ตอนที่ 66 : วันหยุดฤดูร้อนกำลังจะหายไป
ในปี 2014 โรงงานเครื่องจักรเหิงจุน มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านหยวน และตอนนี้เวลาก็ผ่านมาแปดปีแล้ว มูลค่าของโรงงานก็ไปถึงระดับที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ด้วยเหตุนี้ เซียวเหิงจุนจึงกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเขตชิงอู๋ บางครั้งเขาจะปรากฏตัวในโรงเรียนบางแห่งหรือสถานที่อื่นๆ เพื่อบริจาคเงินและกลายเป็นผู้ใจบุญที่สุดในเขตชิงอู๋
อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมก่อตั้งโรงงานเครื่องจักรเหิงจุนอีกคนคือเซียวผิงจุน เขาผู้ซึ่งลงแรงมากกว่าด้วยซ้ำ แต่กลับถือหุ้นเพียง 5% เท่านั้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวผิงจุนก็เงียบไปชั่วขณะและกล่าวว่า "ฉันบอกหลายครั้งแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องอีก"
"ฮึ คุณคิดว่าเซียวเหิงจุนเป็นพี่ชายของคุณ แต่เขากลับไม่ได้สนใจน้องชายอย่างคุณเลย"
เหวินหยุนแค่นเสียงในลำคออย่างเย็นชา เธอกล่าวว่า "ครั้งล่าสุดที่เราไปที่บ้านพี่ชายของคุณ คุณเห็นวิธีที่พี่สะใภ้ของคุณแนะนำลูกเขยของเธอให้เรารู้จักไหม ฟังจากน้ำเสียงของเธอก็รู้ว่าเธอจงใจอวดเรา เธอคงอยากจะเหยียบย่ำเราให้จมดิน ฉันทนฟังน้ำเสียงแบบนั้นตลอดไปไม่ได้หรอกนะ"
"คราวนี้การสอบเข้ามหาลัยของหลานหลานไม่ดีเท่าลูกสาวของลุงของเธอ ครอบครัวของพวกเขาก็ยิ่งมีความรู้สึก เหนือกว่าครอบครัวของเราขึ้นไปอีก แต่ในอนาคต หลานหลานจะต้องหาคนที่ดีกว่าฝั่งของครอบครัวลุงของเธอได้แน่นอน และจะกู้หน้าให้ฉันได้"
เธอได้แต่กักเก็บความรู้สึกนี้ไว้ภายในใจเท่านั้น แต่ครั้งนี้ในที่สุดเธอก็ระบายมันออกมา
"พอแล้ว!"
หลังจากที่เธอพูดจบ สีหน้าของเซียวผิงจุนก็เริ่มเย็นชา
เมื่อเห็นว่าเซียวผิงจุนเริ่มโกรธ เหวินหยุนก็ไม่กล้าพูดอะไรต่ออีก
ข้างๆพวกเขา เซียวหลานถอนหายใจอยู่ในใจ พ่อกับแม่ของเธอทะเลาะกันเรื่องนี้อีกแล้ว
"แม่คะ หนูรู้ตัวว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่ แม้ว่าหนูจะมีแฟน หนูก็จะบอกแม่ตรงๆ" เธอมองไปที่เหวินหยุนและกล่าวออกมา
เหวินหยุนไม่ได้บ่นอะไรอีก
"หลานหลาน แม่กำลังทำเพื่อลูกอยู่ ลูกยังเด็ก หลังจากที่ลูกไปถึงจินหลิงและพบปะผู้คนมากขึ้น ลูกจะรู้ว่าคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆนั้นเป็นยังไง" เธอกล่าว
หลังจากพูดต่ออีกไม่กี่คำ เหวินหยุนก็มองไปที่วัตถุดิบในร้านบาร์บีคิวและกล่าวว่า "เดี๋ยวแม่จะให้คนเอาของที่ต้องใช้ภายในร้านมาให้ลูก" เธอไม่ได้อยู่ที่นี่นานนัก ในไม่ช้าเธอก็จากไป ดูเหมือนเธอจะค่อนข้างยุ่งทีเดียว
"หลานหลาน แม่ของลูกก็เป็นแบบนี้เสมอแหละ อย่าไปใส่ใจเลย"
หลังจากที่เหวินหยุนออกไป เซียวผิงจุนก็มองไปที่ลูกสาวของเขา กังวลว่าเธอจะได้รับผลกระทบจากเรื่องเมื่อสักครู่ เขาจึงพูดปลอบด้วยรอยยิ้ม
"พ่อคะ หนูเข้าใจ" เซียวหลานพยักหน้า
แม่ของเธอก็เป็นคนแบบนี้เสมอ เธอมักจะเอาทุกๆเรื่องไปเปรียบเทียบกับครอบครัวของลุง และมักจะรู้สึกว่าครอบครัวของฝั่งลุงดูถูกครอบครัวของฝั่งเธอตลอด
"ยังไงก็ตาม ไม่ว่าในอนาคตลูกจะเลือกใครเป็นคู่ชีวิต ตราบใดที่ลูกชอบเขาและเขาเป็นคนดี พ่อก็จะสนับสนุนลูกเอง" เซียวผิงจุนลูบหัวเซียวหลานพร้อมกับยิ้มให้อีกครั้ง
"แต่พ่อมีคำขอเพียงข้อเดียว ถ้าลูกตัดสินใจที่จะอยู่กับคนๆนั้นจริงๆ ลูกต้องพาเขากลับมาที่บ้านและแนะนำตัวกับพ่อก่อน"
"พ่อคะ พ่อดีกับหนูที่สุด" เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวหลานก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
...
ในร้านบาร์บีคิว ฉินหยุนกำลังจดจ่อกับบาร์บีคิวตรงหน้าเขาอยู่
พ่อครัวบาร์บีคิวที่เซียวหลานจ้างมาไม่ต้องพูดถึงทักษะการทำอาหารของเขาเลย ซึ่งมันดีมาก แต่น่าเสียดายที่ราคาที่นี่แพงกว่าที่อื่นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ทักษะการทำอาหารที่ดีย่อมแสดงถึงค่าจ้างที่สูงขึ้นด้วย หลังจากหักค่าใช้จ่ายอื่นๆแล้ว กำไรของบาร์บีคิวเหล่านี้อาจไม่สูงนัก และแทบจะไม่สามารถคืนทุนได้เลย
อย่างไรก็ตาม เพราะว่าราคาได้ถูกตั้งให้สูงขึ้น จึงมีลูกค้ามาที่นี่น้อยลงด้วย
มีกำไรก็ย่อมมีขาดทุน นี่คือสัจธรรม
ขณะที่กำลังจัดการอาหารตรงหน้าอยู่ ฉินหยุนก็เห็นเหวินหยุนเดินออกมาจากด้านหลังครัว และเดินออกจากที่นี่ไป และหลังจากนั้นไม่นาน เซียวหลานและเซียวผิงจุน พ่อของเธอก็ตามออกมา
เหวินหยุนไม่ได้หันมองเขาเลย แต่เซียวผิงจุนพยักหน้าเล็กน้อยให้ฉินหยุนแล้วก็จากไปเช่นกัน
"ฉันอิ่มแล้ว ขอบคุณบอสเซียว สำหรับคำเชิญ" ฉินหยุนเห็นเซียวหลานเดินเข้ามาใกล้ เขาจึงยืนขึ้นและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
"อา ฉินหยุน นายจะไปแล้วเหรอ?" เซียวหลานเอ่ยอย่างเร่งรีบเล็กน้อย
เธอไม่รู้ว่าเธอรู้สึกชอบฉินหยุนหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกว่าเธออยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเขามาก และเธอก็รู้สึกผ่อนคลายมากเมื่อได้พูดคุยกับฉินหยุน
"บอสเซียว ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ มีร้านค้าเล็กๆ 2-3 แห่งรอให้ฉันไปจัดการอยู่" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"งั้นก็โอเค" เซียวหลานรู้ว่าฉินหยุนเปิดร้านค้าขึ้นหลายแห่ง ดังนั้นเขาควรจะยุ่งมาก
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งและถามขึ้นทันทีว่า "นายจะไปมหาลัยเมื่อไร?"
ทั้งคู่อยู่ที่มหาลัยเจียงหยวน ในจินหลิง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนเอ่ยตอบว่า "ประมาณวันที่ 30"
มหาลัยเจียงหยวนจะเปิดให้นักศึกษาใหม่ลงทะเบียนในวันที่ 1 กันยายน แต่ฉินหยุนต้องไปก่อนเวลา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดร้านทั้งสามแห่งด้วย
"วันที่ 30 งั้นเหรอ น่าเสียดายที่พ่อของฉันจะขับรถไปส่งในวันที่ 1 เลย" เซียวหลานกล่าว "ถ้าเราไปวันที่ 1 พร้อมกัน ฉันก็ขอให้พ่อแวะไปรับนายระหว่างทางได้"
"ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไร" ฉินหยุนยิ้มและเอ่ยตอบ
หลังจากคุยกันอีกไม่กี่คำเขาก็ออกจากที่นี่ไป
...
หลังจากออกจากร้านหนิงเซี่ยบาร์บีคิวแล้ว ฉินหยุนก็ไปหาโจวหยาง
ก่อนหน้านี้โจวหยางเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และเขาก็มีช่วงเวลาที่ดีในวันหยุดฤดูร้อนนี้
สาเหตุคือ สามปีของการเป็นนักเรียนมอปลายนั้นหนักหนาสาหัสเกินไป แม้แต่ช่วงปิดภาคเรียนฤดูหนาวและฤดูร้อน ก็ยังต้องเรียนอย่างต่อเนื่อง
และวันหยุดฤดูร้อนปีนี้ ดูเหมือนว่าเขาอยากจะไปเที่ยวทุกที่ ที่เขายังไม่เคยไปมาก่อน
เขามาหาฉินหยุนเมื่อสองสามวันก่อน แต่ในเวลานั้นฉินหยุนยังไม่ได้กลับมา
เมื่อฉินหยุนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง โจวหยางซึ่งถูกแดดเผาราวกับถ่านสีดำก็มาถึงที่นี่แล้ว และนอกจากเขาแล้วก็ยังมีคู่รักวัยกลางคนอีกคู่หนึ่ง
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉินหยุนก็เดินตรงเข้าไปหา "สวัสดีครับ คุณลุง คุณป้า"
"เสี่ยวหยุน" เมื่อเห็นฉินหยุน คู่สามีภรรยาวัยกลางคนก็ยิ้มให้ทันที
พวกเขาคือพ่อกับแม่ของโจวหยาง
พวกเขาทั้งคู่ทำงานในบริษัทรับตกแต่งบ้าน และพ่อของโจวหยางก็เป็นหัวหน้าเล็กๆในบริษัทรับตกแต่งบ้านแห่งนั้น ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ก็ดีกว่าครอบครัวของฉินหยุนก่อนหน้านี้มาก
"ว้าว ฉินหยุน ฉันไม่ได้เจอหน้านายมาสองเดือนแล้ว ได้ยินมาว่านายเปิดร้านขายรองเท้าเพิ่มอีกสองแห่งแล้วเหรอ?" โจวหยางกล่าวอย่างตื่นเต้นเมื่อเขาเห็นฉินหยุน
"เสี่ยวหยาง ลูกควรเรียนรู้จากเสี่ยวหยุนบ้าง ตอนนี้ร้านค้าที่เปิดโดยเสี่ยวหยุนกำลังไปได้สวยเลย"
"ใช่ เสี่ยวหยาง ถ้าลูกมีความสามารถครึ่งหนึ่งของเสี่ยวหยุน เราก็วางใจได้แล้ว"
เมื่อมองไปที่โจวหยาง พ่อกับแม่ของเขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
บ้านเกิดของพวกเขาอยู่ในหมู่บ้านฉินเจี่ยเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักพ่อกับแม่ของฉินหยุนโดยธรรมชาติ และพวกเขาก็รู้จักร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนและร้านขายรองเท้าเทียนหยุนด้วย
พวกเขาได้เห็นฉินหยุนเติบโตขึ้นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และตอนนี้เขาสามารถมีกิจการขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ ไม่รู้ว่าในใจของพวกเขารู้สึกอิจฉาเพียงใด
แต่นี่กลับเป็นลูกของคนอื่น
หากโจวหยางมีความสามารถในการจัดการธุรกิจได้สักครึ่งหนึ่งของฉินหยุน พวกเขาคงจะสะดุ้งตื่นจากความฝันขึ้นมาหัวเราะกลางดึกได้ทุกคืนแน่นอน
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวหยางก็เม้มริมฝีปากและกล่าวว่า "ผมยังอายุไม่มากเลย และผมไม่ต้องการทำอาชีพนี้ มันเหนื่อยเกินไป"
เขาแค่อยากมีช่วงเวลาที่ดีหลังจากที่ต้องเข้าไปอยู่ในมหาลัยอีกหลายปี
หลังจากเรียนจบมหาลัย นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับชีวิตของจริง
"เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่" เมื่อได้ยินคำพูดของโจวหยาง พ่อกับแม่ของเขาก็อดไม่ได้ที่จะกังวลกับอนาคตของเขาเล็กน้อย แต่ฉินหยุนก็ยังอยู่ที่นี่ ดังนั้นสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ทั้งสองคนเอ่ยชมฉินหยุนอีกสองสามคำแล้วออกจากที่นี่ไป
"เห้อ.. วันหยุดฤดูร้อนผ่านไปเร็วมาก ฉันยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ แป๊บเดียวก็กำลังจะเข้ามหาลัยแล้ว" เมื่อเขานั่งลง โจวหยางก็กล่าวพลางถอนหายใจออกมา
ฉินหยุนยิ้ม เขารู้สึกว่าวันหยุดฤดูร้อนนี้เขามีความสุขมาก
ไม่เพียงแต่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า โรงงานผลิตรองเท้า ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายรองเท้าในเขตชิงอู๋เท่านั้น แต่เขายังมีร้านขายเสื้อผ้าอีกสามแห่งในจินหลิง ที่กำลังได้รับการรีโนเวทใหม่เพื่อรอการเปิดในวันที่ 1 กันยายนนี้อีก
อาชีพของเขาเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังแล้ว
นอกจากนี้เขายังใช้เวลาในช่วงวันหยุดฤดูร้อนเพื่อเรียนรู้วิธีการขับรถ และเขาก็ได้รับใบขับขี่แล้วด้วย
อันที่จริง สองสามวันในช่วงวันหยุดฤดูร้อนนี้ เขาแทบจะไม่ได้พักเลย
(จบตอน)