ตอนที่ 64 : กลับสู่เขตชิงอู๋
ประสบการณ์ของจ้าวเทียนเฉียงนั้นมีมากมาย และเมื่อตอนที่เขายังทำงานอยู่ที่ร้านขายเสื้อผ้าในเครือเทียนอี้เตี๋ยนั้น เขาก็มีข้อมูลติดต่อของสถานที่เหล่านั้นด้วย ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้มันได้โดยไม่ติดขัดอะไร
"คุณพูดถูก" ฉินหยุนพยักหน้า
ในที่สุดเขาก็เจอผู้จัดการร้านมืออาชีพแล้ว!
ฉินหยุนยังมอบหน้าที่การจัดการเอกสารต่างๆ และการจัดหาบุคลากรทั้งหมดสำหรับร้านเสื้อผ้าทั้งสามสาขาให้เป็นหน้าที่ของจ้าวเทียนเฉียงอีกด้วย
ส่วนเรื่องความสามารถของจ้าวเทียนเฉียงก็ไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากเขาสามารถจัดการดูแลร้านขายเสื้อผ้าที่เพิ่งก่อตั้ง และสามารถขยายสาขาไปได้หลายสิบแห่ง โดยพื้นฐานแล้วฉินหยุนไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ฉินหยุนยังไม่ได้กลับไปบ้านทันที แต่เขาอยู่ที่นี่เพื่อดูความคืบหน้าของร้านขายเสื้อผ้าต่อ
ในขณะที่กำลังยุ่งอยู่ ฉินหยุนก็ได้รับภาพโลโก้ของร้านที่ออกแบบเสร็จแล้วจากฉินซวน
เขาค่อยๆไล่ดูที่ละภาพ แต่ดูไปหลายภาพแล้วเขาก็ยังไม่ถูกใจ
"เสี่ยวหยุน ตอนนี้มีร้านค้ามากมายที่เริ่มใช้โลโก้เหมือนกัน พี่ก็เคยลองออกแบบไว้ 2-3 อันด้วย แต่มันก็ซ้ำไปหมด" ฉินซวนโทรหาฉินหยุนแล้วอธิบายให้เขาฟัง
ขณะนี้บริษัทต่างๆมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และเช่นเดียวกันก็มีเครื่องหมายการค้าหลากหลายประเภทที่บริษัทเหล่านั้นเลือกใช้ โดยพื้นฐานแล้ว สิ่งที่คุณคิดได้ คนอื่นก็คิดได้เช่นกัน แม้ว่าจะออกแบบมาคล้ายกันแค่ขีดเล็กๆขีดเดียว มันก็ถือเป็นการลอกเลียนแบบแล้ว
ดังนั้นความยากในการออกแบบโลโก้ หรือเครื่องหมายการค้าจึงเพิ่มมากขึ้น
"พี่ใหญ่ ถ้ายังไม่เจอที่ถูกใจก็ไม่เป็นไร ค่อยๆดูไปเรื่อยๆ เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน" ฉินหยุนกล่าว
เขาไม่ได้กำหนดว่าโลโก้ที่ออกแบบมาจะต้องเป็นแบบไหน ตอนนี้เขาให้อิสระกับผู้ที่ออกแบบโลโก้อย่างเต็มที่
ฉินหยุนเคยคิดเกี่ยวกับการใช้ใบโคลเวอร์ 4 แฉกมาก่อน ท้ายที่สุดแล้วใบโคลเวอร์ 4 แฉกก็เป็นตัวแทนของความโชคดี แต่ก็มีแบรนด์ที่ใช้ใบโคลเวอร์ 4 แฉกเป็นเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว
ขณะที่เขากล่าวกับฉินซวน เขาก็ไล่ดูโลโก้อื่นๆไปด้วย
"หืม?" ทันใดนั้น ฉินหยุนก็มองไปที่โลโก้ซึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสโดยมีเส้นสองเส้นพาดอยู่ ซึ่งพอดูรวมๆแล้วมันเหมือนอักษรจีนคำว่า ‘ท้องฟ้า’
โดยไม่สนใจคำที่อยู่ข้างใน ในเวลานี้เขาจ้องไปที่รูปสี่เหลี่ยมซึ่งดูคล้ายๆกับรูปแบบการก่อตัวของบางสิ่งบางอย่าง
ทันใดนั้น ฉินหยุนก็นึกถึงค่ายกลรวบรวมโชคลาภของเขา!
"ในอนาคต ไม่ว่าร้านที่ฉันเปิดขึ้น จะเป็นร้านขายเสื้อผ้าหรืออย่างอื่น มันก็จะถูกครอบคลุมด้วยค่ายกลรวบรวมโชคลาภ งั้นฉันก็สามารถออกแบบเครื่องหมายการค้าที่คล้ายกับสัญลักษณ์ของค่ายกลและใช้เป็นโลโก้เฉพาะของฉันได้" ฉินหยุนคิดกับตัวเอง
สำหรับเครื่องหมายการค้านั้น มันจะอยู่คู่กับกิจการของเขาไปตลอดชีวิต ดังนั้นเขาจึงย่อมอยากได้สิ่งที่มันให้ความรู้สึกพิเศษๆแน่นอน
เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดเผยเรื่องค่ายกลรวบรวมโชคลาภ แต่ไม่เป็นไรที่จะออกแบบโลโก้ด้วยรูปแบบของค่ายกลรวบรวมโชคลาภ ถึงยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่ผู้อื่นจะเข้าใจมันอยู่ดี
หลังจากเอ่ยถึงแนวคิดของเขากับฉินซวนแล้ว ดวงตาของฉินซวนก็สว่างขึ้นทันที และเธอก็กล่าวว่า "เสี่ยวหยุน พี่ว่าใช้ได้เลย"
หลังจากยืนยันคร่าวๆแล้ว ฉินซวนก็ติดต่อนักออกแบบเหล่านั้นเพื่อเริ่มออกแบบใหม่ทันที
และอีก 2 วันต่อมา ในที่สุดโลโก้ก็ได้รับการออกแบบจนเสร็จสิ้น ภาพของโลโก้ทั้งหมดประกอบขึ้นจากอักษรขีดเล็กๆ แต่เมื่อนำมารวมเข้าด้วยกันแล้ว มันดูเหมือนกับค่ายกลขนาดเล็กที่มีความสวยงามและแปลกตา
โลโก้เครื่องหมายการค้าของแบรนด์เทียนหยุน ในที่สุดก็ได้รับการออกแบบจนเสร็จสิ้น!
หลังจากอยู่ในจินหลิงอีกสองสามวัน ในที่สุดฉินหยุนก็กลับไปที่เขตชิงอู๋
อย่างไรก็ตาม ฉินเสี่ยวเทาไม่ได้ตามกลับไปด้วย แต่อยู่ที่จินหลิงต่อ
...
"เสี่ยวหยุน ตอนนี้ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทั้งสองแห่งและร้านรองเท้าเทียนหยุนทั้งสองแห่งกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น ส่วนในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนก็มีการรับสมัครพนักงานเพิ่มสามสิบคน ตอนนี้ความเร็วในการผลิตเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าแล้ว ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม เราน่าจะสามารถผลิตเสื้อผ้าได้ถึง 14,000 ตัว เราจะเก็บไว้ 4,000 ตัวเพื่อเติมสต๊อกในร้านค้าทั้งสองแห่งในเขตชิงอู๋ และอีก 10,000 ตัวที่เหลือสามารถจัดส่งไปยังจินหลิงได้" หลังจากที่ฉินซวนรู้ว่าฉินหยุนกลับมาจากจินหลิงแล้ว เธอก็รีบมาหาเขาทันที พร้อมกับอธิบายสถานการณ์ต่างๆในเขตชิงอู๋ให้เขาฟัง
ตอนนี้พนักงานของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนมีถึง 50 คน และกำลังการผลิตได้รับการปรับปรุงขึ้นเป็นอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น โดยพื้นฐานแล้วเสื้อผ้าแต่ละสไตล์เมื่อผลิตถึงจำนวน 100 ตัว ก็จะเปลี่ยนไปใช้ดีไซน์อื่นต่อ
ถ้าหากว่ามีดีไซน์เสื้อผ้าที่ได้รับการออกแบบโดยโจวซินหยาและคนอื่นๆเสร็จพอดี ทางโรงงานก็จะผลิตออกมาทันที
ปัจจุบันในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนมีดีไซน์เนอร์ทั้งหมด 8 คนแล้ว และตอนนี้พวกเขาได้ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยโจวซินหยาและหลินเสี่ยวอวี่เป็นหัวหน้าทีมของแต่ละกลุ่ม
เงินเดือนของพวกเขาเพิ่มขึ้นโดยตรง 2,000 หยวน ซึ่งตอนนี้ถ้าโจวซินหยาทำงานครบทุกวัน เธอก็จะได้รับเงินเดือน 6,000 หยวนต่อเดือน
เมื่อเขามาถึงโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ฉินหยุนก็มองไปที่ผู้คนที่กำลังวุ่นวายกับงาน
อันที่จริงโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีฉากที่ยุ่งวุ่นวายมากนัก
ตามคำกล่าวที่ว่า เมื่อคุณทำงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า ถ้าหากว่าคุณกำลังยุ่ง คุณต้องทำงาน 20 ชั่วโมงต่อวัน แต่ถ้าคุณว่าง คุณสามารถพักผ่อนที่บ้านเป็นเวลาครึ่งเดือนได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
เฉพาะตอนที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมากเท่านั้น พนักงานถึงจะเริ่มยุ่งวุ่นวายกัน
อย่างไรก็ตาม โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของฉินหยุน ไม่ได้ทำตามรูปแบบการรับคำสั่งซื้อจากภายนอก แต่ผลิตและจัดส่งให้กับร้านค้าของเขาเองเท่านั้น ดังนั้นมันจึงอยู่ในสภาพที่มั่นคงและยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอด
"บอสฉิน ผู้จัดการฉิน" ไม่ไกลนัก มีหญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตทางการสีขาวเดินเข้ามา เมื่อเธอเห็นฉินหยุนและฉินซวน เธอจึงรีบเอ่ยทักทาย
ดูเหมือนหญิงสาวคนนี้จะเป็นโจวซินหยา ในเวลานี้โจวซินหยามีความสามารถมากกว่าตอนที่เธอเข้าโรงงานครั้งแรกอย่างเห็นได้ชัด
โจวซินหยารู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะก่อนหน้านี้เธอได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นถึง 2,000 หยวน และความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่างๆของเธอก็เพิ่มขึ้น แถมตอนนี้เธอก็ยังได้เป็นหัวหน้าทีมดีไซน์เนอร์อีกด้วย
ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกถังเซี่ยวเซี่ยวเกี่ยวกับเรื่องนี้ และถังเซี่ยวเซี่ยวก็เริ่มอิจฉาเธอเล็กน้อย
ตอนนี้โจวซินหยาแค่ต้องการทำงานหนักในโรงงาน ใช้ความรู้ที่อยู่ในหัวของเธอเพื่อออกแบบเสื้อผ้าสไตล์ต่างๆให้กับโรงงานมากขึ้น
"อืม คุณไปทำงานต่อเถอะ" พยักหน้าให้โจวซินหยา จากนั้นฉินหยุนก็เดินไปทางอื่น
"เสี่ยวหยุน โจวซินหยาทำงานหนักมากในสัปดาห์นี้ หลังจากเลิกงานในโรงงาน เธอก็ยังกลับไปทำงานที่บ้านต่อ เธอเรียนรู้และคิดเกี่ยวกับการออกแบบสไตล์ใหม่ๆอยู่เสมอ แม้ว่าจนถึงเวลาเลิกงานดีไซน์ที่ออกแบบใหม่จะยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อเธอมาทำงานในวันต่อมา ดีไซน์เสื้อผ้าสไตล์ใหม่ก็เกือบจะเสร็จดีแล้ว" ฉินซวนกล่าว
"นอกจากนี้ ดีไซน์เสื้อผ้าของโจวซินหยายังเป็นที่นิยมมากที่สุดของร้านขายเสื้อผ้าทั้งสองร้านด้วย หากในอนาคตโรงงานขยายฐานการผลิตและจัดตั้งแผนกออกแบบ ในแง่ของความสามารถ โจวซินหยาสามารถเป็นหัวหน้าแผนกออกแบบได้เลย"
ในตอนนี้โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเทียนหยุนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และฉินหยุนยังไม่ได้จัดตั้งแผนกต่างๆขึ้นมา
"ความสามารถของเธอดีมากจริงๆ ที่สำคัญเธอก็ขยันอีกด้วย ดังนั้นเราจึงสามารถมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนเธอได้" เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนก็พยักหน้า
ในแง่ของคุณสมบัติ โจวซินหยาถือว่าเป็นน้องคนสุดท้องและอายุน้อยที่สุดในโรงงานแห่งนี้ แต่ฉินหยุนไม่สนใจเรื่องคุณสมบัติ ใครก็ตามที่มีความสามารถก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากเขา
"ตอนนี้การขยายฐานการผลิตของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสิ้นสุดลงแล้ว และเราก็เจรจาเรื่องโรงงานผลิตรองเท้าเสร็จแล้วด้วย ตามความต้องการของแก พื้นที่ทั้งหมดมีขนาดไม่ใหญ่มาก น้อยกว่า 1,000 ตารางเมตร และค่าเช่าก็อยู่ที่ 80,000 หยวนต่อปี ขั้นตอนต่อไปคือการจัดซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และรับสมัครพนักงานเพิ่ม” ฉินซวนกล่าวอีกครั้ง
ฉินหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า "เกี่ยวกับโรงงานผลิตรองเท้ายังไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ครับ ตอนนี้ให้โฟกัสไปที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะขยายขนาดโรงงานผลิตรองเท้าในตอนนี้"
การจัดตั้งโรงงานผลิตรองเท้าตอนนี้ ก็เพียงช่วยประหยัดเงินค่ารองเท้าของร้านขายรองเท้าเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้เช่าพื้นที่โรงงานใหญ่มากนัก ซึ่งจะกว้างพอให้จ้างพนักงานได้แค่ 20 คน
หลังจากตรวจสอบกิจการทั้งหมดของเขาแล้ว ในที่สุดฉินหยุนก็หยุดพักผ่อนอยู่ที่บ้าน 2-3 วัน
(จบตอน)