ตอนที่ 96: บลัดไรเดอร์
ตอนที่ 96: บลัดไรเดอร์
เซี่ยเฟยเอาเลือดมาจ่อจมูก ก่อนที่จะอุทานออกมาว่า
“นี่มันเลือดมนุษย์! คิดว่าเวลาการตายน่าจะไม่เกิน 30 นาที”
เซียวไห่ลี่พยักหน้ารับเงียบ ๆ พร้อมกับดึงมีดสั้นคมเดียวออกมาจากหลังเอว จากนั้นเขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วเล็งการโจมตีไปที่ประตู
เควรอซกดปุ่มเปิดประตูอย่างรู้กัน ซึ่งทันทีที่ประตูเปิดออกเซียวไห่ลี่กับเซี่ยเฟยก็พุ่งตัวผ่านประตูไปด้วยความรวดเร็ว
น่าเสียดายที่อีกฟากหนึ่งของประตูไม่มีใครอยู่ และมีเพียงแต่รอยเลือดถูกลากไปตามทางเดินด้านขวาเท่านั้น
เซียวไห่ลี่พุ่งตัวนำไปด้านหน้าตามมาติด ๆ ด้วยเซี่ยเฟยปิดท้ายด้วยเควรอซที่ใช้พลังพิเศษของเขาคอยคุ้มกันทีมจากด้านหลัง
หลังจากหักเลี้ยวที่มุมทางเดิน ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้พบกับรอยเลือดเพิ่มเติม โดยรอยเลือดนี้ถูกลากมาจากทิศทางอื่นและคราบเลือดแสดงให้เห็นว่าผู้เสียชีวิตเพิ่งถูกสังหารไปเพียงแค่ไม่นาน
ดูเหมือนคนตายจะมีอย่างน้อย 2 คนและระยะเวลาการตายก็น่าจะเป็นช่วงเวลาประมาณที่พวกเขาบินเข้ามาใกล้กับสถานีอวกาศ
คราบเลือดทั้งสองหายไปที่หน้าประตูโลหะขนาดใหญ่ซึ่งศพน่าจะถูกลากเข้าไปในประตูนี้ โดยด้านบนของประตูได้มีตัวอักษรเขียนว่าโกดังของสถานีอวกาศ
เซียวไห่ลี่ส่งสัญญาณมือเพื่อบอกให้เซี่ยเฟยตามเขามาและขอให้เควรอซคอยเฝ้าประตูเพื่อป้องกันเส้นทางสำหรับการถอยหนี
จากนั้นเซี่ยเฟยกับเซียวไห่ลี่ก็เข้าไปในโกดังด้วยความระมัดระวัง แต่เนื่องมาจากสถานีอวกาศแห่งนี้ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นภายในโกดังจึงมีเพียงแต่ตู้คอนเทนเนอร์กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมห้อง
เซี่ยเฟยนับคราบเลือดบนพื้นภายในใจและพบว่ามีคราบเลือดทั้งหมด 5 คราบถูกลากเข้ามาในโกดังจากทิศทางที่แตกต่างกัน แต่จุดบรรจบของคราบเลือดทั้งหมดคือจานโลหะขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้อง
เซี่ยเฟยกับเซียวไห่ลี่เดินเข้าไปใกล้จานโลหะอย่างช้า ๆ ก่อนที่พวกเขาจะได้พบศพจำนวน 5 ศพถูกทิ้งเอาไว้ โดยศพเหล่านี้มีบาดแผลรูปวงกลมอย่างน้อย 10 จุดและทุก ๆ ศพต่างก็ปล่อยกลิ่นเลือดโชยออกมา
เมื่อพิจารณาจากรอยบาดแผลแล้วคนเหล่านี้ก็น่าจะถูกสังหารด้วยอาวุธทรงกระบอก โดยบาดแผลแต่ละแผลอยู่ตรงบริเวณจุดสำคัญ เช่น หัวใจ, สมองและปอด
ขณะเดียวกันศพพวกนี้ก็สวมใส่ชุดเครื่องแบบต่อสู้สีดำแบบเดียวกับเซี่ยเฟย ซึ่งหลังจากที่เขาได้ทำการค้นศพเขาก็พบว่าหนึ่งในนั้นมีตราสัญลักษณ์ของจัสทิส 2 ดาวเงินอยู่ในกระเป๋ากางเกง!!
“คนพวกนี้คือจัสทิสงั้นหรอ!!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก ซึ่งหลังจากที่เขากับเซียวไห่ลี่ได้ค้นศพในส่วนที่เหลือ พวกเขาก็พบว่าศพทุกศพต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นศพของจัสทิส
"เควิน ฮันติง แผนกสืบสวนลับ! " เซียวไห่ลี่อ่านชื่อบนบัตรที่เขาค้นมาจากศพอย่างแผ่วเบา
จัสทิสทั้งห้าคนนี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่มาจากแผนกสืบสวนลับ แต่เซียวไห่ลี่ไม่รู้ว่าทำไมคนจากแผนกสืบสวนลับถึงมาอยู่ที่นี่และใครเป็นคนสังหารพวกเขา?
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยขมวดคิ้ว เพราะผู้ที่สามารถสังหารจัสทิสระดับดาวเงินได้สองคนและจัสทิสระดับดาวทองแดงได้สามคนย่อมไม่ใช่คนธรรมดา ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากเวลาการตายของศพแล้วฆาตกรก็ควรจะยังอยู่ในสถานีอวกาศแห่งนี้
ตูม!
ทันใดนั้นประตูโลหะหนักของโกดังก็พังทลายลงมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าทำให้เซี่ยเฟยกับเซียวไห่ลี่ติดอยู่ในโกดัง ขณะเดียวกันเม็ดทรายที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาก็ตกลงสู่พื้น เพราะเมื่อเส้นทางถูกตัดขาดพลังพิเศษควิกแซนด์ดีเฟนก็จะหยุดทำงานไปด้วย
“แย่แล้ว! นี่มันกับดัก!!” เซี่ยเฟยอุทาน หลังจากนั้นชายหนุ่มก็รีบพุ่งไปที่ประตูและออกแรงทั้งหมดเพื่อพยายามจะเปิดประตูโกดัง
หากเซี่ยเฟยเป็นคนวางกลยุทธ์นี้ขึ้นมาเขาย่อมมุ่งเป้าไปที่เควรอซเป็นคนแรกอย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดความสามารถในการป้องกันของเขาก็เป็นพลังที่น่ารำคาญที่สุดของทีม เนื่องจากมันสามารถใช้ได้ทั้งรุกทั้งรับในเวลาเดียวกัน
เควรอซกำลังตกอยู่ในอันตราย!
เป้ง! เป้ง! เป้ง! …
เซี่ยเฟยพยายามใช้เชสซิ่งไลท์ฟันเข้าใส่ประตูโลหะอย่างต่อเนื่อง
น่าเสียดายที่ประตูโลหะนี้มีความหนามากกว่า 10 เซนติเมตร ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะสามารถตัดประตูบางส่วนได้แต่เขาก็ไม่สามารถข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งของประตูได้
ทันใดนั้นมันก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากระยะไกล
“มีคนกำลังมา!” เซี่ยเฟยหันหลังกลับพร้อมกับนำเครื่องติดตามมาป้องกันในบริเวณหน้าอกแล้วจ้องมองไปทางอีกด้านหนึ่งของโกดัง
ส่วนทางด้านของเซียวไห่ลี่ก็เดินถอยหลังจากบริเวณศพไปทางเซี่ยเฟยด้วยสีหน้าอันจริงจัง
เวลาต่อมามันก็มีร่าง 4 ร่างเคลื่อนที่ออกมาจากส่วนลึกของโกดัง โดยร่างเหล่านี้ถูกห่อเอาไว้ด้วยเสื้อผ้าจนแน่น แต่ร่างกายของพวกเขาก็เดินมาด้วยท่าทางแปลก ๆ คล้ายกับกุ้งที่เดินได้ 4 ตัว
เมื่อแสงได้ตกกระทบร่างทั้งสี่ เซี่ยเฟยก็เผยสีหน้าออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ใบหน้าของพวกเขาถูกปกคลุมเอาไว้โดยเกล็ดหนา, ภายในปากของพวกเขาเต็มไปด้วยฟันอันแหลมคม, ดวงตาสีดำของพวกเขาปูดโปนออกมาด้านนอกคล้ายกับกิ้งก่า, ส่วนบริเวณด้านหลังของพวกเขาก็มีหางขนาดใหญ่ติดอยู่
นิ้วของผู้มาใหม่เหล่านี้มีทั้งหมด 5 นิ้วซึ่งแต่ละนิ้วมีลักษณะเหมือนท่อเหล็กแหลมคม เมื่อเซี่ยเฟยได้เห็นนิ้วของพวกเขาแล้วเขาก็สามารถตัดสินได้เลยว่ารอยบาดแผลบนศพทั้งห้าคงจะเกิดมาจากนิ้วพวกนี้
“นั่นมันพวกบลัดไรเดอร์! ระวังด้วยพวกมันคือเซิร์กชั้นสูง!!” อันธส่งเสียงเตือน
“ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นผู้ใช้พลังพิเศษที่สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ได้อย่างนั้นหรอ? ฉันคิดว่าพวกเขาดูคล้ายกับผู้สมัครที่ฉันเคยเจอในการประเมินนะ” เซี่ยเฟยอุทานด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย
“ถึงจะคล้าย ๆ กันแต่พวกมันไม่ใช่! นายต้องลองสังเกตดวงตาของพวกมันให้ดี ๆ ถึงแม้ว่าผู้มีพลังพิเศษบางส่วนจะสามารถแปลงร่างให้มีรูปร่างเหมือนสัตว์ร้ายได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนลักษณะดวงตาของตัวเองได้ จำเอาไว้ว่าดวงตาแบบนั้นมันเป็นดวงตาของพวกเซิร์ก!” อันธอธิบาย
“พวกเซิร์กส่วนใหญ่เป็นแมลงที่มีสติปัญญาต่ำ ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกมันจะมีจำนวนมากแต่แมลงพวกนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์อยู่ดี”
“ขณะเดียวกันเซิร์กชั้นสูงก็คือแมลงอัจฉริยะที่มีความคิดเหมือนมนุษย์ พวกมันจึงทำการสร้างอารยธรรม, คิดค้นเทคโนโลยีหรือแม้กระทั่งสร้างยานรบเป็นของตัวเอง”
“บลัดไรเดอร์ถือว่าเป็นชนชั้นกลางของพวกเซิร์กที่มีสติปัญญา และเนื่องจากว่าพวกมันมักจะได้รับภารกิจในการสังหาร ทางฝั่งของมนุษย์จึงเรียกเซิร์กพวกนี้ว่าบลัดไรเดอร์”
“สงครามครั้งล่าสุดระหว่างมนุษย์กับเซิร์กเกิดขึ้นตั้งแต่ 2,000 ปีที่แล้วและในปัจจุบันทั้งสองฝ่ายก็ได้ลงนามในสัญญาสันติภาพไปแล้ว แต่ทำไมบลัดไรเดอร์พวกนี้ถึงได้มาปรากฏตัวในพื้นที่ของมนุษย์?”
บลัดไรเดอร์ทั้งสี่เริ่มเคลื่อนตัวไปล้อมเซี่ยเฟยกับเซียวไห่ลี่เอาไว้
“จะสู้หรือถอย?” เซี่ยเฟยถามเบา ๆ
อย่างไรก็ตามเซียวไห่ลี่ก็มีความเกลียดชังเซี่ยเฟยอย่างลึกซึ้งและสาเหตุที่เขาเลือกเซี่ยเฟยเข้ามาในสถานีอวกาศพร้อมกับเขา นั่นก็เพราะว่าเขาตั้งใจจะหาโอกาสสั่งสอนบทเรียนให้กับชายหนุ่มคนนี้
ช่วงเวลาปัจจุบันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว เพราะเควรอซถูกขังเอาไว้นอกประตูและระบบตรวจจับสิ่งมีชีวิตของสถานีอวกาศก็ไม่ทำงาน ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะถูกสังหารแต่มันก็จะไม่มีหลักฐานว่าเขาเป็นคนลงมือ
หลังจากได้ข้อสรุปภายในใจแล้ว เซียวไห่ลี่ก็หยิบเครื่องสื่อสารที่ดูแปลก ๆ ออกมาจากแหวนมิติ ก่อนที่จะส่งมันให้กับเซี่ยเฟย
“นี่คือเครื่องสื่อสารพิเศษที่สามารถติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่ได้โดยตรง หลังจากนี้พวกเราจะแยกกันหนีและไม่ว่าใครก็ตามที่สามารถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้ ให้รีบติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่เพื่อขอความช่วยเหลือทันที!”
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะยื่นมือซ้ายออกไป
แต่ก่อนที่มือของทั้งสองฝ่ายจะสัมผัสกัน จู่ ๆ เซียวไห่ลี่ก็แสดงรอยยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวพร้อมกับทำการสะบัดมือไปทางข้อมือของเซี่ยเฟย!!
เซียวไห่ลี่เป็นจัสทิสที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งภูมิภาคดาวเอ็นดาโร่และความแข็งแกร่งของเขาก็เหนือกว่าเซี่ยเฟยไปไกล ดังนั้นตราบใดก็ตามที่เขาสามารถจับข้อมือของเซี่ยเฟยเอาไว้ได้ ชายหนุ่มก็ไม่มีทางหลบหนีเขาไปได้อย่างแน่นอน
ในช่วงเวลาวิกฤตปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่ธรรมดาของเซี่ยเฟยก็เริ่มทำงาน เพราะเมื่อเห็นว่าฝ่ามือของเซียวไห่ลี่กำลังจะคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ เขาก็รีบดึงมือกลับมาอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ถีบเท้าเข้าใส่พื้นอย่างรุนแรงพร้อมกับถอยออกไปยังมุมกำแพงด้วยความเร็วมากกว่า 800 เมตรต่อวินาที
เมื่อเซียวไห่ลี่ตระหนักว่าเซี่ยเฟยหนีห่างออกไปไกลกว่า 100 เมตร เขาก็ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างชำนาญในการจู่โจมพวกเซิร์กทั้งสี่ตัว
บลัดไรเดอร์ทั้งสี่รู้ว่าพวกมันไม่สามารถติดตามความเร็วของเซี่ยเฟยได้ พวกมันจึงมุ่งเป้าไปที่เซียวไห่ลี่โดยลำพังทำให้หัวหน้าทีม 13 ตกอยู่ภายใต้วงล้อมของบลัดไรเดอร์
เหตุการณ์นี้ทำให้เซียวไห่ลี่เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ เพราะถ้าหากเซี่ยเฟยหนีไปรายงานเรื่องนี้กับทางสมาพันธ์ อนาคตและเกียรติยศของเขาก็จะต้องถูกทำลาย ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะต้องสังหารเซี่ยเฟยลงไปให้ได้
เซียวไห่ลี่ส่งเสียงร้องคำรามก่อนที่มันจะมีเปลวไฟเป็นจำนวนมากพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา
บลัดไรเดอร์ทั้งสี่และเซียวไห่ลี่เริ่มทำการโจมตีเกือบจะพร้อมกัน!
พลังพิเศษของเซียวไห่ลี่คือการควบคุมไฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในพลังพิเศษสายธรรมชาติที่ทรงพลัง
แต่ร่างของพวกเซิร์กทั้งสี่ก็ได้รับการปกป้องจากเปลือกหนา ดังนั้นถึงแม้ว่าเปลวไฟของเซียวไห่ลี่จะแผดเผาผิวหนังของพวกมันได้แต่ก็ยังไม่สามารถสังหารพวกมันได้อยู่ดี
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ขณะที่มีดสั้นปลายเล็บมือของเซียวไห่ลี่ก็กำลังลุกไหม้กลายเป็นสีแดงราวกับว่ามันเพิ่งถูกนำออกมาจากเตาหลอม และทุกครั้งที่มีดสั้นได้ถูกฟันออกไปมันก็จะมีควันสีขาวลอยออกมาจากบาดแผลของพวกเซิร์ก
แมลงพวกนี้ต่างจากพวกมนุษย์เพราะพวกมันไม่รู้จักความกลัวและการหลบหนี ด้วยเหตุนี้การโจมตีอันสิ้นหวังของเซียวไห่ลี่จึงได้ไปกระตุ้นสัญชาตญาณอันโหดร้ายของพวกมัน
พวกบลัดไรเดอร์เริ่มทำการจู่โจมอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นกว่าเดิม โดยพวกมันได้จู่โจมโดยไม่สนใจความเจ็บปวดจากการถูกไฟเผาและพุ่งตัวเข้าหาเซียวไห่ลี่ราวกับว่าพวกมันต้องการจะลากชายคนนี้ตายไปด้วยกัน
เซี่ยเฟยซ่อนตัวอยู่ด้านหลังตู้คอนเทนเนอร์ในระยะไกลและเฝ้ามองดูการต่อสู้อย่างเย็นชา
เซียวไห่ลี่สมควรจะได้รับการยกย่องจากทั่วทั้งภูมิภาคดาว เพราะเขาสามารถสู้ 1 ต่อ 4 ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่กุญแจสำคัญคือพวกบลัดไรเดอร์ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวเปลวไฟ ซึ่งในความเป็นจริงพวกมันดูเหมือนจะไม่กลัวความตายด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้เองสถานการณ์จึงดำเนินไปอย่างตึงเครียดและถึงแม้ว่าเซียวไห่ลี่จะมีความได้เปรียบอยู่เล็กน้อย แต่เขาก็ยังไม่สามารถยุติการต่อสู้ในครั้งนี้ได้
เซี่ยเฟยคำนวณภายในใจและคิดว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้น่าจะออกมาเป็นการทำลายซึ่งกันและกัน
ชายหนุ่มอดทนรออย่างใจเย็นและเตรียมพร้อมจะพุ่งตัวไปข้างหน้าเพื่อจู่โจมเข้าใส่เซียวไห่ลี่ เพราะสำหรับเขาไม่เคยมีความเห็นใจต่อศัตรู ดังนั้นในเมื่ออีกฝ่ายต้องการจะฆ่าเขามันก็ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องปล่อยให้อีกฝ่ายรอดกลับไปได้
ทันใดนั้นไฟสีแดงเป็นจำนวนมากก็ส่องแสงสว่างขึ้นมาภายในโกดัง
ปิ๊บ! ปิ๊บ! ปิ๊บ!
“ระบบทำลายตัวเองของสถานีอวกาศถูกเปิดใช้งาน สถานีจะทำลายตัวเองในอีก 30 นาที!!”
***************
เอาแล้วไง! ศัตรูก็ต้องฆ่า สถานีอวกาศก็กำลังจะระเบิด พี่เฟยจะทำยังไงต่อล่ะเนี่ย!!