา”