ตอนที่ 99: หมายจับ
ตอนที่ 99: หมายจับ
ยานรบ 2 ลำกำลังต่อสู้กันบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่ไม่ว่ายานรบของเซิร์กจะพยายามหลบหนีแค่ไหนมันก็ไม่สามารถหลบหนีการไล่ล่าของเซี่ยเฟยไปได้
ขณะเดียวกันยานของเซี่ยเฟยก็เป็นเพียงแค่ยานฟริเกตเท่านั้น ขณะที่ยานของพวกเซิร์กเป็นถึงยานเดสทรอยเยอร์ มันจึงทำให้ขนาดของยานทั้งสองลำมีความแตกต่างกันอย่างน้อย 5-6 เท่า
ตามทฤษฎีแล้วยานเดสทรอยเยอร์สมควรจะทำลายยานฟริเกตที่มีขนาดเล็กกว่าได้อย่างง่ายดาย แต่ความเป็นจริงที่ปรากฏมาก็คือยานฟริเกตของเซี่ยเฟยกำลังไล่ตามยานเดสทรอยเยอร์ของพวกเซิร์กอยู่จริง ๆ
การไล่ล่าของพวกเขาคล้ายกับแมวและหนูเพียงแต่ว่าหนูอย่างเซี่ยเฟยกลับกำลังวิ่งไล่กัดหางแมวจนทำให้แมวต้องหลบหนีอย่างสิ้นหวัง
ในตอนแรกพวกเซิร์กรู้สึกหงุดหงิดกับการไล่ตามของเซี่ยเฟย จากนั้นความรู้สึกของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นเดือดดาลก่อนที่จะกลายเป็นบ้าคลั่งไปในที่สุด
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมยานลูน่าถึงมีอาวุธอุปกรณ์แปลก ๆ ติดตั้งอยู่อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยคลื่นเสียง, การโจมตีด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า, การโจมตีด้วยปืนใหญ่นิวตรอน, การโจมตีด้วยเครื่องยิงขีปนาวุธหรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่ทำการปล่อยคลื่นรบกวนต่างก็ล้วนแล้วแต่สร้างความรำคาญให้กับพวกเขาอย่างไม่รู้จบ
เซี่ยเฟยเป็นเหมือนกับทหารมืออาชีพที่กำลังเผชิญหน้ากับนักเลงข้างถนน เพราะฝ่ายหนึ่งได้เตรียมความพร้อมยานรบของเขาเอาไว้อย่างดี ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งรู้จักแค่เฉพาะวิธีการใช้ยานรบเพียงแค่เล็กน้อย
เมื่อพวกเซิร์กพยายามจะใช้ปืนใหญ่เพื่อโจมตีโต้กลับ เซี่ยเฟยก็ทำการยิงระเบิดคลื่นสัญญาณรบกวนการล็อกเป้าทำให้ระบบการยิงของพวกเซิร์กจำเป็นจะต้องใช้เวลาสักพักถึงจะสามารถล็อกเป้ามาที่ยานของเซี่ยเฟยได้
หลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปและระบบล็อกเป้ากำลังจะกลับมาทำงาน เซี่ยเฟยก็ทำการยิงระเบิดคลื่นสัญญาณรบกวนออกมาอีกครั้ง…
“โอ้ยน่ารำคาญชะมัด! ทำไมแกไม่สู้อย่างตรงไปตรงมา!! นี่แกจะใช้วิธีขี้ขลาดแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน” แมลงที่ควบคุมระบบอาวุธส่งวิดีโอติดต่อเข้ามาอย่างหงุดหงิด
แน่นอนว่าเซี่ยเฟยย่อมไม่สนใจความรู้สึกจากอีกฝ่ายเลย เพราะเขายังคงต่อสู้ตามวิธีของตัวเองและตราบใดก็ตามที่ในลูน่ายังคงมีอาวุธอุปกรณ์ที่เขาเตรียมไว้อยู่ เขาก็จะไม่มีวันปล่อยยานของเซิร์กลำนี้ไปอย่างเด็ดขาด
ทำไมเขาจะต้องสนใจวิธีการด้วย? ไม่ว่าจะเป็นหนูตัวสีขาวหรือหนูตัวสีดำตราบใดก็ตามที่มันจับแมวได้มันก็จะเป็นหนูที่ดี!
การต่อสู้ในครั้งนี้มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมตั้งแต่แรกแล้ว เพราะขนาดและรูปร่างยานของเซิร์กมีขนาดใหญ่กว่ายานลูน่าของเซี่ยเฟยมาก เพียงแต่ว่าเขาได้ติดตั้งเขี้ยวเล็บให้กับลูน่าอย่างเต็มกำลังมันจึงทำให้พวกเซิร์กกำลังรู้สึกสิ้นหวังจนถึงวินาทีนี้
เซี่ยเฟยคอยพยายามจู่โจมอย่างระมัดระวัง โดยการลดกำลังป้องกันและความคล่องแคล่วของฝ่ายตรงข้ามลงทีละน้อย
สาเหตุที่เขาไม่จู่โจมเข้าใส่ยานของพวกเซิร์กโดยตรง นั่นก็เพราะว่าเขากำลังกังวลว่าเซียวรั่วหยูอาจจะอยู่บนยานลำนั้นจริง ๆ
เซียวรั่วหยูเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังและไร้เดียงสา เพียงแค่การที่เธอหายตัวไปใต้จมูกของเขาก็เป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกโกรธตัวเองมากพอแล้ว ถ้าหากว่าความผิดพลาดของเขาทำให้เธอเสียชีวิตขึ้นมาเขาก็คงจะไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ตลอดชีวิต
ยานของเซิร์กพุ่งผ่านรูหนอนไปอีกครั้งเซี่ยเฟยจึงหยุดเพื่อรอตำแหน่งของเป้าหมาย เวลาในการเคลื่อนที่ผ่านรูหนอนมีตั้งแต่ 1 นาทีถึง 10 นาทีและเมื่อไหร่ก็ตามที่ยานลำนั้นเคลื่อนที่ผ่านรูหนอนออกมาแล้วเซี่ยเฟยก็จะทำการไล่ล่าอีกฝ่ายต่อไป
ทันใดนั้นมันก็มีคำขอติดต่อมาจากสำนักงานใหญ่ เซี่ยเฟยจึงใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอเพื่อเชื่อมการติดต่อเข้ากับจอทางด้านหลัง
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” โรเบิร์ตกล่าวถาม
เซี่ยเฟยทำการรายงานสถานการณ์สั้น ๆ ก่อนที่ชายชราปลายสายจะพยักหน้ารับและกล่าวต่อว่า
“คุณทำได้ดีมาก! พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ยานของเซิร์กลำนี้หนีไปได้ ถ้าคุณไม่สามารถสกัดกั้นมันได้จริง ๆ ให้ทำลายมันไปซะ!”
“ผมจะพยายามหยุดมันอย่างเต็มที่ครับ” เซี่ยเฟยกล่าวออกไปอย่างใจเย็น
สาเหตุที่เขาพูดแบบนั้นเนื่องจากเขาไม่กล้ารับประกันว่าเขาจะทำลายยานลำนี้ได้จริง ๆ เพราะท้ายที่สุดเขาก็มีโอกาสทำลายยานฝ่ายตรงข้ามได้ตั้งนานแล้วและบนลูน่าก็ยังมีไพ่ตายอีก 2-3 ใบที่เขายังไม่ได้เผยออกมา
ในระหว่างทำการประกอบยานลำนี้เซี่ยเฟยได้ใช้แนวคิดการเอาชนะศัตรูด้วยทุกวิถีทาง ดังนั้นบนตัวยานจึงมีอาวุธอุปกรณ์หลากหลายประเภทและมันก็มีแม้กระทั่งอาวุธบ้า ๆ ที่สามารถทำลายทั้งสองฝ่ายได้ด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้เขาต้องการจะหยุดยานลำนั้นมากกว่าทำลาย ไพ่ตายของเขาจึงจำเป็นต้องถูกปิดผนึกเอาไว้ก่อน เพราะอย่างน้อยถ้าหากเขาสามารถหยุดยานลำนั้นเอาไว้ได้เขาก็พอจะมีหวังได้พบเซียวรั่วหยูอยู่บนยานบ้าง แต่ถ้าหากเขาเลือกทำลายยานฝ่ายตรงข้ามลงมันก็ไม่ต่างไปจากการขุดหลุมฝังศพเอาไว้ภายในใจของเขาตลอดกาล
“ดีมาก! ตอนนี้ ‘พลเอกทัวเหลย’ จากหน่วยพิทักษ์ชายแดนต้องการจะพูดกับคุณ กองยานของเขามีหน้าที่คอยลาดตระเวนตามขอบชายแดน”
หน้าจอเกิดคลื่นสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่อีกไม่กี่วินาทีต่อมาชายวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบทหารก็ปรากฏตัวขึ้นตรงข้ามกับเซี่ยเฟย
“สวัสดีฉันเป็นหัวหน้าผู้ตรวจการหน่วยพิทักษ์ชายแดนของพันธมิตร โดยหน่วยของฉันได้ประจำการอยู่ในภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่ ช่วยบอกหมายเลขยานอวกาศและตำแหน่งของคุณมาให้กับฉันที” พลเอกทัวเหลยกล่าว
“สวัสดีครับท่านนายพล ผมชื่อเซี่ยเฟยสังกัดค่ายฝึกจัสทิสลีกจากสมาพันธ์จัสทิส”
หลังได้ยินเซี่ยเฟยรายงานตัวทัวเหลยก็ลูบเคราพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย
ค่ายฝึกจัสทิสลีกมีชื่อเสียงที่โด่งดังไปทั่วทั้งภูมิภาคดาวและผู้ที่สามารถเข้าค่ายฝึกแห่งนี้ได้ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะ ดังนั้นภาพลักษณ์ของเซี่ยเฟยในสายตาของทัวเหลยจึงค่อนข้างดี
น่าเสียดายที่คำพูดต่อไปของชายหนุ่มกลับได้ทำลายภาพลักษณ์ในก่อนหน้านี้ไปจนป่นปี้
“ตำแหน่งของผมคือบรรณารักษ์ของค่ายฝึกครับ” เซี่ยเฟยรายงานด้วยท่าทางสบาย ๆ
"บรรณารักษ์! " ทัวเหลยอุทานออกมาด้วยความเหลือเชื่อ ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วจนมีรอยย่นปรากฏขึ้นบนหน้าผาก
“คุณโรเบิร์ตนี่คุณให้บรรณารักษ์ทำการไล่ล่าสายลับของพวกแมลงเนี่ยนะ! ในสมาพันธ์จัสทิสไม่มีใครที่ดีกว่านี้แล้วหรอ” ทัวเหลยถามด้วยคำเหน็บแนม
ผู้ที่เป็นบรรณารักษ์โดยปกติมักจะชอบหมกมุ่นอยู่กับหนังสือ, ขี้ขลาด, ใส่แว่นและอ่อนแอ ซึ่งไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับชายชาติทหารอย่างเขาเลย
คำถามนี้ทำให้โรเบิร์ตรู้สึกอับอายเล็กน้อย
ในตอนแรกเซี่ยเฟยได้รับโควตาพิเศษในการเข้าค่ายฝึกทำให้เขามีความหวังว่าสักวันชายหนุ่มคนนี้จะออกมารับใช้สมาพันธ์ในอนาคต
แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเซี่ยเฟยจะเลือกไปเป็นบรรณารักษ์ในห้องสมุด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกผิดหวังมากและมันยังทำให้เขารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจในตอนแรก
“เอาน่าท่านนายพล ถึงยังไงคุณก็อย่าลืมนะว่าสมาชิกของสมาพันธ์ได้เป็นคนพบสายลับของพวกแมลง แต่ทางกองทัพกลับไม่สังเกตเห็นเงื่อนงำในเรื่องนี้” โรเบิร์ตตอบโต้กลับไปอย่างใจเย็น
“ฮึ่ม!” ทัวเหลยส่งเสียงคำรามภายในคออย่างหงุดหงิด ก่อนที่เขาจะเลิกสนใจชายชราและหันไปพูดกับทางเซี่ยเฟย
“รายงานตำแหน่งของคุณกับศัตรูมาเดี๋ยวนี้! ทางฝั่งของฉันกับกองยานลาดตระเวนชายแดนที่ 4 จะรีบไปสกัดกั้นสายลับโดยเร็วที่สุด พวกเราต้องห้ามปล่อยให้มันหนีไปได้อย่างเด็ดขาด”
คำพูดจากทัวเหลยทำให้เซี่ยเฟยผงะไปเล็กน้อย เพราะท้ายที่สุดกองทัพก็มีชื่อเสียงในเรื่องความโหดร้ายมาโดยตลอด ดังนั้นถ้าหากว่ากองยานของกองทัพได้มาถึงตำแหน่งนี้จริง ๆ กองยานพวกนั้นก็อาจจะเลือกใช้อาวุธอันตรายในการจู่โจมเข้าใส่ศัตรู ซึ่งมันอาจจะสร้างความอันตรายให้กับเซียวรั่วหยู
“ผมต้องการให้กองทัพรับประกันว่าจะหยุดยานลำนั้นไม่ใช่ทำลายครับ” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากใช้เวลาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง
“เฮ้หนุ่มน้อยบรรณารักษ์! ฟังฉันนะ!! นี่คือคำสั่งไม่ใช่คำขอ เรื่องนี้อยู่ในขอบข่ายของกองทัพมันไม่ใช่สิ่งที่นายอยากจะต้องการอะไรก็พูดออกมาได้” ทัวเหลยตะโกนกลับไปอย่างหงุดหงิด
เมื่อชายชาติทหารอย่างทัวเหลยส่งเสียงตะโกนมันก็ยิ่งทำให้รูปลักษณ์ของเขาดูน่ากลัวมากขึ้น นี่ถ้าหากว่าอีกฝ่ายเป็นคนขี้ขลาดคนพวกนั้นก็อาจจะกลัวจนฉี่ราดกางเกงได้เลย
“ทหารคิดจะสั่งผมงั้นหรอ? ขอโทษด้วยครับแต่ผมไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณ ดังนั้นคำสั่งของคุณจึงไม่มีผลกับผมยกเว้นแต่ว่าคุณจะรับประกันว่าจะไม่ทำลายยานของเซิร์กลำนั้น ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกับคุณอีกต่อไป” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้พูดเสียงดังแต่น้ำเสียงของเขาก็หนักแน่นมาก โดยข้อความที่เขาต้องการจะสื่อคือเขาไม่เว้นที่ว่างให้ทำการต่อรอง ขณะเดียวกันคำพูดของเขาก็ไม่ได้ถึงขั้นขัดคำสั่งกองทัพเสียทีเดียว เพราะมันไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องเข้าไปขัดแย้งกับพวกทหาร เพียงแต่คำพูดของเขาเป็นการพยายามรักษาสมดุลย์อำนาจของทั้งสองฝ่าย
“ถ้าแกไม่เชื่อฟังคำสั่ง! ฉันจะโยนแกเข้าคุกหรือไม่ฉันก็จะระเบิดยานของแกเป็นชิ้น ๆ บอกมาซะว่าตำแหน่งของแกอยู่ที่ไหน! สาบานเลยว่าฉันจะทำลายยานของแกด้วยกระสุนเพียงแค่นัดเดียว!!”
ทัวเหลยตะโกนคำขู่ใส่เซี่ยเฟยอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วคำพูดพวกนี้ไม่ต่างไปจากสายลมที่พัดผ่านเขาไป
“ขอโทษครับ ผมไม่บอก” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างเรียบง่าย
“ถ้าแกไม่รายงาน มันก็หมายความว่าแกเป็นสายลับของพวกเซิร์ก ฉันจะออกหมายจับแกเดี๋ยวนี้!!” ทัวเหลยตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธจัดจนเกือบจะเล็งปืนไปที่เซี่ยเฟย
เซี่ยเฟยก้มศีรษะลงทำการตรวจสอบตำแหน่งล่าสุดของพวกเซิร์ก ซึ่งในตอนนี้เวลาได้ผ่านพ้นไปกว่า 5 นาทีหลังจากที่ยานลำนั้นได้เคลื่อนที่เข้าสู่รูหนอนครั้งล่าสุด แต่ในคราวนี้มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำการวาร์ปในระยะไกล มันจึงทำให้เวลาในการอยู่ในรูหนอนนานขึ้นเป็นเงาตามตัว
“คุณโรเบิร์ตนี่คือสิ่งที่จัสทิสควรจะทำงั้นหรอ? คุณจะรับผิดชอบเรื่องนี้ยังไง” เมื่อเห็นว่าเซี่ยเฟยไม่สนใจเขา ทัวเหลยจึงได้หันไปพาลใส่โรเบิร์ตแทน
ถึงแม้โดยปกติโรเบิร์ตจะดูเป็นชายแก่ใจดี แต่จริง ๆ แล้วเขาเป็นหนึ่งในคนที่โมโหร้ายมาก ดังนั้นเขาจึงได้หันหน้าไปทางทัวเหลยพร้อมกับตะโกนกลับไปว่า
“ท่านนายพลเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในสมาพันธ์ของพวกเรา! มันไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องเข้ามายุ่งด้วย!!”
ในระหว่างที่ชายชรากำลังปะทะคารมกับทหาร เขาก็ไม่ลืมหันไปขยิบตาให้กับเซี่ยเฟย
ชายหนุ่มสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าชายชรากำลังบอกให้เขาหยุดยานลำนั้นให้สำเร็จเพื่อไม่ให้พวกทหารมาต่อว่าจัสทิสได้
“ท่านนายพลสมาพันธ์จัสทิสของพวกเราไม่ใช่องค์กรที่ไร้เหตุผล จุดยืนของผมยังคงเคียงข้างพันธมิตรเสมอมา” เซี่ยเฟยเปลี่ยนท่าทางทันทีหลังจากที่เขาได้รับสัญญาณจากโรเบิร์ต จากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า
“ตำแหน่งปัจจุบันของผมคือ…”
“แย่แล้ว! บริเวณนี้มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวนรุนแรงมากทำให้ระบบเรดาร์ไม่ทำงาน... ขอโทษด้วยท่านนายพลผมไม่สามารถระบุตำแหน่งของผมได้เหมือนกัน”
เซี่ยเฟยแสดงละครอย่างสมจริงโดยการพยายามควบคุมยานอวกาศด้วยความร้อนรน ก่อนที่มือของเขาจะเผลอไปกดปิดระบบสื่อสาร
—
หลังจากพูดคุยกับนายพลทัวเหลยจนจบแล้ว โรเบิร์ตก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยความโกรธ ก่อนที่เขาจะทำการติดต่อไปยังเย่จิ่งชาน
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้างครับ” เย่จิ่งชานถามขึ้นมาอย่างกังวลใจ
“ภารกิจล้มเหลว” โรเบิร์ตกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“งั้นหรอ”
แผนการของพวกเขาคือการให้เซี่ยเฟยอยู่ในห้องปิดตายกับเซียวไห่ลี่เพื่อดูว่าเซียวไห่ลี่จะทำอะไรกับเซี่ยเฟยหรือเปล่า ซึ่งถ้าเขาทำแบบนั้นตัวตนในฐานะสายลับของเขาก็จะถูกเปิดเผยและเขาก็จะถูกจับกุมโดยแผนกสืบสวนลับที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องทันที
“แผนการนี้พวกเราสองคนทำการคิดมาเป็นอย่างดี แล้วมันล้มเหลวได้ยังไง?” เย่จิ่งชานพึมพำออกมา
“เจ้าหน้าที่จากแผนกสืบสวนลับได้ไปพบพวกบลัดไรเดอร์โดยบังเอิญ ทำให้จัสทิสดาวเงิน 3 คนและจัสทิสดาวทองแดง 6 คนเสียชีวิตในสถานีอวกาศ แม้แต่เซียวไห่ลี่กับเควรอซก็โดนพวกมันสังหารลงไปด้วย” โรเบิร์ตกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“แผนการของพวกเราล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่พวกเราจะไม่รู้ตัวตนของเซียวไห่ลี่เท่านั้นแต่เรายังเสียจัสทิสไปถึง 11 คน จากนี้ไปภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่จะไม่มีทีม 13 อีกต่อไปแล้วสินะ” โรเบิร์ตกล่าวด้วยความหงุดหงิด
หลังจากพูดจบโรเบิร์ตก็หยิบขวดสุราออกมาจากใต้ตู้ ก่อนจะกระดกขวดสุราลงไปในท้องโดยตรง
ไม่ว่าจะยังไงเซียวไห่ลี่ก็ยังคงเป็นลูกศิษย์ของเขาและความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ก็อยู่ในความรับผิดชอบของเขาโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเขาจะไปรายงานกับทางสมาพันธ์ยังไงดี
“แล้วเซี่ยเฟยล่ะ... เขายังปลอดภัยดีไหม?” เย่จิ่งชานกล่าวถามหลังจากพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงมา
“เซี่ยเฟยหรอ... ทุกคนตายหมดแต่เซี่ยเฟยกลับรอดมาได้ ฉันไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ไปทำอะไรไว้แต่ดูเหมือนเขาจะไม่อยากให้ทหารเข้ามาแทรกแซง ตอนนี้เขาอยู่ในระหว่างการไล่ล่ายานของพวกแมลงและเขาก็เพิ่งทะเลาะกับพลเอกทัวเหลยจากหน่วยพิทักษ์ชายแดนด้วย”
“เท่าที่ผมได้ยินดูเหมือนว่าเขาจะต้องการจับเป็น ผมอยากจะรู้จริง ๆ ว่าทำไมทุกครั้งที่มีเซี่ยเฟยเข้ามาเอี่ยวมันจะต้องมาพร้อมกับปัญหาไม่รู้จบ นี่ตั้งแต่เขาเข้าร่วมการประเมินมาจนถึงตอนนี้ผมขี้เกียจนับแล้วนะว่าเขาได้สร้างปัญหาขึ้นมามากแค่ไหน”
“ครั้งนี้ผมตัดสินใจแล้ว ไม่ว่ายังไงผมก็จะไม่ปล่อยให้เขาอยู่ภายใต้สมาพันธ์ ทันทีที่เขากลับมาให้ไล่เขาออกไปจากค่ายซะ! ผมไม่สนพรสะวงพรสวรรค์อะไรอีกแล้ว! ผมขี้เกียจจะต้องมานั่งตามแก้ปัญหา!!”
โรเบิร์ตระบายความในใจออกมาอย่างไม่รู้จบ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการดื้อรั้นของเซี่ยเฟยเท่านั้น แต่เขายังหงุดหงิดเรื่องการสูญเสียเซียวไห่ลี่และสมาชิกแผนกสืบสวนลับด้วย
แต่แท้ที่จริงชายชราไม่รู้ตัวเลยว่าครั้งนี้เซี่ยเฟยถูกใช้เป็นเหยื่อล่อเพื่อตรวจสอบสถานะของเซียวไห่ลี่ ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะสร้างปัญหาขึ้นมาแต่พวกเขาก็เป็นคนพาเซี่ยเฟยมาหาปัญหานี้เอง
“ขอโทษด้วยผู้อำนวยการโรเบิร์ต แต่ผมไม่สามารถไล่เซี่ยเฟยออกจากค่ายได้ ผมเกรงว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาแม้แต่ผมก็อาจจะเอาตัวไม่รอด” เย่จิ่งชานกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าอันขมขื่น
ระหว่างที่เย่จิ่งชานกำลังพูดโรเบิร์ตก็กำลังกระดกเหล้าลงไปในคอ แต่หลังจากที่เย่จิ่งชานได้พูดจบเขาก็เกือบจะสำลักเหล้าทั้งหมดออกมา
“คุณเป็นผู้บัญชาการของค่ายฝึกนะ! แล้วทำไมคุณถึงจะไล่เด็กนักเรียนในค่ายของตัวเองไม่ได้?” โรเบิร์ตถามพร้อมกับใช้แขนเสื้อเช็ดปาก
—
ในที่สุดระบบติดตามก็ตรวจพบตำแหน่งยานของพวกเซิร์กอีกครั้ง เซี่ยเฟยจึงบังคับให้ลูน่าทำการไล่ล่ามันทันที
แต่ก่อนที่เขาจะได้เคลื่อนที่เข้าสู่รูหนอน เขาก็ได้รับหมายจับมาจากช่องฉุกเฉิน
“ชิบหายละ! นี่ฉันโดนหมายจับจริง ๆ งั้นหรอ!!”
***************
เอ๊าาาา แผนซ้อนแผนที่ผิดแผนอีกทีหรอกเหร๊อ! ว่าแต่ทุกๆคนคิดว่าพี่เฟยเป็นตัวสร้างปัญหาเหมือนที่โรเบิร์ตว่าจริงๆไหมอ่ะ?