ตอนที่ 65 : พ่อของเซียวหลาน
เขตชิงอู๋ ถนนเหยียนหู่ ร้านหนิงเซี่ยบาร์บีคิว
ในเวลานี้จะเห็นได้ชัดว่าร้านบาร์บีคิวแห่งนี้ไม่ได้รับความนิยมเหมือนตอนแรกอีกแล้ว ตอนนี้ภายในร้านมีลูกค้านั่งอยู่แค่เพียงโต๊ะเดียว และเซียวหลานกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพลางไถหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอ
ด้านนอกประตูร้านมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา
"ฉินหยุน!" เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้น ดวงตาของเซียวหลานก็สว่างขึ้นทันที เธอรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและกวักมือเรียกให้เขามานั่งด้วยกัน
ฉินหยุนยิ้มและเอ่ยถามว่า "เซียวหลาน ช่วงนี้ธุรกิจเป็นไงบ้าง"
"พอใช้ได้" เซียวหลานพยักหน้า จากนั้นส่ายหัวและกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า "การทำธุรกิจมันยากเกินไป ถ้าไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องจ่ายค่าเช่าร้าน เดาว่าฉันคงจะขาดทุนไปแล้ว"
ในตอนแรก ธุรกิจของร้านหนิงเซี่ยบาร์บีคิวนั้นไปได้ดีมาก แม้แต่เซียวหลานก็ยังรู้สึกภูมิใจในตัวเอง โดยเธอเผลอคิดไปว่าเธอก็มีความสามารถในการทำธุรกิจเหมือนกัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป ลูกค้าที่มาที่ร้านหนิงเซี่ยบาร์บีคิวก็ค่อยๆน้อยลงเรื่อยๆ ยอดขายต่อวันก็ลดลงและตอนนี้ก็ได้กำไรไม่มากนัก
โชคดีที่ที่ตั้งของร้านนี้เป็นของครอบครัวของเซียวหลานเอง หากต้องจ่ายค่าเช่าด้วย เธอก็คงเจ๊งไปเรียบร้อยแล้ว
"ฉินหยุน ทำไมธุรกิจของนายถึงดีจัง? นายมีเคล็ดลับอะไรไหม?"
เซียวหลานมองไปที่ฉินหยุน เธอใช้มือทั้งสองข้างเท้าคาง แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย
เธอรู้ว่าฉินหยุนเปิดร้านค้าไปแล้วสี่แห่ง และธุรกิจของแต่ละร้านก็เป็นที่นิยมมาก มองเผินๆมันดูเหมือนง่าย แต่เธอก็รู้แล้วว่ามันยากแค่ไหนเมื่อเธอได้ลองเปิดร้านของตัวเองจริงๆ
"ฉันแค่โชคดีน่ะ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเซียวหลานไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเธอจึงเบ้ปากใส่เขา
"ว่าแต่ เมื่อเร็วๆนี้นายกำลังทำอะไรอยู่ สองสามวันก่อนฉันทักไปชวนนายให้มาที่ร้าน และอุตส่าห์เชิญนายมากินฟรี แต่นายกลับไม่มาซะงั้น" เซียวหลานเอ่ยถาม
หลังจากที่พวกเขาเพิ่มวีแชตกัน พวกเขาก็คุยกันสองสามครั้ง เซียวหลานก็คอยทักมาถามเขาถึงเคล็ดลับในการเปิดร้านอยู่ตลอด แต่ฉินหยุนจะไปรู้เคล็ดลับได้อย่างไร ซึ่งเซียวหลานก็ไม่เชื่อ เขาจึงลองค้นหาในไป่ตู้เพื่อดูว่าคำตอบไหนค่อนข้างใช้ได้ จากนั้นจึงคัดลอกและส่งไปให้เธอ
หลังจากนั้นเซียวหลานก็ชวนเขามาทานบาร์บีคิวที่ร้านของเธอ
"ก่อนหน้านี้ฉันไปที่จินหลิงมา" ฉินหยุนเอ่ยตอบ
"จินหลิง? นายไปที่นั่นมางั้นเหรอ" เซียวหลานถามด้วยความสงสัย "หรือว่านายไปดูมหาลัยมา?"
"ไม่ใช่ ฉันจะเปิดร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนในจินหลิงด้วย" ฉินหยุนอธิบายให้เธอฟัง
เซียวหลานรู้เรื่องการเปิดร้านของเขา และเขาไม่มีอะไรต้องปิดบังเธอ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวหลานรู้สึกประหลาดใจมากจากนั้นก็เอ่ยว่า "นักศึกษาฉินหยุน นายเก่งมากเลย แป๊บเดียวก็ได้เปิดร้านในจินหลิงแล้ว"
หลังจากพูดคุยกันต่ออีกไม่กี่คำ บาร์บีคิวก็เสร็จพอดี ทั้งสองคนจึงคุยไปกินไป
ในเวลานี้เอง จู่ๆก็มีคนสองคนเดินเข้ามาจากนอกประตูร้าน หนึ่งในนั้นสวมรองเท้าส้นสูงและถือกระเป๋าหนังสีดำ เธอไม่ได้ยิ้มและไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ซึ่งเธอก็คือเหวินหยุนแม่ของเซียวหลานนั่นเอง
และถัดจากเหวินหยุนคือชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ชายผู้นี้ดูเหมือนจะไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบคนวัยกลางคนที่มีรูปร่างอ้วนท้วนทั่วไป แต่เขากลับให้ความรู้สึกที่อ่อนโยนและสง่างาม
"พ่อคะ แม่คะ" เมื่อเห็นทั้งสองคน เซียวหลานก็ยืนขึ้นและเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
"พ่อของเซียวหลานคือชายวัยกลางคนคนนี้งั้นเหรอ" ในขณะนี้ ฉินหยุนก็มองไปที่คนทั้งสองเช่นกัน และเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเซียวหลาน ร่องรอยของความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในส่วนลึกดวงตาของเขา
‘ถ้าชายวัยกลางคนคนนี้เป็นพ่อของเซียวหลาน งั้นเซียวเหิงจุนคนที่ร่ำรวยที่สุดในเขตชิงอู๋เป็นใครกัน?’ ทันใดนั้นความคิดมากมายก็ปรากฏขึ้นมาในใจของฉินหยุน
ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่ร้านอาหารบาร์บีคิวของเซียวหลานเพิ่งเปิด เซียวเหิงจุน ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในเขตชิงอู๋ก็ปรากฏตัวขึ้น และเขาดูคุ้นเคยกับเหวินหยุนแม่ของเซียวหลานมาก ในตอนนั้นเขาคิดไปว่าเซียวหลานน่าจะเป็นลูกสาวของเซียวเหิงจุน
แต่โดยไม่คาดคิด พ่อของเธอจะกลายเป็นคนอื่นซะงั้น
"หลานหลาน นี่ใครเหรอ?"
เมื่อเห็นฉินหยุน สีหน้าของเหวินหยุน แม่ของเซียวหลานดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในขณะที่เซียวผิงจุนพ่อของเธอเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
"พ่อคะ นี่คือเพื่อนร่วมชั้นของหนูเอง" เซียวหลานเอ่ยแนะนำด้วยรอยยิ้ม
"สวัสดีครับ คุณลุง คุณป้า" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
หลังจากเอ่ยอีกไม่กี่คำ เซียวหลานก็มองไปที่ฉินหยุนและกล่าวว่า "ฉินหยุน ค่อยๆกินไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันพาพ่อกับแม่ไปดูที่หลังร้านก่อน"
"ตามสบายเลย" ฉินหยุนยิ้ม
ที่ด้านหลังของร้านหนิงเซี่ยบาร์บีคิวพ่อของเซียวหลาน เซียวผิงจุน และเหวินหยุน แม่ของเธอต่างก็อยู่ที่นี่
"หลานหลาน ก่อนหน้านี้แม่บอกให้ลูกอยู่ห่างจากฉินหยุนไม่ใช่เหรอ ลูกเป็นผู้หญิง ทำไมลูกถึงชอบอยู่กับเด็กผู้ชายนัก?" เหวินหยุนไม่พอใจเล็กน้อย
"แม่ เราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นกัน แถมฉินหยุนเขาแค่บังเอิญมากินบาร์บีคิวที่ร้านเฉยๆ" เซียวหลานอธิบายอย่างช่วยไม่ได้
ล่าสุดตอนที่ร้านบาร์บีคิวเปิดร้านครั้งแรก หลังจากที่ฉินหยุนออกไป เหวินหยุนก็บอกกับเธอว่าอย่าเข้าใกล้ฉินหยุนมากเกินไป
ตอนนั้นเซียวหลานไม่ได้จริงจังกับคำพูดของเธอมากนัก
ถึงยังไงแม่ของเธอก็แค่อยากจะควบคุมเธอให้อยู่ในโอวาท แน่นอนว่าเมื่อเหวินหยุนพูดกับเธอ เธอก็เลือกได้ว่าจะฟังหรือไม่ฟัง และโดยพื้นฐานแล้วเธอไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากมัน
"หลานหลาน แม่แค่อยากจะเตือนลูก ลูกยังเด็กอยู่ เว้นแต่ว่าลูกจะเจอคนที่โดดเด่นเป็นพิเศษ เพราะงั้นให้อยู่ห่างๆเขาไว้ และอย่าได้ถูกเขาหลอก" เห็นได้ชัดว่าเหวินหยุนกล่าวเตือนเธอเพราะกลัวว่าเธอจะถูกหลอก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยวหลานก็โต้กลับทันที "ฉินหยุนเปิดร้านค้าเองตั้งสองสามแห่ง และพวกมันทั้งหมดก็ทำเงินได้มากมาย หนูยังไม่เห็นเลยว่าในวัยเดียวกันใครจะทำได้ดีกว่าเขา"
"แค่เปิดร้านได้ไม่กี่แห่งก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วงั้นเหรอ? ตอนนี้ข้างนอกนั่นยังมีร้านเสื้อผ้าอยู่กี่แห่งที่เป็นที่นิยมอยู่? แม้แต่ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ต่างประเทศขนาดใหญ่ ที่มาเปิดในจีน ลูกรู้ไหมว่ามีกี่ร้านที่ปิดไปแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา?"
"ลูกยังเด็กเกินไป เพราะว่าอยู่ในที่เล็กๆอย่างเขตชิงอู๋นี้ ก็เป็นธรรมดาที่ลูกจะไม่เคยพบเจอคนจำนวนมาก ดังนั้นลูกจึงคิดว่าฉินหยุนคนนั้นยอดเยี่ยม"
เหวินหยุนกล่าวอย่างจริงจัง "ดูอย่างลูกสาวของลุงของลูกสิ ก่อนหน้านี้เธอพาแฟนของเธอกลับมา พ่อของเขาเป็นผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจ และแม่ของเขาก็เริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารในเครือของเธอเองด้วยทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้านหยวน แถมเขาก็เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในตอนที่เรียนอยู่มหาลัยด้วย ประสบความสำเร็จเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปอีก"
เมื่อได้ยินเช่นนี้เซียวหลานก็หยุดพูดทันที เพราะคำพูดของเหวินหยุนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ถัดจากเธอ เซียวผิงจุนขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า "เหวินหยุน คุณพูดอะไรของคุณ ในอนาคต ตราบใดที่หลานหลานชอบมันก็ไม่เห็นเป็นอะไร คุณจะบังคับให้ลูกเลือกตามความต้องการของคุณตลอดไปงั้นเหรอ? เราไม่ได้ขาดแคลนเงินสักหน่อย ไม่ว่าลูกจะเลือกใคร เราก็ไม่ต้องไปกังวลเกี่ยวกับชีวิตในอนาคตแทนลูกหรอก"
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจมากกับคำพูดของเหวินหยุน
"ไม่ว่าใครก็ตามที่หลานหลานชอบก็ไม่เป็นไรงั้นเหรอ? ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยครอบครัวที่ยอดเยี่ยมก็มีอยู่มากมาย มันไม่ดีเหรอไงที่หลานหลานจะเลือกคนเหล่านั้น? เป็นการดีกว่าที่จะมองหาคนตัวสูงท่ามกลางคนตัวสูง แต่นี่กลับมองหาคนตัวสูงที่อยู่ในกลุ่มคนตัวเตี้ยเนี่ยนะ?" เหวินหยุนมองไปที่เซียวผิงจุนอย่างไม่พอใจ
"ถ้าหากว่าเราได้ลูกเขยเป็นคนธรรมดา คาดว่าครอบครัวพี่ชายของคุณคงจะหัวเราะเยาะเราจนตาย"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวผิงจุนยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น เขาเอ่ยว่า "ไร้สาระ เกี่ยวอะไรกับพวกเขา"
"เซียวผิงจุน คุณรู้ไหมว่าครอบครัวของพี่ชายของคุณดูถูกครอบครัวของเรามากแค่ไหน!"
เมื่อกล่าวออกมาเช่นนี้ ในเวลานี้เหวินหยุนรู้สึกโกรธอย่างเห็นได้ชัด เธอกล่าวต่อ "ในตอนแรก โรงงานเครื่องจักรเหิงจุนถูกสร้างขึ้นโดยคุณและเซียวเหิงจุนพี่ชายของคุณ คุณลงแรงไปมากมายกับที่แห่งนั้น แต่พี่ชายของคุณเขาจ่ายเงินมากกว่า"
"ถ้าไม่มีคุณ โรงงานเครื่องจักรเหิงจุนทั้งหมดจะถูกสร้างขึ้นได้ไหมก็พูดอยากแล้ว แต่สุดท้ายคุณได้เท่าไหร่ ได้แค่หุ้น 5% ที่เขามอบให้ แม้ว่าจะมีการปันผลอยู่ทุกปี แต่ไม่ใช่ว่าความพยายามของคุณมันไร้ค่าหรอกเหรอ"
(จบตอน)